พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่772 เป้าหมาย



บทที่772 เป้าหมาย

รุ่งขึ้นวันต่อมา หลังจากที่ตื่นนอนแล้ว รพีพงษ์ก็ลากอารียาออก จากโรงแรม เมื่อวานอยู่โรงแรมทั้งวัน ความจริงกลัวว่าอารียาจะ เป็นแบบเมื่อวานอีก

รพีพงษ์ได้เก็บไม้นั้นไว้แล้ว อนาคตถ้าไม่เจอกับคนที่เข้าใจใน เรื่องนี้ ถ้าจะให้ดีอย่าเอามันออกมาเลยจะดีกว่า

อารียาเทียบกับเมื่อวาน วันนี้แลดูนิ่งสงบขึ้นมา แม้วันนี้เธอจะ รู้สึกแปลกใจที่ว่าทำไมเมื่อวานเธอถึงได้…แต่เธอก็ไม่ได้พูด อะไรมาก เพราะเธอมองว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายเรื่องหนึ่ง

แต่สิ่งที่ที่ทําให้อารียาคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อวานเธอและรพีพงษ์ ใช้เวลานานขนาดนั้น แล้วยังออกกำลังอย่างมากมาย ความจริง วันนี้เธอความจะปวดเมื่อยตามตัว แต่เธอกลับไม่รู้สึกใดๆ เธอ กลับรู้สึกว่าตัวเองมีพลังเต็มเปี่ยม แม้จะไปปีนเขาก็ไม่มีปัญหา

หลังจากที่ทั้งสองได้ไปทานอาหารเช้าแล้วนั้น ก็ได้มุ่งหน้าไป ยังสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงของเมืองเย็นหยาง เดินเล่นในสวน สาธารณะอยู่ครึ่งวัน

รพีพงษ์ยังคงเป็นห่วงสุขภาพของอารียา แต่หลังจากที่ถามมา หลายครั้ง อารียาล้วนพูดว่ามีพลังเต็มเปี่ยม ทำให้รพีพงษ์รู้สึก ประหลาดใจ

ถ้ามองตามนี้แล้ว ถึงแม้ไม้นั้นจะส่งผลให้ตัวบุคคลมีความต้องการในเรื่องนั้น แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลย

แต่เพื่อความปลอดภัย หลังจากที่กลับจากการเที่ยวในครั้งนี้ แล้ว ต้องพาอารียาไปตรวจสุขภาพสักครั้ง ดูว่าร่างกายเธอมี ความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม

เมื่อใกล้ถึงตอนเที่ยงวัน ทั้งคู่วางแผนหาร้านอาหารทานข้าว ตอนที่เดินออกมาจากสวนสาธารณะนั้นทั้งคู่ได้เดินไปทางพวก

เขา

“รพีพงษ์!” มีเสียงดังขึ้นมา

รพีพงษ์เงยหน้าขึ้น พบว่าเป็นผลอุทัยและอรรจยา

“ไม่คาดคิดว่าจะเจอพวกคุณที่นี่ พวกเรามีวาสนาต่อกันจริงๆ เรื่องวันนั้นที่วัดมังกร ถึงอกถึงใจมาก เสียดายพวกคุณไปเสีย ก่อน ไม่งั้น คุณก็จะกลายเป็นฮีโร่ของงาน” ผลอุทัยยิ้มพลาง กล่าว

รพีพงษ์ตอบอย่างธรรมดา ไม่ได้พูดเรื่องนี้อะไรมากนัก ขณะนี้สายตาของอรรจยามองรพีพงษ์ก็เปลี่ยนไปมาก บนใน หน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ในเมื่อเจอกันแล้ว งั้นพวกเราไปทานข้าวด้วยกันเถอะ เมื่อ ก่อนฉันอาจมีท่าทีต่อพวกคุณแย่ไปหน่อย พวกคุณอย่าถือสา วัน นี้พวกเราเลี้ยง ถือเป็นการไถ่โทษ” อรรจยายิ้มพลางกล่าว

รพีพงษ์ไม่ปฏิเสธ เขาอยากหาที่ทานข้าวอยู่พอดี ในเมื่ออรรจ ยาอยากเลี้ยงข้าว เขาก็ไม่เกรงใจ
อรรจยาบอกจะไถ่โทษรพีพงษ์ก็ต้องจริงใจหน่อย ดังนั้นจึงได้ เรียกรถ พาพวกเขาไปร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเย็น หยาง

ร้านอาหาร คาย ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเย็นหยาง ในขณะ เดียวกันก็เป็นร้านอาหารที่ราคาแพงที่สุด

คนที่สามารถมาทานอาหารที่นี่ได้ ก็มีแต่บุคคลที่มีชื่อเสียง ของเมืองเย็นหยางเท่านั้น ได้ยินมาว่าอาหารมื้อหนึ่งของที่นี่ สุดก็หมื่นกว่า

รพีพงษ์ทั้งสี่ยืนอยู่ด้านหน้าของร้านอาหารพูดาย ผลอุทัยและ อรรยาทั้งสองกำลังมองภัตตาคาร รู้สึกห่อเหี่ยวในใจ แม้ ครอบครัวของเขาฐานะไม่แย่ แต่อย่างภัตตาคารแบบนี้ พวกเขา ไม่เคยได้เข้าไปกินเลย

หน้าตาของรพีพงษ์และอารียาดูสงบ เพราะพวกเขาไป ภัตตาคารระดับนี้บ่อย ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจใดๆ

อรรจยาหันหน้าไปมองรพีพงษ์และอารียา เห็นใบหน้าของทั้ง คู่ไม่ตื่นเต้นใดๆ จึงคิดว่าพวกเขาทั้งสองน่าจะแปลกใจมากถึง ขั้นไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว

“ก่อนหน้านี้พวกคุณไม่น่าจะเคยมาภัตตาคารแบบนี้สินะ ทาน อาหารที่นี่ ก็หมื่นอัพทั้งนั้น แต่พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้พวก เราเลี้ยงอาหาร พวกคุณไม่ต้องเกรงใจ ทานได้ตามสบาย” อรรจ ยากล่าวอย่างสะใจ

รพีพงษ์และอารยาทั้งสองยิ้ม ไม่ให้อรรจยาเสียหน้า
ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในภัตตาคาร อรรจยามองไปรอบๆอย่าง แปลกใจ แล้วยังพูดกับอารียาและรพีพงษ์ไม่หยุด เห็นอะไรก็ โอ้อวดไปหมด ราวกับภัตตาคารนี้ครอบครัวเขาเป็นเจ้าของ อย่างไรอย่างนั้น

ผลอุทัยและอรรจยาทั้งสองเชิญรพีพงษ์และอารยาทั้งสองท่าน ข้าว ไม่ใช่เพื่อไถ่โทษ

ที่พวกเขาปรากฏตัวต่อหน้าของรพีพงษ์และอารียานั้น เป็น เพราะถูกครนจ้างวานมาแล้ว

ค่าใช้จ่ายในวันนี้ทั้งหมด ครนเป็นผู้จ่าย ดังนั้นพวกเขาจึงได้ กล้ามาในที่ที่แพงแบบนี้

ในเวลาเดียวกันพวกเขาได้ทำภารกิจที่ครนจ้างวานมา เพียง แค่ทําสำเร็จ พวกเขาก็จะได้สองล้านเป็นรางวัล มีสิ่งยั่วยวน ขนาดนี้ ทั้งสองก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

หลังจากที่ทั้งสี่เดินเข้าไปในร้านอาหาร อรรจยาเลือกที่ที่แพง ที่สุด อยู่ตรงกลางของร้านอาหาร และอยู่สูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ในร้าน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับที่ตรงนี้

“ความจริงไม่จําเป็นต้องมาที่ๆแพงขนาดนี้ หาร้านอาหารข้าง นอกทานก็ได้แล้ว” รพีพงษ์กล่าว

อรรจยาได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ดูแคลนขึ้นมา คิดในใจว่า รพีพงษ์ไม่เคยมาที่แบบนี้แน่ๆ กลัวว่าต้องจ่ายเงินจึงพูดแบบนี้

“คุณกลัวอะไร วันนี้ไม่ได้ให้คุณจ่ายเงินเสียหน่อย สบายใจได้คุณไม่มีปัญญาทานอาหารที่แพงๆขนาดนี้ แต่พวกเรามีปัญญา ทาน” อรรจยากล่าวในทันใด

ผลอุทัยที่อยู่ข้างๆยิ้มอย่างสะใจ เพราะเมื่อก่อนพวกเขาไม่

กล้าพูดคำพูดแบบนี้ รพีพงษ์เส็ง ไม่อยากเถียงกับอรรจยามากไปกว่านี้ จึงเลือกที่

จะไม่พูดอะไร

อรรจยาและผลอุทัยเอาเมนูให้รพีพงษ์และอารียาสั่งอาหาร ทั้งคู่บอกว่าสั่งอะไรก็ได้ พวกเขาไม่ถือสา แล้วเอาเมนูยื่นกลับให้

อรรจายา นปาก คิดในใจว่าพวกเขาจะต้องตกใจราคา แน่นอน ถึงได้ไม่กล้าสั่ง

อรรจยาและผลอุทัยเริ่มเปิดเมนูสั่งอาหาร หลังจากที่เห็นราคา บนเมนูแล้ว ทั้งสองก็ตกใจทันใด แต่เมื่อคิดได้ว่าวันนี้ไม่ต้อง จ่ายเงินเอง พวกเขาจึงเริ่มกล้าสั่งอาหาร

หลังจากที่สั่งอาหารเสร็จแล้ว อรรจยาเพ่งไปที่อารียาและร พงษ์ กล่าว “จุ๊จุ๊จุ๊ อาหารมื้อนี้ราคาเจ็ดแปดหมื่นเลยนะ เหนือ ความคาดหมายของพวกคุณล่ะซิ ไม่เป็นไร เงินแค่นี้สำหรับพวก เราแล้ว ไม่มีค่าอะไรเลย” รพีพงษ์และอารียามองหน้ากัน รู้สึก ค่อนข้างเสียใจที่ตอบตกลงกินข้าวกับพวกเขา มันไถ่โทษที่ไหน กัน นี่มันเป็นการโอ้อวดชัดๆ

ไม่นาน อาหารก็ถูกเสิร์ฟ รพีพงษ์รู้สึกหิว จึงได้ก้มหน้าทาน อาหาร อรรจยาและผลอุทัยจ้องรพีพงษ์อย่างคิดไม่ออกว่าจะทำ ภารกิจให้สำเร็จได้อย่างไร
ไม่นาน รพีพงษ์ก็ยืนขึ้น บอกว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำ อรรจยา และผลอุทัยตาเป็นประกาย

หลังจากที่รพีพงษ์ออกไปแล้วนั้น ทั้งสองมองอารียาอย่าง

สะใจ

เป้าหมายของพวกเขาวันนี้ไม่ใช่รพีพงษ์ แต่เป็นอารียา

“คุณอารียา ฉวยโอกาสที่รพีพงษ์ไปเข้าห้องน้ำ ความจริงพวก เรามีเรื่องอยากพูดกับคุณ” ผลอุทัยกล่าว

อารียาชะงัก กล่าว “เรื่องอะไร?”

อรรจยาที่อยู่ข้างๆหัวเราะ กล่าว “ความจริงที่พวกเราเลี้ยง อาหารพวกคุณ ก็เพราะได้รับคำสั่งมาจากเศรษฐี คุณก็เห็นแล้ว วันสถานที่ทานข้าวของเราในวันนี้ คือภัตตาคารที่ดีที่สุดของ เมืองเย็นหยาง ฉันสั่งไปไม่กี่อย่าง ก็เจ็ดแปดหมื่น การใช้จ่าย ระดับนี้ รพีพงษ์ไม่มีปัญญาให้คุณได้แน่นอน

“พวกเราอยากบอกกับคุณว่า รพีพงษ์นอกจากชกต่อยเก่ง ก็ ไม่มีข้อดีอะไร สังคมนี้ อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็ต้องมีเงิน ดัง นั้น คุณต้องตัดรพีพงษ์ออก แล้วหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ