พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่549 ทำลายตระกูลพงศ์ธนธดาให้หายไปจากโลกนี้



บทที่549 ทำลายตระกูลพงศ์ธนธดาให้หายไปจากโลกนี้

“แก…..แกมาที่นี่ได้ไง? ที่นี่เป็นคฤหาสน์ของตระกูลพงศ์ธนธิดา นะ ไม่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามา!” ขนมปังกล่าวด้วยน้ำเสียงที่

สั่นคลอน

เธอคิดว่าชลาธิปจะลงมือสั่งสอนรพีพงษ์ด้วยตัวเอง แบบนี้ร พงษ์หนีไม่รอดแน่ๆ ใครจะรู้ว่าไอ้นี่มันจะปรากฏตัวที่คฤหาสน์ ตระกูลพงศ์ธนธดาได้ นี่มันชั่งกล้าเกินไปแล้ว

“คุณหนูของแกอยู่ที่ไหน?” รพีพงษ์ถาม

ขนมปังเดินหลังไปสองก้าว สำหรับชายที่ไม่ลังเลที่จะตบเธอ เธอกลัวมากจนถึงขั้นฝังใจ

“ขนมปัง เกิดอะไรขึ้น?” เสียงในห้องอันนุ่มนวลของอารียาดัง ออกมา เธอได้ยินด้านนอกมีเสียงถ้วยตกแตก ดังนั้นจึงออกมาดู ว่าเกิอะไรขึ้น

ขนมปังรีบหันหลัง มองไปที่อารียาที่อยู่ด้านหลัง แล้วตะโกน ร้อง “คุณหนู ไอ้นั่นที่ตบฉันมันบุกรุกบ้านเรา น่ากลัวจริงๆ คุณ รีบเข้าไป ระวังโดนมันทำร้ายนะ”

อารียาขมวดคิ้ว มองไปที่รพีพงษ์

รพีพงษีเห็นอารียาออกมา แรงกดดันที่มีอยู่ในตัวได้หายไป นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนขึ้นมา
…..คุณอยู่ที่นี่มีความสุขดีไหม? พวกเขารังแกอะไร “อาริ คุณ…… คุณหรือเปล่า?” รพีพงษ์ค่อนข้างร้อนรน แล้วถาม

อารียาเชื่อในคำพูดของขนมปังแล้ว รู้สึกว่ารพีพงษ์เป็นคนที่ น่าเกลียดที่ตบคนอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่จริงขนมปังอยากช่วย เขาแท้ๆ แต่เขากลับตบขนมปังจนเป็นแบบนี้ ซึ่งน่าโมโหจริงๆ

บวกกับก่อนหน้านี้ที่ชลาธิปบอกเธอว่าเขาคือสิบแปดมงกุฎ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงคิดว่าที่รพีพงษ์มาหาเธอนั้นเพราะมีจุด ประสงค์ร้าย

เธอยื่นมือมาขวางให้ขนมปังอยู่หลังตนเอง จากนั้นก็จ้องไปที่ รพีพงษ์ด้วยความเกรี้ยวกราด แล้วกล่าว “ทำไมแกถึงทำแบบนี้ ฉันไม่มีความแค้นกับแก ทำไมแกต้องมีหาเรื่องพวกเราด้วย ขนมปังโดนแกตบจนเป็นแบบนี้ แล้วตอนนี้แกยังหาที่บ้านฉันอีก หรือแกยังจะบงมือในบ้านฉันอีกหรือไง?”

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของอารียา ก็ชะงัก แล้วอธิบายว่า “ผมไม่ ได้มาหาเรื่องคุณ อารี ผมคือรพีพงษ์ คุณคือภรรยาของผม ผม มาที่นี่ เพื่อรับคุณกลับไป

อารียา หมัด แล้วกล่าว “หยุดหลอกฉันได้ล่ะ ฉันรู้มาตั้งนาน แล้วว่าแกคือสิบแปดมงกุฏ ฉันคือดารินทร์ ไม่ใช่อาอะไรนั่น แล้วแกตบขนมปัง มันไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ตอนนี้แกยังมาอีก ผิด ซ้ำแล้วซ้ำอีก ฉันจะโทรเรียกตำรวจให้มาจับแก!”

“อารี ผมตบเธอ เพราะเธอไร้มารยาท แล้วยังพาคนไปหาเรื่อง ผมอีก คุณรู้นิสัยผมดี ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงใช้รังแกกันเกินไปผมจะลงมือกับเธอได้ไงกัน” รพีพงษ์อธิบาย

“ไร้สาระ! ฉันจะช่วยแก ใครจะรู้ว่าแกร้ายกาจได้ขนาดนี้ ไม่ เพียงแค่ตบฉัน แล้วยังพูดเหยียดหยามคุณหนูของเราอีก ตอนนี้ แกยังมาที่นี่แล้วพูดบิดเบือนความจริงอีก แกคิดว่าคุณหนูของ ฉันหลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง!” ขนมปังกล่าว ด้วยสายตาที่ โกรธเกรี้ยวกราด

อารียายื่นมือไปจับแขนของขนมปัง แล้วปลอบว่า “ขนมปัง ฉันรู้ว่าเธอเสียใจ ไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีทางเชื่อไอ้สิบแปดมงกุฎ นี่หรอก”

พูดจบ เธอก็มองไปที่รพีพงษ์ แล้วถาม “แกต้อง ให้ฉันแจ้ง ตำรวจก่อนแล้วถึงจะหยุดใช่ไหม?”

รพีพงษ์เห็นอารียาเอาจริง เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี

เขาเดาออกว่าต้องเป็นสาวใช้ชื่อขนมปังนี้เล่าบิดเบือนความ จริงให้อารียาฟังแน่นอน แล้วอารียาได้ยินขนมปังเล่าก่อนก่อน อีก เกรงว่าจะเชื่อคำพูดของขนมปังเสียแล้ว

ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เกรงว่าอารียาจะคิดว่าเขาแต่งเรื่อง ขึ้นมา ขนมา

ตอนนี้อารียาสูญเสียความทรงจำ ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าที่ผ่านมา พวกเขาเผชิญกับอะไรมาบ้าง ตอนนี้เธอคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนู ของตระกูลธนธดา แค่จุดนี้ รพีพงษ์ก็ไม่มีข้อดีแล้ว

ในขณะเดียวกันนี้ชลาธิปก็ไล่ตามมา คำแรกที่เขาพูดเมื่อไล่มาทันคือ “ดารินทร์ อย่าเชื่อคำพูดของไอ้นี่แม้แต่คำเดียวนะ มัน ทําร้ายการ์ดของครอบครัวเรา มันมีแผนการชั่วร้าย คำพูดของ มันแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกหนูทั้งนั้น!

อารีนาเห็นชลาธิปร้อนรน แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจให้เขา แล้วกล่าว “พ่อ ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรู้ตัวจริงของมันแล้ว หนูไม่มี ทางเชื่อมันแน่นอน”

ชลาธิปคาดไม่ถึง แต่เมื่อได้ยินอารียาพูดแบบนี้ ก็วางใจ

รพีพงษ์เห็นอารียาจริงจังอยากให้เธอรู้ว่าเธอโดนคนรอบข้าง หลอกอยู่ แต่ทว่าเขาก็รู้ดี สำหรับอารียาผู้ไร้ซึ่งความจำทรง จะ เป็นเรื่องที่ยากอยู่เลยทีเดียว

เขารู้สึกหมดพลัง จนอยากที่จะแย่งอารียากลับมา พาเธอกลับ เมืองริเวอร์ ให้ชุติเทพฟื้นฟูความจำให้เธอ

แต่เราก็เข้าใจดีว่าถ้าทำแบบนี้มีแต่จะทำให้อารียายิ่งต่อต้าน เขามากขึ้น ถึงเวลานั้นเพราะเหตุผลที่ทำให้การฟื้นฟูความจำ ของอารียามีปัญหาขึ้นมา เขาเสียใจก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

“เด็กน้อย แกอย่าคิดว่าแกมีฝีมือ แล้วคนของฉันตระกูลพงศ์ ธนธดาจะกลัว ถ้าแกยังไม่จบ เรื่องนี้ จะร้ายแรงเกินกว่าที่แกคิด ไว้” ชลาธิปจ้องไปที่รพีพงษ์

วันนี้พวกฝีมือดีของตระกูลพงศ์ธนธดาไม่อยู่ที่นี่ เขาคาดไม่ ถึงว่ารพีพงษ์จะบุกรุกเข้ามาในบ้านเขาโดยตรง พวกการ์ดเหล่า นั้นเดินตามเขามา เขาจึงไม่รู้สึกร้อนรนอีกต่อไป
“พ่อ แจ้งตำรวจเถอะ ให้กฎหมายเป็นคนจัดการมัน” อารียา กล่าวด้วยเหตุผล

ชลาธิป มอย่างหมดอาลัยตายอยาก รพีพงษ์สามารถเอา แสนล้านออกมาได้อย่างง่ายดาย ก็แสดงว่า แจ้งตำรวจ ก็ไม่เป็น ผลใดๆ

แต่สิ่งที่ชลาธิปคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินคำพูดนี้ ของอารียาแล้ว ก็กล่าว “ไม่จำเป็น ผมจะไปเดี๋ยวนี้

พูดจบ รพีพงษ์ก็มองไปที่อารียาด้วยสายตาที่ซับซ้อน จากนั้น ก็หันหลัง แล้วลงไปชั้นล่าง

ชลาธิปค่อนข้างแปลกใจ แต่เขาก็ไม่อ่อนข้อ หลังจากที่อารียา และขนมปังยังอยู่ชั้นบนนั้น เขาก็ลงไปชั้นล่างพร้อมกับรพีพงษ์

รพีพงษ์เดินออกไปนอกคฤหาสน์ ในสมองกำลังคิดว่าจะฟื้นฟู ความทรงจำให้อารียาได้อย่างไร มีเพียงอารียาฟื้นฟูความจำ เท่านั้น ถึงจะไม่ถูกคนของตระกูลพงศ์ธนธดาหลอกอีกต่อไป

ชลาธิปเดินไปนอกคฤหาสน์พร้อมกับรพีพงษ์ เห็นรพีพงษ์จะ ออกไปจริงๆ ในใจก็รู้ว่าเป็นเพราะเขาเห็นท่าทีที่ชัดเจนของอารี ยา จึงรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้

เขายิ้มดูแคลน แล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “ไอ้เด็กน้อย ยอมแพ้ เถอะ ดารินทร์ไม่รู้ว่าแกเป็นใครตั้งนานแล้ว แกอย่ามารบกวน ชีวิตปัจจุบันของเธออีกจะดีที่สุด”

รพีพงษ์หยุด แล้วหันไปมองชลาธิป แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ช่วงนี้ให้อารอยู่ที่นี่ก่อน ถ้าคุณทำอะไรเธอ ผมจะไม่ปล่อย คุณไว้แน่”

“ไม่ช้าก็เร็วผมจะเอาอากลับไป ถ้าคุณยังขัดขวาง ผมจะไม่ ขัดข้องที่จะทำลายพวกคุณตระกูลพงศ์ธนธิดาให้หายไปจากโลก นี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ