พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 486 ผมสามารถรับประกัน



บทที่ 486 ผมสามารถรับประกัน

ตั้งแต่ออกจากห้องหนังสือ ท่านคทายังคงรู้สึกว่าหัวสมองของตัว เองมีเสียงแคร่งๆๆ ดังขึ้น

เมื่อกี้ตอนทีรพีพงษ์บอกเรื่องพวกนั้นกับเขา ไม่ว่าเรื่องไหน ก็ สามารถบอกได้ว่าเป็นความลับที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลลัดดาวัลย์ อีกอย่างรพีพงษ์ยังทำให้ท่านคทารู้ว่า นนทภูไม่ได้ตาย แค่ไปใน ที่ๆ ไม่สามารถออกมาได้

รพีพงษ์ก็เลือกที่จะเล่าเรื่องสำคัญที่ตนเองอยู่ในสนาให้กับ ท่านคทาฟัง และก็บอกกับท่านคทา นนทภูสนับสนุนรพีพงษ์ มัน ไปไกลกว่าที่ตระกูลลัดดาวัลย์จะสามารถเทียบเทียมได้

และนี่ก็ทำให้ท่านคทารู้ว่าทำไมรพีพงษ์ถึงมีความเชื่อมาก ขนาดนี้ ตอนนี้ไม่เพียงแต่รพีพงษ์ที่รู้สึกว่าการข่มขู่ของ กรุ๊ปKINไม่ถือว่าน่ากลัวอะไร เขาก็ยังเริ่มรู้สึกแบบนี้

“ดูๆ แล้วนี่เป็นเพราะฟ้าสวรรค์คุ้มครองตระกูลลัดดาวัลย์ของ ฉันจริงๆ วันนี้รพีพงษ์กลับมา กรุ๊ปKIN ก็ไม่ควรค่าที่จะกังวลถึง อีกต่อไป”

“ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว งั้นผ่านเรื่องนี้ไป ดูว่าใครจะเป็นคนที่ จงรักภักดีต่อตระกูลลัดดาวัลย์สําหรับพวกคนที่อยากจะหักหลัง เหอะ ต้องไม่มีจุดจบที่ดี แน่นอน! ”

หลังจากที่พึมพำกับตัวเองไปสองประโยค ท่านคทาก็ทําสีหน้า ผ่อนคลายลง แล้วตนเองก็เดินเข้าไปในห้องนอน

ช่วงเช้าของวันที่สอง

เรือนที่พักหลักของคฤหาสน์ของตระกูลลัดดาวัลย์ ญาดาพา คนกลุ่มหนึ่งล้อมอยู่ที่นี่ แล้วกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่ท่าน คทาเป็นผู้นํา

“ท่านคทา เรื่องมันถึงวันนี้แล้ว ท่านก็อย่าดึงดันเกินไปเลย ถ้า ตระกูลลัดดาวัลย์ยังอยู่ในมือของรพีพงษ์ แค่จะยิ่งอยู่ยิ่งแย่ ทาง เลือกเดียวในตอนนี้ ก็คือให้รพีพงษ์มอบตำแหน่งนายใหญ่ออก มา” ญาดามองท่านคทาด้วยสีหน้าที่เคล้าด้วยความชอบธรรม

และรู้ว่าท่านคทานเป็นรากฐานของรพีพงษ์ แล้วจะฟังคำพูด ของญาดาได้ยังไง

สองตาของเขาที่เต็มไปด้วยความโมโหกำลังมองญาดา แล้ว พูดขึ้น “ญาดา ทีแรกฉันนึกว่าเธอเป็นคนที่คิดเผื่อตระกูลลัดดา วัลย์ตลอดมา นึกไม่ถึงกลับแม้แต่เธอก็ยังถูกคนอื่นยั่วยวน เธอ ทําให้รู้สึกผิดหวังจริงๆ ”

“ท่านคทา นี่ฉันไม่ใช่ว่าคิดเพื่อตระกูลลัดดาวัลย์อยู่หรือไง? ให้รพีพงษ์มอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา นี่แหละคือการเลือกที่ ถูกต้องที่สุดของตระกูลลัดดาวัลย์” ญาดาพูดด้วยความจริงจัง

“งั้นเธอลองว่ามาดู ตอนนี้สถานการณ์ที่อันตรายของตระกูล ลัดดาวัลย์ มาจากกรุ๊ปKIN ฉันจะมอบหรือไม่มอบตำแหน่งนาย ใหญ่ออกไป มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้? ” เวลานี้เสียงของรพีพงษ์ ดังขึ้น ทุกคนต่างก็หันไปดู

ญาดาถูกคำถามของรพีพงษ์ทำให้ถึงกับพูดไม่ออก ถึงแม้เธอ จะฉลาดหลักเลือดเย็น ทว่าก็เอาความจดจ่อทั้งหมด ไปจดจ่อกับ การเล่นหมากล้อม จึงได้ความพละกำลังและความรู้ความเข้าใจ ในด้านการแก่งแย่งนี้น้อยมาก แค่คนอื่นให้เธอทำแบบนี้ เธอก็ ทำแบบนี้ ไม่เคยคิดว่านี่มีเหตุผลแอบแฝงอยู่

ตอนนี้รพีพงษ์ถามเธอแบบนี้ แน่นอนว่าเธอก็นึกข้ออ้างที่ดี อะไรไม่ออก

“เธอตอบไม่ได้ ฉันจะหลีกตำแหน่งนายใหญ่ออกมาได้ยังไง ล่ะ? ” รพีพงษ์จับจ้องญาดาไว้ เหมือนได้ทำให้วิญญาณของเธอ ทะลุเป็นรู
ญาตาทำสีหน้าที่เคล้าด้วยความอึดอัดใจ ในสมองกำลังคิด อย่างรวดเร็วว่าจะโต้แย้งรพีพงษ์ยังไง คนพวกนั้นที่ยืนอยู่ข้าง หลังญาดาต่างก็มองเธอด้วยความสงสัย ตอนนี้พวกเขาก็เริ่ม ครุ่นคิด ไหนๆ ญาดาก็คิดเผื่อตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วทําไมไม่ไป คิดว่าจะรับมือกับกรุ๊ปKINยังไง กลับมาคิดว่าจะให้รพีพงษ์หลีก ตำแหน่งนายใหญ่ออกมาให้ได้?

แบบนี้ต่อให้รพีพงษ์มอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา กรุ๊ปKINไม่ใช่ว่าจะลงไม้ลงมือกับตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ดีหรือไง?

ตอนที่ทุกคนกำลังสงสัย และมีหลายๆ ก็เดินไปในเรือนที่พัก หลัก

“ง่ายมาก แค่รพีพงษ์มอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา กรุ๊ปKINก็จะเลิกเอาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์ ถึงเวลาตระกูลลัดดา วัลย์ยังสามารถครองตำแหน่งตระกูลเบอร์หนึ่งในเกียวโต” มี เสียงอันร่าเริงดังขึ้น

ทุกคนต่างก็หันไป ก็เห็นว่าคนที่มาคือนิรภัท

ตอนแรกกลุ่มคนพวกนิรมทถูกรพีพงษ์ไล่ออกจากตระกูลลัด ดาวัลย์ พวกเขาก็เคยมาโวยวายในคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ ทว่าก็ถูกท่านคทาจัดการไป

หลังจากนั้น กลุ่มคนพวกนิรษัทก็ย่อยยับอย่างมาก พวกเขาสาปแช่งรพีพงษ์อยู่ตลอดเวลา เสียดายมันไม่ได้มี ประโยชน์อะไรเลย รพีพงษ์เป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถพบเห็นได้ง่ายๆ

สถานการณ์แบบนี้ดำเนินไปสักระยะ โยษิตาก็ไปหาพวกเขา

ถึงแม้รู้สึกตกใจที่โยษิตาปรากฏอีกครั้ง ทว่าไม่นานพวกเขาก็ สามารถยอมรับเรื่องนี้ โยษิตาพาพวกเขาไปถึงกรุ๊ปKIN แล้ว บอกพวกเขาว่า การดำรงอยู่ของกรุ๊ปKIN ก็เพื่อที่จะจัดการกับ รพีพงษ์

พวกเขาที่เกลียดรพีพงษ์เข้ากระดูกดำจึงรีบเข้าไปเป็นส่วน หนึ่งของกรุ๊ปKIN อีกอย่างยังถือว่าโอกาสในประสบการณ์การ ทํางานในตระกูลลัดดาวัลย์ และก็ได้เริ่มการแก่งแย่งกับตระกูล ลัดดาวัลย์ในเชิงหาเรื่อง

สามารถพูดได้ว่ากรุ๊ปKINสามารถบีบบังคับตระกูลลัดดาวัลย์ ในถึงขั้นนี้ด้วยความว่องไวแบบนี้ นิรมทพวกเขาก็ต้องสร้างผล งานชิ้นใหญ่มาก

“นิรมท นายเป็นคนที่ถูกไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก? ” รพีพงษ์จับจ้องนิรมัทแล้วพูด ด้วยความเย็นชา

นิรมทแค่ยิ้ม แล้วพูดขึ้น “ฉันถูกไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ว่าวันนี้ยังคงสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่ง ระดับสูงของกรุ๊ปKIN และตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ภายใต้การนำพา ของนาย และมันใกล้จะไม่ไหวแล้ว ฉันจะไม่มีหน้าพูดแบบนี้ได้ ยังไง? ”

ญาตาเห็นว่านิรมทมาแล้ว ก็รีบวิ่งไปทางฝั่งของพวกเขา หลัง จากนั้นก็พูดกับรพีพงษ์ “รพีพงษ์ นายก็ได้ยินหมดแล้ว แค่นาย มอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา ตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะสันติสุข พวกเราทําแบบนี้ ก็ทำเพื่อตระกูลลัดดาวัลย์ทั้งนั้น! ”

“ถ้าฉันไม่มอบล่ะ? ” รพีพงษ์พูดอย่างไม่สนใจ

“หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป ถ้านายยังไม่มอบตำแหน่งนาย

ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ออกมา ก็จะมีต้นทุนมหาศาลเข้าสู่ตลาด

หุ้น จากนั้นก็ควบคุมหุ้นที่เข้าตลาดหุ้นของตระกูลลัดดาวัลย์ไป

ทั้งหมด ถึงเวลาธุรกิจทั้งหมดของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะหยุด

ชะงัก แล้วไม่รู้ว่านายที่เป็นนายใหญ่คนหนึ่งของตระกูลลัดดา

วัลย์ ยังสามารถนั่งนิ่งดูดายแบบนี้ไหม” นิรมัททำสีหน้าที่เคล้า

ด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์เบะปาก มิน่าล่ะญาดาถึงบอกว่าต้องการเงินหนึ่งหมื่น ล้าน จึงจะสามารถรับมือการหาเรื่องของกรุ๊ปKINได้ ที่แท้ก็พึ่งพา การควบคุมตลาดหุ้นมาจู่โจมตระกูลลัดดาวัลย์นี่เอง
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็คงจะง่ายมาก

รพีพงษ์เอามือถือออกมา แล้วส่งข้อความสั้น จากนั้นก็ไม่ได้

กังวลอะไรสักอย่าง “ต้องขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ได้คิดว่าพวกเธอสามารถควบคุม มูลค่าหุ่นของธุรกิจตระกูลลัดดาวัลย์ได้” รพีพงษ์พยักหน้าพลาง

พูดขึ้น

นิรมัททําเสียงเย็นชา ในลำคอ แล้วพูด “อยากจะรับมือกับการ จู่โจมครั้งนี้ของกรุ๊ปKIN อย่างน้อยนายต้องมีกระแสเงินสดหนึ่ง หมื่นล้าน ตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ก็จนตรอกขนาดนี้แล้ว หรือว่า นายคิดว่านายจะเอาเงินหนึ่งหมื่นล้านออกมาได้? ”

รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันเอาออกมาได้ไหม ครึ่งชั่วโมงผ่าน มาพวกเธอก็จะรู้เอง”

นิรมัทนึกไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะดื้อรั้นขนาดนี้ ถึงเวลานี้แล้ว กลับ ไม่ยอมแพ้ เขารู้สึกว่ารพีพงษ์แค่ทำโดยพลการเท่านั้น ไม่ใช่คิด ว่ารพีพงษ์มีวิธีจัดการกับเงินหนึ่งหมื่นล้านนี้ จึงได้รู้สึกนิ่งเฉย แบบนี้

“ทุกท่าน สิ่งที่ควรพูดฉันก็พูดไปแล้ว ท่าทีของรพีพงษ์พวกเธอ ก็เห็นแล้ว นี่เขาตั้งใจไม่อยากให้ตระกูลลัดดาวัลย์มีสถานการณ์ ที่ดีขึ้น หรือว่าพวกเธอเชื่อว่าเขาจะสามารถเอาเงินหนึ่งหมื่นล้านออกจากในช่วงเวลาสั้นแบบครุ่นคิดหากตระกูลลัดดาวัลย์จบ พวกก็จะพลอยลำบาก ไป” นิรมัทตะโกน

คนตระกูลลัดดาวัลย์ต่างเพราะว่าของรู้สึกลังเล นิรมัทพูดผิด ตามสถานการณ์ตอนของตระกูลลัด ดาวัลย์ ไป แล้วแลกกับความมั่นคงของตระกูลลัดดาวัลย์ ฟังดูแล้วไม่เรื่องแย่อะไร

ทว่าเวลานี้กลับไม่มีใครยืนออกมาแสดงจุดยืนของตัวเอง ทุก

นิรมทแสยะยิ้มเย็นชาพลางมองรพีพงษ์ ไม่วันรพีพงษ์จะ มอบนานเกินไป จะมองรพีพงษ์ถูกคนทั้งหมดในตระกูลลัดดา วัลย์ทอดทิ้งด้วยตาของตนเอง

เวลาผ่านไปทุกนาทีทุกวินาที รพีพงษ์ไม่ได้ท่าทีจะ ทุกคนตระกูลลัดดา วัลย์ต่างรอจนกระวนกระวายเล็กน้อย
สุดท้าย คนๆ หนึ่งก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป แล้วตะโกนขึ้น “ร พงษ์ ไม่งั้นนายก็มอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมาเถอะ นี่ก็เพื่อ ตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่งั้นตระกูลลัดดาวัลย์ซวยจริงๆ แล้ว”

คนๆ นี้พูดจะพูดออกมา คนในตระกูลลัดดาวัลย์ที่มีความคิด เริ่มพร่าบนตามกันมา

“พูดถูก วันนี้แค่นายมอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา ถึงจะ สามารถทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ปลอดภัย”

“รพีพงษ์ นายอย่าเห็นแก่ตัวเกินไป ถึงเวลานี้แล้ว มอบ ตำแหน่งนายใหญ่ออกมาถึงจะเป็นการเลือกที่ฉลาด รากฐาน การดำรงชีวิตอยู่ของพวกเราที่เป็นผู้คนมากมายขนาดนี้ ไม่ สามารถถูกนายทำให้มันพังได้

“ถึงเวลานี้แล้วก็อย่าประมาทเลย ความสามารถของ กรุ๊ปKINนายก็รู้ดี วันนี้เกียวโตไม่ได้เป็นแผ่นดินของตระกูลลัด ดาวัลย์อีกต่อไป รพีพงษ์ นายอย่าดื้อดึงเลย”

นิรมัทเห็นคนมากมายขนาดนี้เกิดการหวั่นไหว และรพีพงษ์ยัง คงไม่เปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเอง แม้กระทั่งยังเกิดอาจาร จาม ภายในใจรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย
ถ้าตอนนรพีพงษ์มอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา ถึงแม้ กรุ๊ปKINจะไม่ให้ตระกูลลัดดาวัลย์ครอบเกียวโตอีก ทว่าแค่ สามารถรักษาตระกูลลัดดาวัลย์ไว้งั้นก็เอาตำแหน่งนายใหญ่ไป มอบไว้ในมือของนิรมทเถอะ

ทว่าตอนนี้รพีพงษ์ไม่ได้คิดจะมอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา แต่อย่างไร แน่นอนว่าทำให้เขารู้สึกกังวลมาก ถ้าครึ่งชั่วโมง ผ่านไปไม่ได้ผลสรุปอะไร กรุ๊ปKINจะจัดการกับตระกูลลัดดาวัลย์ ถึงเวลาตระกูลลัดดาวัลย์จบกันจริงๆ ภายใต้สถานการณ์แบบ นั้นของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็จะไม่มีค่าอะไรเลย

พอเห็นว่าสิบห้านาทีผ่านไปแล้ว รพีพงษ์ยังคงไม่พูดไม่จา นิ รมัทก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

“รพีพงษ์ หรือว่านายอยากจะให้ตระกูลลัดดาวัลย์จบแบบนี้?นิรมัทตะโกนขึ้นรพีพงษ์พยักหน้าให้เขา ใบหน้าดูไม่แคร์

นิรมัททําเสียงเย็นชาในลำคอ แล้วก็ไม่ได้คาดหวังอะไร สำหรับเรื่องที่รพีพงษ์จะหลีกตำแหน่งนายใหญ่ เขามองทุกคนที่ อยู่ในเหตุการณ์ไปชั่วพริบตา แล้วพูดขึ้น “ดูๆ แล้ว รพีพงษ์ดึงรั้น ที่จะผลักตระกูลลัดดาวัลย์เข้าไปในปล่องไฟกองไฟ ฉันก็ช่วย อะไรพวกเธอไม่ได้แล้ว แต่ว่าฉันไม่ได้ไร้จิตใจเหมือนรพีพงษ์ ในบรรดาพวกเธอ มีใครที่จะติดตามฉัน ไหม ตอนนี้สามารถตามมา ฉันสามารถรับประกันได้ว่าหลังจาก ที่ตระกูลลัดดาวัลย์เจอกับเคราะห์ร้ายแล้ว ก็ยังจะให้งานๆ หนึ่ง ที่พอใช้ให้กับพวกเธอ

ทุกคนต่างถอนหายใจอย่างประหม่า ทำให้เห็นอย่างชัดเจน ว่ารพีพงษ์ไม่ยอมยกตำแหน่งนายใหญ่ออกมา ตระกูลลัดดาวัลย์ ก็คงจะซวยจริงๆ แล้ว

“ฉันสามารถรับประกันกับพวกเธอ ถึงเวลานั้นที่นิรมัทพูด ตระกูลลัดดาวัลย์ยังคงสุขสบายดี ไหนๆ เขาก็ให้พวกเธอเลือก แล้ว งั้นฉันก็จะไม่ขัดขวาง ถ้าพวกเธอเชื่อฉัน ก็อดทนรอสักนิด ถ้าไม่เชื่อ พวกเธอก็สามารถไปทางฝั่งนิรมท” รพีพงษ์เอ่ยพูด

ทุกคนต่างก็รีบปรึกษาหารือกันขนาดนี้ เหมือนกำลังตัดสินใจ ว่าตนเองควรเลือกยังไงดี

ไม่นาน ก็มีคนเดินไปทางฝั่งนิรมท อีกอย่างยังขึงตามองร พงษ์อย่างโหดเหี้ยม แล้วตะโกนใส่เขา “รพีพงษ์ ตระกูลลัดดา วัลย์ถูกทำลายในน้ำมือของคนอย่างนาย ถือว่าเป็นเรื่องที่ เฮงซวยไปแปดชั่วรุ่น เดี๋ยวนายจะเสียใจเอง! ”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็เริ่มเลือกจุดยืนของตัวเอง ไม่ นาน ในเรือนที่พักก็แบ่งเป็นสองพวก

ท่านคทาเห็นฉากนี้ ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะ เลือกบุคคลที่มีความสามารถที่จงรักภักดีต่อตระกูลลัดดาวัลย์ ต่อให้ต้องสูญเสียคนที่มีความสามารถไปบ้าง ทว่าสำหรับตระ กูลๆ หนึ่งแล้ว การจงรักภักดีมันสำคัญกว่าความสามารถ อีก อย่างตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ ก็ไม่ได้ปลูกฝังยากขนาดนั้น

รอให้ทุกคนเลือกจุดยืนของตัวเองเสร็จ นิรมทก็มองรพีพงษ์ ด้วยความเย็นชา แล้วกดโทรออก

“ลงมือเถอะ รพีพงษ์ไม่ยอมมอบตำแหน่งนายใหญ่ออกมา ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่จำเป็นต้องดำรงอยู่อีกต่อไป” หลังจากวางสาย เขากระตุกมุมปากที่ดูร้ายกาจออกมา แล้ว

พูดขึ้น “รพีพงษ์ นายต้องจำไว้ให้ดี ตระกูลลัดดาวัลย์ถูกทำลาย

ในน้ำมือของนาย นายก็ต้องเป็นคนบาปที่มีความผิดหนักหนา

สาหัสของตระกูลลัดดาวัลย์! ”

“อย่าพูดคําพูดออกมาเร็วเกินไปสิ แค่จะทำให้ตัวเองกลาย เป็นตัวตลกเท่านั้น” รพีพงษ์จับจ้องนิรมัทแล้วพูดขึ้น

“ถึงตอนที่ใกล้จะตายแล้ว ยังจะเสแสร้งอีก เดี๋ยวบริษัทที่ขึ้นตลาดหุ้นที่อยู่ภายใต้นามของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะ าลงและหยุดไป ดูว่านายจะเสแสร้งได้อีกไหม! ” นิรมัททำเสียง เย็นชาในสําคอ

ญาดาก็มองรพีพงษ์อย่างดูถูก ตอนนี้ในสายตาของเธอ ต่อให้ รพีพงษ์มีทักษะการเล่นหมากล้อมที่เก่งกาจ ก็คงยังเป็นไอ้คนที่ มองตื้นๆ เธอไม่ได้สนใจรพีพงษ์มานานแล้ว ตอนนี้เป้าหมาย ของเธอคือจิรเวช

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก นิรมัทคาดเดาว่าได้เวลาอันสมควร แล้ว จึงพูดกับทุกคน “เอามือถือออกมาดูว่าบริษัทในตลาดที่อยู่ ภายใต้นามของตระกูลลัดดาวัลย์ได้เป็นยังไงบ้างแล้ว เชื่อว่า สถานการณ์คงจะแย่อย่างรุนแรง! ”

ทุกคนต่างก็รีบเอามือถือออกมา แล้วเช็คหุ้นของตระกูลที่อยู่ ภายใต้นามของตระกูลลัดดาวัลย์

ญาดาก็เอามือถืออกมาเช็คดู ทว่าหลังจากที่เห็นผลสรุป เธอก็ นิ่งงันไป

นิรมัทเห็นญาดาตอบสนองแบบนี้ จึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แล้ว เอ่ยถาม “ทําไม? ตกต่ำอย่างรุนแรงขนาดนั้นเลยหรอ ทำให้เธอ ถึงกับตกใจขนาดนี้? ”

ญาดาเงยหน้ามองนิรมัท ริมฝีปากสั่นเทา “บริษัทที่เข้า ตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้นามของตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่มีบริษัทไหนที่ตก อีก… ขึ้นไปครึ่งเท่าตัวและหยุดลงอย่างมั่นคง! ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ