บทที่ 285 จุดจบของคุณ
เช้าวันต่อมา ในสวนคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลธนาพัชร์กุล รพีพงษ์เห็นชายร่างกายกำยำสองสามคนยกนาฬิกาอัน ใหญ่ขึ้นมาก็ยิ้มอย่างพอใจ
รวินท์เดินออกมาจากห้อง เห็นนาฬิกาที่รพีพงษ์เอาออก มาก็มีสีหน้าแปลกใจ “นายเอานาฬิกานี่ไปทำอะไร”
“วันนี้เป็นวันเกิดของนายหญิงฝนทิพย์ นี่คือของขวัญที่ ผมเตรียมให้เธอ”
“หา? ใครเขาให้นาฬิกากันล่ะ” รวินท์มีสีหน้าเต็มไปด้วย ความแปลกใจ
“จะให้ของขวัญใครก็ต้องดูจากผู้รับ ส่งนาฬิกาให้นาย หญิงฝนทิพย์ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว” รพีพงษ์ เอ่ยขึ้น
ขณะนั้นธฤตญาณเดินเข้ามา เขาเห็นนาฬิกาเรือนใหญ่ก็ ยิ้มออกมา “ถ้านายหญิงเห็นของขวัญของคุณ เธอคงจะ โกรธตายแน่นอน”
“ถ้าโกรธตายได้ก็ดีสิ ป้านั่นโหดร้ายขนาดนี้ อยู่ไปก็ เปลืองอากาศเปล่าๆ” รพิพงษ์เอ่ยขึ้น
“ใกล้ถึงเวลางานแล้ว เราไปกันก่อนดีกว่า ท่านนฤพลยัง มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย จะตามไปช้าสักนิด” ธฤต ญาณเอ่ยขึ้น
รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นจึงพาคนที่แบกนาฬิกาสองสาม คน มุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลรัตนชัยนันท์
ตอนนี้ที่สวนในบ้านตระกูลรัตนชัยนันท์เต็มไปด้วยไฟ และริบบิ้นสีที่ประดับตกแต่ง คนที่ได้รับเชิญทยอยมา อย่างไม่ขาดสาย ทั้งสวนเต็มไปด้วยความครึกครื้น
นายหญิงฝนทิพย์นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ประจำตำแหน่งด้วย สีหน้าพออกพอใจ วันนี้ตอนเช้าเธอได้ข่าวว่าท่านนฤพลจะ มาร่วมงานวันเกิดด้วย เป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลรัตนชัย นันท์มาก
ใครกันที่ไม่รู้ถึงฐานะของตระกูลธนาพัชร์กุลในเมืองกรี นโคล ในเมื่อท่านนฤพลยอมมางานของเธอ งั้นก็แสดงว่า ท่านนฤพลเริ่มเห็นความสำคัญของตระกูลรัตนชัยนันท์ แล้ว นี่เป็นสัญญาณสำคัญสำหรับตระกูลเธอ
การที่ท่านนฤพลเห็นความสำคัญ ก็เป็นลางบอกว่า ตระกูลรัตนชัยนันท์มีค่าพอที่จะอยู่ในลำดับตระกูลอันดับ ต้นๆ ดังนั้นนายหญิงฝนทิพย์จึงให้ฆนาคมแจ้งกับแขกที่มา ในงานว่าท่านนฤพลจะมาร่วมงานด้วย
หลังจากที่ทุกคนทราบต่างก็พากันอิจฉาและมาเยินยอ นายหญิงฝนทิพย์
เดิมทีคนที่ไม่ได้กะจะให้ของขวัญชิ้นโตอะไร ก็รีบพา ของขวัญมาให้ในเวลานั้น
ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะประจบคนตระกูลรัตนชัยนันท์ ไม่มีใครอยากเสียเปรียบทั้งนั้น
“แม่ ดูเหมือนว่าความพยายามของผมจะเป็นผลแล้ว ตอนนี้แม้แต่ท่านนฤพลยังมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของแม่ ต่อไปตระกูลของเราต้องกลายเป็นตระกูลอันดับต้นๆ ใน เมืองกรีนโคลแน่นอน” ฆนาคมยืนอยู่ข้างผู้เป็นแม่แล้วพูด ด้วยสีหน้าได้ใจ
นายหญิงฝนทิพย์มองฆนาคมด้วยสายตาพออกพอใจ แล้วพูดว่า “อย่างที่ลูกพูด ตระกูลของเรามาถึงจุดนี้ได้ก็ เพราะความเก่งของลูก แม่เชื่อว่าลูกจะพาตระกูลเราไปสู่ ความรุ่งเรืองได้อย่างแน่นอน”
บุญสิตาที่ยืนอยู่อีกด้านมีสีหน้าเศร้าสร้อย หลังจากเธอ เห็นสายตาอันคุ้นเคยในคืนนั้น ในหัวของเธอก็คิดถึงแต่ เรื่องธฤตญาณ
ตอนนี้ได้ยินว่าท่านนฤพลจะมาร่วมงานวันเกิดนายหญิง ฝนทิพย์ เธอกลับรู้สึกหดหูใจ เพราะตระกูลรัตนชัยนันท์มี วันนี้ได้ก็เพราะแย่งอำนาจมาจากธฤตญาณ
ฆนาคมแค่คนที่เอาแต่กินกับนอน ไม่เอาไหนสักอย่าง ถ้า นายหญิงฝนทิพย์ไม่คอยหนุนหลัง คอยช่วยเหลือจัดการ เขาคงไม่มีปัญญาคุมอำนาจที่แย่งมาจากธฤตญาณหรอก
นายหญิงฝนทิพย์เอาแต่คิดว่าลูกชายของตัวเองเก่ง เธอ ไม่เคยเห็นสิ่งที่บุญสิตาทำเพื่อตระกูลมาสองสามปี อีกทั้งฆ นาคมยังอวดกับนายหญิงฝนทิพย์ว่าผลงานที่เธอทำเป็น ของเขาอีกต่างหาก
เมื่อบุญสิตาอธิบายให้นายหญิงฝนทิพย์ฟัง ก็จะโดน ตอบกลับมาว่า เธอเป็นแค่ผู้หญิงจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ได้ น้ำพักน้ำแรงนั่นเป็นของลูกชายของเธอ ไม่เกี่ยวกับ บุญสิตา
บุญสิตาต้องกล้ากลืนฝืนทนใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลนี้มาส องสามปี ตอนนี้ได้ยินนายหญิงฝนทิพย์ชมฆนาคมว่าเก่ง นักเก่งหนา เธอรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนธฤตญาณ
อีกทั้งเธอยังรู้สึกประหลาดใจ ตั้งแต่ธฤตญาณจากไป ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของตระกูลรัตนชัยนันท์หรืออำนาจของ ธฤตญาณก่อนหน้านี้ มันไม่มีการพัฒนาเลย พูดได้ว่าก้าว ถอยหลังยังได้เลย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ท่านนฤพลถึง มาร่วมงานวันเกิดของนายหญิงฝนทิพย์
เรื่องนี้คงจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเหมือนที่จินตนาการเอาไว้
ฆนาคมเห็นบุญสิตายืนก้มหน้า จึงกลอกตาไปมาแล้วพูด ว่า “แม่ดูบุญสิตาสิ วันนี้เป็นวันเกิดของแม่เชียวนะ เธอทำ เหมือนมีใครตายในบ้านอย่างไรอย่างนั้น นี่หาเรื่องให้แม่ ชัดๆ เลยนะ นี่ท่านนฤพลก็กำลังจะมา ถ้าเธอซังกะตาย แบบนี้ เป็นการไม่ยอมรับสิ่งที่ผมทำเพื่อตระกูลรัตนชัย นันท์นะครับ”
นายหญิงฝนทิพย์รีบหันไปมองบุญสิตาแล้วพูดด้วยน้ำ เสียงเย็นชา “บุญสิตาแกได้ยินที่ฆนาคมพูดหรือยัง วันนี้ เป็นวันเกิดของฉัน แกทำหน้าซังกะตายทำไม ฆนาคมทำ เพื่อตระกูลขนาดนี้ แกจะไม่พูดยินดีสักคำเหรอ”
บุญสิตารีบหันไปแล้วพูดว่า “นี่แม่แกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริงๆ ตระกูลของเราไม่ได้มีความก้าวหน้าเลยสักนิด ตอนนี้อิทธิ พลของธฤตญาณก็กลายเป็นอะไรแล้วไม่รู้ เมื่อวานนนท์ ปวิธมาหาเรื่อง ถ้าไม่มีคนมาช่วย คลับสิตาคงไม่เหลือแล้ว ตอนนั้นฆนาคมคงไปเสวยสุขอยู่ที่ไหนสักแห่ง เขาทำอะไร เพื่อตระกูลเหรอ!”
นายหญิงฝนทิพย์ตบโต๊ะอย่างแรง เธอไม่คิดว่าบุญสิตา จะกล้าพูดกับฆนาคมขนาดนี้ เธอโมโหมาก “บุญสิตาแกนี่ มันกินบนเรือน ขี้บนหลังคาจริงๆ ทำไมฆนาคมถึงจะไม่ทำ อะไรเพื่อตระกูลล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา แกคิดว่าผู้หญิง อย่างแกจะดูแลคลับสิตาได้เหรอ ไม่แน่คนที่ช่วยแกเมื่อ วานอาจจะเป็นคนที่ฆนาคมส่งไปก็ได้!”
คนที่อยู่ในสวนได้ยินทางนี้ทะเลาะกัน จึงพากันเงียบลง
ฆนาคมเห็นทุกคนพากันมองมาทางนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกอาย แล้วมองบุญสิตาด้วยความโกรธ “บุญสิตา แกรีบขอโทษ ฉันเลยนะ เมื่อกี้ที่แกพูด แกหมายความว่าฉันสู้ธฤตญาณ ไม่ได้งั้นเหรอ ตอนนี้ไม่แน่มันอาจจะเป็นเก็บขยะอยู่ที่ไหน สักแห่งก็ได้นะ มันจะเอาอะไรมาเทียบกับฉัน!”
บุญสิตาระเบิดความโกรธที่กลั้นเอาไว้ออกมา เธอทนมา นานแล้ว โดยเฉพาะตอนที่เห็นสายตานั่นเมื่อวานซีน เธอ ไม่อยากทนต่อไปอีกแล้ว
“ทำไมฉันต้องขอโทษนาย นายสู้ธฤตญาณไม่ได้สักนิด นี่คือความจริง!” บุญสิตาพูดเสียงดัง
นายหญิงฝนทิพย์ตบบุญสิตาแล้วด่าออกมาว่า “รีบขอ โทษฆนาคมเดี่ยวนี้ แกมีสิทธิ์อะไรไปขึ้นเสียงกับเขา แก เป็นผู้หญิง แกควรจะรู้ตัวเองนะ นังเด็กต่ำตมไม่รู้จักว่า อะไรดีอะไรชั่ว!” บุญสิตาเอามือกุมหน้าตัวเอง เธอน้อยใจเป็นอย่างมาก
ขณะนั้นเอง มีชายสองสามคนยกนาฬิกาเดินเข้ามาใน สวน ชายพวกนั้นวางนาฬิกาไว้กลางสวน เสียงนาฬิกาดัง ก้องกังวาน จากนั้นก็มีร่างหนึ่งบุกเข้าไปหานายหญิงฝน ทิพย์ด้วยความรวดเร็วแล้วตบลงไปบนหน้าของเธอ
เมื่อร่างนั้นสั่งสอนนายหญิงฝนทิพย์เสร็จ จึงดึงบุญสิตา เข้ามาในอ้อมกอด “คิดว่าจะตบผู้หญิงของธฤตญาณก็ตบ ได้อย่างนั้นเหรอ นายหญิงฝนทิพย์ วันนี้ผมเอานาฬิกามา ให้ ถ้าคุณยังไม่สำนึกผิด ผมจะให้อย่างอื่นกับคุณ!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ