พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่870 เป็นกุลสตรีที่มีจิตใจบริสุทธิ์



บทที่870 เป็นกุลสตรีที่มีจิตใจบริสุทธิ์

“อาจารย์ การต่อสู้ระหว่างพวกเรายังไม่เริ่ม ทำไม….ทำไมถึงคิด ว่าเขาชนะ? “พรยศมองไปที่นิรภัฏอย่างไม่เข้าใจ

ณีรนุชก็เต็มไปด้วยความสงสัย และเอ่ยปากถามว่า “ท่าน ปู่ทวด ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ต่อสู้กันด้วยซ้ำ ท่านมั่นใจในความ แข็งแกร่งของศิษย์พี่มาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้กลับไม่ เชื่อใจเขาแล้ว?”

นิรภัฏถอนหายใจ และพูดว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจเขา แต่ ความแข็งแกร่งของลูกศิษย์คนนี้ของธัชธรรมไม่ได้ธรรมดาอย่าง ที่พวกเธอคิด ต่อให้สู้สุดชีวิต ศิษย์พี่ของเธอก็ไม่สามารถเอาชนะ เขาได้”

สีหน้าของณีรนุชและพรยศก็กลายเป็นซับซ้อนขึ้นมาเป็นครั้ง แรกที่พวกเขาเห็นนิรภัฏประเมินคนคนหนึ่งแบบนี้

แม้จะรู้ว่านิรภัฏไม่มีทางหลอกตัวเอง แต่เป็นเพราะไม่ได้ สัมผัสถึงความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ ในใจของพรยศยังคงไม่มี ทางยอมรับความจริงที่ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะรพีพงษ์ใต้

รพีพงษ์ก็มองความคิดในใจของพรยศออก เพื่อหลีกเลี่ยงให้ ไม่เป็นการเสียเวลา รพีพงษ์เอ่ยปากพูดกับพรยศว่า: “ฉันรู้ว่า นายอาจไม่เข้าใจว่าทำไมผู้อาวุโสนิรภัฏถึงพูดแบบนั้น ฉันออก หนึ่งท่วงท่าให้นายได้สัมผัสดู นายก็จะเข้าใจเอง
ในใจของพรยศก็กำลังคิดเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อได้ยินรพีพงษ์ พูดแบบนี้ ก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่จริงจัง อยากจะดูว่า เขาสามารถแสดงท่วงท่าแบบไหนออกมา

บนฝ่ามือของรพีพงษ์หมุนเวียนไปด้วยพลังวิเศษเสน จากนั้น ก็ผลักดันอย่างแรงไปในทิศทางของพรยศอย่างเต็มที่ ฝ่ามือกล ลวงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ทำให้เกิดลมแรง และพัดไปในทิศทาง ของพรยศ

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์บรรลุถึงแดนครึ่งดั่งเทพ ไม่ จําเป็นต้องทานยาชั้นเลิศหรือใช้พลังวิเศษเสน เพื่อให้การโจมตี ของตัวเองทำให้เกิดกลลวงแบบนี้

แน่นอนว่า เนื่องจากไม่ใช่แดนดั่งเทพที่แท้จริง รพีพงษ์ยังไม่ สามารถทำให้กลลวงนี้แยกตัวออกมาได้ รวมทั้งพลังทั้งหมดที่ อยากจะโจมตีไปบนตัวคนอื่น จำเป็นต้องใกล้ให้เพียงพอถึงจะ ได้

แต่เพียงแค่พลังที่มาพร้อมฝ่ามือนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ยอด ฝีมือแดนปรมาจารย์ตกใจได้

ในขณะที่พรยศเห็นฝ่ามือกลลวงปรากฏขึ้น รูม่านตาก็หดลง ทันที ร่างกายก็ถอยกลับไปโดยไม่รู้ตัว ร่องรอยแห่งความ สยดสยองเกิดขึ้นในใจ คาดไม่ถึงว่าฝ่ามือที่รพีพงษ์ปล่อยออก มาอย่างไม่จริงจัง จะมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้

เหตุการณ์แบบนี้ เขาเคยเห็นเพียงอยู่ในเงื้อมมือของนิรภัฏ แน่นอนว่า ฝีมือของรพีพงษ์เทียบกับนิรภัฏแล้ว ยังแย่กว่ามากแต่สําหรับพรยศ เป็นท่วงท่าที่สามารถคร่าชีวิตของเขาไปได้ อย่างง่ายดาย

เมื่อมีรนุชเห็นฉากนี้ก็อ้าปากค้าง คาดไม่ถึงความแข็งแกร่ง ของรพีพงษ์จะน่ากลัวขนาดนี้ อย่างน้อยที่สุด สามารถสร้างกล ลวงออกมาได้ถึงขนาดนี้ พรยศคงจะทำไม่ได้อย่างแน่นอน

รพีพงษ์ก็เห็นว่าพอสมควรแล้วก็เก็บคืน ไม่ได้ฟาดฝ่ามือไปที่ บนร่างกายของพรยศจริงๆ เมื่อเห็นเขาถอยไปด้านหลัง ก็เก็บ พลังในมือกลับคืนมา ฝ่ามือกลลวงนั้นก็จางหายตามไปด้วยกัน

บนหน้าผากของพระศมีเหงื่อเย็นไหลออกมา เมื่อกี้นี้รู้สึกได้ ว่าตัวเองกำลังจะตายอยู่ภายใต้ฝ่ามือของรพีพงษ์ เมื่อเห็นร พงษ์เก็บท่วงท่า เข้าถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในใจก็ เกิดความกลัวเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

หลังจากที่เก็บท่วงท่าแล้ว รพีพงษ์มองไปที่พรยศ สองมือ ประสานคํานับให้เขา เอ่ยปากว่า “ออมมือแล้ว”

พรยศมองไปที่รพีพงษ์เป็นเวลานานและไม่มีการตอบสนอง ยังไงเขาก็คาดไม่ถึง คนที่ดูไปแล้วอายุใกล้เคียงกับเขา ความ แข็งแกร่งกลับบรรลุถึงแดนที่มหัศจรรย์ขนาดนี้

ตอนนั้นนิรภัฏเล่าแดนที่เหนือกว่าแดนปรมาจารย์ให้เขาฟัง เขาก็รู้ว่ามีแดนดั่งเทพอยู่ รพีพงษ์สามารถทำให้ท่วงท่าของตัว เองปรากฏกลลวง ก็คือบรรลุถึงระดับแดนดั่งเทพแล้ว

เพียงแต่นิรภัฏบอกว่าเขามีหวังที่จะบรรลุถึงแดนนี้ก่อนอายุ สามสิบห้าปี ที่สำคัญความเร็วนี้ ถือได้ว่าเป็นความเร็วที่ปีศาจพลิกฟ้าถึงจะมีได้

ที่ผ่านมาพรยศคิดมาโดยตลอดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะที่ดี พร้อมที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ในรายชื่อของสำนักไหน หรือว่าจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลการต่อสู้โบราณ ก็ไม่มีใคร สามารถเทียบกับเขาได้

เมื่อนานเข้าในใจพรยศก็เกิดความเย่อหยิ่ง รู้สึกว่าในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถเทียบกับเขาได้ ดังนั้นจึงปฏิบัติตัวต่อคนอายุรุ่น ราวคราวเดียวกัน โดยที่มักจะมีการดูถูกเหยียดหยาม

อย่างไรก็ตามในวันนี้ รพีพงษ์ทำให้เขาเข้าใจว่าอะไรคือเหนือ ฟ้ายังมีฟ้า ทั้งๆที่รพีพงษ์อายุไล่เลี่ยกับเขา กลับบรรลุถึงระดับ แตนดั่งเทพ ความสามารถนี้ แตกต่างกันกับเขาราวฟ้ากับเหว

ร่องรอยของความเย่อหยิ่งในใจของเขา ก็ถูกความจริงนี้ ทําลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที

“นาย…นายบรรลุถึงแดนดั่งเทพแล้วเหรอ?”พรยศจ้องมองไป ทรพีพงษ์แล้วพิมพ์

รพีพงษ์ยิ้มให้เขาเล็กน้อย เอ่ยปากว่า “ยังถือว่าเป็นแดนดั่ง

เทพไม่ได้ แต่ยังมีแดนครึ่งดั่งเทพอยู่

ในใจพรยศไม่ได้รู้สึกว่ารพีพงษ์บอกว่าตัวเองเป็นแดนครึ่งคั่ง เทพแล้วในใจจะรู้สึกดีขึ้น ในสายตาของเขา ระหว่างแดนครึ่งดั่ง เทพและแดนดั่งเทพไม่มีความแตกต่างอะไรกัน เพราะสำหรับ แดนปรมาจารย์แล้ว นี่เป็นเพียงความแตกต่างระหว่างครึ่ง ท้องฟ้ากับท้องฟ้าเท่านั้นเอง ต่างก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะข้ามผ่านไปที่สำคัญรพีพงษ์ก็บรรลุถึงแดนครึ่งดั่งเทพแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจาก แดนเทพ ยังคงมีสาระสำคัญที่แตกต่างกันในระหว่างทั้งสอง นิรภัฏก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน คาดไม่

ถึงว่าธัชธรรมจะรับลูกศิษย์ที่มีความสามารถโดดเด่นเพียงนี้มา

ได้ ในใจก็เกิดความรู้สึกผิดหวัง

ธัชธรรมลุกขึ้นยืน มองทุกคนด้วยรอยยิ้ม และเอ่ยปากว่า “ถ้าพูดแบบนี้ การประลอง ในครั้งนี้ พวกเราเป็นคนชนะเหรอ?”

นิรภัฏหันหน้ามองไปที่เขาแวบหนึ่ง ส่งเสียงเย็นชา เอ่ยปาก ว่า “เหอะ ฉันยังไม่ได้ไร้เหตุผลขนาดนั้น ลูกศิษย์ที่มีความ สามารถโดดเด่นของนาย ทำให้คนแปลกใจจริงๆ ครั้งนี้ถือตา แก่อย่างนายชนะ แต่ในไม่ช้าก็เร็วฉันจะเอาชนะกลับคืนมา

ธัชธรรมยิ้มเล็กน้อย ก็ไม่ได้อะไรอีก

รพีพงษ์หันกลับไปทางณีรนุชที่ยังคงตกตะลึง เอ่ยปากถามว่า “ตอนนี้ฉันชนะแล้ว สามารถที่จะเสนอความต้องการหนึ่งข้อกับ เธอได้แล้วใช่มั้ย?”

นิรภัฏมองไปทางรพีพงษ์ ด้วยสีหน้าโกรธ เห็นได้ชัดว่าค่อน ข้างไม่พอใจรพีพงษ์ เอ่ยปากว่า “ฉันณีรนุชก็เป็นคนที่ยอมรับ ความพ่ายแพ้ แพ้ของการเดิมพัน แพ้ก็คือแพ้ นายพูดความ ต้องการมาเถอะ แต่ถ้าความต้องการที่นายเสนอมามันอับอายไร้ ยางอาย ฉันก็จะทำตามความต้องการของนาย จากนั้นค่อยฆ่า นายภายหลัง”
รพีพงษ์หัวเราะเสียงดัง เขาไม่มีทางที่จะเสนอความต้องการ อะไรที่ไร้ยางอายอย่างแน่นอน

“สบายใจได้ ฉันไม่ใช่คนไร้ยางอายแบบนั้น และไม่มีทางที่จะ เสนอความต้องการอะไรที่มันมากเกินไป รพีพงษ์เอ่ยปาก “ถ้าอย่างนั้นความต้องการของนายคืออะไร พูดออกมาเถอะ”

ณีรนุชยังคงประหม่าเล็กน้อย กลัวว่ารพีพงษ์จะเสนออะไรที่ทำให้

หล่อนสามารถยอมรับได้

“ความต้องการของฉันก็คือ จากนี้ไปเธออย่าเดินตามคนอื่น เข้าไปในห้องน้ำ และเปลี่ยนแปลงความชอบที่ติดการดูวิดีโอ แบบนั้น เป็นกุลสตรีที่มีจิตใจบริสุทธิ์”รพีพงษ์กล่าวด้วยเสียงราบ เรียบ

หลังจากที่มีรนุชได้ยินคำพูดรพีพงษ์ ใบหน้าที่สวยงามก็แดง ขึ้นมา มองไปที่รพีพงษ์อย่างอับอายและรำคาญ จนแทบจะ กินเขา

นิรภัฏรู้สึกงงงวย ไม่เข้าใจว่าวิดีโอแบบนั้นที่รพีพงษ์พูดถึงคือ วิดีโอแบบไหน ลูกศิษย์ของนิรภัฏที่อยู่ไม่ไกลก็อดไม่ได้ที่จะ หัวเราะขึ้นมา

“ความต้องการของฉันถือได้ว่าไม่ยากใช่มั้ย เธอสามารถ รับปากได้มั้ย?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

ณีรนุชกัดฟัน เอ่ยปากว่า “มีอะไรที่ทำไม่ได้รับปากก็รับปาก เหอะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ