พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่891 การต่อสู้กับปรินทร



บทที่891 การต่อสู้กับปรินทร

ดิลวิลและประวีร์ทั้งคู่ล้วนไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะปรากฏตัวใน ตอนนี้ มองดูด้วยสายตาที่ประหลาดใจ

แต่มีปรินทรอยู่ แม้รพีพงษ์จะกลับมา ก็ทำอะไรไม่ได้

ประวีร์นึกถึงก่อนหน้านี้บนเรือโดยสารไปเกาะพระจันทร์ร พงษ์ทำให้เขาเสียเปรียบอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าแม้แต่ จะพูดอะไร แต่ตอนนี้มีปรินทรคอยให้ท้ายอยู่ เขาไม่กลัวรพีพงษ์ แล้ว

“รพีพงษ์ คิดไม่ถึงว่าแกไอ้เฒ่าหัวหดจะกล้ากลับมา แต่กล้า อย่าคิดว่าแกกลับมาแล้วเรื่องนี้จะพูดคุยกันได้ ฝีมือของผู้ยิ่ง ใหญ่แกคิดไม่ถึงแน่นอน แกรีบมอบอารียาให้กับผู้ยิ่งใหญ่ด้วย ตัวเองจะดีกว่านะ มิเช่นนั้นแกก็รอความตายได้เลย!” ประวีร์ ตะคอกใส่รพีพงษ์

รพีพงษ์เหลือบไปมองประวีร์ แล้วกล่าวอย่างนิ่งๆว่า “ที่แท้ก็ เป็นไอ้หมาอย่างแกนี่เอง ที่นี่ไม่ได้มีไว้ให้หมาเห่า รอให้ฉัน จัดการกับมันเสร็จก่อน แล้วจะมาตัดการกับพวกแก

ประวีร์เห็นรพีพงษ์ด่าตัวเองว่าเป็นหมา ก็หน้าบึงขึ้นมา ผ่าน ไปนานถึงได้ดูแคลนออกมาว่า “แกมั่นใจให้น้อยๆหน่อย อย่าง แกอยากจัดการผู้ยิ่งใหญ่ ฝันไปเหอะ!”

ครองภพและคนอื่นๆมองรพีพงษ์อย่างกังวล หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว พวกเขาก็ยังต้องเผชิญกับความจริง

“ศิษย์พี ฝีมือของมันมองข้ามไม่ได้เลยนะ มันเก่งกาจมาก คือ แดนดั่งเทพในตำนาน เล่นไสยศาสตร์ด้วย พี่รีบพาพี่สะใภ้หนีไป เถอะ!” ดำเกิงตะโกนใส่รพีพงษ์ เขาไม่ค่อยเข้าใจแน่ชัดเกี่ยว กับแดนดั่งเทพ ดังนั้นจึงคิดว่าการต่อสู้ปรินทรน่าจะเหมือนการ เล่นไสยศาสตร์ แต่ถ้าดูจากการสํารวจ ความสามารถของแดน ดั่งเทพก็คล้ายๆกับเล่นไสยศาสตร์

“ใช่ลูกพี่ ฝีมือของมันน่ากลัวจริงๆ พี่ไม่ใช่คู่ต่อกรของมันนะ รีบหนีไปเถอะ” ครองภพกล่าว

ปวิชและปวัตรสองพี่น้องกำลังมองรพีพงษ์ด้วยสีหน้า เคร่งเครียด ปวัตรกล่าว “อาจารย์น่าจะเคยพูดเรื่องแดนดั่งเทพ ให้คุณฟังบ้างแล้ว ฝีมือมันเก่งมากจริงๆ พรสวรรค์ของคุณ ยิ่งยวด หลบไปก่อนก็ได้ รอให้ฝีมือเก่งกาจก่อนแล้วค่อยกลับมา ล้างแค้นให้พวกเรา”

รพีพงษ์เห็นทุกคนพูดแบบนี้ ยื่นมือถือมุรามาสะ แล้วหยิบมีด ออกมาจากปลอกมีดอย่างช้า

“ฝีมือของแดนดั่งเทพผมรู้ดี แต่พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงผมเกิน ไป มันก็เคยแดนดั่งเทพขั้นต้นเท่านั้น ถ้าสู้กันจริงๆ ใครแพ้ใคร ชนะก็ไม่รู้!” รพีพงษ์กล่าวอย่างนิ่งสงบ

ตั้งแต่ตอนนั้นรพีพงษ์มั่นใจแล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นมาร ที่กลุ่มสิงโตอันดับรางวัลนำจับลำดับที่เจ็ดชื่อปรินทร

รพีพงษ์ไม่คาดคิดว่าปรินทรจะมาหาเรื่องที่ตระกูลลัดดาวัลย์แต่ในเมื่ออีกฝั่งมาหาถึงที่ งั้นรพีพงษ์ก็จะไม่พลาดโอกาสนี้ไป อย่างแน่นอน

ตอนนี้เขากำลังคิดหนักอยู่พอดีไม่รู้ว่าจะไปหาคนที่ให้ผลงาน มากได้ที่ไหน ปรินทรมาหาถึงที่ รพีพงษ์ก็จะรับไว้อย่างไม่เกรงใจ

ยิ่งไปกว่านั้นเขาอยากจะทำร้ายอารียา รพีพงษ์ยิ่งไม่อยากให้

เขามีชีวิตอยู่อีกต่อไป

รพีพงษ์ไม่ค่อยหวาดกลัวกับฝีมือของปรินทรสักเท่าไหร่ อีกฝั่ง เป็นแดนดั่งเทพขั้นต้นจริง แต่รพีพงษ์ไม่ใช่ไม่เคยต่อสู้กับแดน ดั่งเทพสักหน่อย

อุเอสึงิ ทาคิโนะตอนแรกปล่อยพลังชั่วร้าย ฝีมืออยู่ระดับแดน ดั่งเทพขั้นต้นจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าตายในมือของรพีพงษ์เหมือนกัน หรอกหรอ ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่กลัวยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้น เหล่านี้แต่อย่างใด

ปรินทรได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็เหยียดหยาม แล้วกล่าว “เห็นในมือแกถือมืดอันหนึ่ง ก็รู้แล้วว่าฝีมือแกยังไม่ถึงแดนดั่ง เทพ แม้แกจะมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น เก่งกว่าแดนปรมาจารย์ขั้น สูงสุดนิดหน่อย แต่ต่อหน้าฉัน ก็แค่มดที่แข็งแกร่งนิดหน่อย เท่านั้นเอง แกคิดว่าแค่นี้แกมีสิทธิ์จะมาจองหองกับฉันแล้วหรือ ไง?”

ประวีร์ก็กล่าวตามว่า “รพีพงษ์ แกอย่ามาฝันกลางวันตรงนี้อีก เลย ฝีมือแค่นั้นของแก จะต่อกรกับผู้ยิ่งใหญ่ มันตลกยิ่งกว่าตลก เสียอีก แกมอบเมียแกให้กับผู้ยิ่งใหญ่ง่ายๆดีกว่านะ ไม่แน่ถ้าผู้ยิ่งใหญ่มีความสุข อาจจะไว้ชีวิตแกสักคนก็ได้

รพีพงษ์ดูแคลน มือหนึ่งจับมุรามาสะเอาไว้ เนยจึงในร่างกาย เริ่มไหลเวียน ไปบนมืด

“แกชนะฉัน ให้ได้ก่อน แล้วค่อยคุยโวล่ะกัน!!

ปรินทรดูแคลน ไม่อยากเสียเวลาพูดพล่ามกับรพีพงษ์อีกแล้ว จึงได้โบกมือ เอาลืมพัดไปทางรพีพงษ์

รพีพงษ์จับมุรามาสะถือไว้ด้านหน้า มีเส้นยาวปรากฏขึ้น ตัด ลมที่ปรินทรพัดมาสลายไป

ปรินทรชะงัก ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะทำลายการโจมตีของเขา ได้ง่ายๆ เริ่มรู้สึกแปลกใจ แต่ยังไงเขาก็ยังคิดว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คู่ ต่อสู้ของเขา แม้รพีพงษ์จะมีฝีมือ แต่ก็ไม่ใช่แดนดั่งเทพจริงๆ

เขาไม่รู้ว่ายังมีแดนครึ่งแดนดั่งเทพอยู่ด้วย เพราะระหว่างแดน ปรมาจารย์ขั้นสุดยอดกับแดนดั่งเทพ ขาดอีกก้าวเดียว รพีพงษ์ ฝึกฝนพลังวิเศษเสน ดังนั้นจึงได้มีฝีมือแบบนี้ เรียกว่าแดนครึ่งดั่ง เทพ ด้วยเหตุนี้ปรินทรคิดว่ารพีพงษ์ก็เป็นแค่แดนปรมาจารย์ขั้น สุดยอดที่เก่งกาจก็เท่านั้น

“ก็แค่ความสามารถนิดเดียว ฉันไม่เชื่อว่าแกจะต่อสู้กับฉัน ได้!” พูดจบ ปรินทรก็พุ่งไปที่รพีพงษ์

เพื่อไม่ให้กระทบอารียาและคนอื่นๆ รพีพงษ์จึงเหาะขึ้นไปที่ หลังคา หวังจะต่อกรให้รู้แพ้รู้ชนะด้านบน

ปรินทรก็ตามขึ้นไปบนหลังคา ในมือปรากฏแสงยาวๆขึ้น
“เด็กน้อย ฉันใช้พลังทั้งหมดที่มีมาต่อสู้กับแก ดูสิว่าแกจะ ต้านทานมันยังไง!

ปรินทรตะคอกใส่รพีพงษ์ จากนั้นก็ใช้ลำแสงนั้นฟาดไปที่ตัว

ของรพีพงษ์

รพีพงษ์หยิบมุรามาสะขึ้นมา ระเบิดกำลังภายในออกมากัน การโจมตีครั้งนี้ของปรินทร

จนกระทั่งตอนนี้ ปรินทรเพิ่งจะรู้ว่า ความสามารถของรพีพงษ์ ไม่ได้เก่งกว่าแดนปรมาจารย์เพียงนิดเดียว เขาอยากใช้เวลานิด เดียวจัดการรพีพงษ์ แลดูจะค่อนข้างลำบาก

“แม่งเอ้ย อดทนเก่งจังนะ ดูๆแล้ววันนี้ไม่ให้แกเห็นฝีมือที่แท้ จริงของแดงดั่งเทพ แกจะผยองเกินไปแล้ว

ปรินทรดูแคลน จากนั้นพลังได้ถูกรวบรวมไปที่ลำแสงในมือ

เขา จากนั้นก็ฟาดไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์หายใจเฮือก เปลี่ยนท่ามุรามาสะในมือ จากนั้นลำแสง ก็ปรากกรอบๆของมุรามาสะ แล้วตัดผ่าลำแสงของปรินทร

“ท่าดาวฟ้า!”

ทั้งสองชนกัน พลังงานที่แข็งแกร่งแตกซ่านไปรอบๆ ครองภพ และทุกคนที่ดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างล้วนได้รับผลกระทบ ตอน แรกร่างกายที่แข็งแกร่งได้ยืนขึ้นมาแล้วก็กลับล้มลงไปอีก

ทุกคนกำลังมองทั้งสองต่อสู้กันบนหลังคาอย่างตะลึง สักพัก ป วัตรตะโกนว่า “ทุกคนหลบไปให้ไกลหน่อย การต่อสู้ของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่พวกเราเข้าไปเกี่ยวด้วยได้ แม้จะเป็นลูกหลง ก็ สามารถฆ่าชีวิตเราได้ ทุกคนรีบๆหลงไปให้ไกล

ทุกคนเพิ่งจะรู้สึกตัว รีบวิ่งไปไกลๆ

ดำเกิงมองไปที่รพีพงษ์ แล้วพิมพา “เพิ่งผ่านไปได้เท่าไหร่เอง ศิษย์พี่แข็งแกร่งขึ้นถึงขั้นนี้แล้วหรอเนี่ย? ฝีมือระหว่างฉันกับเขา ห่างกันมากเหลือเกิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ