บทที่748 อย่าได้ถือสาสุนัขเลย
เสียงของหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ปิดบังเลย รพีพงษ์พวกเขาทั้งสาม คนได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากที่ไออ้วนและดำเกิงได้ยิน ต่างก็ หยุดชะงักทันที และหันหน้ามองไปทางด้านข้าง
ชายหนุ่มไม่กี่คนที่กำลังนั่งอยู่รอบข้างของหญิงสาว ในเวลานี้ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่รพีพงษ์พวกเขาทั้งสามด้วยสีหน้าเยาะ เย้ย ไม่รู้สึกว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดมีอะไรที่ไม่เหมาะสมเลย
“ทำไมล่ะ? พวกเรากินอาหาร ขวางทางคุณรึเปล่า?”ไออ้วน ตอบกลับทันที
ในฐานะคนที่รอดชีวิตอยู่ในคุกที่ห้ามาเป็นเวลานาน นิสัย
ใจคอของเขาจะว่านอนสอนง่ายก็ต่อเมื่ออยู่ตรงหน้ารพีพงษ์
ตอนนี้เขาออกมาจากคุกที่ห้า เผชิญหน้ากับคนธรรมดาเหล่านี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อน เมื่อกี้นี้เขาก็ คงจะตบหน้าเด็กผู้หญิงคนนั้นทันที
“ขว้างหูขว้างตาฉัน ทำไม ว่าให้แกไม่กี่คำก็ไม่ได้ ฉันไม่ไล่แก ออกไปตรงๆก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว หมูโง่”หญิงสาวพูดอย่างไม่ แยแส
ไออ้วนตบโต๊ะตรงๆ ยืนขึ้นมา แล้วตะโกนใส่หญิงสาวว่า “เย็ดแม่ง แกด่า ใครว่าหมูโง่หา?”
“ด่าแกไง แล้วจะทำไม แกไม่พอใจเหรอ? ผู้หญิงอย่างฉันไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หรือว่ายังต้องกลัวแกด้วยเหรอ?” หญิงสาวไม่ ได้แสดงความอ่อนแอแม้แต่น้อย และตะโกนใส่ไออ้วน
ในเวลานี้ผู้ชายที่นั่งร่วมโต๊ะกับหญิงสาวยืนขึ้น และบางคนถึง กับโชว์กล้ามของตัวเองให้กับไออ้วน พร้อมกับท่าทางที่ยั่วยุบน ใบหน้า
“ยังโชว์กล้ามเนื้อด้วย ทำไม หรือว่าพวกแกคิดว่าอย่างพวก แก จะสามารถเอาชนะเขาได้เหรอ? น่าขำสิ้นดี”ดำเกิงจ้องไปที่ ผู้คนที่โต๊ะนั้น พูดอย่างติดตลก
“ลองดูมั้ยล่ะ?”ชายคนหนึ่งจ้องไปที่ไออ้วนและดำเกิงทั้งสอง
คนแล้วตะโกน
ไออ้วนกำลังจะลงมือกับผู้ชายที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีกลุ่มนี้ ไอ อ้วนที่ไม่ได้แสดงพลังจริงๆออกมา คงจะคิดว่าเขาเป็นคนไม่เอา ไหน
อยู่ในคุกที่ห้า เขามีเรื่องกับคนอื่นไม่ได้ ทำได้เพียงหลบหลีก หรือว่าหลังจากที่ออกมา เขาจะไม่สามารถมีเรื่องแม้แต่กับพวก คนไร้อารยะได้เลยเหรอ?
“ไออ้วน” ในตอนนี้รพีพงษ์ตะโกนใส่ไออ้วน ไออ้วนหันหน้า มองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เห็นรพีพงษ์ส่งสัญญาณให้เขานั่งลง ถึงได้ไม่ลงมือ
“สุนัขชอบเห่าใส่คน ถ้านายถือสาสุนัข ก็เห็นได้ชัดว่านายโง่ เกินไป นั่งลงกินต่อเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปาก
“แกด่าใครว่าสุนัขหา? คนบ้านนอกอย่างพวกแกสามคน ใน หาที่ตายเหรอ?”หญิงสาวตะโกนใส่รพีพงษ์อย่างโกรธๆ ในทันที
“ฉันล่าสุนัขนะ ทําไมล่ะ หรือว่าคุณจะต้องการบอกว่าคุณก็คือ สุนัขตัวนั้นเหรอ?”รพีพงษ์ถามกลับ
คราวนี้หญิงสาวจะรับก็ไม่ใช่ไม่รับก็ไม่ใช่ ใบหน้าโกรธจน
หน้าเขียว
“พี่ชายทั้งหลาย พวกพี่ควบคุมดูคนบ้านนอกทั้งสามนี้หน่อย พวกเขาหยิ่งผยองเกินไปแล้ว” หญิงสาวไม่มีทางเลือก นอกจาก ขอความช่วยเหลือจากผู้ชายไม่กี่คน
หนึ่งในผู้ชายไม่กี่คนที่เป็นผู้นำจ้องมองรพีพงษ์แวบหนึ่ง ส่ง เสียงเย็นชาว่า: “ถ้าพวกแกสามคนไม่อยากมีเรื่อง ตอนนี้ก็รีบมา ขอโทษน้องสาวของฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่ เกรงใจ”
“อย่ามาไม่รู้ผิดชอบชั่วดีที่นี่ ถ้าหากเสียเวลาอีกต่อไป ฉันรับ ประกันได้ว่าพวกแกไม่มีทางออกจากประตูนี้ไปได้ รพีพงษ์จ้อง ผู้นำคนนั้นแวบหนึ่ง ในแววตาก็ปรากฏอาฆาต
รัศมีที่มองไม่เห็นปรากฏออกมาจากบนตัวรพีพงษ์ อุณหภูมิ ในร้านอาหารทั้งหมดดูเหมือนจะลดลงไม่กี่องศา
หญิงสาวและชายเหล่านั้นตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าแค่แววตา เดียวของรพีพงษ์ ก็ทำให้ในใจของพวกเขาเกิดหวาดกลัว ในใจ ก็มีความเหลือเชื่อ
“แกด่าใครว่าสุนัขหา? คนบ้านนอกอย่างพวกแกสามคน ใน หาที่ตายเหรอ?”หญิงสาวตะโกนใส่รพีพงษ์อย่างโกรธๆ ในทันที
“ฉันล่าสุนัขนะ ทําไมล่ะ หรือว่าคุณจะต้องการบอกว่าคุณก็คือ สุนัขตัวนั้นเหรอ?”รพีพงษ์ถามกลับ
คราวนี้หญิงสาวจะรับก็ไม่ใช่ไม่รับก็ไม่ใช่ ใบหน้าโกรธจน
หน้าเขียว
“พี่ชายทั้งหลาย พวกพี่ควบคุมดูคนบ้านนอกทั้งสามนี้หน่อย พวกเขาหยิ่งผยองเกินไปแล้ว” หญิงสาวไม่มีทางเลือก นอกจาก ขอความช่วยเหลือจากผู้ชายไม่กี่คน
หนึ่งในผู้ชายไม่กี่คนที่เป็นผู้นำจ้องมองรพีพงษ์แวบหนึ่ง ส่ง เสียงเย็นชาว่า: “ถ้าพวกแกสามคนไม่อยากมีเรื่อง ตอนนี้ก็รีบมา ขอโทษน้องสาวของฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่ เกรงใจ”
“อย่ามาไม่รู้ผิดชอบชั่วดีที่นี่ ถ้าหากเสียเวลาอีกต่อไป ฉันรับ ประกันได้ว่าพวกแกไม่มีทางออกจากประตูนี้ไปได้ รพีพงษ์จ้อง ผู้นำคนนั้นแวบหนึ่ง ในแววตาก็ปรากฏอาฆาต
รัศมีที่มองไม่เห็นปรากฏออกมาจากบนตัวรพีพงษ์ อุณหภูมิ ในร้านอาหารทั้งหมดดูเหมือนจะลดลงไม่กี่องศา
หญิงสาวและชายเหล่านั้นตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าแค่แววตา เดียวของรพีพงษ์ ก็ทำให้ในใจของพวกเขาเกิดหวาดกลัว ในใจ ก็มีความเหลือเชื่อ
รพีพงษ์กลอกตาใส่เขา แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
ด้านนอกร้านอาหาร หลังจากที่หญิงสาวและผู้ชายไม่กี่คนออก ไป ต่างก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นที่มีต่อบนร่างกายตัว เองได้หายไปในพริบตา
“พวกผู้ชายไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้าของ ร้านอาหาร ฉันจะจัดการพวกเขาอย่างโหดๆแน่ ท่าทางกินข้าว ของพวกเขา เหมือนกับหมูจริงๆ กลับรังเกียจที่ฉันว่าให้พวกเขา อีก”หญิงสาวพูดอย่างเคียดแค้นรู้สึกไม่เป็นธรรม
“เอาล่ะ เธอก็อย่าได้ถือสากับพวกคนบ้านนอกคอกนาเลย ดู ท่าทางที่พวกเขากินอาหารก็รู้แล้ว คงจะเป็นคนครอบครัวยากจน แน่ๆ พวกเขาได้กินข้าวมื้อหนึ่งแบบนี้ ไม่แน่อาจจะต้องเก็บหอม รอมริบนานมาก กินวิธีแบบนี้ก็พอเป็นข้อแก้ตัวได้ หัวหน้าของ ผู้ชายหลายคนกล่าว
“ชิ ครอบครัวยากจนแล้วทำไมล่ะ พวกเขายากจนก็ไม่ใช่ ความผิดของฉัน คนแบบนี้ ยากจนตายก็สมควรแล้ว”หญิงสาว พูดอย่างไม่สนใจ
“ครั้งนี้ที่พวกเรามาก็เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงฉลองของลูกสาว ตระกูลลัดดาวัลย์ที่เกียวโต ทางที่ดีอย่าได้มีเรื่องจะดีกว่า ไม่งั้น เดี๋ยวกลับไปก็จะถูกพ่อตำหนิอีก โดยเฉพาะเธอเลยธยานีย์ วันๆ เอาแต่หาเรื่องให้พวกเรา”ผู้ชายพูด
หญิงสาวทำหน้าทะเล้นใส่เขาทันที
คนพวกนี้ เป็นคนที่มาร่วมงานเลี้ยงตระกูลลัดดาวัลย์จากเมือง ดวงแก้วซึ่งอยู่ใกล้กับเกียวโต
พวกเขาทั้งหลายมาจากตระกูลนบวรผู้นำธุรกิจของเมืองดวง แก้ว หลายคนนี้เป็นลูกๆของประฏนายใหญ่ของตระกูลนบวร พ่อ เดียวกันแต่คนล่ะแม่ คนที่เป็นหัวหน้าคือลูกชายคนโตของประตู ชื่อว่าปานศักดิ์ และหญิงสาวชื่อว่าธยานีย์ เป็นลูกสาวคนเล็กใน ตระกูล
“ได้ยินมาว่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์อายุก็เพิ่งจะยี่สิ บกว่าๆ ก็น่าจะสุภาพมีสติปัญญาความรู้แต่ชอบอิสระ สง่างามมี เสน่ห์ดึงดูดผู้คน ฉันแทบรอไม่ไหวอยากจะพบเขาแล้ว”ธยานีย์ พูดด้วยความตื่นเต้น
“น้องสาว นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์เขามีลูกแล้ว การ แสดงออกของเธอคืออะไร? “พี่ชายของธยานีย์กล่าวด้วยรอยยิ้ม ธยานีย์เชิดหน้าใส่เขาทันที แล้วพูดว่า “มีลูกแล้วยังไงล่ะ ฉัน พูดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ”
“เอาล่ะ ไม่พอได้แล้ว ตรงนั้นมีฟิตเนสเซนเตอร์อยู่ พวกเราไป ดูกันเถอะ พอดีช่วงกำลังฝึกฝนเพิ่มกล้ามเนื้อ แสดงให้พวกเธอ ดู”ปานศักดิ์เอ่ยปาก
หลังจากที่รพีพงษ์พวกเขาสามคนทานอาหารเสร็จ เดินออก จากร้านอาหาร ไออ้วนเรอออกมาอย่างพอใจ เอ่ยปากถามว่า “พวกเราจะไปไหนกันต่อเหรอ?”
นําเกิงเหลือบมองไปรอบๆ และเอ่ยปากว่า: “ตรงนั้นมีฟิตเนส เซนเตอร์อยู่ ฉันยังไม่เคยไปมาก่อน พวกเราไปดูพวกคนที่ออก กำลังกายกันเถอะกับคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างเรา มีอะไร ที่แตกต่างกัน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ