บทที่739 วิกฤตของตระกูลลัดดาวัลย์
เกียวโต หน้าประตูคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์
บนเวทีที่สร้างขึ้นมาเฉพาะกิจ ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านบน มอง ไปยังประตูใหญ่ของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์
ด้านล่างเวที ได้จัดวางโต๊ะเก้าอี้ไว้ รวมทั้งร่มกันแดด สี่ท่าน กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดื่มชาอย่างผ่อนคลาย
หนึ่งในผู้เฒ่าท่านหนึ่ง เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักชิงแส ปธานิน
กลิ่นอายของแดนครึ่งปรมาจารย์ออกมา หนึ่งในสาม มีสอง คน ที่มีศักยภาพ เทียบเท่ากับปธานิน ที่เหลืออีกคน ศักยภาพดี กว่าปธานินทั้งสาม
ดูออก ปธานินทั้งสามนอบน้อมต่อท่านนั้นอย่างหาที่เปรียบไม่
ได้
ถ้ามีคนเข้าใจเข้าใจศิลปะการต่อสู้โบราณ เห็นสี่คนนี้นั่งด้วย กัน ก็จะต้องตกใจอย่างแน่นอน
นอกจากโกมุทแห่งสำนักชิงแส และอีกสองคนที่ศักยภาพใกล้ เคียงกัน แบ่งเป็นญาณวุฒิผู้อาวุโสของหมัดบาจิควาน เจ้าสำนัก สัจกรของสำนักฉีซาง ความสามารถของทั้งคู่แดนครึ่งเป็น ปรมาจารย์
และท่านนั้นที่ศักยภาพสูงกว่าสามคนนั้น ชื่อจิรภาส เป็นตระกูลขุนนางของศิลปะการต่อสู้โบราณ ยอดฝีมือของตระกูลภู ธนเป็นปรมาจารย์ยอดเยี่ยมที่เป็นของแท้สมน้ำสมเนื้อ
ท่านทั้งสี่คนนี้ ล้วนเป็นยอดฝีมือแห่งแถบเมืองชลาลัย สำนัก ชิงแส หมัดบางควานและสำนักจีชาง ถ้าว่าเป็นตัวแทนของแถบ เมืองชลาลัย และตระกูลภูธนเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณที่ โด่งดังตระกูลหนึ่ง
ปกติ ตระกูลขุนนางจะไม่ออกหน้าออกตา แต่ครั้งนี้การรวมตัว กันของทั้งสี่ เพื่อรพีพงษ์
ขณะนี้ผู้ที่อยู่บนเวที คือวัยรุ่นที่โดดเด่นของตระกูลภูธนชื่อติณ
ณภพ อายุไม่ถึงสามสิบปี มีฝีมือระดับเนยจึงขั้นกลาง “ศิษย์ของวฤนท์ธม รีบออกมาต่อสู้กับฉัน! มุดอยู่แต่ในรู ไม่
อายบ้างหรือไง!”
ติณณภพจุดตันเถียน ท้องน้อย) ใช้เสียงดังมากตะโกนเข้ามา ในคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ทั้งคฤหาสน์ของตระกูล ลัดดาวัลย์ดังกึกก้องไปด้วยเสียงของติณณภพ
“คนรุ่นหลังในครอบครัวของปรมาจารย์ติณณภพ เป็นคนเก่ง ที่หาได้ยาก อายุไม่ถึงสามสิบปี ก็สามารถเป็นเนยจึงขั้นกลางได้ แล้ว เชื่อว่าใช้เวลาไม่กี่ปี ตระกูลภูธนจะมีปรมาจารย์เพิ่มอีก หนึ่ง” ปธานินยิ้มพลางกล่าวต่อจิรภาส
“พรสวรรค์ของเด็กนี้ไม่เลวจริงๆ แต่ถ้าอยากเป็นปรมาจารย์ ในช่วงไม่กี่ปี ค่อนข้างยาก” จิรภาสกล่าว แต่ใบหน้าเต็มไปด้วย ความสะใจ
“ศิษย์น้องของวฤนท์ธมไม่กล้า หลังจากที่ครั้งที่แล้วแพ้ติดต่อ กันสามครั้ง ก็ไม่กล้าออกนอกบ้านอีกต่อไป” ญาณวุฒิกล่าว อย่างเหยียดหยาม
“เดิมวฤนท์ธมเป็นคนขี้ขลาด หลายปีมานี้ พวกเราพยายาม หาเขา แต่กลับไม่มีแม้กระทั่งเบาะแส ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ศิษย์พี่ ปธานินรู้ว่าตระกูลลัดดาวัลย์มีศิษย์น้องอย่างวฤนท์ธม พวกเรา จะหาวฤนท์ธมเจอ ก็ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่” สัจกรพูดตาม
ปธานินดูแคลน กล่าว “ลูกศิษย์ของฉันตายด้วยฝีมือของว นท์ธม คนนั้นไม่เคยแสดงตัว ปัจจุบันคฤหาสน์ถูกพวกเราเพ่งเล็ง ไว้ ถ้าเขาไม่อยากให้คนของตระกูลลัดดาวัลย์เกิดอันตราย จะ ต้องปรากฏตัวในเร็ววันนี้ ถึงเวลานั้นพวกเราบีบบังคับถามเกี่ยว กับวฤนท์ธม แล้วค่อยฆ่ามันล้างแค้นให้ศิษย์น้อง
ทั้งสามพยักหน้า เกลียดชัง วฤนท์ธมชื่อนี้ ภายในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ในห้องรับแขกหลัก ระดับสูงของตระกูลลัดดาวัลย์ เวทัส ดำเกิง ดัมพ์รงค์คนอื่นๆ ล้วนรวมตัวกันที่นี่ ด้วยบรรยากาศที่อึดอัด
หลังจากที่อารียาอยู่ไฟเสร็จแล้วนั้น ก็สามารถลงจากที่นอนได้ แล้ว จนกระทั่งวันนี้ได้ผ่านการฟื้นฟูร่างกายเป็นเวลาสี่เดือน ร่างกายและสีหน้าของเธอได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม บอกกับ ความเป็นแม่ ตอนนี้ก็มีความเป็นสาววัยกลางเต็มตัวแล้ว
ตอนนี้ขวัญนลินนอนอยู่ในอ้อมกอดของอารียาอย่างสงบ ตา สองข้างจ้องไปยังรอบๆอย่างแปลกใจ แป๊ปก็เอามือน้อยๆ ใส่เข้าไปในปาก
“ตอนนี้ทั้งคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ถูกพวกเขาล้อม ไว้ พวกเราจะออกไปไหนก็ไม่ได้ อาหารในคฤหาสน์ก็มีพอแค่ สามวัน ถ้าหลังจากสามวันพวกเขายังไม่ไป พวกเราจะเจอกับ สถานการณ์ขาดแคลนอาหาร” ท่านคทากล่าว
คนจํานวนไม่น้อยส่ายหัวถอนหายใจ อารียา ขมวดคิ้ว ไม่รู้ ว่าจะทําอย่างไรดี
ขณะนี้ดำเกิงรู้สึกผิด เมื่อได้ยินคำพูดของท่านคทา ก็กัดฟัน แล้วกล่าว “ผมสร้างปัญหาขึ้นมาเอง ในเมื่อพวกมันไม่ไป งั้นผม จะไปต่อกรกับมัน แย่สุดก็คือตาย
เวทัสที่อยู่ข้างๆห้ามไว้ กล่าว “ตอนนี้ไม่ใช่ตอนที่จะใช้อารมณ์ มาตัดสิน แกออกไปก้ไม่มีประโยชน์”
ดำเกิงจ้องไปที่เวกัส สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
ครึ่งเดือนที่แล้ว สำนักชิงแสโกมุทพาลูกศิษย์มาที่ตระกูลลัด ดาวัลย์ มาสร้างเวทีที่คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วเรียก ร้องให้รพีพงษ์ออกมา ขึ้นเวทีประลอง ล้างแค้นโสจกร
รพีพงษ์ไม่อยู่ คนที่ต้องรับหน้าที่ต้องเป็นเวทีสและดำเกิง
ตอนนี้ดำเกิงมีวิชาเนยจิ้ง ประลองกับลูกศิษย์ที่โกมุทพามา ใช้พรสวรรค์และความสามารถ แพ้ติดต่อกันสามคน
โกมุท โมโห ตัดสินใจประลองเอง ดำเกิงได้ค่าเขาว่าหน้าด้าน รังแกคนอ่อนกว่า
โกมุทได้เริ่มพูดถึงความน่าเกรงขามของสำนักชิงแส มีอันดับ อย่างไรในศิลปะการต่อสู้โบราณ ลูกศิษย์ของพวกเขาไม่ใช่ใคร จะฆ่าได้ตามใจ ถ้ารพีพงษ์ไม่ออกมา จะเอาดาเก๋งเชือดไก่ให้ลิง
ดำเกิง โมโห เห็นโกมุทเข้ามา บอกว่ารพีพงษ์และเขาคือศิษย์ น้องของรพีพงษ์และเขา ไม่แย่กว่าสำนักชิงแส
หลังจากที่โกมุทได้ยินชื่อวฤนท์ธมแล้วนั้น ก็ขนลุกขึ้นมา ว นท์ธม เป็นศัตรูตัวฉกาจของสำนักชิงแส และชื่อนี้ไม่เพียงเป็น ศัตรูของสํานักชิงแส ในโลกของศิลปะการต่อสู้โบราณ มีเกือบ ครึ่งทอคติกับวฤนท์ธม จนกระทั่งอยากฆ่าล้างแค้น
ดำเกิงงง เวทัสก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น รีบพาดำเกิงหลบไป จากคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์
และโกมุทก็ไม่ได้ลงมือเอง แต่ให้ศิษย์น้องวฤนท์ธมกระจาย ข่าวที่คฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ออกไป ไม่ถึงสองวัน หมัดบาง ความสํานักจีชางและคนของตระกูลภูธนก็มาหา เพื่อมาฆ่าฤนท์
เพื่อความชัดเจนของกฎแห่งศิลปะการต่อสู้โบราณ ยอดฝีมือ ของตระกูลใหญ่ จัดคนรุ่นก่อนมา เพื่อประลองบนเวที ดำเกิง และเวกัสแพ้อย่างราบคาบ อีกฝั่งพยายามถามถึงข่าวของวฤนท์ ธม ให้ตายยังไงทั้งสองก็ไม่พูด ดำเกิงเกือบตายเพราะเรื่องนี้ แล้ว
อารียาอุ้มลูกออกหน้ามา ประณามความน่ารังเกียจของพวกนี้พวกเขาทั้งสองจึงได้รับการช่วยเหลือ
หลังจากที่กลับมายังคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ แล้ว พวกเขาก็ไม่ออกไปไหนอีกเลย โกมุทไม่กล้าลงมือต่อคน ธรรมดา จึงปิดคฤหาสน์ใหญ่ลัดดาวัลย์ไว้ อยากจะอยู่จนกว่าคน ที่นี้อยู่ไม่ได้ ถึงเวลานั้นพวกเขาไม่พูดที่อยู่ของวฤนท์ธมก็ไม่ได้ แล้ว
อาจารย์ของรพีพงษ์รับศิษย์นั้น ไม่เคยบอกชื่อสกุลจริงของตัว เองให้ใครรู้ นี่เป็นกฎข้อแรกของพวกเขา แม้จะไม่รู้ว่าด้วย สาเหตุอะไร แต่ก็ไม่เคยมีใครถามมาก่อน
และเมื่อดำเกิงได้ทําความสะอาดห้องของอาจารย์นั้น ให้ อาจารย์ได้เขียนข้อความเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ไว้ โดยสุดท้าย มีชื่อวฤนท์ธม
ตอนนั้นพวกเขาคิดว่าที่อาจารย์บอกชื่อของตัวเองให้พวกเขา ฟังไม่ได้นั้น จะต้องเป็นเพราะชื่อนี้โด่งดังอย่างมากในยุทธภพ อาจารย์ไม่อยากให้พวกเขาใจร้อน
จนกระทั่งถึงครั้งนี้ เขาแค่เอ่ยชื่อวฤนท์ธมชื่อนี้ ได้ทำให้แดน ครึ่งปรมาจารย์สามท่าน อีกทั้งยอดฝีมืออีกท่านมาปิดอยู่หน้า ประตู
นี่แสดงถึงความเก่งกาจของอาจารย์ แต่ดำเกิงไม่คิดมาก่อน ว่าอาจารย์ไม่ได้ทิ้งเรื่องราวใดๆไว้ในยุทธภพแต่สร้างศัตรูเอาไว้ มากมาย ยังมีศัตรูอย่างปรมาจารย์และแดนครึ่งปรมาจารย์อีก ด้วย
คํานึงถึงคนที่อยู่ด้านนอกที่มาหาอาจารย์ ดำเกิงและเวกัสไม่ ได้ขอร้องอาจารย์ เพราะด้านนอกคืออาจารย์หนึ่งท่านและแดน ครึ่งปรมาอาจารย์อีกสามท่าน พวกเขาไม่มั่นใจว่าอาจารย์จะ รับมือได้ไหม
หลายเหตุผลรวมๆกันแล้ว ทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ชะงัก
“ตอนแรกผมยังพูดอย่างมั่นใจว่าจะดูแลตระกูลลัดดาวัลย์ให้ ดี แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องการค้าของพวกคุณไม่มีปัญหา แต่กลับยั่ว โมโหยอดฝีมือจํานวนมากมาย ใครจะรับหน้าไหวเนี่ย” ซลาธิป ถอนหายใจ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ