พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 368 ไล่เธอออกไป



บทที่ 368 ไล่เธอออกไป

“คุณเป็นเจ้าของโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลจริงๆเห รอ?”พนักงานสองคนในบ้านหลังเล็กมองไปที่ศศินัดดา อย่างสงสัย

ศศินัดดาเชิดหน้าขึ้นมา แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “แน่นอน ถ้าไม่เชื่อ พวกเธอไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ดูว่า เจ้าของโรงแรม โรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลใช่ฉัน มั้ย”

จากนั้น ศศินัดดาก็หยิบบัตรประจำตัวของตัวเองวางลง บนโต๊ะ

พนักงานสองคนนั้นสบตากัน และหนึ่งในนั้นตรวจสอบ ในคอมพิวเตอร์ทันทีว่าประธานคนปัจจุบันของโรงแรมบลู สกายอินเตอร์เนชั่นเนลคือใคร หลังจากที่พบเป็นศศินัดดา จริงๆ ท่าทีของทั้งสองเปลี่ยนเป็นเคารพขึ้นมาในทันที

“คาดไม่ถึงเลยว่าคุณเป็นเจ้านายของโรงแรมบลูสกายอิน เตอร์เนชั่นเนล ขอโทษด้วยจริงๆ ไม่ทราบคุณมาที่นี่มีเรื่อง อะไรหรือเปล่า? ตามหลักแล้ว สถานะทางสังคมของคุณ พวกเราก็ส่งบัตรเชิญไปให้คุณแล้ว ถ้าหากว่าขาดตก บกพร่อง ตอนนี้พวกเราก็ชดเชยบัตรเชิญให้คุณหนึ่งใบ ก็ได้”พนักงานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
นี่เป็นครั้งแรกที่ศศินัดดาได้รับการปฏิบัติด้วยความ เคารพจากคนอื่น ก็นั่งลงมาทันที และคนทั้งคนก็นั่งยึดตรง จัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ราวกับว่ากำลังได้รับความสนใจ จากทุกคน

“แน่นอนว่าฉันได้รับบัตรเชิญ ก็ไม่ดูฐานะของฉัน”ศติ นัดดากล่าวอย่างมีชัย

เมื่อพนักงานทั้งสองเห็นว่าท่าทีของศศินัดดาก็แปลกใจ ราวกับเป็นพวกเศรษฐีใหม่ และไม่ได้ให้คนรู้สึกเหมือนระดับ คนชั้นสูง

แต่ว่าเจ้าของโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลเป็นคน คนนี้จริงๆด้วย ดังนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร

“ขออนุญาตถามว่าคุณมาที่นี่ ต้องการจะทำอะไร?”

พนักงานถาม

“เรียกผู้รับผิดชอบของพวกเธอมาที่นี่ ฉันจะคุยกับเขา โดยตรง คุยกับพวกเธอก็ไม่มีประโยชน์”ศศินัดดากล่าว

พนักงานทั้งสองมองหน้ากัน และสักพักแล้วก็ไม่รู้ว่าศศิ นัดดามาทำอะไร แต่ว่าตัวตนของอีกฝ่ายก็สามารถทำให้ พวกเขาเรียกผู้รับผิดงานมาได้

“ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยรอสักครู่นะ ฉันจะโทรหาผู้รับผิดชอบ งานเดี๋ยวนี้ ให้เขามาหา”พนักงานคนหนึ่งก็พูด จากนั้นก็ไปโทรศัพท์ไปหา

ศศินัดบนโซฟา รับรู้ถึงความเคารพที่ทั้งสองคนนี้มีให้ตัว เองด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นก็เหลือบมองไปยังผู้คนที่อยู่ นอกหน้าต่างที่รายล้อมอยู่ที่นี่แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ เลย คิดในใจกลายเป็นคนชนชั้นสูง ถือเป็นเรื่องที่มีเกียรติ จริงๆ

ในขณะเดียวกันในใจเธอก็รู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองให้รพี พงษ์โอนโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลเป็นชื่อของตัว เองแทนที่จะเป็นชื่อของอารียาเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

หลังจากได้สัมผัสกับความสุขของคนชนชั้นสูง ศศินัดดาก็ ยิ่งรู้สึกว่า ตัวเองไม่ควรปล่อยให้รพีพงษ์พานำความหายนะ มาสู่ครอบครัวตัวเองต่อไป ไม่อย่างนั้นถ้าวันไหนรพีพงษ์ นำพาปัญหาใหญ่หลวงมาสู่เธอ อย่างนั้นตอนนี้สิ่งเธอก็มี ทั้งหมด ก็จะกลายเป็นฟองอากาศทั้งหมด

หลังจากนั้นไม่นาน ชายในชุดสูทก็เดินจากข้างนอกเข้ามา ในบ้านหลังเล็ก

“ข้างนอกมีคนอยู่เยอะจริงๆ พวกคุณก็ไม่หาวิธีที่จะไล่พวก เขาออกไป”ชายคนนั้นกล่าว

“พวกเราก็บอกกับพวกเขาแล้ว แต่ไม่มีใครฟังเลย ดัง นั้น….”พนักงานทั้งสองคนจนหนทาง
ชายคนนั้นก็ไม่สนใจพวกเขาเช่นกัน แต่มองไปที่ศศินัดดา ที่นั่งอยู่บนโซฟา จากนั้นก็ยิ้ม แล้วพูดว่า: “คุณคือคุณศศิ นัดดาใช่มั้ยครับ ผมก็เคยไปพักที่โรงแรมบลูสกายอินเต อร์เนชั่นเนลไม่กี่ครั้ง สภาพแวดล้อมในสถานที่ของพวกคุณ ดีมาก เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองริเวอร์”

บุคคลนี้มีชื่อว่าพรพนิต ซึ่งรับผิดชอบการเตรียมงาน แต่งงานของรพีพงษ์และอารียา ทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับงาน แต่งงานนี้ และกระบวนการที่ต้องดำเนินการ พรพนิดเป็นผู้ ดูแลทั้งหมด

พรพนิดเป็นลูกน้องคนหนึ่งของเธียรวิชญ์ที่มีความ สามารถ ซึ่งมีความสามารถที่โดดเด่น และยังมีตำแหน่งสูง อยู่ในบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป

เมื่อโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลเทียบกับบริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ปแล้ว ก็เปรียบเสมือนแมวตัวน้อยเทียบกับเสือ หนึ่งตัว ช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้นสามารถคาดเดาได้

ตำแหน่งของพรพนิดในบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปนั้นสูงกว่า เจ้าของโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล

อย่างไรก็ตามพรพนิดไม่ใช่คนที่ชอบวางมาดในเมื่อ เจ้าของโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลมาหา ถ้าอย่างนั้น คงจะมีเรื่องที่จะพูดคุย เขาก็ต้องรักษามารยาทเป็นธรรมดา ดังนั้นถึงได้มาพบศศินัดดา
เมื่อศศินัดดาเห็นว่าผู้รับผิดสุภาพกับตัวเองมาก และคิด ว่าตัวตนของระดับเจ้านายของตัวเองนั้นสูงกว่าผู้ที่รับผิด ชอบมาก ดังนั้นจึงยังคงนั่งบนโซฟาด้วยใบหน้าที่หยิ่งผยอง และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สูงส่งว่า: “โรงแรมของเราเป็นหนึ่ง ในโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองริเวอร์อยู่แล้ว นี่ยังต้อง ให้คุณบอกอีกเหรอ?”

เมื่อพรพนิดได้ยินคำพูดของศศินัดดา ขมวดคิ้วทันทีไม่ คาดคิดว่าตัวเองสุภาพขนาดนี้ อีกฝ่ายยังวางท่าเอิกเกริก ขนาดนี้

แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เดินไปตรงหน้าศศินัดดา แล้ว ถามว่า: “ไม่รู้ว่าคุณมาผม มีธุระอะไรเหรอครับ?”

ศศินัดดาจ้องไปที่เขา แล้วพูดว่า: “ครั้งนี้ปราสาทคริสตัล เตรียมจัดงาน น่าจะเป็นงานแต่งงานของรพีพงษ์และอารียา ใช่มั้ย?”

พรพนิดนิ่งอึ้ง แล้วถามว่า: “ใช่อยู่ครับ คุณถามเรื่องนี้ ทำไมครับ?”

เขาไม่รู้ว่าศศินัดดาเป็นแม่ยายของรพีพงษ์ เมื่อได้ยินว่า ศศินัดดารู้ว่างานเลี้ยงครั้งนี้ความจริงคืองานแต่ง มีความ ประหลาดใจเล็กน้อย คิดว่าศศินัดดามีข่าวคราวจากภายใน ดังนั้นจึงไม่ได้ปฏิเสธ

“คุณก็รู้ว่าฉัน ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชาแนล สิ่งที่ฉันพูด น่าจะมีน้ำหนักอยู่บ้าง ครั้งนี้ที่ฉันมาหา คุณ ก็อยากจะบอกกับคุณว่า อย่าเช่าปราสาทคริสตัลให้รพี พงษ์ งานแต่งงานของพวกเขา ไม่สามารถจัดที่นี่ได้ รพีพงษ์ จ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อเช่าสถานที่ของพวกคุณ ฉันจะจ่ายให้ เป็นสองเท่าของราคานั้น เงินแค่นี้ฉันก็ยังจำยได้อยู่”

ศศินัดดาเรียนแบบน้ำเสียงของสตรีผู้สูงในทีวี พูดกับพร พนิด เธอไม่รู้ว่ารพีพงษ์ เสียเงิน “เช่า”ปราสาทคริสตัลไปเท่า ไหร่ แต่แค่จัดงานแต่งงานเพียงวันเดียว คิดว่าคงใช้จ่ายไม่ มากเกินไป ดังนั้นจึงใจกว้าง

หลังจากที่พรพนิดได้ยินคำพูดของศศินัดดา ก็นิ่งอึ้งไปชั่ว ครู่ และจ้องไปที่ศศินัดดาอย่างสงสัย และพูดว่า: “คุณแน่ใจ นะว่าคุณไม่ได้ล้อเล่น?”

“ฉันไม่ได้คิดจะล้อคุณเล่น ถึงยังไงฉันก็เป็นเจ้าของกิจการ คุณรีบพูดมาตรงๆ ก็แค่เรื่องเงินเองไม่ใช่เหรอ เพียงแค่คุณ ไม่ให้รพีพงษ์จัดงานแต่งงานที่นี่ของพวกคุณ ฉันจะจ่ายเงิน ให้คุณเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน” ศศินัดดากล่าว

จู่ๆพรพนิดก็แสยะยิ้ม แล้วพูดว่า: “ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้คุณก็เอาเงินออกมา ราคาสองเท่าคือห้าร้อยล้าน ราคานี้คงจะซื้อโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลได้หลายๆ หลังเลย คุณเอาออกมาได้หรือเปล่า?”

ศศินัดดาเบิกตากว้างทันที แล้วพูดว่า: “คุณหลอกใคร รพีพงษ์ก็แค่เช่าสถานที่พวกคุณหนึ่งวันเอง มันจะแพงขนาดนี้ได้ ยังไง? คุณอย่ามาขึ้นราคาสูงขนาดนี้กับฉันนะ ตั้งห้าร้อย ล้าน ทำไมคุณไม่ไปปล้นธนาคารเลยละ?”

พรพนิดตะคอกอย่างเย็นชา และกล่าวว่า: “ใครบอกคุณ ว่ารพีพงษ์เช่าสถานที่ของพวกเราล่ะ? รพีพงษ์ก็เป็นคนลงทุน ออกแบบสร้างปราสาทคริสตัล ลงทุนไปทั้งหมดสองร้อย ยี่สิบห้าล้าน คุณบอกกับผมว่าจะออกราคาสองเท่า ก็คือห้า ร้อยล้านไม่ใช่เหรอ?”

ศศินัดดาราวกับถูกฟ้าผ่าในทันใด และทั้งร่างก็แข็งที่อ

“คุณ คุณว่ายังไงนะ? ปราสาทคริสตัลคือรพีพงษ์เป็นคน ลงทุนออกแบบสร้างขึ้นมา ลงทุนไปสองร้อยห้าสิบล้านเห รอ? เขาจะมีเงินมากขนาดนี้ได้อย่างไร?”

ตอนนี้พรพนิตแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงมาก่อความวุ่นวาย ใน ฐานะคนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป เขาไม่มีความจำเป็นต้อง กลัวเจ้าของร้านอาหารคนนี้

เขาหันหน้าไปมองพนักงานทั้งสองคน แล้วพูดว่า: “คนคน นี้มาก่อความวุ่นวาย ตอนนี้พวกคุณรีบไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้ ถ้าเธอยังมาอีก ก็ไม่ต้องเกรงใจเธอ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ