บทที่693 ท่วงท่าที่ไร้ยางอาย
“แก……แกคือยอดฝีมือเน่ยจิ้ง?” กรกริชอดทนกับความเจ็บ แล้ว พูดกับรพีพงษ์
รพีพงษ์ก้มหน้าไปมองกรกริช เพราะใส่หน้ากาก ทำให้คนดู อารมณ์ขณะนั้นของเขาไม่ออก ดังนั้นยิ่งทำให้คนรู้สึกเยือกเย็น และยังทำให้คนรู้สึกราวกับว่าเทพมรณะมาบนโลกจริงๆ
“……….ไม? ฉันไม่ได้มีแค้นอะไรกับแก ทําไมต้องฆ่าฉัน?” กรกริชกล่าวด้วยความเจ็บปวด
“ฉันไม่จําเป็นต้องบอกแก สิ่งที่แกต้องรู้ คือชีวิตของแกก็ พอแล้ว” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ
ขณะนี้ด้านล่างเวที ทุกคนล้วนมองอย่างแปลกใจ ล้วนไม่มอง คนที่สวมหน้ากากการ์ตูนด้วยความไม่เชื่อ ไม่คาดคิดว่าไม่กี่ อึดใจ ทำให้แขนและขาของกรกริชหัก กลายเป็นไอ้สวะในทันใด
เดิมทีคนเหล่านั้นที่เยาะเย้ยรพีพงษ์ตอนนี้กลับรู้สึกแปลกใจ รู้ ว่าพวกเขามองพลาดไปแล้ว
ถ้าตอนนี้รพีพงษ์พูดฉายาตัวเองว่าเป็นเทพมรณะอีกล่ะก็ ไม่มี ใครขาเขาอีกแน่นอน เพราะความสามารถที่รพีพงษ์แสดงออก มาเมื่อกี้ แม้ไม่ใช่เทพมรณะ แต่ก็ใกล้เคียงกับเทพมรณะแล้ว
หลังจากที่สนามมวยได้ผ่านความเงียบมาสักพัก ก็มีเสียงดัง ขึ้นมา ทุกคนเริ่มตะโกนเทพมรณะคำนี้ออกมา
ชายคนนั้นที่ไปอยู่ข้างๆชาลิสาก็ตะลึง นึกถึงเมื่อกี้ที่ตัวเองได้ ประเมินรพีพงษ์ เขารู้สึกอับอาย เขาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะ เก่งกาจได้ขนาดนี
ตอนนี้ชาลิสาหันไปมองเขา แล้วกล่าว “คุณบอกว่าตัวเอง เก่งกาจไม่ใช่หรอ? ขึ้นไปเอาชนะเขาสิ แล้วฉันจะทำตามตกลง ของคุณ”
ชายคนนั้นกลัวขึ้นมา แล้วกล่าว “ไม่……ไม่ล่ะ ก่อนหน้านี้ฉัน แค่ล้อเล่น ขอโทษจริงๆ ต่อไปฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว
ชาลิสาดูแคลน แล้วกล่าว “ไอ้สวะ คุณไม่กล้าขึ้น แต่ฉันกล้า” พูดจบ เธอก็เดิน ขึ้นไปบนเวที ยืนอยู่ด้านหน้าของรพีพงษ์
รพีพงษ์จัดการกรกริชเสร็จ ก็ใช้เท้าเตะเขาลงเวทีไป พลังเมื่อ ก็ของเขา ทำให้กรกริชพิการไปเลยตลอดชีวิต แม้จะมีชีวิตอยู่ สําหรับตระกูลนิธิวรสกุล เป็นภาระให้เท่านั้น
ในขณะที่เขาจะลงจากเวทีนั้น เห็นชาลิสาที่ยืนบนเวที ก็ชะงัก
“คุณทำอะไร?” รพีพงษ์ถาม
“มาท้าทายคุณ อย่าพูดมาก ลงมือ” ซาลิสากล่าว
รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วกล่าว “หยุดโวยวายได้ แล้ว รีบลงไป คุณไม่ใช่คู่ต่อกรของผม
“แล้วไง ฉันอยากรู้ว่าจะยืนหยัดในการต่อสู้กับคุณได้นาน ขนาดไหน คุณไม่จําเป็นต้องออมมือให้ฉัน” ชาลิสากล่าว
การขึ้นเวทีท้าทายรพีพงษ์ เธอไม่ได้ขู่วาม เธออยากฝีมือของ รพีพงษ์มานานแล้ว อยากเห็นคนเก่ง ในสายตาพ่อของตน ว่าจะ แตกต่างกันมากขนาดไหน
ในเมื่อวันนี้มีเวทีประลอง เธอไม่อยากพลาดโอกาสนี้ ตั้งใจ ประลองกับรพีพงษ์ แม้จะรู้ว่าตัวเองต้องแพ้ เธอก็ไม่รู้สึกแปลก อะไร ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ถือเป็นยอดฝีมือเนยจิ้งเช่นกัน คงไม่ เหมือนกรกริช ขึ้นมาก็ถูกรพีพงษ์ทำให้แขนหักขาหัก
รพีพงษ์เห็นชาลิสาไม่ล้อเล่น จึงได้ถามว่า “คุณจะประลองกับ ผมจริงๆ?”
ชาลิสาพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นก็ส่งสัญญาณเริ่มต้น รพีพงษ์ยิ้ม และไม่ได้ปฏิเสธ ในเมื่อเธออยากเล่น ก็จะเล่นกับ เธอล่ะกัน
เขาก็ส่งสัญญาณเริ่มเช่นกัน แล้วยิ้ม “ลงมือ
ผู้ชมด้านล่างเวทีเห็นผู้หญิงท้าทายรพีพงษ์ ก็ตะโกนเชียร์ออก มา ตื่นเต้นมากกว่าที่ผ่านมา
ซาลิสาไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งไปที่รพีพงษ์โดยตรง แม้ ภายนอกเธอจะดูอ่อนแอ แต่เมื่อลงมือ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน พลังแข็งแกร่ง ไม่น้อยไปกว่าผู้ชายแต่อย่างใด
รพีพงษ์ใช้กำลังแค่บางส่วนต่อชาลิสา ในเมื่ออีกฝั่งก็คือเนี่ย จิ้ง งั้นตนก็จะใช้ฝีมือระดับนั้นต่อกรกับชาลิสา ต่อสู้กับเธอสักนัด ก็ถือว่าจบ
สิ่งที่ชาลิสาเรียนมาทั้งหมด หมัดที่ตระกูลพัฒนพันเดชส่งต่อ กันมา มีชื่อว่าหมัดหมีจง
หมดนี้ในศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน แม้ไม่ถือว่ามีชื่อเสียง แต่ก็ไม่แพ้หมัดหง แล้วหมัดหมีจงได้ผ่านการดัดแปลงจากโศศจ ดังนั้นจึงพูดได้ว่าหมัดเป็นระดับสูงหมัดหนึ่ง โสดุจก็ใช้หมัดหมี จงนี้ รักษาตำแหน่งประธานสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน
หมัดหมีองนี้มีการผสมผสาน ทำให้อีกฝั่งไม่รู้ถึงข้อดีของมัน ใช้หมัดหมีจงต่อกรกับยอดฝีมือ ถ้าไม่ระวัง ก็อาจถูกผู้ปล่อย หมัดหลอกทางได้ จากนั้นก็ต้องเล่นตามเกมส์ไป
ชาลิสาในฐานะที่เป็นผู้หญิง สามารถใช้หมัดหมีจงได้ ถือว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก เธอใช้เนยจิ้ง ต่อกรเป็นร้อยหมัดกับรพีพงษ์ มีหลายครั้งที่ทำให้รพีพงษ์หลงกล
แน่นอนว่ารพีพงษ์ตั้งใจอ่อนข้อให้เธอ โดยใช้วิธีนี้ ให้เธอ
รู้จักหมัดหมีจงมากขึ้น
ต่อยไปต่อยมา รพีพงษ์รู้สึกว่าหมัดหมีจงน่าสนใจ ดังนั้นจึง เริ่มเลียนแบบ แม้จะเรียนไม่ถึงแก่นแท้ แต่เมื่อเลียนแบบก็ไม่ ยาก
ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ก็เรียนรู้ที่จะใช้หมัดหลอกล้อชาลิสาได้ สำเร็จ ทำให้ชาลิสาเดาทางไม่ถูกว่าเมื่อไหร่รพีพงษ์จะบุกจริงๆ
ชาลิสามองรพีพงษ์อย่างตะลึง เธอเรียนหมัดหมีจง มานาน หลายปี โศศจได้ฝึกฝนเธออย่างเข้มงวดตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเธอถึง เข้าใจหมัดหมีจงได้อย่างวันนี้
แต่รพีพงษ์เพียงประลองกับเธอแค่ไม่กี่ทํา ก็สามารถเข้าถึง หมัดหมีจงได้ นี่มันพิลึกไปหน่อยไหม?
สุดท้ายก็ต้องโมโห ก่อนหน้าที่จะเจอรพีพงษ์ ชาลิสาคิดว่าตัว เองก็ถือเป็นคนที่มีพรสวรรค์เช่นกัน แม้พิชยะ ที่เก่งกาจกว่าเธอ แต่ที่พิชยะมีฝีมืออย่างวันนี้ได้นั้นเขาก็ได้ฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด ตั้งแต่เล็กเหมือนกัน
แต่รพีพงษ์ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งปี จากเนยจิ้งฝึกฝนจนเป็นระ ดับเน่ยจิ้งชั้นต้นได้ แล้วตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงสิบกว่านาที ก็ เข้าใจหมัดหมีจง เธอจะไม่อิจฉาได้อย่างไรกัน
รพีพงษ์ประลองกับเธอต่อ แล้วเริ่มรู้สึกพอได้แล้ว จึงได้ใช้มือ หนึ่งจับชาลิสาไว้ว่าจะสิ้นสุดการประลอง ในครั้งนี้
ชาลิสาถูกท่าของรพีพงษ์หลอก มือทั้งสองข้างอยู่ห่างจาก
หน้าอก ทําให้อกถูกเปิดออก และเป้าหมายของรพีพงษ์ ก็คือตรง
นั้น
เพราะคุ้นเคยกับการประลองกับผู้ชาย ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่คิด ว่าท่วงท่าตัวเองมีปัญหาอะไร เขาเพียงแค่อยากจับเสื้อตรงอก ของชาลิสา เพื่อให้เธอยอมแพ้ เท่านี้ก็สามารถสิ้นสุดการ ประลองได้แล้ว
แต่เมื่อมือเขาจับไปแล้วนั้น เขาเพิ่งจะนึกได้ถึงความแตกต่าง ของร่างกายระหว่างหญิงและชาย ไม่ราบ แต่เป็นนูนขึ้นมา
ขณะนี้มือของรพีพงษ์ ได้ยื่นออกไปราวกับจะไปจับอวัยวะส่วน หนึ่งของชาลิสา
ชาลิสาเห็นมือของรพีพงษ์ นึกออกว่าเขาจะจับมายังส่วนไหน ตาลุกวาว ด้วยความแปลกใจ ยืนอยู่กับที่โดยไม่รู้จะทำอย่างไร ด้วยความอายหน้าแดงก่ำ
“ไอ้ลามก คุณคิดจะทำอะไร!” ชาลิสากล่าว
มือของรพีพงษ์ได้โดนเข้ากับส่วนอกของชาลิสาแล้วหยุดลง ตอนนี้ซาลิสาได้หลับตาลง และไม่ได้ห้ามใดๆ
รพีพงษ์ถอนหายใจ ดีที่ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด มิเช่นนั้นมือของ เขาก็หยุดไม่ได้
ชาลิสาเห็นตัวเองไม่มีความรู้สึกนั้นที่ตัวเองพึงจะมี ก็รู้สึก แปลกใจ เปิดตาขึ้นมา พบว่ารพีพงษ์ได้หุบมือไปแล้ว
รพีพงษ์อ่ะแห่มสองครั้ง แล้วกล่าว “คุณแพ้แล้ว พวกเราไปกัน
ดีกว่า”
ชาลิสามองรพีพงษ์ด้วยความอึ้ง เห็นท่าทีของเขา ราวกับท่า ทางเมื่อกี้ เขาตั้งใจใช้ออกมาเพื่อท้าทายตนเอง ในตอนนี้เขาทำ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยังบอกว่าตนแพ้แล้วอีก หมายความว่าไงกัน?
“รพีพงษ์ แกไอ้สกุลเลวทรามต่ำช้า ไม่คาดคิดว่าแกจะเป็นคน แบบนี้ ใช้ท่าไร้ยางอายกับฉันได้ เลวจริงๆ!”
ชาลิสาหน้าแดงก่ำ หลังจากที่ตะคอกไปที่รพีพงษ์ ก็กระโดด ลงเวทีไป รีบเดินไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
รพีพงษ์เส็ง ฟ้าดินเป็นพยาน ว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะเขาประลองกับผู้ชายมาโดยตลอด ไม่เคยต้องนึกถึงเรื่อง แบบนี้ จึงได้เกิดเรื่องที่น่าอับอายขึ้นได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ