พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่366 ฉันออกสิบล้าน



บทที่366 ฉันออกสิบล้าน

หลังจากที่คนในห้องนั่งรับรองได้ยินเสียงของรพีพงษ์ก็หัน หน้าไปมองเขา เมื่อกมลเห็นว่าเป็นผู้ชายที่เถียงกับพวกเขา ในลานจอดรถตอนนั้น ก็แสดงสีหน้าที่ดูถูกออกมาทันที

“แกเป็นใหญ่มาจากไหน ถึงกล้ามาตัดสินฉันตามใจตัว เองแบบนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทนี้ล่ะ รีบไปเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทมาเดี๋ยว นี้ ฉันไม่อยากให้คนจนแบบนี้มากระทบต่อความคิดการ ออกแบบของฉัน”กมลพูด

ในเวลานี้อารียาและเธียรวิชญ์ก็เดินเข้ามา เมื่อเธียรวิชญ์ ได้ยินคำพูดของกมล สีหน้าก็เปลี่ยนไป

เมื่อกมลเห็นเธียรวิชญ์เดินเข้ามา ท่าทีก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้น มาทันที แล้วพูดว่า: “ประธานเธียรวิชญ์ คุณรีบให้เจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของบริษัทพวกคุณมาขับไล่คนจนสอง คนนี้ออกไปเถอะ พวกเขามาที่บริษัทพวกคุณ ทำให้ข้าว ของในบริษัทของพวกคุณสกปรกได้”

เธียรวิชญ์มองไปที่กมลอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า: “นี่คงจะ เป็นไปไม่ได้ตามคำขอของคุณ สองท่านนี้คือคนที่ต้อง ออกแบบชุดแต่งงานในวันนี้ ที่สำคัญฉันก็ไม่มีสิทธิ์ขับไล่ พวกเขาสองคนไป ตอนแรกฉันคิดว่าคุณเป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ระดับความสามารถของคุณน่าจะสูงมาก เมื่อกี้นี้ ฉันยังแนะนำคุณให้กับคุณรพี คิดไม่ถึงว่าคุณสมบัติประจำ ตัวของคุณจะแย่ขนาดนี้ ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันให้คุณมา ก็เป็น ความผิดพลาดที่เลือกมา”

ใบหน้าของกมลก็เปลี่ยนไป แล้วมองรพีพงษ์และอารี ยาตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง มองยังไงก็มองไม่ออกว่าสองคน นี้จะเป็นลูกค้าของเธอ

รายการการงานออกแบบที่เธอมักจะได้รับ ล้วนเป็นคำขอ จากเจ้าของกิจการชั้นนำในประเทศ คนพวกนั้นมีคนไหนที่ ไม่หรูหราบ้าง เหมือนกับเธียรวิชญ์เช่นนี้ล่ะ อย่างน้อย เสื้อผ้ารวมแล้วก็น่าจะเป็นราคาของคนที่ประสบความสำเร็จ

ควรมี

รพีพงษ์และอารียาดูยังก็ไม่เหมือนคนที่ประสบความ สำเร็จแล้ว เธอยังสงสัยว่าทั้งสองคนมีเงินพอที่จะขอให้เธอ ออกแบบได้หรือเปล่า

“ประธานเธียรวิชญ์ คุณกำลังล้อเล่นหรือเปล่า ลูกค้าครั้ง นี้ของฉัน คือสองคนนี้เหรอ?”กมลมองไปที่เธียรวิชญ์แล้ว ถาม

“ใช้แล้ว ท่านนี้คือคุณรพี ท่านนี้คือภรรยาของเขา ครั้งนี้ พวกเขาต้องการออกแบบชุดแต่งงานหนึ่งชุด เดิมทีว่าจะให้ พวกคุณทั้งสองคนเอาแบบออกมาคนละหนึ่งแบบ และพวกเขาก็เลือกจากชุดจากในนั้นออกมาหนึ่งชุด”เธียรวิชญ์พูด ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

กมลก็รู้สึกผิดทันที ถ้าหากว่าลูกค้าครั้งนี้คือรพีพงษ์และ อารียาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเรื่องก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่โรงจอดรถ คงจะทำให้รพีพงษ์ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกใครออกแบบ ชุดแต่งงานให้

แน่นอนว่า รพีพงษ์จ้องไปที่กลมและปารินทร์ แล้วพูดว่า: “ฉันไม่มีความจำเป็นต้องเลือกแล้ว คุณสมบัติประจำตัวของ คนคนหนึ่ง ก็ส่งผลกระทบต่อผลงานของเธอในระดับมาก เช่นกัน แล้วคุณสมบัติประจำตัวของคนคนนั้นไม่ค่อยดี ของ ที่ออกแบบออกมา คิดว่าก็ต้องไม่มีตรงไหนที่โดดเด่น”

สีหน้าของกมลก็เปลี่ยนแย่ลงกว่าเดิม เป็นเช่นนี้ ครั้งนี้ก็ เท่ากับว่าเธอมาเสียเที่ยว

แต่ว่าในไม่ช้าเธอก็นึกถึงคำถามหนึ่งคำถาม สองคนนี้ดู ไม่เหมือนคนรวย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเลือกตัวเองให้ ออกแบบชุดแต่งงานให้พวกเขา แต่พวกเขาจะสามารถจ่าย เงินให้ตัวเองได้หรือเปล่า?

ในฐานะดีไซเนอร์อันดับต้นๆของในประเทศ ค่าตอบแทน ของเธออยู่ที่หลักล้าน เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะจ่ายค่าใช้ จ่ายให้เธอไหว เมื่อคิดเช่นนี้ ในใจของเธอก็รู้สึกสมดุลขึ้นมา บ้าง แต่กลับแสดงความเย่อหยิ่งต่อรพีพงษ์
“ซ่าฮ่า ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะออกแบบอะไรให้กับคน ยากจนอย่างพวกแก ถ้าไม่เห็นแก่หน้าประธานเธียรวิชญ์ วันนี้ฉันไม่มีทางที่จะมา ก่อนหน้านั้นฉันก็พูดไว้ก่อนแล้ว ต่อ ให้วันนี้แกไม่เลือกฉัน แกต้องจ่ายค่าชดเชยให้ฉันสองแสน หยวน เงินนี้แกเอาออกมาได้หรือเปล่า?”กมลก็พูดใส่รพี พงษ์อย่างดุเดือด

เธียรวิชญ์ต้องการจะพูดแทนรพีพงษ์ แต่ว่าถูกรพีพงษ์ ห้ามไว้ก่อน

เมื่อกมลเห็นว่ารพีพงษ์ไม่ได้ตอบเธอเลยทันที ก็หันไป มองปารินทร์ และหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า: “เห็นหรือยัง ชาย คนนี้เป็นแค่คนอนาถา แม้แต่เงินสองแสนเขาก็ไม่สามารถ เอาออกมาได้ เธอยังอยากคงคิดที่ออกแบบชุดแต่งงานให้ กับเขา ถึงเวลาแม้แต่ค่าตอบแทนของเธอเขาอาจจะไม่ สามารถจ่ายให้ได้ ฉันว่าเธออย่าเสียเวลาที่นี่ดีกว่า”

ดวงตาทั้งสองข้างของรพีพงษ์มองไปที่ปารินทร์ ตอนนี้เขา ต้องการท่าทีของปารินทร์ ถ้าหากเหมาะสม เงินไม่ใช่ปัญหา เลย

ปานรินทร์มองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “งานออกแบบของ ฉันไม่เคยถามเรื่องเงินก่อน ซึ่งแบบนี้มันจะส่งผลต่อความ คิดในการออกแบบของฉัน ในเมื่อพวกเขาเป็นคนที่ประธาน เธียรวิชญ์แนะนำ อย่างนั้นฉันก็เชื่อว่ายังคงรับประกันค่า ตอบแทนได้ ที่สำคัญภรรยาของคุณผู้ชายท่านนี้ก็สวยมากถ้าหากสามารถออกแบบชุดแต่งงานให้เธอได้หนึ่งชุด หาก ประสบความสำเร็จ ชื่อเสียงที่เธอสามารถนำมาให้ก็จะเกิน ค่าตอบแทน ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ได้รับค่าตอบแทน ฉันก็ยินดีที่ จะออกแบบชุดแต่งงานให้กับพวกเขา”

กมลเบะปาก แล้วพูดว่า: “เจ้าเล่ห์จริงๆ ฉันไม่เชื่อว่าไม่ให้ เงิน เธอก็จะช่วยออกแบบฟรีๆ ให้กับคนอื่น”

ในเวลานี้รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่เธียรวิชญ์ ส่งสายตาให้ กับเขา

เธียรวิชญ์เข้าใจ รีบเดินไปที่ตรงหน้ากมล แล้วพูดว่า: “คุณสามารถออกไปได้แล้ว สำหรับค่าชดเชยสอนแสนของ คุณ ฉันจะให้คนโอนไปที่บัญชีของคุณโดยเร็วที่สุด พูด จริงจัง เป็นดีไซเนอร์ชั้นนำ คุณสามารถพูดคำพูดแบบนี้ออก มาได้ ทำให้คนผิดหวังจริงๆ”

สีหน้าของกมลก็ดูแย่ลงอีกครั้ง แต่เมื่อคิดว่าตัวเองมานั่ง รอที่นี่เพียงสักพัก ก็ได้รับเงินสองแสน ซึ่งถือเป็นข้อตกลงซื้อ ขายที่ดีมาก ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร

เมื่อตอนที่เธอกำลังจะออกจากที่นี่พร้อมกับผู้ช่วยที่ตัวเอง พา รพีพงษ์เดินไปตรงหน้ากมล กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “ฉัน ซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้นี้มาก มันสามารถเห็นได้ว่า ใน วงการการออกแบบในอนาคต ต้องมีที่สำหรับคุณอย่าง แน่นอน ฉันยินดีออกเงินสิบล้านเพื่อให้คุณช่วยออกแบบชุดแต่งงานให้กับภรรยาของฉัน แน่นอน เงื่อนไขเบื้องต้นคือ คุณต้องออกแบบชุดแต่งงานให้เหมาะกับภรรยาของฉัน ที่สุด ในวันแต่งงานของเรา ฉันอยากให้เธอกลายเป็นคนที่ สะดุดตาที่สุดในโลก”

หลังจากที่ปารินทร์ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ตกตะลึง ตอนแรกเขาเตรียมพร้อมที่จะได้รับค่าตอบแทนที่ไม่มากเกิน ไป แต่หลังจากได้ยินราคาที่รพีพงษ์พูดออกมา เขายังคิดว่า ตัวเองฟังผิด

สีหน้าปารินทร์เต็มไปด้วยตะลึง แต่กมลที่กำลังจะออกไป ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็หยุดลงอีกครั้ง หันไปมองรพีพงษ์ หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า: “แกนี่มันโม้ได้เก่งจริงๆ ท่าทางอย่าง แก สามารถเอาเงินสิบล้านออกมาออกแบบชุดแต่งงานหนึ่ง ชุดได้เหรอ?”

เธียรวิชญ์ตะคอกอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า: “รีบๆออกไป เถอะ ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรของคุณแล้ว”

กมลไม่ได้อยู่ต่อ และเดินออกไปโดยตรง

เมื่อถึงหน้าลิฟต์ กมลก็จ้องมองเธียรวิชญ์ แล้วถามว่า “ประธานเธียรวิชญ์ ทำไมคุณต้องแนะนำฉันให้กับคน ยากจนสองคนนั้นด้วย? เป็นเพียงเพราะภรรยาของคนคน นั้นสวยเหรอ? เขายังพูดอีกว่าจะออกเงินสิบล้านออกแบบชุด แต่งงาน ตลกสิ้นดี”
เธียรวิชญ์มองดูกมลเหมือนคนโง่ แล้วพูดว่า: “ถ้าหากคุณ ยังพูดจาไม่ดีอีก ฉันก็จะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่งคุณออกไป เขาไม่ได้พูดจาเหลวไหล สิบล้านสำหรับเขา เป็นเงินค่าใช้จ่ายตามปกติ”

กมลเบิกตากว้าง พูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า: “เป็นไปได้ยังไง!”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ?”การแสดงออกของเียรวิชญ์ กลายเป็นดูถูกขึ้นมา “เขาเป็นเจ้านายของฉัน คุณว่าสิบล้าน สำหรับเขา ถือว่ามากมั้ย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ