พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่859 หยก โยงจิตอยู่ในกำมือ



บทที่859 หยก โยงจิตอยู่ในกำมือ

อุเอง ทาคิโนะเห็นว่าเงาดาบขนาดใหญ่ฟาดฟันเข้ามาหาตัว เองด้วยพลังอานุภาพแห่งการทําลายล้าง หนังตาก็กระตุก จาก นั้นรีบโยนลูกเรืองแสงในฝ่ามือของตัวเองไปทางเงาดาบ อย่างรวดเร็ว

เมื่อกลลวงตาทั้งสองปะทะกัน แสงพราวพร่างพราวกระจาย ออกมาในทันที ทำให้ผู้ที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่รอบๆหลับตาลงอย่าง รวดเร็ว

ต่อจากนั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงดังมาก จากนั้นตามด้วยเสียง บ้านทพังทลาย

กลุ่มควันลอยขึ้นจากพื้น ปกคลุมรพีพงษ์และอุเอง ทาคิโนะที่

อยู่ที่บ้านหลังนั้นไว้

ในเวลานี้ทุกคนไม่กล้ามองไปที่นั่น แต่ตอนนี้บ้านถูกปกคลุม ไปด้วยควันและฝุ่น พวกเขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น

การปะทะกันระหว่างทั้งสองคน ในเมื่อกี้นี้ทำให้พวกเขาตกใจ มากเกินไป จนตอนนี้พวกเขาไม่สามารถตอบสนองคืนกลับมาได้

“นี่เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาใน ชีวิต ไม่มีอะไรเทียบได้จริงๆ”

“แข็งแกร่งเกินไปแล้วจริงๆ ตกลงว่าพวกเขาทำได้อย่างไงกัน แน่ แสงดาบที่น่าตกตะลึงนั้น น่ากลัวจริงๆ เพียงแค่เห็นก็ทำให้คนเกิดความกลัวได้

“ตอนนี้ฉันเชื่อว่าในโลกนี้อาจจะมีเทพอสูรอยู่จริงๆ สิ่งที่เรียก ว่าเทพอสูร เพียงแต่ความแข็งแกร่งบรรลุถึงยอดฝีมือที่พวกเรา ไม่สามารถจินตนาการได้ก็เท่านั้นเอง”

“ตอนนี้ฉันอยากรู้เพียงว่าพวกเขาสองคน ใครจะเป็นผู้ชนะ ใครจะเป็นคนอาสาไปดูล่ะ?”

“คุณกำลังล้อเล่นอยู่เหรอ เข้าไปดูในเวลาแบบนี้ นั่นก็คือไม่ อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ

ฝนสุดายืนอยู่ข้างหน้าสุดของกลุ่มคน มองดูควันที่ลอยอยู่ตรง นั้น ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวล

ในเวลานี้อุเอสึงิ ฮารุก็เดินมาที่ข้างๆของหล่อน ก่อนหน้าเป็น เพราะกลัวว่าจะดึงดูดความสนใจของตระกูลอุเอสึงิ อุเอสึงิ ฮารุก็ เลยไม่เคยปรากฏตัว แต่หลังจากได้ยินการเคลื่อนไหวของการ ต่อสู้ที่นี่ หล่อนก็รีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นการทำลายล้างที่เกิดจากการต่อสู้ระหว่างรพีพงษ์และ อุเอสึงิ ฮารุ ในใจอุเอสึงิ ฮารุก็ตกใจ ในเวลาเดียวกันก็เป็นห่วง รพีพงษ์ขึ้นมา

หญิงสาวทั้งสองมองดูควันและฝุ่นที่นั่นอย่างกังวล แทบอยาก จะพุ่งเข้าไปดูว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับรพีพงษ์

“รพีพงษ์ นายต้องไม่เป็นอะไรนะ”
“คุณชาย คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ”

แทบจะในเวลาเดียวกัน หญิงสาวทั้งสองตะโกนสิ่งที่ตัวเองคิด ในใจออกมา วินาทีต่อมา พวกหล่อนทั้งคู่หันมาหน้ามาสบตากัน

ใบหน้าอุเอสึงิ ฮารุก็แสดงความเขินอายออกมา รีบก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะสบตากับฝนสุดาต่อไป

สิ่งที่ฝนสุดาคิดคาดเดาในใจของหล่อนไว้ไม่มีผิดว่า อุเอง ฮารชอบรพีพงษ์จริงๆด้วย

แต่เมื่อคิดดูแล้ว รพีพงษ์ดีพร้อมขนาดนี้ มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ ไม่ชอบ

ถึงอย่างไรก็ไม่ได้รพีพงษ์มาอยู่ดี จากนี้ไปหล่อนกลับยังมี เพื่อนที่ปรับทุกข์คนหนึ่ง

“ดูสิ มีคนเดินออกมาแล้ว!”

ผ่านไปไม่นาน เสียงอุทานก็ดังขึ้น และทุกคนก็มองไปที่บ้าน

ทันที

เห็นเพียงร่างที่ค่อยๆเดินออกมาจากฝุ่นควัน หลังจากหายใจ ไม่กี่วินาที ร่างนั้นก็ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน

“คือรพีพงษ์!”ฮารุฮิ กันตะตะโกน

ฝนสุดาและอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคนต่างก็ตัวสั่น หลังจากเห็นคน ที่เดินออกมาอย่างชัดเจน หินที่ทับถมอยู่ในใจก็ร่วงหล่นลงมา

เห็นเพียงรพีพงษ์อยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง มีรอยเลือดที่มุมปาก และบนใบหน้าเต็มไปด้วยฝุ่น ดูไปแล้วค่อนข้างลำบากใจ

เขาถือมุรามาสะที่เพิ่งแสดงพลังที่น่าทึ่งไว้ในมือข้างหนึ่ง และ มืออีกข้างก็ลากร่างของอุเอง ทาคิโนะ พร้อมกับเดินไปตรง หน้าทุกคนทีละก้าว

เมื่อเทียบกับรพีพงษ์แล้ว สภาพของอุเอง ทาคิโนะในเวลานี้ ถือได้ว่าน่าสังเวชกว่า

ทั้งใบหน้าของเขาปกคลุมเต็มไปด้วยเลือด ในตอนนั้นเพื่อที่ จะต้านทานพลังดาบของรพีพงษ์ เขากัดฟันแน่น และใช้ความ แข็งแกร่งจนถึงขีดจำกัด เส้นเลือดสีดำบนใบหน้าก็แตกออกมา ทันที

และร่างกายของเขาก็กลายเป็นอ่อนตัวลง เห็นได้ชัดว่าการ ปะทะกันเมื่อกี้นี้ รพีพงษ์เป็นฝ่ายอยู่เหนือกว่า เอาชนะอุเอง ทา คิโนะได้อย่างขาดรอย

อุเอง ทาคิโนะไม่มีกระดูกที่สมบูรณ์บนร่างกายอีกต่อไป รวม ทั้งเส้นเลือดบนใบหน้าก็แตกออก คนทั้งคนกำลังจะตาย เหลือ เพียงแค่ลมหายใจเท่านั้น เพียงแค่รพีพงษ์โจมตีเขาอีกครั้ง เขาก็ จะได้ไปเจอกับพญายม

ในไม่ช้า ควันและฝุ่นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของบ้านก็จางหายไป ทุกคนก็เห็นว่าบ้านที่รพีพงษ์และอุเอสุจิ ทาคิโนะต่อสู้กันได้ถูก แยกออกจากกัน และมีช่องว่างขนาดใหญ่ปรากฏต่อหน้าทุกคน ซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึง

ทุกคนคาดไม่ถึงว่าพลังอันยิ่งใหญ่เมื่อกี้นี้ของรพีพงษ์ จะยิ่งใหญ่มากถึงขั้นนี้ ที่สามารถแยกบ้านออกได้ในทันที ซึ่งเป็นเรื่อง ที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ

รพีพงษ์โยนอุเอสุจิ ทาคิโนะลงบนพื้น จากนั้นกวาดสายตา มองไปที่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้คนที่ถูกรพีพงษ์กวาดสายตา มองไปต่างก็เกิดความหวาดกลัวต่อรพีพงษ์ มีคนไม่น้อยก็ลุกยืน ตรงโดยไม่รู้ตัว

การต่อสู้ครั้งนี้สำหรับรพีพงษ์แล้ว ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้า ไม่มียาชั้นเลิศเม็ดนั้น ทำให้เขามีพละกำลังที่มั่นคง ท้ายที่สุด ใครจะแพ้ใครจะชนะก็ยังไม่แน่ใจ

การปะทะกันเมื่อกี้นี้ทำให้เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย แต่ อาศัยฤทธิ์ยาของยาชั้นเลิศ สภาพของเขาก็ยังดีกว่าอุเอง ทาคิ

โนะมาก

เขายื่นมือไปหยิบขวดเล็กๆออกมาจากเสื้อผ้า เทยาหลายเม็ด

จากด้านในออกมา แล้วใส่เข้าไปในปากของตัวเอง

ยานี้คือขอกับจิรภัทรตอนที่จะออกจากสำนักเทพยาเซียน หน้าที่หลักของมันคือคลี่คลายความรู้สึกของพลังส่วนที่เหลือ จากฤทธิ์ยาของยาชั้นเลิศ

เขาไม่ต้องการให้ตัวเองทำผิดพลาดอะไรเพราะทานยาชั้นเลิศ ดังนั้นจึงขอยานี้กับจิรภัทรก่อนจากไป

หลังจากทานยานี้แล้ว รพีพงษ์ก้มหน้ามองไปที่อุเอสึงิ ทาคิ โนะที่กำลังล้มนอนอยู่กับพื้น หยกโยงจิตแขวนอยู่บนหน้าอก ของเขา รพีพงษ์ก้มลงไป ยื่นมือไปถอดหยก โยงจิตออกจากคอของเขา

หลังจากยืนยันอย่างอาจารย์มอบเขาไม่ความแตกต่างกัน รพีพงษ์ใส่หยกนั้นลงในเสื้อผ้าของตัวเอง จากถอนหายใจด้วยความ โล่งอก

เป้าหมายที่

“แกได้ความชั่วมากมาย ฝึกฝนวิธีทางไสยศาสตร์ และได้ ทําความผิดครั้งใหญ่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนนักแต่มีธรรมในของตัวเองเช่นกัน ในฉัน ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องชีวิตความชั่วบนโลกอีก ต่อไป

รพีพงษ์ที่บนหน้าอกของเขา และหยุดลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเขา

ผู้คนรอบข้างที่เหตุการณ์นี้ สีหน้าเคร่งขรึม นายใหญ่ของตระกูลอุเอสิ่งน่าเกรงขามมากประเทศญี่ปุ่น ตายอยู่ตรงหน้าเขานี้

บนต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลสีขาวเคราสีขาว และชายชราอมตะเซียนกำลัง ยืนอยู่บนกิ่งไม้ มองไปรพีพงษ์ที่ไม่อธิบายไม่ได้

“แดนดั่งเทพ น่าสนใจ
ชายชราพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเคาะปลายเท้าเบาๆ กิ่งไม้

สั่นเล็กน้อย ร่างที่ยืนอยู่บนนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่รู้ ว่าไปทางไหน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ