พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่775 งั้นผมจะเล่นกับคุณ



บทที่775 งั้นผมจะเล่นกับคุณ

“เจ้า……เจ้าของ คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม มันซื้อร้านอาหารของ คุณแล้วจริงๆหรอ? มันไม่ได้ให้คุณช่วยมันแสดงละครตบตาใช่ ไหม?” ผลอุทัยหันไปถามเจ้าของร้าน

เจ้าของร้านหัวเราะ กล่าว “เป็นจริงแน่นอน ไม่งั้นผมเอา สัญญามาให้คุณดูไหม?”

ผลอุทัยเห็นเจ้าของจริงจัง รู้สึกว่าเขาไม่ได้โกหก เหงื่อเริ่มไหล

ออกจากหัว

สามารถซื้อร้านอาหารได้ตามใจชอบ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ตัวตนของรพีพงษ์นั้นไม่ธรรมดา แล้วที่เขาคิดว่ารพีพงษ์ใส่ชุด ธรรมดานั้น แล้วคิดว่าเขาไม่มีเงิน ดังนั้นท่าทีต่อรพีพงษ์จึง แสดงออกมาอย่างชัดเจน

แม้ตอนนี้พวกเขากำลังช่วยตระกูลจนกวีอยู่ แต่เค้าแค่ให้พวก เขาแยกอารียาออกจากรพีพงษ์เท่านั้น ตอนนี้ดูๆแล้วไม่น่าจะเป็น ไปได้ หากรพีพงษ์เกรี้ยวกราดกับพวกเขาล่ะก็ ตระกูลจนกวีจะ ต้องไม่สนใจเขาแน่ๆ

ดูออกว่าอรรจยายังไม่รู้ถึงความร้ายแรงของปัญญา แม้การที่ รพีพงษ์ซื้อร้านอาหารทำให้เธอตะลึง แต่ความคิดที่ว่าใครมา ก่อนมีสิทธิ์ก่อนนั้นทำให้เธอหาเหตุผลที่จะกดรพีพงษ์ได้แล้ว

“แม้แกจะซื้อร้านอาหารนี้ไว้แล้วแล้วไง นั่นมันก็แค่สามสิบล้านเท่านั้น ตระกูลจนกวีมีทรัพย์สินหลักหมื่นล้าน สามสิบเทียบ กับหมื่นล้าน ห่างกันเยอะ” อรรจยาโมโห ราวกับว่าหมื่นล้านเป็น ของเธออย่างไรอย่างนั้น

เพราะดูถูกรพีพงษ์ไว้ตั้งแต่แรก ผ่านไปเรื่อยๆ อะไรที่รพีพงษ์ ทำก็จะทำให้อรรจยาไม่พอใจทั้งหมด ดังนั้นตอนนี้อรรจยาได้ลืม เป้าหมายของตัวเองไปแล้ว เธอเพียงแค่อยากกอบกู้ศักดิ์ศรีของ ตัวเองต่อหน้ารพีพงษ์แค่เท่านั้น

ผลอุทัยเห็นอรรจยาพูดแบบนี้ ก็รีบดึงแขนของเธอไว้ กล่าว “พอล่ะ หยุดพูดได้แล้ว”

จากนั้นเขาได้มองไปที่รพีพงษ์ ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “รพีพงษ์ ขอ โทษจริงๆ พวกเราไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ เพราะพวกเราเห็น ประโยชน์จนงมหัวไม่ขึ้น แต่คุณวางใจได้พวกเราจะไม่ทำต่อไป แล้ว ขอคุณได้โปรดยกโทษให้เราด้วย”

รพีพงษ์กระตุกคิ้ว ไม่คาดคิดว่าผลอุทัยจะรู้สัจธรรม และ ขอโทษอย่างรวดเร็ว

และความจริงก็ปรากฏ ว่าเขาทำแบบนี้จิ๋วจะถูกต้อง หากยัง ทําต่อไปล่ะก็ ด้วยอารมณ์ของรพีพงษ์ จุดจบของพวกเขาไม่รู้จะ เป็นอย่างไร

“ผลอุทัย! คุณกล้าหน่อยสิ อะไรนิดอะไรหน่อยก็ขอโทษ! แม้ มันจะซื้อร้านอาหารได้แล้วไง เรามีแบ็คเป็นตระกูลจนกวีนะ คุณ ขี้ขลาดทําไมกัน!”

อรรจยารู้สึกไร้ศักดิ์ศรี ตอนนี้ผลอุทัยขอโทษรพีพงษ์ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกอับอายคนอื่น

“แบ็คของเราคือตระกูลจนกวีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ตระกูลจนกวี มาหาพวกเรา ก็เพียงเพราะพวกเรารู้จักรพีพงษ์ อย่าไร้เดียงสา อีกเลย เป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราจะมีปัญหานะ!” ผลอุทัยกล่าว

อรรจยาโกรธแค้น แม้เธอจะรู้ว่าตัวเองไม่มีเงินเท่ารพีพงษ์ แต่ ถ้าเธอไม่ระบาย เธอก็จะรู้สึกอึดอัด

ในขณะที่ผลอุทัยกำลังขอร้องอรรจยาอยู่นั้น มีเสียงดังมาจาก ด้านนอกร้านอาหาร หลายคนหันไปดู พบว่าเป็นชายสวมสูทสี ดาเดินเข้ามา

หลังจากที่คนพวกนี้เข้ามาแล้วนั้น ก็เข้าแถวเป็นสองแถวจาก นั้นครนสวมสูทสีขาว ใส่แว่นกันแดดก็เดินเข้ามา แลดูเอิกเกริก

อรรจยาเห็นครนเดินเข้ามา ก็ตาเป็นประกาย จากนั้นก็ยิ้ม

สะใจให้รพีพงษ์ “เจ้าสำนักการนมาด้วยตัวเอง ดูว่าแกจะโอ้อวด

ยังไงอีก!”

ไม่นานครนก็เดินมาถึงด้านหน้าของหลายคน ยิ้มพลางถอด แว่นกันแดดของตัวเองออก

“ทุกท่านแลดูมีความสุขนะ มีทราบว่าถ้าเพิ่มผมเข้าไป ทุก ท่านจะถือสาไหม?” ครนยิ้มพลางกล่าว เขาจ้องไปยังเหตุการณ์ ด้านหน้า หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์ซื้อร้านอาหารพูคายแล้ว เขาก็รู้ ว่าผลอุทัยและอรรจยาทั้งสองทำไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงได้มาเอง

“ไม่ถือสาไม่ถือสา เจ้าสำนักมาได้เวลาพอดี ไอ้นี่มันซื้อร้านอาหารแล้วยโสโอหังสุดๆ คุณออกหน้าเอง มันจะไม่ยโสโอหัง อีก” อรรจยาขมวดคิ้วพลางกล่าว

ครนบินปาก มองไปที่รพีพงษ์ ในสายตาเขา ร้านอาหารร้าน เดียว ไม่ถือว่าสําคัญอะไร

รพีพงษ์ไม่พูดอะไร เจ้าของเรื่องที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวว่า “คำรน คุณน่าจะรู้นะว่าที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ

การนหัวเราะ กล่าว “ทำไม ยังโมโหกับเรื่องในอดีตอีกหรอ แกว่าแกโชคดีนะที่เป็นเจ้านาย ใจกว้างๆหน่อย ไม่งั้น ธุรกิจไม่มี ทางขยายได้หรอก”

เจ้าของร้านดูแคลน ดูความไม่สบายใจ

นานมาแล้ว เจ้าของร้านนี้มีเรื่องบาดหมางกับครน ร้าน อาหารนี้ของเขามีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองเย็นหยาง อยากจะ ขายออกก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่เพราะเจ้าของร้านทำผิดต่อ ครน ดังนั้น ในเมืองเย็นหยาง ไม่มีใครกล้าซื้อต่อร้านอาหารนี้ ด้วยเหตุนี้เจ้าของร้านจึงทำได้เพียงประคับประคองไปเท่านั้น

และที่ทั้งสองมีเรื่องบาดหมางกัน เพราะครนอยากใช้เงิน จํานวนแค่ห้าล้านซื้อร้านอาหารไว้ เจ้าของร้านไม่เห็นด้วย

“คุณน่าจะเป็นรพีพงษ์สินะ เอาจริงๆ ภรรยาของคุณสวยจริง พวกเขาทั้งสองน่าจะบอกเป้าหมายของผมให้คุณฟังแล้ว เราไม่ ไร้สาระล่ะ ซื้อร้านอาหารไม่สำคัญอะไร คุณยังวัยรุ่นอยู่ ดังนั้นมี บางเรื่อง ควรจะหลีกทางให้ผู้ใหญ่ ไม่งั้นอาจเสียเปรียบได้นะ” ครนกล่าวอย่างดูแคลน
“หลีกให้คุณ? หน้าไม่อายจริงๆ ทำไมคุณไม่ร้องขอไอศกรีม กับผมล่ะ?” รพีพงษ์มองครนพลางกล่าว

การนหน้าบึ้ง กล่าว “ไว้หน้าแล้วยังจะหน้าด้านอีก!”

เจ้าของร้านที่อยู่ข้างๆกล่าวทันใดว่า “เกรงว่าคนที่ไว้หน้าแล้ว ยังจะหน้าด้านหนะคือคุณ ค่าโน ผมขอให้คุณรีบออกไปจากที่นี่ ซะ ไม่งั้นรอแกเสียใจ ล่ะจะไม่ทันการเอา

เมื่อตอนที่เซ็นสัญญานั้น เจ้าของร้านได้รู้ถึงตัวตนของรพี พงษ์แล้ว ดังนั้นจึงได้ไม่ลังเลที่จะขายร้านอาหารนี้ให้กับรพีพงษ์

ในเมืองเย็นหยางตระกูลจนกวีเป็นตระกูลที่ใครก็เทียบไม่ได้ จริงๆ แต่ถ้าเทียบกับตระกูลลัดดาวัลย์เกียวโตแล้ว ห่างกันมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่าครนจะสร้างปัญหาใดๆ ต่อหน้ารพีพงษ์ ได้

“ผมเสียใจ? ตลก เมืองเย็นหยาง มีคนที่จะทำให้ผมร เสียใจด้วยหรอ? มีแต่ปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละ ที่กล้าพูดแบบนี้ กับผม” ครบกล่าวอย่างไม่พอใจ

เจ้าของร้านอยากจะเปิดเผยตัวตนของรพีพงษ์ออกมาในตอน นั้น ให้ครนได้รู้ว่าตัวเองบ้าขนาดไหน รพีพงษ์ขวางเขาเอาไว้

“พูดจริงๆ คุณเป็นนายใหญ่ของตระกูลจนกวีได้ ก็ทำให้คนอื่น ตะลึงได้จริง แต่ในเมื่อคุณมั่นใจขนาดนี้ งั้นผมก็จะเล่นกับคุณ หวังว่าถึงเวลานั้นคุณจะไม่คุกเข่าอ้อนวอนผมนะ”

รพีพงษ์พูดจบ ก็หยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรหาท่านคทา
คนนี้มันสนใจในภรรยาของตน ถ้ารพีพงษ์ไม่ทำอะไรสักอย่าง ล่ะก็ มันก็น่าอับอายเกินไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ