พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่676 ผมไม่รังแกใคร



บทที่676 ผมไม่รังแกใคร

เช้าวันรุ่งขึ้น ศศินัดดาขโมยมีดจากห้องครัวเพื่อจะไปสู้กับร พงษ์ แต่ถูกการ์ดของตระกูลลัดดาวัลย์ห้ามไว้

แม้จะรู้เรื่องราวต่างๆของศศินัดดาแล้ว แต่ชลาธิปก็ยังรู้สึกว่า ศศินัดดาเลี้ยงอารียามาโตขนาดนี้ไม่ง่าย ยังไงก็ไปขอโทษเธอ หน่อยล่ะกัน

ศศินัดดาไม่รับคำขอโทษ และยังคงถือมือสร้างความวุ่นว อยู่ในคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ สุดท้ายรพีพงษ์ออกหน้า แล้ว เอาชนะศศินัดดามาได้

ตอนนี้ขวัญนลินยังไม่ครบเดือน รพีพงษ์ไม่มีทางจะที่จะเอา ระเบิดเวลาอย่างศศินัดดาไว้ในตระกูลลัดดาวัลย์ได้ เขาให้ท่าน คทาเอาเงินให้ศศินัดดาก้อนหนึ่ง ให้เธอกลับเมืองริเวอร์

ศศินัดดาไม่ยอมรับ จะถือมืดไปหาอารียา ให้ได้ ให้อารียา ตัดสินใจแทนเธอ

รพีพงษ์ไม่มีทางเลือก จึงใช้กำลังภายในทำให้มีดงอต่อหน้า ศศินัดดาโดยตรง เมื่อเป็นศศินัดดาจึงนิ่งสงบลง แล้วรับเงิน กลับเมืองริเวอร์อย่างเชื่อฟัง ก่อนจากไปยังดารพีพงษ์ แล้วยัง ขโมยกระดิ่งทองบนคอของสิงโตไปอีกด้วย

ชลาธิปเพิ่งจะรู้ถึงความร้ายกาจของศศินัดดาก็ตอนนี้ จึงรู้สึก สงสารลูกสาวตัวเองขึ้นมา ไม่รู้ว่าหลายปีมานี้เธอผ่านมาได้ยังไง
หลังจากที่ศศินัดดาจากไปแล้ว รพีพงษ์ได้เล่าเรื่องนี้ให้อารียา ฟัง เมื่ออารียาได้ยินก็รู้สึกเบื่อหน่าย เธอไม่รู้จะทำยังไง กับศ นัดดาแล้ว

ช่วงนี้รพีพงษ์ให้เธอไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น ดูแลสุขภาพจิตตัว เองให้ดีก็พอแล้ว อารียาไม่มีปัญหาอะไร หลังจากที่ลูกสาว คลอดแล้ว ในสายตาเธอ มีเพียงลูกสาวเท่านั้น

หลายวันต่อจากนี้ไป จากการช่วยเหลือของรพีพงษ์ ชลาธิป มารับช่วงต่อทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์อย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ เขาได้พาผู้ชำนวญมา ช่วยบริหารธุรกิจของตระกูลลัดดาวัลย์ ใน ฐานะที่เป็นนายใหญ่ของตระกูลแนวหน้าของโลก ไม่มีทางทำให้ รพีพงษ์เสียหน้าแน่นอน

รพีพงษ์ไม่เกรงใจ จัดให้เธียรวิชญ์และท่านคทามาเรียนรู้ ให้ พวกเขาได้มีระดับการจัดการแบบตระกูลชั้นนำของโลก

วันนี้ในช่วงบ่าย ในสวนของคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ รพี พงศ์กับชลาธิปและการ์ดข้างกายฝีมือดีที่สุด ทยุติยืนอยู่ด้วยกัน

ชลาธิปจ้องรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ความจริงแกไม่จําเป็นต้องหา ยอดฝีมือมาปกป้องอารี ให้หยุติเฝ้าอยู่ข้างกายอารี รับรองไม่มี ใครสามารถเข้าใกล้อารีได้แน่นอน

ทยุติที่อยู่ข้างกายแสดงกล้ามเนื้อของตัวเองให้รพีพงษ์ดู ด้วย ความมั่นใจ

ครั้งที่แล้วที่รพีพงษ์ไปเมืองเซี่ยงไฮ้ ทยุติไปทำภารกิจข้างนอก พอดี ไม่ได้อยู่ข้างกายชลาธิป จนกระทั่งปัจจุบัน ชลาธิปยังคิดเสมอว่า ถ้าตอนนั้นทยุติอยู่ รพีพงษ์ไม่มีทางเอาอารียาไปจาก เขาได้

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “คนที่ผมหาไม่ได้เป็นคนธรรมดา บอดี้ การ์ดคนนี้ของคุณถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ถ้าเทียบกับพวกเขาแล้ว ยังห่างกันอีกไกล”

“คุณรพี คุณอย่าดูถูกคนอื่น ผมทยุติแม้จะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด ในโลก แต่ถ้าจะให้ติดอันดับต้นๆนั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อก่อน ผมได้ยินนายใหญ่บอกว่าความสามารถของคุณนั้นเก่งกาจ เลย อยากประลองกับคุณมาโดยตลอด วันนี้มีโอกาสพอดี คุณรที่จะ กรุณาหรือไม่?” ทยุติท่าที่กระตือรือร้นที่อยากจะลอง

จากการสังเกตในช่วงหลายวันมานี้ เขารู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่ใช่ค ต่อกลอนของเขา กังนั้นเมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดว่าเขาเทียบไม่ได้กับ คนที่รพีพงษ์หามา เขาจึงรู้สึกไม่พอใจ

รพีพงษ์ยิ้มพลางสายหัว แล้วกล่าว “ฉันไม่ประลองกับแกล่ะ เดี๋ยวพอถึงเวลานั้นนายใหญ่ของแกก็ว่าฉันรังแกคนอีก”

ทยุติได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา แล้วกล่าว “คุณรพี อย่าเพิ่งพูดแบบนี้ ยังไม่เคยลอง จะรู้ได้ไงว่าใครรังแก ใคร”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาไม่ได้ดูถูกหยุติ แต่ด้วยความ สามารถของเขาตอนนี้ แค่ตบเดียวก็สามารถตบจนทยุติตายได้ แม้ทยุติจะเก่งกาจขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อกลอนของยอดฝีมือ กําลังภายใน
ความแตกต่างระหว่างกำลังภายในและภายนอก ก็เช่นเดียว กับมังกรรังแกงูเล็ก ความแตกต่างของทั้งสอง เทียบกันไม่ได้

ชลาธิปชลาธิปก็รู้สึกว่ารพีพงษ์โอ้อวดเกินไป เขารู้ดีถึงความ สามารถของทยุติ ถ้าเขากับรพงษ์ต่อสู้กัน ใครแพ้ใครชนะ บอก ไม่ได้จริงๆ

ไม่นาน คนหนึ่งวิ่งมาถึงในสวน แล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “นาย ใหญ่ เราได้รับคนที่ท่านพูดถึงมาแล้ว”

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วกล่าว “พาพวกเขามาที่นี่ คนนั้นตอบรับ แล้วหันหลังวิ่งไป ไม่นาน ก็ได้พาสองคนมาที่

สวน ยอดฝีมือสองคนนี้เป็นคนที่รพีพงษ์เชิญมาโดยเฉพาะ ไม่ใช่

ใครอื่นไกล นั่นก็คือเวทัสและดำเกิงทั้งสอง

หลังจากที่ดำเกิงเห็นรพีพงษ์แล้วนั้น ก็กระตือรือร้น รีบวิ่งมา ตรงหน้าของรพีพงษ์ แล้วเรียก “รุ่นพี่รพีพงษ์”

เวทัสก็เดินมา พยักหน้าให้รพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้มตอบทั้งสอง จากนั้นก็แนะนำให้ชลาธิปและทยุติ

รู้จัก

ความจริงรพีพงษ์เชิญแค่เวทัสคนเดียว ดำเกิงสมัครใจมาเอง รพีพงษ์ก็ไม่รังเกียจที่จะมีคนปกป้องอารียาเพิ่ม ดังนั้นจึงตอบรับ ทยุติจ้องไปที่เวทัสและดำเกิงทั้งคู่ ด้วยสายตาเหยียดหยามแล้วกล่าว “คุณรพี ถ้าสองคนนี้เป็นยอดฝีมือที่คุณหามาล่ะก็ งั้นก็ สู้ให้ผมดูแลนายหญิงดีกว่า พวกเขาทั้งสอง ดูออกว่าไม่มีน้ำยา

ชลาธิปพยักหน้า แล้วกล่าว “ใช่รพีพงษ์ ทั้งสองคนนี้ไม่ว่าจะดู ยังไงก็ไม่เหมือนยอดฝีมือเลยนะ แล้วคนนี้ดูๆไปก็เหมือนกับเด็ก อยู่เลย น่าจะยี่สิบปีสินะ แกแน่ใจว่าเขาปกป้องอารียาได้?”

ดำเกิงได้ยินคำพูดของทั้งคู่ ก็รู้สึกไม่สบายใจ เงยหน้ามองทั้ง สองแล้วกล่าว “พวกคุณว่าใครไม่มีฝีมือ ลองหมดของผมหน่อย ไหม?”

ทยุติเยาะเย้ย แล้วกล่าว “ชั่งเถอะ ให้คนนี้มาเทียบกับฉันดี กว่า ฉันจะให้พวกแกรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าฝีมือ

ดำเกิงหันไปมองเวกัส ยิ้มพลางกล่าว ซึ่งเถอะ ถ้าเขาลงมือ ล่ะก็ ค่อนชีวิตที่เหลือของแกต้องอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันนี่แหละจะ

ประลองกับแกเอง”

ทยุติดูแคลน แล้วกล่าว “ประลองก็ประลอง จัดการแกเสร็จ ฉันค่อยจัดการอีกคน

รพีพงษ์เห็นสถานการณ์ทั้งสองฝ่ายเริ่มตึงเครียด แต่ไม่ได้พูด อะไร ในเมื่อชลาธิปและทยุติไม่เชื่อฝีมือของดำเกิงและเวกัสจึง ให้พวกเขาได้ประลองกัน ดีกว่าการอธิบายใดๆ

ทั้งสองเอาสวนเป็นเวทีประลอง คิดจะประลองจริงจังสักครั้ง

ทยุติเชื่อมั่นในตัวเอง คิดว่าคู่ต่อสู้เป็นเพียงเด็กยี่สิบปีเท่านั้น แม้เขาใช้มือเดียวก็สามารถชนะได้ง่ายดาย
แต่ทว่าความเป็นจริงไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิดไว้……..

สิบนาทีผ่านไป

ทยุตินอนลงกับพื้น ด้วยความคาดไม่ถึง ใช้กำลัง เพื่อที่จะลุก ขึ้นจากพื้น สุดท้ายเหงื่อไหลเต็มไปหมดจนนอนลงกับพื้น ในที่สุด

ชลาธิปอ้าปากค้างด้วยความตกใจ สักพัก จึงได้พูดกับตัวเอง

“เป็นไปได้ไง เด็กยี่สิบปี ทำไมเก่งกาจได้ขนาดนี้?!!!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ