พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 385 งานเลี้ยงกุศล



บทที่ 385 งานเลี้ยงกุศล

บทที่ 385 งานเลี้ยงการกุศล

ภายในโรงแรม

ภารจามองไปที่ห้องโถงอันงดงามและหรูหรานี้ ความ ตะลึงได้แสดงบนใบหน้าของเธอ

เวลานี้มีคนจำนวนมากอยู่ในห้องโถงแล้ว มีโต๊ะหลายตัว รอบๆห้องโถง พร้อมอาหารฟรีวางอยู่ข้างบน และข้างๆมีกุ๊ก

ที่

เชี่ยวชาญในการทำอาหาร

ในมุมมีวงดนตรีกำลังเล่นเพลงซึ้งๆ แขกที่มาร่วมงาน เลี้ยงก็ดูสง่างามมาก

คุณรพีพงษ์และภารจาทั้งคู่สวมชุดสบายๆ อยู่ในฝูงชนดู แปลกประหลาดเล็กน้อย

“พี่รพีพงษ์ คนที่นี่ดูเนี้ยบเกินไป พวกเราสองคนยืนอยู่ที่นี่ รู้สึกแปลกๆ” ภารจาพูด

รพีพงษ์ยิ้มให้เธอ และพูดว่า “ไม่ต้องใส่ใจ กับคนชั้นสูง พวกนี้ ก็แต่เสแสร้งแสดงออกมาเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดใน เป็นมนุษย์คือทำตัวสบายๆ ดูผู้หญิงใส่ชุดราตรีพวกนั้น มี หลายคนที่พยายามฝืนทำตัวให้สง่างาม เพื่อต้องการให้คน

อื่น

ยกย่องชมเชยแต่ตัวเองต้องทนทุกข์”

เมื่อภารจาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ รู้สึกมีเหตุผลมาก ผู้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงการกุศลนี้ แต่งกายอย่างพิธีรีตองเพื่อ ให้คน

อื่นรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในระดับชนชั้นสูง

ดังคำกล่าวที่ว่าเพื่อให้ได้หน้าทรมานแค่ไหนก็ยอม ก็ เปรียบเทียบคนเหล่านี้แหละ

“พี่รพีพงษ์ แม้ว่าคุณอาจะเก่งกาจกว่าคนเหล่านี้ แต่คุณก็ แตกต่างจากพวกเขามาก”ภารจาพูด

“คุณกำลังบอกว่าผมเทียบกับคนชนชั้นสูงเหล่านี้ไม่ได้ หรือ?”รพีพงษ์พูดหยอกล้อด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ใช่ พวกเขาไม่สามารถไล่ตามความคิดของคุณได้” ภารจาพูดด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์หัวเราะ นึกไม่ถึงภารจาที่ขี้อายอย่างนี้ยังรู้จัก ชื่นชมคนอื่น

“ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปหาอะไรทานก่อน” รพีพงษ์พา ภารจาไปยังสถานที่ตั้งอาหาร ไอศิราและเพื่อนคนหนุ่มสาวสองสามคนรวมตัวที่เดียวกัน พวกเขาเสแสร้งทำเป็นคนชนชั้นสูง กำลังพูดคุยกันเสียงเบา

พวกเขาสามารถมาร่วมงานเลี้ยงนี้ได้ ก็หมายความว่า ฐานะตัวตนของพวกเขาไม่ธรรมดา และมีหลายคนที่ให้ ความ

เคารพต่อไอศิรา

ไอศิราเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลพัฒน์นรีที่เก่าแก่ในเมือ งบาสแตร์ และมีสถานะสูงกว่าพวกเขา

“ไอศิรา ฉันได้ยินมาว่าต่อไปตระกูลของเธอจะร่วมมือกับ เฮียอธิชนม์ ในอนาคตถ้าคุณได้ร่วมงานกัน ตระกูลพัฒน์นรี

คง

จะเจริญรุ่งเรืองแน่นอน”

“ใช่แล้วไอศิรา การร่วมมือกับคุณอธิชนม์มีแต่ผลกำไร โดยไม่ขาดทุนแน่นอน ตระกูลภัทร์รัฐชัยได้ร่วมงานกับคุณ อธิชนม์มา

หลายปี ปัจจุบันการพัฒนาของพวกเขาค่อนข้าง แข็งแกร่ง”

ในเมืองบาสแตร์มีใครที่ไม่อยากร่วมงานกับเฮียอธิชนม์ ผู้คนจำนวนมากแย่งกันขนาดไหนก็ไม่มีคุณสมบัตินั้น ไอศิรา

น่า อิจฉาตระกูลของเธอจริงๆ”

ไอศิรารู้สึกภาคภูมิใจกับคำพูดของคนรอบข้าง ใบหน้า เต็มไปด้วยความสุข แล้วพูด “ครั้งนี้ตระกูลของเราร่วมมือ กับคุณอธิ

ชนม์ ส่วนแบ่งที่ตกลงกันคือห้าสิบต่อห้าสิบเปอร์เซ็นต์ สัญญาที่ลงนามกับตระกูลภัทร์รัฐชัยนั้นหกสิบต่อสี่สิบ เปอร์เซ็นต์

ตระกูลภัทร์รัฐชัยได้แค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น”

หลายคนรอบข้างเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าความร่วมมือ ของคุณอธิชนม์กับตระกูลพัฒน์นรี จะได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์นั่น

หมายความว่าคุณอธิชนม์เห็นตระกูลพัฒน์นรีอยู่ใน ตำแหน่งเดียวกับตัวเอง

การแบ่งห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ที่เพิ่มขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่เพียง แต่หมายความว่าคุณอธิชนม์ให้ความสำคัญกับตระกูลพัฒน์

นรี

ธุรกิจของคุณอธิชนม์ ค่อนข้างกว้างใหญ่ รายได้สิบ เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นตัวเลขที่มากเกินจริงๆ

“ไอศิรา นี่เป็นจังหวะที่ตระกูลของคุณจะรุ่งโรจน์ ถึงตอน นั้นเธอต้องเลี้ยงข้าวพวกเรานะ” คนรอบข้างหลายคนเริ่ม ประจบ

ประแจงไอศิรา

ไอศิรายิ้มและโบกมือให้กับหลายๆคน และพูดว่า “เรื่อง เล็กน้อย”

ขณะที่เธอพูด เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา และ พูดว่า “ฉันจะโชว์อะไรสนุกๆ ให้ดู ในหอพักฉันมีผู้หญิงคน หนึ่ง

เป็นสาวนั่งดริ้ง ภายนอกดูเป็นคนที่ตั้งใจเรียน ลับหลัง เป็นตัวแรด สิ่งที่น่าตลกที่สุดคือ เธออยากมีส่วนร่วมในงาน เลี้ยงการ

กุศลครั้งนี้ด้วย ตอนนี้ฉันมีรูปตอนเธออาบน้ำ มันดูแรด มากเลย ฉันให้พวกเธอดู”

คนรอบๆที่ได้ยินสิ่งที่ไอศิราพูด สีหน้าเต็มไปด้วยความ อยากรู้อยากเห็น พวกเขาไม่รู้สึกเลยหรือสิ่งที่เรียกว่า “คน ชั้นสูง”

กำลังดูรูปถ่ายของคนที่กำลังอาบน้ำในงานเลี้ยงการกุศล เช่นนี้มันไม่เหมาะสม

“ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนแบบนี้ในมหาวิทยาลัยของคุณ มันทำให้รู้สึกเปิดหูเปิดตามากขึ้น”

“ที่จริงมีคนประเภทนี้มากมาย พวกเขาแสดงเก่งมาก ฉัน เห็นมากแล้ว”

“เป็นคนที่เรียนเก่ง ยังไปทำงานเป็นสาวนั่งดริ้ง ทำไมคน นี้โง่จริงๆ”

หลายคนมารวมตัวกันรอบๆไอศิรา ตั้งใจที่จะดูให้ชัดเจน ว่าเพื่อนร่วมห้องที่ไอศิราพูดถึงหน้าตาเป็นอย่างไร

ไอศิราค้นหารูปถ่ายของภารจาที่กำลังอาบน้ำด้วยความ ตื่นเต้น ราวกับว่าภารจาสามารถทำให้เธอมีความสุขมาก

แต่ทันทีที่เธอค้นหาภาพจนเจอ มีมือหนึ่งยื่นมาตรงหน้า เธอ และแย่งโทรศัพท์ไปจากมือเธอ

ไอศิราตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรีบหันหน้าไปมองด้าน ข้าง และพบว่าชายที่แย่งโทรศัพท์เธอ คือชายคนที่อยู่กับ

ภารจา

เขาเข้ามาได้ยังไง?

จากนั้นเธอก็เห็นภารจายืนอยู่ไม่ไกลจากรพีพงษ์ มองมา ทางเธอ สีหน้าไม่ค่อยดี

พวกเขาทั้งคู่เข้ามาได้? บริกรควรจะไล่พวกเขาทั้งสองคน ออกไปไม่ใช่หรือ?

หลังจากไอศิราตกตะลึงไปชั่วขณะ รพีพงษ์ได้ลบรูปถ่าย ทั้งหมดของภารจาที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือของเธอ ” “ถ่ายภาพคนอื่นที่กำลังอาบน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต พวก คุณยังเหมาะสมที่จะเป็นคนชนชั้นสูงเหรอ ช่างเป็นเรื่องไร้ สาระ”

รพีพงษ์ยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอศิรา

หลังจากที่ไอศิรารับโทรศัพท์มือถือของเขา เธอก็ตอบโต้ และตะโกนใส่รพีพงษ์โดยตรง “นายกล้าแย่งโทรศัพท์มือถือ ของฉัน

เมื่อกี้นายทำอะไรลงไป!”

เธอรีบตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเธอ และไม่พบรูปที่ เธอถ่ายไว้ ซึ่งทำให้เธอโมโหมาก

“นายลบรูปถ่ายของฉันจนหมด นายอยากตายเหรอ!” ไอ ศิราอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่รพีพงษ์

ผู้คนที่กำลังสนทนาอยู่รอบๆสังเกตเห็นสถานการณ์ที่นี่ และรวมตัวเข้ามาทันที

“ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้ แย่งโทรศัพท์มือถือของคนอื่น แบบนี้ คุณกำลังทำผิดกฎหมายนะ!” เพื่อนๆของไอศิราทุก

คน

ช่วยกันกล่าวหารพี่พงษ์

รพีพงษ์ยิ้มให้พวกเขา และพูดว่า “ฉันแนะนำให้พวกคุณ คิดทบทวนให้ดีๆว่ามีเรื่องอะไรของตัวเองที่อยู่ในมือเขา แม้แต่เพื่อนร่วมห้องเธอยังแอบถ่ายตอนเขาอาบน้ำได้ แล้ว พวกเธอเป็นเพื่อนของเธอ คิดหรือว่าเธอจะไม่ทำเรื่องไร้ ยางอายของพวกเธอ?”

คำพูดของรพีพงษ์ทำให้เพื่อนๆของไอศิราตกตะลึง พวก เขาอดไม่ได้ที่จะมองไอศิรา โดยไม่มีใครช่วยไอศิราพูด แก้ตัวอีก

สีหน้าของไอศิราเคร่งเครียด ดวงตาเธอจ้องไปที่รพีพงษ์ และพูดว่า “พวกเธออย่าไปฟังไอ้คนโรคประสาทนี้พูดเรื่องไร้

สาระ

ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร เขาเป็นคนที่รวมหัวกันกับ เพื่อนร่วมห้องของฉัน เพื่อนร่วมห้องฉันอยู่ที่นั่น เป็นผู้หญิง คนนั้น

พวกเขาสองคนคงแอบเข้ามาในงานเลี้ยงแน่ๆ พวกเรารีบ เรียกรปภมาไล่พวกเขาออกไป”

หลายคนพยักหน้า และแสดงความตั้งใจที่จะไล่รพีพงษ์ และภารจาออกไป

“รปภ. รีบเข้ามา ที่นี่มีสองคนที่แอบเข้ามา รีบไล่พวกเขา สองคนออกไป!” ไอศิราตะโกนเสียงดัง

หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองรพีพงษ์ กัดฟันและพูดว่า “ฝากไว้ก่อน วันนี้ตอนเที่ยงนายก็ทำให้ฉันไม่พอใจมาก ตอนนี้นาย

ยังกล้ามาแย่งโทรศัพท์ของฉันอีก นี่คืองานเลี้ยงการกุศล ของคุณอธิชนม์ นายยังกล้าแอบเข้ามา คุณอธิชนม์ไม่ปล่อย

นาย

ไปแน่นอน!”

รพีพงษ์มองหน้าเธอยิ้ม และพูดว่า “ฉันเดินเข้ามาอย่าสง่า ผ่าเผย ทำไมถึงพูดว่าแอบเข้ามา เธอทำกับน้องสาวฉันมาก

เกินไป? ฉันไม่สั่งสอนเธอ ก็ดีมากแล้ว”

เมื่อเห็นรพีพงษ์ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเธอ ไอศิราเริ่มมี สีหน้ากังวล และรปภ.ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน และไม่มีใครมา

ควบคุมดูแล

เรื่องตรงนี้

ไอศิราจ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยแววตาดุร้าย และพูดอย่างเย็น ชา “ขอบอกนาย ฉันเป็นคนของตระกูลพัฒน์นรี ในไม่ช้า ตระกูลพัฒน์นรีของเราจะร่วมมือกับเฮียอธิชนม์ นายกล้าที่ จะยั่วยุฉัน ต้องไม่มีจุดจบที่ดี ตอนนี้นายรีบคุกเข่าขอโทษฉัน ฉันอาจจะให้อภัยนาย มิเช่นนั้นคนชั้นต่ำอย่างนาย ถึงเอาให้ ตาย ก็ไม่มีใครกล้าช่วยนาย!”

ผู้คนรอบข้างต่างมองรพีพงษ์ด้วยความเห็นใจ พวกเขา รู้สึกว่ารพีพงษ์ไปหาเรื่องคุณหนูใหญ่ตระกูลพัฒน์นรี ก็ เหมือนหาที่ตาย และดูรพีพงษ์เหมือนคนที่ไม่มีภูมิหลังใดๆ

ในเวลานี้อีกด้านหนึ่งของโรงแรม

อธิชนม์กำลังเดินมาทางด้านห้องโถงนี้อย่างรีบร้อน ใน เวลานั้นรพีพงษ์โทรหาเขาก็ทำให้เขากังวลมาก เมื่อเขา

จัดการ

ธุระเสร็จ เขาก็รีบมาที่นี่ทันที

ข้างกายมีหลายคนติดตามเขาเข้ามา ในจำนวนนี้มีนาย ใหญ่ตระกูลภัทร์รัฐชัย และที่เดินอยู่ข้างๆคือนายใหญ่ ตระกูลพัฒน์

นรี ชื่อกำจร

กำจรในเวลานี้มีชีวิตชีวามาก เพราะหลังจากงานเลี้ยง การกุศลสิ้นสุดลง เขาจะได้เซ็นสัญญากับคุณอธิชนม์ และ จากนี้

ไปตระกูลของเขาจะอยู่สายเดียวกันกับคุณอธิชนม์

แม้ว่าตระกูลพัฒน์นรีจะเป็นตระกูลเก่าแก่ในเมืองบาส แตร์ แต่เมื่อเทียบกับคุณอธิชนม์ก็ยังห่างกันมาก เพราะเบื้อง หลัง

คุณอธิชนม์มีตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโตคอยสนับสนุน ระหว่างสองอย่างนี้ไม่มีอะไรเทียบได้ เห็นตระกูลภัทร์รัฐชัยร่วมมือกับคุณอธิชนม์มาหลายปีแล้ว กำจรก็กังวลอย่างมาก ในที่สุดเขาก็มีโอกาสนี้แล้ว แน่นอน

ว่าในใจเขามีความสุขมาก

คุณอธิชนม์ คุณพูดว่า จะมีแขกคนสำคัญในงานเลี้ยงคืน นี้ว” กำจรถาม

อธิชนม์พยักหน้า และพูดว่า “ตัวตนของท่านนี้ไม่ใช่อย่าง ที่คุณสามารถจินตนาการได้ เมื่อคุณเห็นเขาแล้ว พวกคุณ ต้องให้

ความเคารพ เมื่อกี้บริกรได้ขวางเขาไว้ไม่ให้เข้ามาในงาน เดี๋ยวผมจะไปจัดการกับบริกรคนนั้นให้สาสม”

กำจรและคนรอบข้างพยักหน้า คนที่สามารถทำให้คุณอธิ ชนม์ให้ความสำคัญขนาดนี้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้น

พวกเขา

ไม่กล้าละเลยแน่นอน

“ดูเหมือนว่าเราจะต้องหาทางสร้างมิตรภาพที่ดีกับเพื่อน ของเฮียอธิชนม์ บางที่อาจจะมีประโยชน์มากมายใน อนาคต”

กำจรบ่นพึมพำในใจ

พวกเขาก็เข้ามาในห้องโถงอย่างรวดเร็ว คุณอธิชนม์มอง ไปรอบๆ เพื่อมองหาร่างของรพีพงษ์ เพียงแวบเดียวเขาก็ เห็นฝูงชน

รายล้อมอยู่ที่นั่น และเห็นไอศิราตะโกนใส่รพีพงษ์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ