พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่812ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน



บทที่812ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน

หลังจากที่อุเอสึงิ ฮารุได้ยินคำถามของเพ็ญรดี ก็เลิกคิ้วทันที และเอ่ยปากว่า “ไม่ใช่ว่าผู้หญิงที่สวยก็จะไปถ่ายทำหนังแบบ นั้น อยู่ในประเทศของพวกเรา นั้นก็เป็นเพียงอาชีพธรรมดาๆ อย่างหนึ่ง เธอช่วยวางตัวให้เหมาะสมหน่อย”

เพ็ญรตีเบะปากทันที แล้วพูดว่า “เซอะ ต่อให้เธอไม่ถ่ายทำ หนังแบบนั้นมาก่อน คงจะถูกผู้ชายหลับนอนไปมากมายหลาย คน ผู้หญิงอย่างเธอ ดูไปแล้วเหมือนนางฟ้า ความจริงแล้วลับ หลังไม่รู้ว่าสกปรกมากแค่ไหน

ในเมื่อเทียบไม่ได้ อย่างนั้นก็ใส่ร้ายหล่อน นี่เป็นวิธีการที่เพ็ญ รตีชอบใช้เมื่อใดก็ตามที่เจอผู้หญิงที่สวยกว่าตัวเอง เพ็ญรตีก็จะ คิดหาวิธีการพยายามใส่ร้ายคนอื่นเขา เพื่อให้ได้มาซึ่งความ สมดุลทางจิตใจ

รวมทั้งฐานะตัวตนของเพ็ญรดี อยู่บนเกาะทองขาวไม่มีใคร กล้ามีเรื่องด้วย และหลังๆมาหล่อนรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะ พูดว่าให้กับคนอื่นแบบนั้น

หลังจากที่อุเอสึงิ ฮารุได้ยินคำพูดของเพ็ญรตี บนใบหน้าก็ แสดงอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหากไม่ใช่ว่ารพีพงษ์อยู่ ข้างๆ หล่อนคงจะใช้กำลังสอนยัยเด็กบ้านให้รู้ว่าควรพูดจากับ คนอื่นดีๆอย่างไร

รพีพงษ์ก็คาดไม่ถึงว่าความฉลาดทางอารมณ์ของเพ็ญรตีคนนี้จะต่ำมากถึงระดับนี้ คำพูดเพียงไม่กี่คำในพริบตาเดียว สามารถทำให้หญิงสาวที่อ่อนโยนราวกับน้ำ โกรธจนแทบจะ ลงมือได้ในทันที

เขาจ้องมองเพ็ญรตีอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง และถามด้วยน้ำ เสียงทุ้ม: “คนของตระกูลพิมลนัทซาจากเกาะทองขาวของพวก คุณ คุณภาพต่ำขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่า เธอไม่ได้รับการอบรม สั่งสอนมาเลย”

เมื่อเพ็ญรที่ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็โกรธทันที เขม็งตาทั้ง ข้างใส่รพีพงษ์แล้วตะโกนว่า “แกว่าใครไม่ได้รับการอบรมสั่ง สอนหา! แกคิดว่าแกเป็นใคร กล้ามาว่าให้ฉันไม่ได้รับการอบรม สั่งสอน ถ้าไม่พี่ชายฉันห้ามไว้ พวกแกสองคนถูกโยนลงไปใน หุบเหวเพื่อเป็นอาหารให้หมาป่าไปตั้งนานแล้ว!

“หือ? ใช่เหรอ? เธอลองโยนดูรพีพงษ์เอ่ยปาก

อุเอสึงิ ฮารุเดินไปยืนอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์อีกครั้ง เอ่ยปากว่า “ถ้าเธอกล้าแตะต้องเขา ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

เมื่อครัณเห็นกำลังจะต่อสู้ขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้น ใบหน้าก็เต็ม ไปด้วยความจนใจ น้องสาวคนนี้ของเขาหยิ่งผยองอยู่ที่บนเกาะ ทองขาวจนเคยชิน ดังนั้นออกมาอยู่ข้างนอกก็ไม่เอาคนอื่นไว้ใน สายตา ต่อให้เขาจะสั่งสอนไปไม่กี่คำ โดยพื้นฐานแล้วมันก็ไม่มี ประโยชน์อะไร

เขาคว้าตัวเพ็ญรตีไว้ทันที เอ่ยปากว่า “เธอจะจบได้ยัง ที่นี่ ไม่ใช่เกาะทองขาว ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ฉันปกป้องเธอไม่ได้!

สีหน้าเพ็ญรที่ไม่ดูเฉยเมยไม่แยแส แล้วพูดว่า “พี่ชาย ฝ่าย ของพวกเรามียอดฝีมือเนยจึงขั้นต้นห้าคน เป็นไปได้เหรอที่ห้า คนนี้ของพวกเขาจะจัดการกับพวกเขาสองคนไม่ได้

“พี่เป็นคนที่มีความสามารถที่มีโอกาสพบเห็นได้ยากในตระ กูลพิมลนัทชาของเรา อายุยังน้อยก็บรรลุถึงระดับเน่ยจิ้งชั้นต้น อายุของพวกเขารุ่นราวคราวเดียวกันกับพี่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ เป็นไปไม่ได้ที่จะแข็งแกร่งกว่าพี่

เมื่อได้ยินคำพูดของเพ็ญรตี ดรัณยังคงโกรธอยู่ แม้ว่าเขาจะ รู้สึกว่าที่เพ็ญรตีพูดจะถูก แต่เขาก็ไม่ต้องการให้คนอื่นพูดว่าน้อง สาวของตัวเองไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน

ทันใดนั้นรพีพงษ์ก็หัวเราะเยาะออกมาหลังจากได้ยินสิ่งที่เพ็ญ รตีพูด ยัยเด็กบ้านกลับรู้สึกว่าเนยจิ้งชั้นต้นห้าคนก็ไม่มีใครต่อสู้ ได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องตลกมากจริงๆ

พวกเขาเพียงไม่กี่คน หญิงสาวอย่างอุเอสึงิ ฮารุเพียงแค่คน เดียวก็สามารถรับมือกับมันได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรพีพงษ์ที่ไม่เอา แดนปรมาจารย์ไว้ในสายตา

เมื่อเพ็ญรที่ได้ยินเสียงหัวเราะของรพีพงษ์ ก็มองไปที่รพีพงษ์ อย่างไม่พอใจทันที เอ่ยปากว่า “แกหัวเราะอะไร แกรู้ความแข็ง แกร่งของเน่ยจิ้งชั้นต้นหรือเปล่า อย่างมากแกก็เป็นแค่คน ธรรมดา กลับยังมีหน้ามาหัวเราะอยู่อีก

“ที่สำคัญแกก็ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้พุ่งมาอยู่ตรงหน้าแกทุกครั้ง ฉันว่าแกยังสู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ โธ่เอ๊ย ฉันแค่บังเอิญก็ค้นพบ ความจริงได้ แกคงจะไม่ใช่ว่าถูกผู้หญิงคนนี้ปกป้องมาตลอด ทางจริงๆนะ”

“พี่ชายของฉันแข็งแกร่งมาก ถ้าเธอยังว่าเขาแบบนี้อีก ฉันก็ จะไม่เกรงใจแล้ว!”อุเอสึงิ ฮารพูดกับเพ็ญรตีอย่างรีบร้อน

เมื่อได้ยินอุเอสึงิ ฮารุเรียกตัวเองว่าพี่ชายอย่างเป็นธรรมชาติ

รพีพงษ์ก็ยิ้มเล็กน้อย

“เธอดูสิ ถูกฉันพูดแทงใจดำใช่มั้ย พี่ชายของเธอแข็งแกร่ง ขนาดนี้ ทำไมเธอยังต้องช่วยออกหน้าแทนเขาด้วย ซึ่งนั้นก็ หมายความว่าเขาไม่มีความสามารถ รู้เพียงแต่พึ่งพาผู้หญิง เท่านั้น”เพ็ญรตีเหมือนมองผ่านทะลุทุกสิ่ง

“พอได้แล้ว! ถ้าเธอยังสร้างปัญหาให้ฉันอีก ฉันก็จะโกรธ จริงๆ”ดรัณตะโกนใส่เพ็ญร

เพ็ญรที่รู้ดีว่าพี่ชายของหล่อนมาถึงระดับนี้ นั่นหมายความว่า ความอดทนได้ถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นจึงพูดกับดอย่างมีไหว พริบ: “โอเคๆ รู้แล้ว จริงๆเลย เพียงแค่พูดความจริงไม่กี่คำ เท่านั้นเอง”

ดรัมองไปที่รพีพงษ์อย่างขอโทษ แล้วพูดว่า “ขอโทษด้วย จริงๆ น้องสาวของฉันขาดระเบียบวินัยจริงๆ ทำให้พวกคุณ ล่ามาก”

รพีพงษ์มองเขาแวบเดียว แล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ ไม่ถือสา เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง รีบเดินทางกันเถอะ”
ครัณพยักหน้า จากนั้นเดินไปทางด้านหน้าของเพ็ญรดี กลัวว่า เพ็ญรที่จะพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นขุ่นเคืองอีก

รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคนเดินตามอยู่หลังพวกเขา ไม่ ได้ไปคุยกับสองพี่น้องนี้อีก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโมโหอีก ในขณะที่เดินอยู่ อุเอสึงิ ฮารุมองไปที่รพีพงษ์อย่างระมัดระวัง

แวบหนึ่ง กระซิบว่า: “คุณชาย เมื่อกี้นี้ฉันละลาบละล้วงเรียกคุณ

ว่าพี่ชาย คุณคงจะไม่รังเกียจใช่มั้ย?”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร” อุเอสึงิ ฮารถอนหายใจด้วยความโล่งอก และในขณะเดียวกัน ก็มีความสุขอยู่ในใจ

ในระหว่างทางช่วงหลังๆเพ็ญรที่ยังคงมองไปที่รพีพงษ์และอุ เอง ฮารุเป็นระยะ พึมพำในปาก ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าหล่อนต้องพูด คำหยาบไม่สุภาพเพื่อระบายความไม่พอใจในใจของตัวเอง

รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุต่างก็เลือกที่จะไม่สนใจ โดยมองไปที่ ทิวทัศน์ระหว่างทางขณะที่เดินทาง โดยถือว่าเพ็ญรที่เป็นอากาศ

สำหรับคนอย่าเพ็ญรตี ไม่สนใจหล่อนนั้น มีประโยชน์มากกว่า การด่าหล่อนไปไม่กี่คำ ความจริงก็พิสูจน์ได้ว่าเพ็ญรตีโกรธมาก เป็นเพราะรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคนต่างก็ไม่สนใจ แต่ กลับทําอะไรไม่ได้

หลังจากเดินทางไกล ในที่สุดรพีพงษ์พวกเขาทั้งหลายหลัง จากที่ปุ่นผ่านภูเขาลูกสุดท้ายมาได้ ก็มองพลังชีวิตที่เปี่ยมล้นอยู่ไม่ไกล ทิวทัศน์หุบเขาที่สวยงาม ซึ่งที่นั่นเป็นตำแหน่งที่ตั้งของ สํานักเทพยาเซียน

มองจากรูปลักษณ์สถานที่แห่งนี้ ก็เหมือนแดนสวรรค์บนดิน หลังจากที่อุเอสึงิ ฮารุได้เห็นก็มีความรู้สึกทอดถอนใจอย่างฉับ พลัน หล่อนเติบโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่น นี้มาก่อน

หลังจากเดินไปด้านหน้าไม่ไกลนัก ก็จะเห็นประตูเรียบง่ายที่ ทำจากไม้ เหนือประตู มีป้ายที่แขวนไว้ ด้านบนมีเขียนคำว่า สํานักเทพยาเขียนไว้

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ดังนั้นบน ประตูไม้ ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์สีเขียว และมีดอกไม้บานในบาง แห่ง

ในเวลานี้ข้างประตูไม้ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอายุยังไม่มากกำลัง

นอนหลับอยู่

ครัณเดินไปด้านหน้า โค้งคำนับชายหนุ่ม และเอ่ยปากว่า “น้องชาย พวกเรามาที่สำนักเทพยาเซียนเพื่อขอยา โปรดผ่อน ผัน พาพวกเราเข้าไปด้วย

ชายหนุ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที หลังจากมองดูดรับกับ รพีพงษ์และคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังของเขา พูดอย่างรำคาญว่า “วันนี้ใกล้มืดค่ำแล้ว พวกคุณค่อยมาใหม่ในวันพรุ่งนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ