พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่757 ของสิ่งนั้น



บทที่757 ของสิ่งนั้น

หลังจากที่ปภาวิชญ์ใต้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็แสดงสีหน้าโกรธ ออกมา เขาเป็นนายใหญ่อันดับหนึ่งของตระกูลศิลปะการต่อสู้ โบราณ กลับถูกรุ่นน้องทุบตี วันนี้ไม่กอบกู้เกียรตินี้คืนกลับมา จากนี้ไป อเสียงของตระกูลภูธน ก็จะเสียหาย

“แกอย่าคิดว่าแกได้เปรียบเล็กน้อยก็มีสิทธิ์มาใช้น้ำเสียงแบบ นี้พูดกับฉัน ท่วงท่าเมื่อกี้นี้ มีพลังอานุภาพมากก็จริง แต่จาก สภาพของแก น่าจะใช้ได้ไม่กี่ครั้งเองใช่มั้ย?”

“การต่อสู้ที่แท้จริง ไม่ใช่ว่าหนึ่งท่าสองท่าก็สามารถตัดสิน ชนะแพ้ได้!”

หลังจากพูดจบ ปภาวิชญ์พุ่งไปหารพีพงษ์ พลังอานุภาพ

แข็งแกร่งกว่าเมื่อกี้นี้อย่างเห็นได้ชัด

ท่าทางของรพีพงษ์ดูไม่ใส่ใจ ก็พุ่งไปหาปภาวิชญ์ การต่อสู้ครั้งใหญ่ กำลังจะเริ่มขึ้น

ทุกคนในเหตุการณ์กลัวที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ใน ครั้งนี้ ต่างก็ถอยห่างออกไปอย่างมีสติ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ ยังคงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากบนตัวของรพีพงษ์และปภาวิชญ์ทั้ง สองคน

“นี่ก็คือการต่อสู้ในระดับปรมาจารย์ ช่างน่ากลัวจริงๆ หาก การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป เกรงว่าลานบ้านนี้จะถูกรื้อถอนไปหมด”

“ท่วงท่าเมื่อกี้นี้ของรพีพงษ์เท่จริงๆ แต่พวกคุณว่าเขาและปภา วิชญ์ สุดท้ายใครจะเป็นคนชนะ?” “น่าจะเป็นปภาวิชญ์ เมื่อกี้นี้ปภาวิชญ์ก็บอกแล้วว่า ท่วงท่า

แบบเมื่อกี้นี้ของรพีพงษ์คงจะใช้ได้ไม่กี่ครั้ง อยากจะเอาชนะเขา

ให้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย

ทุกคนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด รู้สึกว่าสิ่งที่พูดนั้นสมเหตุสมผล

ครองสุขมองดูการต่อสู้ที่กลางลานบ้าน ในใจก็ทอดถอนใจ คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ ขึ้นมาก็ทำให้ปภาวิชญ์ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

แต่ในใจเขายังคงรู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปภาวิชญ์ ที่ สำคัญขึ้นมาก็ใช้ท่วงท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมา ไม่ใช่ การเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด

“รพีพงษ์ขึ้นมาก็ใช้ท่วงท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมา ปภาวิชญ์คงจะต้องมีการเตรียมพร้อมแล้ว เดี๋ยวรพีพงษ์ใช้อีก ผลคงจะไม่ดีเท่ากับการโจมตีก่อนหน้านี้แน่นอน ผู้อาวุโสผนึก สิน เห็นได้ชัดว่าเขาให้โอกาสท่านได้ออกมือแล้ว”ครองสุข กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ผนึกสินพยักหน้า ไม่ได้ละสายตาไปจากตัวรพีพงษ์เลย เขามัก จะรู้สึกว่า รพีพงษ์ในสภาพนี้ ดูเหมือนไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด

“นี่คงต้องเป็นภาพลวงตาของฉัน ถ้าแบบนี้แล้วเขายังไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นเด็กคนนี้จะทรงพลังขนาดไหน?” ผนึกสินพึมพำกับตัวเอง

ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป ปภาวิชญ์ค่อยๆรู้สึกถึงแรง กดดันที่มาจากรพีพงษ์ พลังในร่างกายของเด็กคนนี้ดูเหมือนจะ ไม่มีที่สิ้นสุด อยู่ในสถานะสูงสุดอยู่เสมอ และไม่มีวี่แววว่าจะ อ่อนแอลง

รพีพงษ์สังเกตเห็นปัญหานี้มาได้เมื่อไม่นานนี่เอง เขาพบว่า พลังวิเศษเสนไม่เพียงแต่มีพลังมากกว่าเนยจิ้งหลายเท่า แต่ยัง อยู่ได้นานกว่าเนยจิ้งมาก ยิ่งเข้าใจลึกซึ้งเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสัมผัส ได้ถึงความสุดยอดของพลังวิเศษเสน ยังไม่ใช่สิ่งที่เน่ยจิ้งจะ เทียบได้

ให้ตายเถอะ ไม่สามารถเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่อย่างนั้นถ่วง เวลาไป ก็จะต้องถูกเด็กคนนี้ถ่วงจนตาย ปภาวิชญ์พึมพำในใจ

ต่อจากนั้น เขาก็รวบรวมพลังเน่ยจิ้งภายในร่างกายไว้ที่หมัด ของตัวเอง หลังจากเห็นโอกาส ก็ซกกำปั้นไปที่รพีพงษ์

“หมัดมังกรร้อง!”

เมื่อรพีพงษ์เห็น ก็ไม่ได้ชักช้า ส่วนสำหรับความเคารพที่มีต่อ คนที่เรียกว่าอันดับหนึ่งของแวดวงศิลปะการต่อสู้ ตอนนี้เขาก็ยัง ใช้ท่วงท่าที่ตัวเองเรียงไว้อันดับที่สองออกมา

“เชิญพระจันทร์!”

เมื่อทั้งสองปะทะกัน คลื่นพลังอีกลูกก็กระจายไปรอบๆ ทุกคนดูเหมือนราวกับจะเห็นการปรากฏตัวของพลังของทั้งสองคน มี หลายคนหวาดกลัวมากจนวิ่งไปที่ด้านนอกของลานบ้าน

ความผันผวนได้หายไป รพีพงษ์ค่อยๆเก็บฝ่ามือ ลมปราณ เทียบกับเมื่อกี้นี้แล้ว มีความปั่นป่วนเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ปภาวิชญ์ในทางกลับกัน ในเวลานี้เลือดพลุ่งพล่าน ใบหน้าที่ แดงระเรื่อ แขนที่ปะทะกับรพีพงษ์เมื่อกี้นี้ก็สั่นไม่หยุด เป็นเวลา นาน ปภาวิชญ์ไม่สามารถอดกลั้นได้ กระอักเลือดหนึ่งค่พ่นออก จากปาก

ในขณะที่ทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึง โดยเฉพาะผู้คนที่ อยู่ในแวดวงศิลปะการต่อสู้ ตอนนี้คนอันดับหนึ่งของแถบเมือง ชลาลัย ได้รับบาดเจ็บจากเงื้อมมือของรพีพงษ์ แต่รพีพงษ์ยังคง ดูสงบและผ่อนคลาย ราวกับว่าไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด นี่มัน เกินความรู้ความเข้าใจที่พวกเขามีต่อคนอันดับหนึ่งของศิลปะ การต่อสู้ในแถบเมืองชลาลัย

“มันน่าตกใจจริงๆ รพีพงษ์กลับทำให้ปภาวิชญ์ได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นฉันคิดว่ารพีพงษ์ได้เปรียบเพียงเพราะใช้กลยุทธ์ที่คู่ต่อสู้ คาดไม่ถึง ตอนนี้ดูเหมือนว่า ปภาวิชญ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรพีพงษ์”

“หลังจากผ่านวันนี้ไป อาจจะสร้างความตกตะลึงในศิลปะการ ต่อสู้ของแถบเมืองชลาลัยไม่น้อย และคนที่ถูกสมญานามว่า อันดับแรกในศิลปะการต่อสู้ของแถบเมืองชลาลัย เกรงว่าจะถูก พรากไปจากหัวของปภาวิชญ์”

ครองสุขจ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้

เขาหันหน้ามองไปที่ผนึกสินแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า “ผู้ อาวุโสผนึกสิน พวกเรา ดูเหมือนจะประเมินผู้ชายคนนี้ไป

ในเวลานี้สีหน้าของผนึกสินที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ในหัว ของเขาย้อนคิดถึงท่วงท่าที่รพีพงษ์เพิ่งใช้ออกมาเมื่อกี้นี้ แม้แต่ เขา ต้องการใช้ท่วงท่าที่ทรงพลังเช่นนี้ แต่ก็ต้องใช้เวลานานใน การสะสมพลังงาน ในระหว่างการต่อสู้ เป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายตรง ข้ามจะให้โอกาสเขา

แต่รพีพงษ์กลับใช้ท่วงท่านออกมาได้อย่างง่ายดาย ในระดับ แบบนี้ แม้แต่เป็นเขา เกรงว่าจะดีไม่เท่า

ตอนแรกเขายังอยากรอออกมือช่วยรพีพงษ์ตอนที่สู้ปภาวิชญ์

ไม่ไหว เพื่อทำให้รพีพงษ์รู้สึกดีประทับใจ ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขา

จะไม่มีโอกาสได้ลงมือ

“คิดผิดจริงๆ ดูเหมือนครั้งนี้ว่าจะไม่สามารถเชิญชวนให้เด็ก คนนี้เข้ามาอยู่ในกลุ่มสิงโตของพวกเรา แต่ครั้งนี้ก็ทำให้เรารับรู้ ถึงศักยภาพของเด็กคนนี้ใหม่อีกครั้ง กลุ่มสิงโตของฉันต้องได้ ตามที่ปรารถนา หลังจากที่กลับไปฉันจะรายงานเรื่องนี้ ให้เจ้า สํานัก รพีพงษ์ กลุ่มสิงโตของฉันเอาแน่!”ผนึกสินเอ่ยปาก

ครองสุขเต็มไปด้วยความอิจฉา เท่าที่เขารู้ นับตั้งแต่ก่อตั้ง กลุ่มสิงโตมา ไม่เคยมีใครได้รับความสนใจเช่นนี้มาก่อน

ปากของปภาวิชญ์มีเลือดไหล มองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่พอใจ เขาเป็นคนอันดับหนึ่งของศิลปะการต่อสู้ในแถบเมืองชลาลัยกลับพ่ายแพ้อยู่ในเงื้อมมือของเด็กที่อายุเพียงยี่สิบกว่าๆ ถ้า เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เพื่อนเก่าของเขาคงจะหัวเราะจนฟัน หลุด

รพีพงษ์จ้องมองปภาวิชญ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า “แกแพ้แล้ว ถ้าหากเมื่อกี้ฉันเอาจริง แกไม่ใช่แค่กระอักเลือดธรรมดา แกยัง อยากจะแก้แค้นให้น้องชายแกอยู่เหรอ?”

ปภาวิชญ์แสดงรอยยิ้มที่บ้าคลั่งบนใบหน้า เอ่ยปากพูดว่า “ตลกสิ้นดี ฉันเป็นคนอันดับหนึ่งของศิลปะการต่อสู้ในแถบเมือง ชลาลัย นายใหญ่ของตระกูลภูธน จะพ่ายแพ้ให้เด็กน้อยอย่างแก ได้อย่างไร”

“ความแข็งแกร่งและความสามารถของแกบรรลุมาถึงระดับที่ ทำให้คนตกตะลึง แต่สิ่งที่น่าเสียคือ แกยังคงอยู่ในระดับแดน ปรมาจารย์เท่านั้น ยังไม่ได้ก้าวผ่านขั้นตอนนั้น ถ้าหากให้เวลา กับแกมากพอ บางทีแกอาจสามารถทำได้ แต่แกเป็นศัตรูของ ตระกูลภูธน ถ้าวันนี้ไม่กำจัดแก จากนี้ไปแกจะกลายเป็นหายนะ ของตระกูลภูธน ดังนั้นฉันจำเป็นต้องฆ่าแก

คนของตระกูลภูธนที่มาพร้อมกับปภาวิชญ์หลังจากได้ยินคำ พูดของปภาวิชญ์ สีหน้าก็ถอดสี

หรือว่านายใหญ่จะใช้ของสิ่งนั้นเหรอ?” หลายคนกังวล

“บีบคั้นนายใหญ่ถึงขั้นนี้ รพีพงษ์คนนี้ เป็นคนแบบไหนกัน น่า เสียดาย เมื่อนายใหญ่ใช้ของสิ่งนั้น ระดับต่ำกว่าปรมาจารย์ ไม่มีใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ รพีพงษ์จะทรงพลังแค่ไหน ก็มีเพียงตายทางเดียว

คนทุกคนในตระกูลภูธนสายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และมองไปที่ รพีพงษ์ เต็มไปด้วยความเห็นใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ