พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่857 ฉันยังมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้



บทที่857 ฉันยังมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้

เมื่ออุเอง ทาคิโนะได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็แสดงสีหน้าดูถูก เหยียดหยาม

แม้ว่าจะไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมรพีพงษ์ถึงได้มีฝีมือแดนดั่งเทพใน วัยอายุยี่สิบกว่า แต่ก็เขาถือว่ารพีพงษ์เป็นศัตรูที่ไม่สามารถ คุกคามตัวเองได้

ที่สำคัญเมื่อรพีพงษ์ยังคงถือดาบอยู่เล่มหนึ่ง อุเอง ทาคิโนะ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ยังบรรลุไม่ถึงแดน ดั่งเทพ เนื่องจากแดนดั่งเทพที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ พวกเขาต้องการจะใช้อาวุธอะไร ใช้พลังแปลงร่างก็พอ

สิ่งนี้ ทำให้อุเอง ทาคิโนะเกิดการดูถูกรพีพงษ์

“พูดจาโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอายจริงๆ อย่าคิดแก คลี่คลายฝีมือเล็กๆน้อยๆของฉันได้ ก็มีสิทธิ์มาพูดจาแบบนี้กับ ฉัน ความแข็งแกร่งตอนนี้ของฉัน ไม่ใช่สิ่งที่เด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่อ ย่างแกจะสามารถจินตนาการได้!”

อุเอสึงิ ทาคิโนะตะโกนใส่รพีพงษ์ จากนั้นแสงสีดำก็ปรากฏ ขึ้นทั่วร่าง เหนือศีรษะของเขา มีควันสีดำจางๆลอยขึ้นมา ดูชั่ว ร้ายอย่างยิ่ง

รพีพงษ์ก็หมุนเวียนเน่ยจิ้ง ปกคลุมบนดาบ บนดาบทั้งเล่มก็ ปรากฏแสงสีขาวขึ้นหนึ่งชั้น เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของอุเอง ทาคิโนะขึ้นมา พลังของรพีพงษ์ดูบริสุทธิ์มากกว่า

หลังจากที่อุเอง ทาคิโนะเห็นดาบในมือรพีพงษ์เปลี่ยนแปลง

ไป ก็หรี่ตาลง คาดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะมีความสามารถอยู่จริงๆ เขาไม่ชักช้า ดาบดำลวงตาเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือ ทันที จากนั้นก็พุ่งไปทางรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว

ทั้งสองคนปะทะกันในทันที ความเร็วที่รวดเร็ว ช่างมหัศจรรย์ เหลือเกิน

ทุกคนสามารถเห็นเพียงแสงสีดำและแสงสีขาวที่ฟาดฟันกัน ด้วยความเร็วสุดขีด เห็นเพียงเงาของรพีพงษ์และอุเอง ทาคิ โนะทั้งสองคนเป็นบางครั้ง

การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองคนพกพาการโจมตีพลังลมปราณ ภายในร่างกายที่กระทบต่อบนตัวของผู้คนรอบข้าง ทำให้คน ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

การต่อสู้ในระดับนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบ ก็สามารถทำให้ คาโต้ แดนโซพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคน ธรรมดาอย่างพวกเขาแล้ว

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบ ดังนั้น ต่างก็ถอยหลังกลับไปให้ไกลๆ

เวทีประลองที่ถูกอุเอง ทาคิโนะฟันเป็นสองท่อน ตอนนี้ทั้ง สองคนปะทะกันอย่างดุเดือด เวทีประลองนี้ก็สุดที่จะรับภาระ หนักได้ แตกกระจายไปทั่ว
ที่สำคัญถึงในระดับอย่างพวกเขา เวทีประลองเล็กๆก็ไม่เพียง พอสําหรับพวกเขาที่จะแสดงฝีมือ ผ่านไปไม่นาน สนามรบของ ทั้งสองคนก็กลายเป็นสวนลานบ้านทั้งหมด ผู้คนต่างหวาดกลัว รีบวิ่งกระจายออกไปรอบๆ กลัวว่าเกิดวิ่งช้า แม้แต่ชีวิตของตัว เองก็จะไม่มีแล้ว

“นี่ถึงจะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงเหรอ? พวก เราป่าวประกาศเกินจริงว่าเป็นอาจารย์ แม้แต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ของพวกเขาก็สู้ไม่ได้ น่าตลกสิ้นดี ก่อนหน้านั้นที่น้องชายคนนั้น บอก เป็นคําพูดจากส่วนลึกของหัวใจ พวกเรากลับยังคิดเองเออ เอง ขายขี้หน้าคนแก่หมด!”คาโต้ แดนโซสายหัวครั้งแล้วครั้ง เล่า

“แข็งแกร่งมากจริงๆ คาดไม่ถึงว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ อยู่บนโลกใบนี้อีกเหรอ หรือพวกที่เรียกว่าเทพอสูร มีอยู่จริงๆ เพียงแต่พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งเหนือ จินตนาการของคนทั่วไป ดังนั้นทุกคนต่างก็คิดว่าพวกเขาเป็น เทพอสูรเหรอ?”ดวงตาทั้งสองของฮารุฮิ กันตะจ้องมองไปที่ทั้ง สองคนที่กำลังต่อสู้กัน การคาดเดาอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นในความ คิด“แดนของแกกับแดนดั่งเทพที่แท้จริงเห็นได้ชัดว่ายังมีช่องว่าง ห่างไกลมาก แต่ทำไมพลังของแกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ล่ะ?” หลังจากที่อุเอสึงิ ทาคิโนะฟันรพีพงษ์ไปหนึ่งครั้ง จ้องมองไปที่ เขาแล้วถาม

“เอาชนะฉันให้ได้ ก็จะบอกแก!”

รพีพงษ์ตอบกลับหนึ่งประโยค จากนั้นก็ยกมุรามาสะในมือขึ้นมา แสงจากด้านบนก็สาดส่องลงมา ฟันไปที่บนหัวของอุเอง ทา คิโนะ กลลวงตา ขนาดใหญ่ห่อหุ้มมุรามาสะขึ้นมา ฟันไปที่อุเอ สุงิ ทาคิโนะ มีอานุภาพเกรียงไกร

เมื่ออุเอสุจิ ทาคิโนะเห็นเช่นนี้ ก็ใช้พลังของตัวเอง สร้างม่าน ขนาดผืนใหญ่ไว้ที่ตรงหน้า บดบังทั้งร่างกายของตัวเองไว้

ดาบลวงตาของรพีพงษ์ฟันลงบนผ้าม่านของอุเอสุจิ ทาคิโนะ คลื่นอันทรงพลังก็กระจายไปรอบๆ ทำให้เวทีประลองที่อยู่ด้าน ล่างของทั้งสองคนถูกบดขยี้

ม่านก็แตกสลาย แสงของดาบก็สลายไป ร่างของทั้งสองคน กระโดดขึ้นไปบนหลังคา ในทันที อุเอง ทาคิโนะยกมือขึ้นแล้ว เหวี่ยงใส่รพีพงษ์ ลูกดอกสีดำหลายลูกก็บินไปหารพีพงษ์

รพีพงษ์ยกดาบในมือขึ้น แล้วฟันไปที่ลูกดอกสีดำให้กลาย เป็นหมอกดาอย่างรวดเร็ว ซึ่งจางหายไปในอากาศ

เมื่ออุเอง ทาคิโนะเห็นว่าตัวเองหมดปัญญากับรพีพงษ์แล้ว ก็ หงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

“เด็กที่สมควรตาย ตกลงว่าแกโผล่มาจากที่ไหนกันแน่ ฉัน เลื่อนขั้นได้สําเร็จแล้ว ยังจัดการเขาไม่ได้ง่ายๆ หรือว่ารับมือกับ เด็กคนนี้ ฉันยังต้องใช้วิธีนั้นเหรอ?”อุเอง ทาคิโนะแอบด่าใน ใจ

เมื่อรพีพงษ์เห็นอุเอง ทาคิโนะยังลังเลอยู่ที่เดิม ในใจก็รู้แล้ว ว่าเขากำลังคิดอะไร หลังจากที่ท่าทางของอุเอสึงิ ทาคิโนะ ราวกับผีสิงร่าง รพีพงษ์รู้ว่าวิธีทางไสยศาสตร์ของตระกูลอุเอสึงิสามารถทำให้พลังของผู้คนพลุ่งพล่านได้ในเวลาอันสั้น ตอนนี้รพีพงษ์จำเป็นต้องบีบคั้นสถานะแบบนั้นของอุเอง ทา

คิโนะออกมา ถึงจะรู้ว่าพึ่งพาอาศัยฝีมือของตัวเอง สามารถที่จะ

กําจัดเขาได้หรือไม่ โดยไม่ลังเลใดๆ รพีพงษ์หมุนเวียนพลังวิเศษเสนภายใน ร่างกายอย่างรวดเร็ว จากนั้นด้วยวิธีที่ชาญฉลาด ถ่ายทอดไปยัง

มุรามาสะ

รพีพงษ์ถือดาบไว้ในมือข้างหนึ่ง รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปอย่าง รวดเร็ว และดาบในมือก็เริ่มแสดงการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกับ ก่อนหน้านี้

ในไม่ช้า รพีพงษ์พุ่งไปตรงหน้าอุเอง ทาคิโนะ จากนั้นตะโกน เสียงดัง และแทงเข้าหาอุเอง ทาคิโนะ

“ท่าดาวฟ้า!”

เมื่อเห็นแสงดาบเล็กๆนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นทั่วมุรามาสะ บิน พุ่งตรงไปที่ร่างของอุเอง ทาคิโนะ ถ้าอุเอง ทาคิโนะยังอยู่ที่ นั่น คงจะถูกแทงกลายเป็นตะแกรงอย่างแน่นอน

สีหน้าของอุเอง ทาคิโนะถอดสี คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะแสดง ท่วงท่าที่น่ากลัวเช่นออกมาได้ โดยที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดวงตา ทั้งสองข้างของเขา ปรากฏเส้นเลือดเล็กๆ ดวงตาของพวกเขาก็ แดงระเรื่อ เส้นริ้วรอยสีดำที่น่ากลัวปรากฏขึ้นบนหน้าผาก

หลังจากที่รูปลักษณ์เปลี่ยนไป ทั่วตัวเอง ทาคิโนะก็มีควันปรากฏขึ้นทันที ห่อหุ้มคนทั้งไว้ข้างในโดยตรง แสงรพีพงษ์ปลดปล่อยออกเสียงระเบิดหนาแน่นดังขึ้นอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นร่าง เอสุจิ ทา คิโนะถอยด้านหลัง

มาอย่างแจ่มแจ้ง พงษ์รู้สึกถึงพลังของมันเป็นครั้งแรก เขา เปลี่ยนแปลงกลัวนี้ออกมา

เขาค่อนข้างคาดหวังกับของสองท่วงท่าเหลือว่า

หลังจากคลี่คลายความเสียหายที่เกิดการท่วงท่าของแล้ว หมอกรอบตัวอุเอสุจิ มองไปรพีพงษ์ประเมินแกต่ำไปจริงๆ สามารถบีบคั้นสถานะร่างเทพฉัน ออกมาได้ แกก็ถือว่าแรก

ในเวลานี้รพีพงษ์มองไปท่าทางคนใช่เอง ทาคิโนะ เบะแล้วว่า มันเป็นวิธีทางไสยศาสตร์ อย่างเห็นได้ชัด ยังชื่อที่อีก ตลกสิ้นดี”

“ฉันยังมีท่วงท่าแข็งแกร่งนี้ ตอนนี้จะให้แกลิ้มลอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ