บทที่911 คําเชิญ
เรวัตจ้องมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง แม้ว่าในใจจะไม่พอใจ แต่ก็ ไม่ได้แสดงออกมาบนใบหน้า และยิ้มให้รพีพงษ์เล็กน้อย แล้ว พูดว่า “ในเมื่อน้องชายอยากได้ขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่ เพิ่มราคาต่อไป กระบี่หยกเล่มนี้เป็นของนาย
รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไร หยิบการ์ดธนาคารออกมาในทันที ยื่นให้เจ้าของร้านไปรูดการ์ด
เมื่อมองไปที่ค่าว่าทำธุรกรรมสำเร็จที่บ่งบอกบนเครื่องPOS มือทั้งสองข้างของเจ้าขายของก็สั่นสะท้าน ยังไงเขาก็คาดไม่ ถึงว่า ตัวเองจะเอากระบี่หยกหักที่ไม่มีใครสนใจ กลับขายได้ใน ราคาที่สูงเช่นนี้ เรื่องนี้ถ้าพูดออกไป เกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อ
ที่สำคัญมอบดูท่าทางที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเฉยเมยของรพีพงษ์ ราวกับว่าไม่สนใจเงินล้านนี้เลย เจ้าของร้านก็รู้อยู่ในใจ รพีพงษ์ ก็คงจะเป็นคนที่เอาเงินหลายล้านสิบล้านมาเป็นเงินค่าใช้จ่าย เล็กๆน้อยๆ
เขาไม่ชักช้าอีกต่อไป รีบห่อกระบี่หยกและกำไลข้อมือให้ร พงษ์อย่างรวดเร็ว ส่งอื่นให้ถึงในมือของรพีพงษ์
รพีพงษ์เก็บกระบี่หยกไว้ จากนั้นยื่นกำไลข้อมือให้หงส์ หงส์มองไปที่กำไลข้อมือ ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง และถามว่า “นี่ให้ฉันเหรอ?”
รพีพงษ์พยักหน้า
ใบหน้าของหงส์เขินอายทันที หล่อนคาดไม่ถึงว่า รพีพงษ์ซื้อ กำไลข้อมือนี้ เพื่อมอบให้กับหล่อน
ทันใดนั้นหล่อนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรขึ้นมา ในหัวสมองที่มีความ คิดฟุ้งซ่าน แม้ว่าจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรรับกำไลข้อมือ แต่ หล่อนก็ยังรับกำไลข้อมือที่มาอย่างไม่รู้ตัว
“โธ่เอ๊ย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเป็นแบบนี้ กลับยังมอบกำไลข้อ มือให้กับฉัน เขากำลังบอกใบ้อะไรกับฉันหรือเปล่า?” ในหัวของ หงส์เต็มไปด้วยความคิดแบบนี้ ไม่กล้าที่จะสบตากับรพีพงษ์
รพีพงษ์ไม่ทันได้สังเกตเห็นความผิดปกติของหงส์ เดิมทีกำไล ข้อมือนี้เอามาก็เพื่อตอนนั้นจะให้เจ้าของร้านรู้สึกว่าเขาไม่ตั้งใจ ที่จะซื้อกระบี่หยกเล่มนี้โดยเฉพาะ รพีพงษ์ไม่สนใจกำไลข้อมือ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ตอนนั้นเห็นว่าหงส์จะชอบกำไลข้อมือนี้มาก ดังนั้นจึงโอกาสมอบให้หล่อน
ถ้ารู้ว่าในหัวของหงส์จะมีความคิดมากมายเช่นนี้ ต่อให้ร พงษ์ต้องทิ้งกำไลข้อมือ ก็คงจะไม่มอบให้กับหล่อนอย่าง แน่นอน
เรวัตจ้องมองไปที่รพีพงษ์และหงส์พวกเขาทั้งสองสักพัก ดวงตากลอกไปมา จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เอ่ย ปากว่า “ดูจากท่าทางของทั้งสองคน น่าจะมาท่องเที่ยวที่เมือง อยู่เย็นของเรา เมื่อกี้นี้ฉันมีความต้องการกระบี่หยกเล่มนี้มากๆ ดังนั้นจึงได้เสนอราคาไปสองครั้ง หวังว่าพวกคุณก็อย่าได้ถือสา
“การพบกันคือโชคชะตา เมื่อพบกันแล้ว มาเป็นเพื่อนกันน่าจะ ดีกว่า เดี๋ยวฉันจะไปร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลงานหนึ่ง ช่วงนี้ที่ตระ กูลกิติมหาคุณของเรามีการจัดงานประชุมการแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ ฉันได้เชิญอาจารย์ที่แข็งแกร่งหลาย ท่านมาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ไม่ทราบว่าทั้งสองคนมี ความสนใจ ไปด้วยกันมั้ย?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเรวัต รพีพงษ์กลับเริ่มเกิดความสนใจขึ้น มาบ้าง เรวัตคนนี้ที่ประกาศตัวเองว่าเป็นคุณชายของตระกูลกิติ มหาคุณ คิดว่าต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับประชุมการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์อยู่บ้าง พอดีกับที่รพีพงษ์ก็ อยากจะดูว่าคนที่มาร่วมงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในการฝึกวิชาเวทย์เป็นใครบ้าง
“ก็ได้ รพีพงษ์ตอบกลับหนึ่งประโยค เขาดูท่าทางของเรวัต แล้ว กลับเป็นคนที่รู้จักกาลเทศะคนหนึ่ง ไม่ได้โกรธเพราะตัวเอง ซื้อกระบี่หยก ในราคาที่สูงกว่า แต่กลับยังเชิญตัวเองไปรับ ประทานอาหารด้วย ดังนั้นรพีพงษ์รู้สึกว่า ให้เกียรติเขาก็เป็น เรื่องที่สมควร
“เธอจะไปมั้ย?”รพีพงษ์หันหน้าไปถามหงส์
ในเวลานี้หงส์ยังคงตกอยู่ท่ามกลางความประหลาดใจและ ความพัวพันกับกำไลข้อมือที่รพีพงษ์มอบให้ตัวเอง เมื่อได้ยินร พงษ์คำถามที่รพีพงษ์ถาม ก็ตอบตกลงโดยไม่ได้คิด รพีพงษ์ก็จะ ไปอยู่แล้ว แน่นอนว่าหล่อนก็ต้องตามไปด้วยเรวัดหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม แล้วพารพีพงษ์พวกเขาทั้งสองคน เดินไปที่รถคันหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล
รพีพงษ์และหงส์ไม่ทันได้สังเกตเห็น ในขณะที่เราตหันกลับไป
ในแววตาเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและเลวร้าย ฐานะตำแหน่งของเรวัตอยู่ในเมืองอยู่เย็นก็ใหญ่โต พ่อของเร วัตก็เป็นคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงในแวดวงวิชาเวทย์ รพีพงษ์
กล้าแย่งสิ่งของกับเขา เขาจะปล่อยรพีพงษ์ไปได้อย่างไร
ทั้งสามคนนั่งรถไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองอยู่เย็นพร้อม กัน ในระหว่างทางเรวัตถามคำถามกับรพีพงษ์และหงส์มากมาย อยากจะรู้ที่มาของพวกเขาให้ชัดเจน
แม้ว่าที่รพีพงษ์พวกเขาสองคนมาก็เพราะงานประชุมการแลก
เปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ แต่บัตรเชิญในมือของ
พวกเขาก็คือแย่งมา เพื่อไม่ทำให้เราเกิดความสงสัย จึงบอกว่า
มาท่องเที่ยวที่เมืองอยู่เย็น บังเอิญได้ยินว่ามีประชุมการแลก
เปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ ดังนั้นจึงสนใจเป็นอย่าง
มาก
เรวัตตั้งใจถามรพีพงษ์เป็นพิเศษว่าทำไมออกไปข้างนอกต้อง พกกระบี่หนึ่งเล่มด้วย รพีพงษ์บอกว่าตัวเองชื่นชอบของด้านนี้ มาก ดังนั้นจะพกกระบี่หนึ่งเล่มเมื่อออกมาข้างนอก ในเวลา เดียวกันก็สามารถใช้มาป้องกันตัวเองได้
เรวัตเดาว่ารพีพงษ์อาจจะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้ ใส่ใจ เพราะอยู่ในตระกูลกิติมหาคุณตั้งแต่เล็กจนโต เขาคิดมาโดยตลอดว่าศิลปะการต่อสู้เทียบกับวิชาเวทย์ติด
นักรบเหล่านั้นมาท้าทายนิธิใต้กระบี่บินของนิธินาถ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ ของวิชาเวทย์ เรวัตรู้สึกมาตลอดศิลปะการในระดับกว่า ไม่สามารถออกหน้าสู่สังคมได้
ไม่ว่าสิ่งรพีพงษ์และอารียาจะเป็นหรือไม่ แน่ใจ แล้วว่าใช่ลูกหลานของอาจารย์อะไร สองไม่เกี่ยวกับวิชาเวทย์ อยากจะจัดการง่ายพอสมควร
หลังจากไม่นาน ก็มาหยุดหน้าร้านอาหาร เรวัตกับพงษ์และหงส์จากรถด้วยกัน และอาหารอย่างกระตือรือร้น
วันเรวัดร้านอาหารแห่งนี้ทั้งหมดแล้ว เว้นแต่จะรับ อนุญาตจากเรวัต บุคคลภายนอกทุกจะไม่อนุญาตให้ เข้า
ทันทีรพีพงษ์และหงส์ทั้งสองเข้ามาในร้านอาหาร ก็มอง เห็นประมาณสิบกว่าในเวลาเพียงอุปกรณ์ทานอาหารอยู่บน โต๊ะอาหารเท่านั้น ยังเริ่มเสิร์ฟอาหาร
และไม่ไกลจากโต๊ะ มีผู้คนมากมายรออยู่ที่และคนเหล่าเป็นคนที่เชิญมา
รพีพงษ์และหงส์ไปที่คนเหล่านั้นแวบหนึ่ง ใจต่างก็ ประหลาดใจ เพราะคนเหล่าอยู่ในร้านอาหาร กลับเป็นผู้หญิงทั้งหมด ที่สำคัญส่วนใหญ่รูปร่างหน้าตาโดดเด่นสวยงาม งดงามอายุยังน้อย ทั้งในห้องโถง มีเพียงรพีพงษ์และเรวัดทั้ง สองคนที่เป็นผู้ชาย
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้รพีพงษ์เกิดความสงสัย เรวัตคนนี้บอก ว่าจะชวนเพื่อนและอาจารย์ในแวดวงวิชาเวทย์หลายท่านมาร่วม ประทานอาหารด้วยกัน อาจารย์ที่เรวัตพูดถึงอาจจะยังมาไม่ถึง แต่เพื่อนของเขากลับเป็นผู้หญิงทั้งหมด สิ่งที่ทำให้คนรู้สึก แปลกๆเล็กน้อย
“ทุกคนนั่งลงก่อนเถอะ ฉันจะไปเชิญอาจารย์ทั้งหลายท่านมา เดี๋ยวตอนที่รับประทานอาหารอาจารย์จะดำเนินการบรรยายวิชา นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเราทุกคนอย่าได้พลาดเด็ดขาด”
เรวัตพูดกับทุกคน จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างใน
ลึกเข้าไปในร้านอาหาร ในห้องแห่งหนึ่ง มีชายที่หน้าตาที่มา พร้อมกับความอันธพาลทั้งสามคนนั่งขัดสมาธิอยู่ที่บนพื้น สามารถมองเห็นหมอกปรากฏขึ้นบนหัว และดูเหมือนว่ากำลังฝึก วรยุทธบางอย่างอยู่
เรวัตผลักประตูเข้ามา หลังจากเห็นทั้งสามคน ก็ยิ้มและพูด “อาจารย์ทั้งสามท่าน อย่าเพิ่งใจร้อนฝึกฝนวรยุทธ ผู้คนต่างก็มา ครบกันหมดแล้ว ในครั้งนี้ที่หามาให้พวกท่าน ก็เป็นระดับที่ดีสุด รับรองว่าพวกท่านจะพึงพอใจ
ทั้งสามคนคนลืมตาขึ้น บนใบหน้าก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม
“ได้รับความช่วยจากคุณชายเรวัต การฝึกวิชาของพวกเราคงจะมีจะดีขึ้นอย่างมาก หลังจากเรื่องนี้แล้ว พวกเราจะให้ค่า ตอบแทนที่น่าพอใจกับคุณชายเรวัตอย่างแน่นอนชายที่นั่งตรง กลางเอ่ยปากพูด
“อาจารย์จิรัสย์เกรงใจเกินไปแล้ว แต่ในบรรดาคนที่ฉันเชิญ มาในวันนี้ มีชายคนหนึ่ง ตามที่ฉันได้สังเกตน่าจะเป็นนักรบคน หนึ่ง คนคนนี้แย่งสิ่งของหนึ่งอย่างไปจากมือของฉัน หวังว่าเดี๋ยว อาจารย์ทั้งสามท่านจะสามารถช่วยฉันจัดการเด็กคนนั้น เรวัต จะขอบพระคุณในความเมตตากรุณาอย่างแน่นอน เรวัตเอ่ยปาก
“เรื่องนี้คุณชายเรวัตสบายใจได้ แค่นักรบคนหนึ่งเท่านั้นเอง ก็ยังเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับพวกเรา เดี๋ยวคุณชายเรวัตรอดู ความสนุกก็พอ คนที่ถูกเรียกว่าอาจารย์จิรัสย์ตอบกลับหนึ่ง ประโยค ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ