พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่892 ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร



บทที่892 ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร

ปรินทรมองไปยังรพีพงษ์ที่ป้องกันการโจมตีของตน ด้วยสีหน้าที่ ไม่สงบอีกต่อไป เขาไม่เคยเห็นการโจมตีของรพีพงษ์ที่เมื่อกี้ ปล่อยมาก่อน ในมโนภาพของเขา ผู้ที่ไม่ถึงแดนดั่งเทพ ไม่มีทาง โจมตีแบบนี้ได้

“ทำไมฝีมือแกเป็นแบบนี้? แกเป็นใครกันแน่ การโจมตีแบบนี้ ใครสอนแก?” ปรินทรจ้องรพีพงษ์แล้วถาม

ตอนนี้รพีพงษ์กำลังเรียนรู้พลังของลำแสงนั้นที่ปรินทรใช้ ถึง แม้เขาได้ป้องกันการโจมตีนั้นของปรินทรไว้ แต่รพีพงษ์ในตอนนี้ ยังไม่ได้กินยาชั้นเลิศหรือใช้วิธีปฏิบัติแต่อย่างใด ดังนั้นจึงค่อน ข้างเหนื่อย

แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ฝีมือของเขาก้าวหน้าไปไม่น้อย ดังนั้นตอนนี้ ท่าดาวฟ้าด้านการโจมตีของแดนดั่งเทพขั้นต้น ก็ไม่มีปัญหา อะไรมากนัก

ทำให้พลังของปรินทรลดลงแล้วนั้น รพีพงษ์ก็โล่งอก มองไปที่ ปรินทร แล้วกล่าวอย่างนิ่งๆว่า “ถ้าฉันพูดว่าฉันเพิ่งจะเข้าร่วม กลุ่มสิงโต แกจะเชื่อมั้ย?”

ปรินทรหน้าซีด กลุ่มสิงโตสามคำนี้คือฝันร้ายของเขา เรื่อง ตอนนี้ที่เขาต้องระวังมากที่สุด ก็คือหลบไปให้ไกล เพราะมีกลุ่ม สิงโต
ฝีมือของรพีพงษ์แปลกประหลาดขนาดนี้ แล้วยังอายุน้อย ถูก กลุ่มสิงโตเรียกเข้ากลุ่มก็ถือว่าไม่แปลก ดังนั้นปรินทรจึงไม่ สงสัยในคําพูดของรพีพงษ์

ยังไงเขาก็ไม่คาดคิดว่า ในตระกูลทางโลกนี้ จะมีคนของกลุ่ม สิงโตอยู่ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของตระกูล ฉัตรมงคลแห่งเมืองยองแน่นอน

แม้ตอนนี้เขาจะจัดการรพีพงษ์ได้ จากฝีมือของกลุ่มสิงโต จะ ต้องหาที่อยู่ของเขาเจออย่างแน่นอน หลังจากนั้นเขาจะต้องถูก กลุ่มสิงโตตามไล่ฆ่าอยู่ระยะหนึ่งแน่นอน ถ้าไม่ระวังตัว อาจเสีย ชีวิตได้

เขาหันไปมองประวีร์และดิลวิลที่หลบไปไกล ด้วยสายตา อาฆาต อยากจะรีบพุ่งไปฆ่าทั้งสองนั้นให้ตายเสียตอนนี้

ดิลวิลและประวีร์ทั้งสองคนเห็นสายตาอาฆาตของปรินทร ก็

วสนขนมา

“ลูกชาย ทําไมเมื่อกี้เหมือนพ่อจะรู้สึกว่าผู้ยิ่งใหญ่มองเราสอง พ่อลูกด้วยสายตาพยาบาทกันนะ น่ากลัวจริงๆ เพียงแค่มองก็ ทำให้พ่อขนลุกซู่ซันแล้ว” ดิลวิลกล่าว

ประวีร์และดิลวิลมีความรู้สึกเดียวกัน แล้วกล่าว “น่าจะเป็น เพราะผู้ยิ่งใหญ่เห็นว่ารพีพงษ์จัดการยาก ดังนั้นจึงมองพวกเรา แบบนี้ อาจจะไม่มีอะไรมากก็ได้นะ

ดิลวิลพยักหน้า กล่าว “รพีพงษ์นี่มันเกินคาดจริงๆ ไม่คิดว่าจะ สามารถต่อกรกับผู้ยิ่งใหญ่ได้หลายท่า แกว่าผู้ยิ่งใหญ่จะจัดการมันได้มั้ย?”

“แม้ฝีมือของไอ้นี่จะทำให้คนคิดไม่ถึง แต่เมื่อพ่อไม่ได้ยินที่ผู้ ยิ่งใหญ่พูดหรอว่ามันไม่ใช่แคนดั่งเทพแน่นอน ดังนั้นสุดท้ายที่ ชนะก็ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่แน่นอน ไม่ต้องคิดอะไรมาก” ประวีร์ กล่าว

ทั้งคู่ไม่พูดอะไรต่อ มองไปยังการต่อสู้ที่อยู่บนหลังคานั้น

ปรินทรจ้องไปที่รพีพงษ์สักพัก จากนั้นก็ยิ้มออกมา แล้วกล่าว “คิดไม่ถึงว่าน้องชายจะเป็นคนของกลุ่มสิงโต ไม่แปลกที่ละอ่อน และฝีมือไม่ธรรมดาแบบนี้ หาได้ยากจริงๆ

“ฉันรู้ว่ากลุ่มสิงโตกำลังตามจับฉันอยู่ วันนี้ที่ฉันมาเจอแกที่นี่ จะต้องรู้แพ้รู้ชนะ แต่แม้ว่าพรสวรรค์แกจะเก่งสักเท่าไหร่ แต่ก็ยัง ห่างจากแดนดั่งเทพอยู่ดี ถ้าต้องสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งล่ะก็ สุดท้ายคนที่ตายก็คือแกแน่นอน”

“และฉันก็ไม่อยากมีปัญหากับกลุ่มสิงโตมากนัก ดังนั้นพวก เราถอยกันคนล่ะก้าว ฉันไม่เอาเมียแกแล้ว และรับรองได้ว่าจะไม่ มาหาเรื่องแกอีก และแกก็ห้ามบอกว่าฉันปรากฏตัวที่เกียวโต ว่า ไง?”

ได้ยินคำพูดของปรินทร รพีพงษ์ก็ดูถูกขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าชื่อ ของกลุ่มสิงโตจะมีประโยชน์ขนาดนี้ ปรินทรเพียงแค่ได้ยินว่าตัว เองเป็นคนของกลุ่มสิงโตเท่านั้น ก็อยากจะต่างคนต่างถอยคนล่ะ ก้าวแล้ว

แต่รพีพงษ์เป็นคนที่มีแค้นก็ต้องชำระ ปรินทรมันกล้าสนใจในตัวอารียา รพีพงษ์ไม่มีทางให้เขาได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกเด็ด ขาด

ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของรพีพงษ์ ปรินทรเป็นผลงานชั้นดี

เขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆได้ไงกัน

“แกคิดมากไปแล้ว การต่อสู้วันนี้บางทีอาจต้องเอาเป็น เอาตาย แต่สุดท้ายคนที่ตายต้องเป็นแกแน่นอน ดังนั้นแกไม่มี สิทธิ์มาต่อรองอะไรกับฉัน” รพีพงษ์กล่าว

ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ปรินทรก็ด่าในใจ ไม่คิดว่าเด็กนี่มัน จะไม่รู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย

“เหอะ ในเมื่อฉันให้โอกาสแกแล้วแกไม่คว้าไว้งั้นแกอย่าว่า ฉันไม่เตือนนะ ความสามารถแค่นี้ของแก แม้จะเอาเป็นเอาตาย กับฉัน ก็ไม่มีทางทําอะไรฉันได้

พูดจบ ปรินทรก็พุ่งไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง ลำแสงในมีเห็นชัดเจน

ว่ามีพลังขึ้น ดูออกว่าเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว

ไม่ใช่เพราะปรินทรเห็นฝีมือของรพีพงษ์ แต่ในโลกนี้ ทุกที่มี กล้องวงจรปิด แม้วันนี้เขาจะหนีไปได้ กลุ่มสิงโตก็สามารถดู กล้องวงจรปิดเพื่อหาที่อยู่ของเขาได้ หากภายในระยะเวลาสาม วันเขาไม่สามารถหนีจากทางโลกไปได้ สุดท้ายก็จะต้องถูกคน ของกลุ่มสิงโตหาเจอแน่นอน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องใช้พลัง ทั้งหมดที่มีเพื่อรีบจัดการกับการต่อสู้เสีย

นี่ก็เป็นเหตุผลทำไมเหล่าแดนดั่งเทพที่ถูกประกาศจับน้อย มากที่จะออกมาทำอะไรไม่ดี
แม้ต้องทําร้ายคนบนโลก พวกเขาก็ต้องเลือกสถานที่ที่ลับ ลับตาคน เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบัน ยิ่งพวกเขาอยู่บนโลก นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายต่อการที่คนของกลุ่มสิงโตจะจับมากขึ้น เท่านั้น

รพีพงษ์เห็นปรินทรค่อยๆเข้ามา ก็เริ่มกระตุ้นตัวเอง จับมุรามา สะไว้แน่น เตรียมพร้อมต่อสู้กับเขาอย่างเร็ว

ครั้งนี้รพีพงษ์เริ่มรู้สึกใช้พลังเยอะ ปรินทรใช้พลังทั้งหมด ถ้า แค่ใช้กำลังของแดนครึ่งดั่งเทพล่ะก็ ยากที่จะขัดขวางเขาเอาไว้ ได้

รพีพงษ์เริ่มถดถอย พลังของปรินทรแข็งแกร่งมากขึ้น อยาก กำจัดรพีพงษ์อย่างร้อนรน

ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเห็นเหตุการณ์นี้ก็ปาดเหงื่อกันเป็นแถวๆ

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป รพีพงษ์จะต้องแพ้ในมือของปรินทรอย่าง

แน่นอน

นําแสงได้สาดออกไปอีกครั้ง ปรินทรยิ้มอย่างมั่นใจให้รพีพงษ์ แล้วกล่าว “เด็กน้อย แกไม่ใช่คู่ต่อกรของฉัน ถ้ายังต่อสู้กันต่อไป แกก็ไม่มีทางชนะได้”

รพีพงษ์ดูแคลน จากนั้นก็พึมพำ “ดูๆไปแดนดั่งเทพของฉันใน ตอนนี้สามารถค้ำจุดสูงสุดได้ก็ตอนนี้แหละ แต่…….นี่ก็พอแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้เห็นประสบการณ์ฉันเพียงพอแล้ว เพียงพอแล้ว จริงๆ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็เงยหน้ามองปรินทร พลังวิเศษเสนในร่างกายได้ไหลเวียนอยู่ในร่างกายโดยวิธีที่น่าเหลือเชื่อ ไม่นาน พลังใน ร่างกายของรพีพงษ์ก็ระเบิดขึ้นอีกขั้น

รพีพงษ์ใช้ยาชั้นเลิศหมดแล้ว วันนี้ที่ใช้ เป็นวิธีลับในการเพิ่ม

พลัง

แดนครึ่งดั่งเทพ บวกกับวิธีลับแล้ว พลังที่จะแสดงออกมา ไม่ น้อยไปกว่าแดนดั่งเทพขั้นต้นเลย

ตอนนี้ ในสายตาของรพีพงษ์ ไม่มีจุดเด่นอะไรอีกต่อไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ