พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่542 ไล่ฉันออกไปด้วย



บทที่542 ไล่ฉันออกไปด้วย

มหาวิทยาลัยฟูตัน หน้าอาคารคณะประวัติศาสตร์

คนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนอยู่รอบๆประตู เบียดเสียด และถกเถียง กันอยู่เรื่อยๆ

ขนมปังยืนอยู่บนสแตนด์สูงของประตูตึก มองไปที่คนข้างล่าง

อย่างหยิ่งยโส ด้วยสายตาหยามเหยียด

แม้เธอจะเป็นคนใช้ของตระกูลพงศ์ธนธิดาเท่านั้น แต่เธอมอง ว่า แม้ตัวเองจะเป็นคนใช้ไปตลอดชีวิต แต่ก็ดีกว่านักศึกษาเหล่า นี้ พวกเขาส่วนใหญ่ ไม่มีทางมีทรัพย์สินอย่างที่คนรับใช้แบบเธอ มีแน่นอน ในชีวิตนี้

ในตระกูลพงศ์ธนธดา แม้จะเป็นคนรับใช้ แต่ก็มีเกียรติ มากกว่านักศึกษาพวกนี้

ขณะนี้หลังขนมปังมีคนที่สวมชุดสูทสีดำอยู่ การ์ดของตระกูล พงศ์ธนธดาที่หน้าตาเคร่งขรึม เป็นเพราะมีการ์ดอยู่ด้วย เธอถึง ได้ทําตัว

“รีบเรียกไอ้โรคจิตที่วันนั้นทำให้คุณหนูของฉันตกใจมาส วัน นี้ฉันมาทำโทษมันแทนคุณนายใหญ่ ในเมื่อมันทำผิด งั้นก็อย่า คิดจะรอดไปได้!” ขนมปังตะโกน

ในขณะเดียวกันนี้เองเด็กหญิงคนนั้นก้าวเท้ามาข้างหน้า ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ขนมปัง แล้วกล่าว “วันนั้นคุณรพีแค่ลืมตัวไปเท่านั้น พวกคุณไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้ก็ได้

ขนมปังหันไปมองหญิงคนนั้น หัวเราะอย่างเหยียดหยาม แล้ว กล่าว “ลืมตัว? ไอ้โรคจิตนั้นมันทำให้คุณหนูของฉันอับอายต่อ หน้าคนอื่น ฉันไม่จัดคนไปฆ่ามัน ก็ถือว่าให้เกียรติมันขนาดไหน แล้ว ยั่วโมโหคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธิดาของเรา แค่คำว่าลืมตัว สองคำนี้แล้วจะให้มันผ่านไปเนี่ยนะ?”

หญิงคนนั้นที่พูดกับขนมปังคือมโนชา วันนั้นเธอก็ไม่คาดคิด ว่ารพีพงษ์จะพูดแบบนั้นกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเช่นกัน แต่ ในใจของเธอรพีพงษ์เป็นไอดอลพิเศษ แม้รพีพงษ์จะทำผิด ก็ไม่มี ความผิด

ตอนนี้คนของตระกูลพงศ์ธนธดาหาเรื่องต่อหน้าคนหมู่มาก

แน่นอนว่าทำให้เธอโมโหเป็นท่ธรรมดา

แต่เรื่องนี้ตระกูลพงศ์ธนธดามีเหตุผล มโนชาไม่รู้ว่าจะโต้ตอบ ขนมปังอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ อำนาจของตระกูลพงศ์ธนธดา มาก เธอเป็นแค่นักเรียนคนหนึ่ง ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านตระกูล พงศ์ธนธดาได้

ขนมปังเห็นมโนชาไม่ต่อร้องต่อเถียง ก็แสดงความสะใจออก มา เธอชอบความรู้สึกที่อยู่เหนือคนอื่นแบบนี้มาก

ในตระกูลพงศ์ธนธดา เธอเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น และเห็นคน ใหญ่คนโตออกคำสั่งจนเคยชิน คุมอำนาจต่างๆเอาไว้ เธอจึง เกิดความรู้สึกอยากมีอยากได้แบบนั้นบ้าง
คุณนายใหญ่หรือคนอื่นของตระกูลพงศ์ธนธิดาให้เธอไป จัดการเรื่องข้างนอกให้เธอมักจะให้ท่าทางออกคำสั่งแบบนั้น คิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนทั่วไป ดังนั้นคำที่เธอพูด คนเหล่านี้ต้อง ฟัง

ขณะนี้นิษฐาและเยาวเรศทั้งสองก็ยืนอยู่ในฝูงชนนั้นด้วย หลัง จากที่นิษฐาได้บินขนมปังพูดแล้วนั้น ก็ยิ้มดูแคลนออกมา แล้ว พูดกับเยาวเรศที่อยู่ข้างๆว่า “สมน้ำหน้า ไอ้หลงตัวเองนั่น สุดท้ายก็ได้รับผลกรรมแล้ว เขาเป็นอาจารย์อคันตุกะแล้วไง เทียบกับตระกูลพงศ์ธนธดา เขาก็เป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น ต่อ ไปว่าจะเป็นไง

เยาวเรศถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เพราะนิษฐามักจะพูดให้ ร้ายรพีพงษ์อยู่เสมอ ทำจนตอนนี้เธอแทบจะไม่เหลือความรู้สึก ดีๆต่อรพีพงษ์อีกแล้ว

ไม่นาน ในฝูงชนก็มีเสียงดังขึ้นมา ผู้คนเคลียร์ทางให้ผู้ บริหารคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยฟูตันมาถึง หนึ่งในนั้นคือผดุง สิทธิ์ผู้อำนวยการคณะประวัติศาสตร์

คนที่เผชิญหน้ากับตระกูลพงศ์ธนธดา แม้จะเป็นผู้บริหารของ มหาวิทยาลัยฟูตัน ก็ไม่กล้าเชื่องช้า

อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟูตัน พรรธ์ยศเดินไปที่ขนมปังอย่าง ร้อนรน แล้วพูดอย่างมีมารยาทว่า “คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าเกิด อะไรขึ้น จึงต้องทำเรื่องให้มันใหญ่โตขนาดนี้? ถ้ามหาวิทยาลัย ของเรามีข้อบกพร่อง ผมจะช่วยคุณแก้ไขปัญหาเอง
ขนมปังชักตาใส่พรรธนยศ ใช้น้ำเสียงไม่พอใจพูดใส่ร้าย ป้ายสีรพีพงษ์ จากนั้นก็ถามพรรธนยศว่า “คนของมหาลัยคุณ เป็นแบบนี้ พูดจาเพ้อเจ้อต่อหน้าคุณหนู วันนี้พวกคุณจะต้องหา ทางออกให้ฉัน มิเช่นนั้นกองทุนการศึกษาที่ตระกูลพงศ์ธนธิดา ของเราให้มหาลัยไว้นั้น จะถูกยกเลิกทั้งหมด

พรรธนยศได้ยินคำพูดของขนมปัง สีหน้าถอดสี กองทุนการ ศึกษาที่ตระกูลพงศ์ธนธิดาให้ไว้กับมหาวิทยาลัยฟูตัน กล่าวได้ ว่าเป็นเงินมากที่สุดในกองทุนแล้ว ในทุกปีกองทุนนี้ของ มหาวิทยาลัยฟูตัน คิดเป็นหนึ่งในสามของนักเรียนทั้งหมด

กองทุนนั้นเป็นกองทุนที่เป็นแรงขับดันให้นักศึกษาตั้งใจเรียน หนังสือ ถ้าตระกูลพงศ์ธนธดายกเลิกการให้เงินกองทุนนี้ จะ กระทบอย่างมาก กับมหาวิทยาลัยฟูตัน

นักศึกษารอบๆเริ่มถกเถียงกันขึ้นมา ทุนการศึกษาที่ตระกูล พงศ์ธนธดามอบให้มหาลัยฟูตันถือว่าได้ง่ายที่สุด เพียงแค่พวก เขาตั้งใจเรียน ก็สามารถได้เงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว นักศึกษาจํานวนไม่น้อยต้องการเงินจำนวนนี้เพื่อไปท่องเที่ยว หากถูกยกเลิก พวกเขาจะต้องไม่พอใจอยู่บ้าง

พรรธนยศถาม “คุณผู้หญิง เรื่องนี้อาจจะเป็นอาจารย์คนนี้ทำ ไม่ถูกต้อง ไม่ทราบว่าคุณต้องการให้จัดการแบบไหน คุณลอง พูดๆมาดู ผมจะจัดการให้ครับ

ขนมปังมองไปรอบๆ แล้วกล่าว “เรียกไอ้โรคจิตนั่นมา ให้มัน ขอโทษคุณหนูของเราต่อหน้าผู้คนทั้งหมด แล้วให้มันยอมรับว่ามันคือไอ้โรคจิต แล้วตบหน้าตัวเอง แล้วก็ยกเลิกสถานะอาจารย์ ของมันซะ ไล่ออกจากมหาวิทยาลัย แล้วเราตระกูลพงศ์ธนธิดา จะไม่เอาเรื่องใดๆอีก”

หลังจากได้ยินคำพูดของขนมปัง สีหน้าพรรธนยศดูไม่ดี ถ้า แค่ให้รพีพงษ์ขอโทษ และยกเลิกสถานะอาจารย์ของรพีพงษ์ เขา ยังทำให้ได้ ให้รพีพงษ์ยอมรับว่าตัวเองเป็นไอ้โรคจิตต่อหน้าคน อื่น แล้วยังต้องตบหน้าตัวเองอีก นี่มันค่อนข้างเกินไป

ขนมปังเห็นพรรธนยศลังเล ก็ปืนปากในทันใด แล้วกล่าว “ไง หรือคุณไม่ตกลง? งั้นทุนการศึกษาของตระกูลพงศ์ธนธิดาของ เรา ก็สามารถยกเลิกได้แล้ว และ มหาลัยของคุณจะอยู่ในแบล็ กลิสต์ของตระกูลพงศ์ธนธิดาของเรา คิดทบทวนดีๆ”

เมื่อพรรธนยศได้ยินคำพูดนี้ ก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที ถึงแม้ ทุนการศึกษาจะสําคัญ แต่ก็ไม่จำเป็นขนาดนั้น แต่ถ้าขึ้นแบล็คลิ สต์ของตระกูงพงศ์ธนธดา ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมากเรื่อง หนึ่ง เขารับผลที่จะตามมาไม่ไหว

เมื่อลังเลอยู่สักพัก พรรธน์ยศกัดฟัน แล้วกล่าว “ได้ ผมสัญญา ผมจะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ให้คนนั้นขอโทษ”

ขนมปังเห็นพรรธนยศตกลง ก็สะใจอยู่สักพัก เธอชอบ ความ รู้สึกที่ทำให้คนไม่สบายใจ

ในขณะที่ขนมปังทำตามเป้าหมาย และกำลังจะจากไปนั้น คน ที่ยืนข้างๆผดุงวิทย์ด้วยสีหน้าบึงก็โผล่ขึ้นมา แล้วกล่าว “ผมไม่ เห็นด้วยกับการลงโทษแบบนี้
ทุกคนหันหน้าไปที่ผดุงสิทธิ์

ขนมปังมองไปที่ผดุงสิทธิ์ แล้วถามอย่างเยือกเย็นว่า “คุณเป็น ใคร? อธิการบดีตกลงแล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรปฏิเสธ

“ผมคือผู้อำนวยการคณะประวัติศาสตร์ ดร.รพีคือคนที่ผมเชิญ มา เขาอาจจะทําผิดต่อคุณหนูของคุณ แต่ดร.รพี่เป็นคนมีหน้ามี ตาทางสังคม ข้อเรียกร้องของคุณเมื่อกี้ทำให้คุณรพีพงษ์อับอาย ผมจะตกลงการลงโทษแบบนี้ได้อย่างไรกัน” ผดุงสิทธิ์พูดอย่างมี เหตุผล

พรรธนยศเห็นผดุงสิทธิ์คัดค้าน สีหน้าก็เริ่มเคร่งเครียด แล้ว รีบกล่าว “ผู้อำนวยการผดุงสิทธิ์ ขนาดนี้แล้ว คุณอย่าออกหน้า แทนคนนั้นเลย คุณไม่ได้ยินที่เขาพูดเมื่อกี้หรอ คุณพูดแทนเขา เปรียบเสมือนกำลังเป็นศัตรูกับผู้อำนวยการผดุงสิทธิ์นะ

นักศึกษารอบๆก็ตกใจ ไม่คาดคิดว่าเวลาแบบนี้ผดุงสิทธิ์ยัง ออกหน้าแทนรพีพงษ์อีก นักศึกษาส่วนใหญ่ตรงนั้นไม่เคยเรียน กับรพีพงษ์ และไม่รู้ว่ารพีพงษ์เป็นใคร ล้วนฟังคำพูดจากขนมปัง ที่พูดเมื่อกี้ทั้งนั้น เลยรู้สึกว่าการที่รพีพงษ์โดนลงโทษแบบนี้นั้น ก็ สมควรแล้ว

ตอนนี้ผดุงสิทธิ์พูดแทนรพีพงษ์ พวกเขาต่างก็รู้สึกไม่เข้าใจ โดยปริยาย

ดร.รพีหาเรื่องเอง ทำไมพวกเราต้องรับผิดชอบแทนเขาด้วย ควรจะทำตามที่เค้าบอก ให้เขาขอโทษต่อหน้าคนอื่น

“ซึ่งหน้าโมโหจริงๆ ทำไมผู้อำนวยการคณะประวัติศาสตร์ต้องพูดแทนไอ้โรคจิตด้วย แล้วยังทำผิดต่อตระกูลพงศ์ธนธิดา อีก บ้าจริงๆ”

“โถ โถ โถ ดร.รพีคนนี้ซึ่งมีเกียรติเสียจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีคน รับหน้าแทนเขา ถ้าครั้งนี้ตระกูลพงศ์ธนธดายกเลิกเงินทุนการ ศึกษาจริงๆล่ะก็เกรงว่ามหาลัยของเราจะต้องไปยืนประท้วงที่ ประตูบ้านของเขาแน่ๆ

ที่คนเหล่านี้โมโห ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเรื่องเงินกองทุน

ผดุงสิทธิ์กล่าว “ตระกูลพงศ์ธนธดาแล้วไง เป็นตระกูลพงศ์ ธนธดาแล้วสามารถที่จะดูถูกเขาได้ตามสบายงั้นหรอ ข้อเรียก ร้องที่คุณขอมาในวันนี้ ผมไม่มีทางตกลง ถ้าท่านอธิการบดีทำ ตามเธอล่ะก็ นั่นก็ไล่ผมผู้อำนวยการคณะประวัติศาสตร์ออกไป ด้วยแล้วกัน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ