พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 416 การเดิมพัน



บทที่ 416 การเดิมพัน

“ครั้งนี้น่าสมเพชจริงๆ ช่วงก่อนหน้านั้นยังมีข้าวให้กิน หลังจากวันนี้ไป เกรงว่าจะเหลือแค่แกลบให้กิน” เมื่อคนของ เทือกเขาสนาจากไป จงจินตนก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา

รพีพงษ์มองไปที่จงจินตน์ แล้วถามว่า: “นายก็แน่ใจแล้ว ว่าจะแพ้?”

“ ผมมีอะไรที่ไม่รู้ ความแข็งแกร่งโดยรวมของห้อง หมายเลขสิบสามพวกเราไม่ดีนัก ที่สำคัญก็กินข้าวกับน้ำมา นาน พลังงานของทุกคนแย่กว่าปกติมาก นี่ก็พึ่งพาให้ลูกพี่ คนก่อนไปท้าทายแลกมา ไม่อย่างนั้นพวกเราห้องหมายเลข สิบสามคงตายหมดแล้ว”จงจินตน์กล่าว

“แล้วถ้าว่าหากวันนี้ฉันเข้าร่วมแข่งล่ะ?”รพีพงษ์กล่าว

จงจินตนถอนหายใจแล้วพูดว่า “การต่อสู้ระยะประชิดสิบ คนห้ามไม่ให้ลูกพี่ขึ้น ดังนั้นต่อให้พี่จะมีความแข็งแกร่ง ก็ ไม่มีประโยชน์”

นอกจากคนในห้องนี้ ยังมีใครที่รู้ว่าฉันเป็นลูกพี่ใหม่ของ ที่นี่มั้ย?”รพีพงษ์ถามกลับ

จงจินตน์นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นทันที พูด อย่างตื่นเต้น “ไข่แล้ว พี่เพิ่งเข้ามา ใครจะคิดว่าพี่เพิ่งมาถึงก็กลายเป็นลูกพี่ของพวกเรา ตราบใดที่พวกเราไม่พูด ตอน บ่ายพี่ก็สามารถขึ้นแข่งได้ เพียงแต่…..ห้องหมายเลขเจ็ด แข็งแกร่งมาก พวกเขาแค่คนใดคนหนึ่ง ก็สามารถเอาชนะ พวกเราห้าคนได้ ถึงเวลาตอนที่ขึ้นเวที ก็เท่ากับว่าพี่คน เดียวต่อสู้กับห้าคน พี่แน่ใจว่าสามารถรับมือได้เหรอ?”

“เรื่องนี้นายไม่ต้องกังวล การแข่งขันตอนบ่ายให้ฉันเข้า ร่วมด้วยคน รพีพงษ์กล่าว เมื่อเห็นรพีพงษ์พูดเช่นนี้ จงจินตน์ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

และปิดปากเงียบ

คนที่เหลือในห้องเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เห็นได้ชัดว่า ไม่มีความมั่นใจในการแข่งขันช่วงบ่าย

ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ ก็คงจะแค่แข็งแกร่งกว่าคนใน ห้องหมายเลขสิบสามเท่านั้น อยู่ในสถานที่นี้ ความ แข็งแกร่งของแต่ละห้องนั้นแตกต่างกันมาก ทุกห้องเพื่อ อาหารแล้ว คงจะส่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาอย่างแน่นอน รพีพงษ์ก็ไม่เห็นว่าจะแข็งแกร่งกว่าคนในห้องอื่นๆ

ไม่นานก็จะเที่ยงแล้ว คนของเทือกเขาสนาส่งอาหารมา รพีพงษ์มองไป พบว่าเป็นข้าวธรรมดาและผักที่ไม่แตกต่าง อะไรกับน้ำเปล่า โดยมีใบผักลอยอยู่ไม่กี่ใบ

ไม่น่าแปลกใจที่คนในห้องนี้ถึงหมดอาลัยตายอยาก ขนาดนี้ ถ้าอาหารแบบนี้ลดระดับลงอีก คงไม่ใช่สำหรับให้คนทานแล้ว

ในเมื่อตัวเองอยากทานของดี ก็ไม่สามารถแพ้การแข่งขัน ของบ่าย ได้

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ รพีพงษ์และจงจินตนแน่ใจคน ที่เข้าแข่งขันตอนบ่ายนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าทุกคนไม่ต้องการ เข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากเสี่ยงต่อการเสียชีวิต แต่ต้อง สยบให้กับรพีพงษ์ คนที่ถูกเลือกก็ไม่กล้าพูดอะไร

เมื่อกับการถูกห้องคนอื่นกระทบตายกับถูกคนในห้องตัว เองกระทบตาย เห็นได้ชัดว่ายังอย่างแรกยังมีศักดิ์ศรีกว่า

หอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา ตั้งอยู่ใจกลางบนหุบเขา ของเทือกเขากิสนา ทั้งหมดแปดชั้น ทั้งเทือกเขากิสนา เป็น อาคารที่สูงที่สุด ด้วยพิกัดนี้ ภายในรัศมีสิบกิโลเมตร เป็น ของเทือกเขาสนาทั้งหมด ยืนอยู่ที่ด้านบนของหอแข่งขัน ศิลปะการต่อสู้กิสนา สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของ เทือกเขาสนาได้ มีคฤหาสน์ตั้งอยู่เรียงรายกันเป็นแถวๆ มี ถนนกว้าง และพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ แม้ว่าจะอยู่ในเขต หุบเขา แต่อยู่ไกลจากหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา มี ทะเลสาบอยู่ และริมทะเลสาบ มีสวนน้ำอยู่

ผ่านการพัฒนามาหลายปี เทือกเขาสนากลายเป็นเมือง เล็กๆ ที่ครอบคลุมมาก อยู่ที่นี่สามารถมองเห็นของทุกอย่างที่ สังคมภายนอกมองเห็นได้ ที่สำคัญทั้งหมดนี้เป็นอันดับต้นๆของโลก

แม้ว่า โลกภายนอกจะมีคนรู้จักเทือกเขาสนาไม่มาก แต่ จำนวนคนของที่นี่ก็ไม่น้อย ทุกๆปีจะมีคนรวยจากทั่วทุกมุม โลก หลังจากจ่ายค่าตั๋วราคาสูง จะมาพักร้อนที่นี่

บางทีทิวทัศน์ของที่นี่อาจจะไม่น่าหลงใหลที่สุด แต่ที่นี่ก็ ไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย สำหรับคนรวยแล้ว ที่นี่คือสวรรค์ แห่งอิสรภาพ พวกเขาสามารถสนุกสนานได้อย่างอิสระ ตราบใดที่พวกเขาต้องการ เทือกเขาสนาสามารถจัด เตรียมความต้องการที่สอดคล้องกันได้ ไม่มีอะไรมากกว่า การจ่ายเงินมากขึ้นเล็กน้อย

ในเวลานี้ที่หอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา ในพื้นที่ชมวิว บนชั้นสาม มีคนสองคนยืนอยู่หน้าราวบันได กำลังดูเวที ประลองใหญ่ด้านล่าง

ใช้เวลาไม่นาน ที่นี่ก็จะจัดการแข่งขันประลองต่อสู้ระยะ ประชดสิบคน คู่ต่อทั้งสองฝ่ายคือทีมห้องเจ็ดและทีมห้อง หมายเลขสิบสาม

พวกเขาทั้งสองคนเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ผู้ชายอายุยี่สิ บกว่าๆ แววตามีความหยิ่งผยองอยู่ที่คนธรรมดาไม่มีอยู่ ผู้ หญิง มีหน้าตาสดใส เสื้อผ้าก็งดงาม และทั้งคนดูบอบบาง มาก ซึ่งก็คือสามารถมองออกมาได้ว่า ทั้งคนนี้ฐานะไม่ ธรรมดา
คนที่สามารถเข้ามาสนุกกับชีวิตในเทือกเขาสนาได้นั้น ฐานะนั้นต้องไม่ธรรมดา

“สุดา ฉันคิดว่าเธอควรจะพิจารณาเรื่องแต่งงานกับฉัน จริงๆนะ เมื่อครอบครัวของเราทั้งสองคนเป็นญาติกัน ใน อนาคตทั้งเอเชีย จะกลัวอิทธิพลอำนาจของพวกเรา สําหรับ ฉันและเธอ ก็มีประโยชน์ไม่รู้จบ”ชายคนนั้นกล่าว

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มองไปที่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ และพูดอย่าง เย็นชา: “ธนเทพ นายต้องเข้าใจว่า ตระกูลวัชรากิจกุลของ พวกนาย ไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งเท่าเทียมกับตระกูลก้องวณิช กุลของฉัน ไม่ต้องใช้ทัศนคติแบบว่านายกับฉันเท่าเทียมกัน มาคุยกันทุกครั้ง นายน่าจะรู้ดีช่องว่างระหว่างนายและฉัน นายอยากแต่งงานกับฉัน เพียงเพื่อพึ่งพาตระกูลก้องวณิชกุล ของฉันเท่านั้นเอง”

เมื่อความคิดของตัวเองถูกเปิดโปง บนใบหน้าของธนเทพ แสดงออกมาถึงความละอาย เขาหายใจเข้าลึกๆ ดูแล้ว เหมือนไม่พอใจ แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงแค่กลืนความ โกรธ ลงท้องตัวเองเท่านั้น

ฝนสุดาพูดถูก ตระกูลวัชรากิจกุล เทียบกับตระกูลก้อง วณิชกุลไม่ได้ เลยทำได้แค่ก้มหน้าอยู่ตรงหน้าฝนสุดา

“ที่สำคัญเมื่อพูดถึงเรื่องการแต่งงาน ฉันสนใจลูกชายของ เจ้านายเทือกเขาสนาที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน นายก็น่าจะรู้ดี ว่าความมั่งคั่งของเทือกเขาสนา ไม่แย่ไปกว่าสมาคม ชั้นนำของโลก ที่สําคัญคือ เทือกเขาสนามียอดฝีมือ มากมาย แม้ว่าพวกเขาจะถูกแยกออกจากโลก ก็เป็นพลังที่ น่ากลัวมาก ถ้าหากสามารถแต่งงานกับลูกชายของเจ้านาย เทือกเขาสนาได้ ฉันคิดว่าตระกูลก้องวณิชกุลของฉัน ก็จะ กดให้ตระกูลอื่นๆ ในเอเชียไม่สามารถเชิดหน้าชูตาได้ รอย ยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฝนสุดา

ธนเทพเบะปาก เห็นได้ชัดว่าดูถูกลูกชายของเจ้านายเทือก เขากิสนา แล้วพูดว่า: “เจ้านายเทือกเขาสนาพูดถึงลูกชาย ของเขาเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเอง มีคนคนนี้อยู่จริงหรือเปล่าก็ยัง ไม่รู้ ที่สำคัญต่อให้เทือกเขาสนาจะทรงพลังเพียงใด อย่าง มากเมื่อเทียบกับตระกูลวัชรากิจกุลของฉัน พวกเขาจะมีพลัง ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร เธอมองพวกเขาสูงเกินไปแล้ว

เดิมที่ฝนสุดาต้องการจะโต้แย้งชายหนุ่มที่ไม่มีวิสัยทัศน์ คนนี้ แต่ก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็น จึงพูดว่า “ถ้าหากเป็น อย่างนี้ ฉันก็เต็มใจจะแต่งงานกับลูกชายของใครสักคนใน กลุ่มสิงโต ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาหลายคนมีลูกชายที่ถึงวัย ที่ควรจะแต่งงานได้แล้ว และฉันจะพยายามทำให้ได้ตาม เกณฑ์ของพวกเขา”

ในเวลานี้ธนเทพเงียบสนิท เขาไม่สามารถโต้แย้งคำพูด ของฝนสุดาได้สักคำ เพราะตระกูลวัชรากิจกุลอยู่ต่อหน้ากลุ่มสิงโต เป็นเพียงลูกแกะที่สามารถฆ่าตามใจชอบ

กลุ่มสิงโต องค์กรลึกลับที่น่ากลัวเป็นตัวแทนของสิ่งที่ไม่รู้ จักความน่ากลัว กลัวแม้แต่สมาคมชั้นนำ ก็ไม่สามารถต่อสู้ กับกลุ่มสิงโตได้

ธนเทพยังคงจําได้ดีว่า ความแข็งแกร่งของตระกูลพวก เขาซึ่งเทียบได้กับตระกูลภัชรภิรมย์ ก็เพราะทำให้สมาชิก ระดับสูงของในกลุ่มสิงโตขุ่นเคือง ทำให้ทั้งตระกูลถูก ทําลาย

ตอนนั้นตระกูลภัชรภิรมย์ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากการตายของ ตระกูลภัชรภิรมย์ เศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึง แย่ลงมาก

ดังนั้นตระกูลภัชรภิรมย์อยู่ในระดับเดียวกับตระกูลวัชรา กิจกุล จึงไม่กล้าที่จะมีปัญหากับกลุ่มสิงโต

ถ้าหากมีโอกาส ฝนสุดาก็ต้องเลือกกลุ่มสิงโตแทนที่จะ เลือกตระกูลวัชรากิจกุลเป็นธรรมดา เรื่องนี้คนโง่ยังคิดได้

เลย

“จนถึงตอนนี้ความเป็นมาของกลุ่มสิงโตก็ยังไม่มีใคร ตรวจสอบได้ชัดเจน แต่งงานกับพวกเขา ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร” สักพัก ธนเทพถึงค่อยพูด
“ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อน ถ้านายยังพูดเรื่องนี้กับฉันอีก ฉันก็ ไม่รังเกียจที่จะหาคนมาเชิญนายออกไป”ฝนสุดาพูดอย่าง

รําคาญ

ธนเทพยิ้มอย่างละอายทันที และเปลี่ยนเรื่อง “เดี๋ยวทั้ง สองทีมที่กำลังจะขึ้นสู้ ห้องหมายเลขสิบสามก็เป็นแค่ขยะ ไม่มีอะไรให้คิดถึง”

พูดจบ เขาก็ปรบมือ และชายในชุดสูทก็มาพร้อมกับสิ่งที่ คล้ายกับแท็บเล็ต

“ช่วยฉันวางเงินห้าสิบล้านทีมห้องหมายเลขเจ็ดชนะ ธน

เทพกล่าว

ชายคนนั้นพยักหน้าทันที และกดแท็บเล็ตของตัวเองไปไม่

กี่ครั้ง

“ไม่สนใจที่จะพนันหน่อยหรือ แม้ว่าจะแน่นอนอยู่แล้วว่า ใครแพ้ใครชนะ”ธนเทพหันไปยิ้มให้ฝนสุดาเล็กน้อย

“ทีมห้องหมายเลขสิบสาม หนึ่งร้อยล้าน” ฝนสุดากล่าว ราวกับว่ากําลังประชดธนเทพ

ธนเทพก็กำหมัดของตัวเองทันที การแข่งขันที่ชัดเจนเช่นนี้ ฝนสุดายังเดิมพันแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเพียงเพื่อขัดขวางเขา

แม้ว่าหนึ่งร้อยล้านจะไม่ถือว่าอะไร แต่เธอวางทีมห้อง หมายเลขสิบสาม ไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน”ธนเทพเตือนด้วย “ความปรารถนาดี”

“ก็ฉันไม่อยากวางเหมือนกับนาย”ฝนสุดาพูดในสิ่งที่ตัว

เองคิดออกมา

ธนเทพ โกรธจนอยากจะกดฝนสุดลงบนเตียงและทรมาน อย่างรุนแรง แต่ช่องว่างทางอำนาจระหว่างสองตระกูลทำให้ เขาไม่มีความกล้า

“ถ้าอย่างนั้น….ไม่แน่วันนี้อาจเกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้น หวัง ว่าผลงานวันนี้ของทีมห้องหมายเลขสิบสามจะไม่ทำให้เธอ ผิดหวังนะ”ธนเทพทนความโกรธของตัวเองไว้ในใจ และ ประจบประแจง

“อีกะหรี่ หวังว่าทุกคนในทีมห้องหมายเลขสิบสามถูกฆ่า ในวันนี้ ถึงตอนนั้นแกก็จะรู้ว่าตัวเลือกของแกมันโง่แค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของตระกูลก้องวณิชกุล แกคง ถูกฉันเล่นงานจนยอมเชื่อฟังคล้อยตามแล้ว! บนใบหน้ามี รอยยิ้ม แต่ในใจของธนเทพฉุนเฉียวจนจะมีคนได้

แต่เมื่อคิดว่าฝนสุดาแพ้อย่างแน่นอน ใจของเขาก็สมดุล ขึ้นมาบ้าง

หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา และ ส่งข้อความไปหาคนที่ตัวเองรู้จักในเทือกเขาสนา: “ฉันหวัง ว่าเดี๋ยวหัวหน้าของทีมห้องหมายเลขเจ็ดขึ้นเวทีด้วย
อยู่ในเทือกเขาสนา ไม่มีกฎอะไร ตราบใดที่ยอมจ่ายเงิน กฎใดๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นี่เป็นกฎที่ซ่อนอยู่ของ เทือกเขาสนา และเป็นวิธีหาเงินของเจ้านายเทือกเขาสนา

“ห้าสิบล้าน ข้อความถูกส่งมาจากอีกด้านหนึ่ง

“ตกลง”

ธนเทพวางโทรศัพท์ลง พร้อมกับรอยยิ้มที่น่ากลัวบน

ใบหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ