พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 896 กําหนดตัวเลือกของเจ้าสำนักคนต่อไป



บทที่ 896 กําหนดตัวเลือกของเจ้าสำนักคนต่อไป

หลังจากที่ดิลวิลและประวีร์ได้ยินคําพูดของรพีพงษ์แล้วนั้น ก็ ตาโต คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ จะโยนพวกเขา ไปในป่าเป็นอาหารหมาป่า

ครองภพยิ้มอย่างร้ายกาจแล้วเดินไปที่พวกเขา แล้วถามว่า “พวกแกทั้งสอง ใครจะเป็นคนแรก?”

ประวีร์หันหน้าไปมองดีลวิล ความจริงตอนนั้นเขาคิดจะ อ้อนวอนรพีพงษ์ ให้รพีพงษ์เห็นใจ สุดท้ายเมื่อดิลวิลเห็นรพีพงษ์ ก็เริ่มพูดแบบนั้น เขาห้ามก็ห้ามไว้ไม่อยู่

ตอนนี้รพีพงษ์โมโหเพราะดิลวิล จะตัดขาของพวกเขาแล้วโยน ไปในป่าเป็นอาหารของหมาป่า ตอนนี้ไม่ว่าเขาก็อ้อนวอน อย่างไร ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว

“พ่อทำไมต้องพูดแบบนั้น ตอนนี้พ่อไม่รู้ถึงสถานการณ์ของ เราหรือไง? ไงล่ะทีนี้ เค้าจะตัดขาของเราแล้วเอาไปเป็นอาหาร ให้หมาป่าแล้ว พอใจแล้วสิ?!” ประวีร์ตะคอก ใส่ดิลวิล

ดิลวิลมองประวีร์อย่างอึ้ง แล้วกล่าว “ฉันคิดว่า มันไม่กล้าทำ อะไรกับเราหนิ”

ประวีร์อยากที่จะบีบคอไอ้แก่นให้ตายๆไปซะ เขามีพ่อที่ ปัญญาอ่อนแบบนี้ได้ไงกันนะ

“ไอ้แก่ ยังไงเราทั้งคู่ก็ต้องตาย แต่ถ้าจะตายแกตายก่อนแล้ว
ประวีร์ตาดิลวิล จากนั้นก็ผลักเขาไปให้ครองภพ

“ประวีร์ ฉันเป็นพ่อแกนะ!” ดิลวิลเกรี้ยวกราด ตะคอกออกมา

“จะตายแม่งอยู่ล่ะ ใครจะไปสนว่าแกจะเป็นหรือไม่เป็นพ่อฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะแกไอ้แก่ พวกเราจะพบจุดจบแบบนี้มั้ย!” ประวีร์ แข็งกร้าว ตะคอกไป

รพีพงษ์เห็นสองพ่อลูกโกรธแค้นกัน ก็ดูแคลน สถานการณ์ แบบนี้ ไม่มีอะไรมากเกินกว่าการดูถูกเหยียดหยามอีกแล้ว ไม่ถึง วินาทีสุดท้าย ก็ไม่มีทางรู้ว่าจิตใจคนนั้นเป็นอย่างไร

ไม่สนใจว่าประวีร์สองพ่อลูกต่อไปจะเป็นอย่างไร รพีพงษ์ก็หัน หลังเดินออกไปด้านนอก ครองภพจัดการเรื่องหลังจากการตาย ของทั้งสอง ในเมื่อรพีพงษ์พูดแล้วว่า ให้โยนพวกเขาเข้าไปในป่า เป็นอาหารหมาป่า งั้นพวกเขาก็มีวิธีตายเพียงแค่วิธีเดียว

เดินมาถึงห้องของท่านคทา หลังจากที่รพีพงษ์เคาะประตูแล้ว ก็ได้เดินเข้าไป เห็นท่านคทากำลังจัดการเอกสาร กำลังนั่งยิ้มอยู่ บนเก้าอี้ไม้

ท่าคทาเห็นรพีพงษ์มา ก็ยิ้ม แล้วกล่าว “ตระกูลลัดดาวัลย์นี้ มี คุณอยู่ถึงจะมีชีวิตชีวาจริงๆ ฉันแก่ขนาดนี้ ล้าสมัยไปนานแล้ว

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ท่านคทาตลกไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ คุณ ตระกูลลัดดาวัลย์จะเป็นระเบียบแบบนี้ได้ไงกัน คุณคือ อำมาตย์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์นะ”
ท่านคทาหัวเราะ ไม่ได้เยินยอรพีพงษ์ต่อ

รพีพงษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลง และถามว่า “เรื่องของตระกูล ฉัตรมงคลที่เมืองยองจัดการไปถึงไหนแล้ว?”

“คนของเราเดินทางไปแล้ว ตระกูลฉัตรมงคลที่เมืองของเป็น ตระกูลชั้นรอง อยากจะล้างบางตระกูลฉัตรมงคลนั้น เป็นเรื่องที่ ง่ายดายเหลือเกิน” ท่านคทากล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า กล่าว “งั้นเรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของท่าน คทาแล้วกันนะครับ แม้ความผิดของคนตระกูลฉัตรมงคลนั้นไม่ ถึงกับต้องปริชีพ แต่ถ้าต้องทำโทษก็ต้องลงโทษ หวังว่าหลังจาก เรื่องนี้ไป

คนของตระกูลฉัตรมงคล จะมีสมองขึ้นมาบ้าง

ท่านคภาพยักหน้า แล้วหยิบมือถือขึ้นมา สั่งให้คนที่อยู่เมือง ยองลงมือ

จัดการตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลฉัตรมงคล รพีพงษ์ไม่จำเป็น ต้องใช้กำลังของเทือกเขาสนา แค่กำลังของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็พอแล้ว

หลังจากที่มอบหมายเรื่องของตระกูลฉัตรมงคลเสร็จ รพีพงษ์ก็ ไปหาดำเกิงเพื่อดูคลิปที่ถ่ายในวันนั้น ดำเกิงยังคุยโวถึงการถ่าย คลิปของเค้าในครั้งนั้น ให้รพีพงษ์ฟังอีกด้วย บอกรพีพงษ์ว่าคลิป นี้ผ่านไปหลายปี จะยิ่งมีค่ามากขึ้น

รพีพงษ์มองดำเกิงอย่างเบื่อหน่ายแล้วพูดว่าคลิปนี้ไม่ใช่ของที่ระลึก แต่เอามาเป็นหลักฐาน เพียงแค่ถ่ายหน้าคนชัดเจน พอแล้ว

เก๋งอับอาย คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะเอาคลิปมาเป็นหลักฐาน เขาที่ไร้เดียงสา ตอนถ่ายนั้นยังใช้โปรแกรมเหม่ยเหยียน แล้ว ยังพูดบรรยายในคลิปอีกด้วย

รพีพงษ์ไม่สนใจว่าเกิงจะถ่ายคลิปออกมาเป็นอย่างไร เพียงแค่สามารถพิสูจน์ได้ว่าปรินทรตายด้วยฝีมือของเขาก็ พอแล้ว

หลังจากที่ไปหาดำเกิงเพื่อเอาคลิปแล้วนั้น รพีพงษ์ก็หยิบ คอมมาเข้าเว็บของกลุ่มสิงโต อัพโหลดคลิปวีดีโอเข้าไป แล้ว อธิบายว่าปรินทรได้ตายด้วยน้ำมือของตน

ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง เรื่องที่รพีพงษ์ได้ฆ่าปรินทรนั้นก ลุ่มสิงโตได้ทำการตรวจสอบแล้ว ด้วยเหตุนี้เองรพีพงษ์จึงได้มา หกหมื่นผลงาน

แม้อีกนานกว่าจะครบสามแสนผลงาน แต่นี่ก็ถือเป็นการเบิก ฤกษ์ที่ดี รพีพงษ์เพิ่งออกมาจากสำนักงานใหญ่กลุ่มสิงโต ก็ได้ หกหมื่นผลงาน ความเร็วแบบนี้ทำให้คนตกตะลึงได้แล้ว มี สมาชิกบางคนผ่านไปหนึ่งไปแล้วก็ยังทำผลงานไม่ครบหนึ่งหมื่น เลย เพราะแดนดั่งเทพจะฆ่ากันง่ายๆได้ไง

จัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ รพีพงษ์ก็เริ่มอยู่เป็นเพื่อนอารียาและ หนูลิน

เขาวางแผนจะใช้เวลาไม่กี่วันนี้อยู่เป็นเพื่อนอารียาและหนูลินให้ได้มากที่สุด เพราะการที่จะได้สามแสนผลงานนั้น ไม่สามารถ อยู่ที่บ้านได้ตลอดแน่นอน ไม่นาน รพีพงษ์ก็ต้องออกจากบ้านไป อีก

ดังนั้นรพีพงษ์ต้องฉวยโอกาสช่วงนี้ไว้ให้ดีๆ

ในขณะเดียวกัน สำนักงานใหญ่กลุ่มสิงโต

ณ ห้องประชุม มีสิบกว่าคนกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะกลมที่ใหญ่มาก โต๊ะหนึ่ง อายุของพวกเขาค่อนข้างมาก เกือบครึ่งหนึ่งมีผมหงอก ขาวเข้าไปแล้ว แต่แม้ว่าพวกเขาดูๆไปเหมือนจะอายุมากแล้ว แต่ ว่าร่างกายไม่ได้อ่อนแอลงไปเลย

มังกรพยัคฆ์เต่าสามคนก็อยู่ในนั้น ในบรรดาคนเหล่านี้พวก เขาทั้งสาม ถือว่าอายุค่อนข้างน้อย

สิบกว่าคนนี้ เป็นแดนดั่งเทพที่สามารถรวมตัวกันมาของกลุ่ม

สิงโต ถือว่าเป็นระดับสูงของกลุ่มสิงโต นโยบายทุกอย่างของ

กลุ่มสิงโต ล้วนผ่านการอนุมัติและประกาศจากพวกเขา

ในขณะนี้ต่อหน้าทุกคน ได้วางเอกสารไว้ชุดหนึ่ง เอกสารนี้ เกี่ยวกับข้อมูลของรพีพงษ์ ด้านในข้อมูลละเอียดยิบ มีหลาย เรื่อง ที่รพีพงษ์เองก็จำไม่ได้ ก็ถูกกลุ่มสิงโตบันทึกไว้แล้ว

ทุกคนล้วนจ้องไปที่เอกสารฉบับนั้น ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ผ่านไปไม่นาน ธัชธรรมก็ปรากฏตัวในที่ประชุม ทุกคนสงบลง

คนหนึ่งอายุราวๆหกถึงเจ็ดสิบปี คนแก่ที่มีผมขาวเต็มไปหมด มองธัชธรรมที่เดินเข้ามา แล้วถาม “เจ้าสำนัก ไม่รู้ว่าครั้งนี้ที่คุณเรียกพวกเรามา แล้วยังให้พวกเราดูเอกสารของคนที่ซื้อรพีพงษ์ นี้ เพื่ออะไรหรอ?”

ธัชธรรมเดินไปยังตำแหน่งหลัก มองทุกคนแล้วยิ้ม กล่าว “คาดว่าทุกเข้าใจรพีพงษ์อย่างถ่องแท้แล้ว?

“งั้นผมจะไม่อ้อมค้อม ที่วันนี้เรียกพวกคุณมา ก็เพื่อกำหนดตัว เลือกของเจ้าสํานักคนต่อไป”

“รพีพงษ์ เป็นตัวเลือกที่ผมกำหนดไว้ หลังจากที่ผมตายไปแล้ว เขาจะมาสืบทอดกลุ่มสิงโตต่อจากผม ถ้าท่านใดมีคำถามล่ะก็ กรุณาถามได้เลย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ