พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่553 วิไลพรที่เมา



บทที่553 วิไลพรที่เมา

พสธรจ้องไปที่รพีพงษ์ เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่รพีพงษ์ตบ แล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าไอ้นี่จะไม่ให้เขากลับ นี่มันทำให้เขาอดทน ไม่ไหวแล้วจริงๆ

“มึงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีใช่ไหม? กูไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่ ถึงตบแล้ว จึงยังไม่จบอีก ตอนนี้กยกเลิกทำการค้ากับบริษัทลาน คอนกรุ๊ปแล้ว ดังนั้นไม่มีทางจะให้เกียรติวิไลพรอีกแล้ว มึงก็แค่ เพื่อนรักทิ้งต้องของมัน ถ้ามึงเยอะ กูจะทำให้ตั้งอยู่เมืองเซี่ยงไฮ้ ไม่ได้!” พสธรก็เมา แล้วตะคอกใส่รพีพงษ์

“เมื่อกี้ฉันให้โอกาสแกขอโทษแล้ว ในเมื่อแกไม่ฉวยมันเอาไว้ งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจล่ะ” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

“ฉวยโอกาสหาไรล่ะ ก็จะเอาคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาแล้วจะ ทำไม หรือถึงจะไปฟ้องตระกูลพงศ์ธนธดาเรื่องกู? หยุดล้อเล่นได้ ล่ะ เกรงว่าถึงแม้แต่ประตูใหญ่ของตระกูลพงศ์ธนธดาก็น่าจะเข้า ไม่ได้!” พสธรค่าต่อ

รพีพงษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถีบไปทำท้องของพสธร ร่างของพส ธรลอยไปด้านหลัง ชนเข้ากับโต๊ะด้านหลัง

ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์นี้ คนจำนวนไม่น้อยไปหลบอยู่ใน มุม บางคนก็มองนพีพงษ์อย่างหวาดกลัว ไม่คาดคิดว่าไอ้นี่แรง มันจะเยอะได้ขนาดนี้
พสธรล้มลงบนโต๊ะแล้วครวญครางออกมา จากนั้นก็กัดฟันยืน ขึ้นมา มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความเกลียดชัง แล้วตะคอก “มึง นี่ มันรนหาที่ตายชัดๆ! กูจะเรียกคนมาเก็บมึงเดี๋ยวนี้!”

รพีพงษ์บินปาก แล้วเดินไปที่พสธร กล่าว “ไม่จําเป็น เรียกมา ก็เสียเวลา จัดการดึงคนเดียว ก็พอแล้ว”

พูดจบ รพีพงษ์ยื่นมือไปจับคอเสื้อของพสธร ดึงเขาลงมาจาก

โต๊ะ แล้วเริ่มปล่อยหมัดรัวๆ

พสธร กร พงษ์ต่อยจนไม่มีแรงต่อกลอน ทำได้เพียงมอง หมัด ที่ชกเข้ามาอย่างรุนแรงยังร่างของตนเองเท่านั้น

ทุกคนในห้องรับรองมองเหตุการณ์อย่างหวาดกลัว คนจํานวน ไม่น้อยเย็นวูบ รู้สึกว่ารพีพงษ์รุนแรงเกินไป

ผ่านไปสักพัก พสธรทนไม่ไหว โบกมือให้รพีพงษ์ ใช้เสียงอัน

อ่อนแรงกล่าวว่า “ผม……..ผมผิดไปแล้ว ได้โปรด

เป็นต่อไป ผมจะต้องโดนต่อยตายแน่ๆ

รพีพงษ์หยุด แล้วพูดต่อพสธรว่า “ขอโทษ”

พสธรขมขื่น ทนกับความเจ็บปวด แล้วขอโทษ “ผมไม่ควรพูด ลวนลามคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ผมไม่มีสิทธิ์พูดเหยียดหยาม คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่พูดคำพูดแบบ นี้อีกต่อไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย

รพีพงษ์ปล่อยผสธร แล้วหันหน้าไปหาวิไลพร แล้วกล่าว “พวก เราไปกันเถอะ”
วิไลพรพยักหน้า แล้วเดินออกจากห้องรับรองพร้อมกับรพีพงษ์

ถึงประตูของktv รพีพงษ์หันไปคุยกับวิไลพร ว่า “ตอนนั้น ขอบคุณคุณนะ”

วิไลพรยิ้ม แล้วกล่าว “คุณชายพูดอะไร ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ไม่มี ทางจะช่วยคนบ้าพวกนั้นหรอก แต่ถ้าคุณชายอยากขอบคุณฉัน จริงๆ ก็มอบหัวใจให้ฉันสิ

รพีพงษ์พูดไม่ออก แล้วกล่าว “เอากุญแจบริษัทให้ผม คุณ กลับบ้านเถอะ”

วิไลพรตัวอ่อนระทวย แล้วจึงไปที่ตัวของรพีพงษ์โดยตรง

“คุณชาย มีนาดื่มเยอะ ตอนนี้ไม่รู้แยกทิศทางไม่ออกแล้ว แล้ว เมื่อตอนออกมาก็โดนลม รู้สึกโลกหมุนติ้วๆ คุณวางใจให้มี นากลับไปคนเดียวหรอ เกิดตอนทางกลับเจอกับพวกนักเลงเข้า ละความชิงของมีนา ก็เสียไปเลยงั้นหรอ

รพีพงษ์เห็นวิไลพรล้มตัวลงมาที่อกของตน ราวกับไม่กลัวว่า เธอจะล้มลงกับพื้นอย่างไรอย่างนั้น ก็รู้สึกเบื่อหน่าย เอามือยื่น ออกมา แล้วรับตัวเธอเอาไว้

“คุณไม่กลัวผมเป็นนักเลงหรอ?” รพีพงษ์กล่าว

วิไลพรหัวเราะ ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ แล้วกล่าว “ถูกนักเลง อย่างคุณชายลวนลาม เป็นความฝันของมีนา คุณชาย ได้โปรด ลงมือ ยิ่งรุนแรงยิ่งดี มีนาชอบความตื่นเต้นแบบนั้น

รพีพงษ์เกือบผลักวิไลพรออก แล้วหันหลังจากไป
“พอล่ะ หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว รีบเอากุญแจบริษัทมาให้ผม ผม รู้ว่าคนขับรถส่วนตัวของคุณอยู่ใกล้ๆ” รพีพงษ์กล่าว

วิไลพรสิ้นหวัง มองรพีพงษ์อย่างปืนปาก แล้วกล่าว “ในเมื่อ คุณจะไปบริษัท งั้นฉันไปด้วย มีนาจะตามคุณไป บริษัทใหญ่ ขนาดนั้น มีนาจะต้องดูแลความปลอดภัยของคุณชาย

พูดจบ วิไลพร โทรศัพท์ เรียกคนขับรถส่วนตัวมารับ

ทั้งสองขึ้นรถไปพร้อมกัน วิไลพร ให้คนขับรถส่งพวกเธอไป อาคารลานคอน

รพีพงษ์ค่อนข้างเบื่อหน่าย กับสาวสังคมขึ้นชื่อของเมือง เซี่ยงไฮ้ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ

ทางไป เพราะดื่มเหล้ามากเกิน บวกกับได้พักนิดหน่อย วิไลพร รู้สึกมึน ร่างกายรับไม่ไหวแล้วล้มลงไป

ครั้งนี้เธอไม่ได้เสแสร้งต่อหน้ารพีพงษ์ แต่เป็นเพราะดื่มเยอะ

แล้วสลบไปจริงๆ

เธอนั่งพิงไหล่ของรพีพงษ์ รพีพงษ์ยื่นมือไปรับหัวเธอเอาไว้ แล้วกล่าว “นั่งให้ดีๆ

“คุณชาย เค้า…..มเยอะไป คุณทนเห็นเค้าทรมานได้หรอ?” วิไลพรพูดอย่างอ่อนแอ รพีพงษ์ขมวดคิ้ว พบว่าวิไลพรไม่ได้เส แสร้ง

“งั้นคุณก็ไปอยู่ใกล้ๆกระจก” รพีพงษ์กล่าว
“ไร้ความรู้สึก” วิไลพรพูดคำนีต่อรพีพงษ์ จากนั้นก็ไปนั่งข้างๆ กระจก

ถึงอาคารลานคอน รพีพงษ์ลงจากรถ เห็นวิไลพรนอนอยู่ที่นั่ง ตรงนั้น ปวดหัว เขาจึงเอาวิไลพรลงมาจากรถ แล้วกล่าว “รีบเอา กุญแจมาให้ผม ผมจะไปเปิดประตู

วิไลพรชี้ไปที่อกของตัวเอง บอกให้รพีพงษ์รับรู้ว่ากุญแจอยู่ที่

อก

รพีพงษ์มองไป พบว่าวิไลพรได้ใส่สร้อยบนคอ ถ้าเขาทายไม่ ผิดล่ะก็ กุญแจของบริษัทน่าจะอยู่บนคอ

เขาก้มหน้ามองที่วิไลพรชี้ไปที่อก ก็กลืนน้ำลาย คิดว่ากุญแจ วางไว้ที่ไหนไม่วาง ดันไปแขวนไว้บนคอ เธอตั้งใจทำแน่ๆ

เขายื่นมือไปจับสร้อยของวิไลพร หยิบกุญแจออกมาจากตรง

นั้น จากนั้นจะไปเปิดประตู

แต่ทว่าเมื่อเขาปล่อยวิไลพร วิไลพรก็ล้มลงกับพื้น เขาทำได้ เพียงพยุงวิไลพรเดินไปที่ประตู ใช้กุญแจเปิดประตู พาเธอเดิน เข้าไปด้วย

เดินไม่ถึงสองก้าว วิไลพรก็หยุดอยู่กับที่ แล้วพูดต่อรพีพงษ์ว่า “ฉันเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว คุณชาย กอดฉันหน่อย

รพีพงษ์จ้องไปที่วิไลพร เธอดื่มไปเยอะจริง ก็ทำได้เพียงอุ้ม วิไลพรขึ้นมาจากพื้น แล้วรีบเดินเข้าไปอย่างเร็ว

วิไลพรยิ้มอย่างสะใจ ยื่นมือทั้งสองออกไป โอบคอของรพีพงษ์ไว้

ในอาคารลอนดอนมีห้องไว้ให้สำหรับพนักงานพักผ่อนโดย เฉพาะ รพีพงษ์กอดวิไลพรมาถึงหน้าประตูห้อง เปิดประตูหนึ่ง ออก แล้วเอาวิไลพรวางไว้บนเตียง

ขณะนี้มีเพียงวิไลพรและรพีพงษ์สองคนเท่านั้น วิไลพรเป็น บุคคลพิเศษ ตอนที่หยิบกุญแจนั้น รพีพงษ์ได้รู้สึกถึงปฏิกิริยา

โต้ตอบของตนบ้างแล้ว

ดังนั้นหลังจากที่วางวิไลพรแล้ว รพีพงษ์ก็รีบออกจากห้องไป นอนพักผ่อนห้องข้างๆ

แต่ทว่าวิไลพรเหมือนกับจะรู้ว่ารพีพงษ์จะหนีอย่างไรอย่างนั้น จึงใช้มือสองข้างจับคอของรพีพงษ์ไว้แน่นไม่ปล่อย

ทั้งสองอยู่ใกล้กับชั่วขณะหนึ่ง รพีพงษ์รับรู้ถึงกลิ่นหอมบางๆ

และกลิ่นแอลกอฮอล์บนตัวของวิไลพร ก็ใจเต้นเร็วชั่วขณะ

“ปล่อยผม ไม่งั้นผมจะใช้แรงแล้วนะ” รพีพงษ์กล่าว

วิไลพรปิดตาลง แล้วยิ้ม กล่าว “คุณชายจะใช้แรงกับฉันหรอ ดีมากเลย มีนาจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี” รพีพงษ์เอือม ระอา ยื่นมือไปจับข้อมือของวิไลพร ใช้แรง เพื่อปลดมือเธอออก

ในตอนที่รพีพงษ์หันตัวเพื่อจะออกไปนั้น วิไลพรก็รีบกล่าวขึ้น มาทันใดว่า “คุณชาย อย่าไป……

“คุณนอนที่นี่เถอะ” รพีพงษ์กล่าว
“ฉันขยับไม่ได้ ไม่มีแรง จะทำไงดี

“ขยับไม่ได้สิดี จะได้ไม่หาเรื่องให้ผม” รพีพงษ์ตอบ

มีนาอยากเข้าห้องน้ำ…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ