บทที่495 ซ้อมโยษิตากระหน่ำ
“แก……แกรีบปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันตะโกนร้องแน่ แล้วถ้ามีคน แจ้งความ แกก็เดือดร้อนอยู่ดี! “โยษิตามองรพีพง ลนลาน
รพีพงษ์แค่นยิ้มเย็นชา พูดว่า “แกคิดว่า ในเกียวโต เรื่องแค่นี้
ฉันจัดการไม่ได้หรือไง”
พูดจบเพีพงษ์ก็ตบหน้าฉาดใหญ่ลงบนหน้าโยษิตา เสียงตัว ดังก้องกังวานไปทั่ว ใบหน้าโยษิตาแดงขึ้นมาครึ่งหน้า คนรอบๆ วิพากษ์กันเสียงเซ็งแซ่
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ตบซะแรงขนาดนี้ จุ๊ๆๆ ไม่เป็นผู้ชายเอาซะ เลย
“พวกคุณดูแววตาคนๆนี้สิ ยังกับจะฆ่าคน นี่คงจะแค้นมาก “ผู้หญิงคนนั้นสวยขนาดนี้ ยังลงไม้ลงมือได้ลงคอ หรือว่าผู้ หญิงคนนี้ทำอะไรผิดต่อเขางั้นหรือ
“แกคงไม่ได้คิดแต่แรกสินะว่าจะมีวันนี้”รพีพงษ์จ้องมองโยษิคา
โยษิตารู้สึกเจ็บแบบเผ็ดร้อนบนใบหน้า เธอมองรพีพงษ์อย่าง ขุ่นเคือง กัดฟันพูด คนที่อยู่ข้างหลังฉันตอนนี้ คือคุณชายตระกู ลนิธิวรสกุล ความสามารถของคนตระกูลนี้ แข็งแกร่งกว่าตระกูลลัดดาวัลย์พันเท่า แกลงมือกับฉันวันนี้ ตระกูลนิธิวรสกุลไม่ปล่อย แกไว้แน่!
เสียงผัวะดังขึ้น
รพีพงษ์ตบฉาดลงบนใบหน้าโยษิตาอีกครั้ง พูดเสียงเย็น ชา แกคิดมากไปมั้ย แกก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของจิรเวช เท่านั้น แกคิดหรือไงว่าวันนี้ต่อให้ฉันไม่ซ้อมแก จิรเวชจะมีน้ำใจ กับแก
แก้มทั้งสองข้างของโยษิตาบวมขึ้นมา เลือดกลบปาก เธอจ้อง มองรพีพงษ์อย่างเกลียดชัง เปิดปากพูดขึ้น” ในเมื่อแกรู้อยู่แล้ว ว่าจิรเวชมาตอกย้ำแก แกยังไม่มาคุกเข่าวิงวอนเขาอีก หรือแก คิดว่าตามกำลังของตระกูลลัดดาวัลย์ แกจะต้านจิรเวชไหวเหรอ”
“เรื่องนี้แกไม่ต้องห่วงหรอกนะ แกทำให้สลบหลับใหล แค ล หายตัวไป แกจะต้องรับผลกรรมในเรื่องนี้
พูดจบเพีพงษ์จึงตบอีกสองฉาดลงบนหน้าโยษิตา โยษิตาโดนรพีพงษ์ตบจนมึนงงไปหมด
“บอกฉันมา แกเอาแคลร์ไปไว้ที่ไหน! “รพีพงษ์หรี่ตาถามโย ษิตา
โยษิตามองรพีพงษ์อย่างพร่าเลือน มุมปากผืนฉีกยิ้มออกมา พูดขึ้นว่า “ที่แท้แกก็มีช่วงที่ร้อนรนเหมือนกัน แต่ถ้าฉันจะไม่บอก แกล่ะ แกจะชักดิ้นชักงอตายมั้ย
“ฉันชอบเห็นแกอับจนหนทางแบบนี้ ตั้งแต่แกฆ่าพี่สาวฉันตายและแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน ฉันก็จินตนาการฉากนี้ทุกวันๆ
มือหนึ่งของรพีพงษ์บีบคอ โยษิตาเอาไว้ พูดเสียงเย็นชา แต่ แกคงไม่ได้นึกภาพสารรูปที่แกคุยกับฉันอยู่ในตอนนี้
พูดจบ เขาก็กระชากแขนโยษิตาหลุดโดยไม่ลังเล
โยษิตาร้องโหยหวนด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ตัวเริ่มสั่นเทิ้ม
ความเจ็บปวดกระชากวิญญาณทำให้หน้าเธอบิดเบี้ยวขึ้นมา
รพีพงษ์คว้าแขนอีกข้างของโยษิตา พูดเสียงเย็นชา บอกฉัน มา แกเอาแคล ไปไว้ที่ไหน ถ้าแกไม่บอก วันนี้ฉันไม่ฆ่าแกหรอก นะ แต่จะหักแกออกเป็นท่อนๆ ให้แก่พิการไปตลอดชีวิต!
โยษิตาแสดงความหวาดกลัวออกมาทางสีหน้าอย่างเห็นได้ ชัด เธอจ้องมองรพีพงษ์ครู่หนึ่ง หันไปหัวเราะออกมา พูดขึ้นใน เมื่อแกอยากรู้ขนาดนี้ จะบอกให้ก็ได้”
รพีพงษ์สาวเท้าก้าวขึ้นหน้า ตึงเครียดขึ้นมา
เขากลัวว่าจะได้ยินคำตอบที่ไม่สามารถรับได้จากปากของโย ษิตา ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาคงจะฆ่าโยษิตาทิ้งโดยไม่แยแส สายตารอบข้าง
“อารียาไปอยู่ที่ไหน ฉันเองก็ไม่รู้วันนั้นฉันแค่สั่งให้คนไปชน มันก็เท่านั้น ใครจะไปรู้ว่า มันดวงดี อยู่กับลูกสาวของสมาคม การค้าTY แล้วแม่สาวนั้นช่วยเอาไว้ จากนั้นฉันยังไม่ได้จัดการ อะไรต่ออีกเลย เพราะงั้นทำไมอารียาถึงหายตัวไป ไปที่ไหน ฉันก็ ไม่รู้วันนี้ต่อ ให้แกฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆ ฉันก็ตอบไม่ถูกอยู่ดีว่าอารียาอยู่ที่ไหน” โยษิตาตอบตามความ เป็นจริง
รพีพงษ์ได้ยินดังนั้น เขาคิดทันทีว่าเธอคงกําลังวางกับดักเขา จึงฉวยแขนเธอขึ้นมาออก แรงเต็มกำลัง
แต่เขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของโยษิตาไม่แสดงอาการร้อนรน ดูเหมือนคนไม่ได้โกหก
“แกกำลังรนหาที่ตายงั้นเหรอ”รพีพงษ์หรี่ตาพูด
โยษิตาแสดงสีหน้าไม่ยี่หร่า พูดขึ้น”ฉันไม่ได้หลอกแก แกไม่ เชื่อก็ช่วยไม่ได้ ตอนนั้นฉันก็อยากให้อารียาเกิดเรื่องหรอกนะ จากนั้นเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ไม่สนใจแล้วล่ะ แล้วนิสัยอย่างฉัน แน่นอนว่าอยากให้แกเห็นอารียาทุกข์ทรมาน ฉันจะทำให้มัน หายตัวไปทำไมเล่า
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว โยษิตาพูดไม่ผิด แล้วอารียาหายตัวไปไหนกัน
เงาคาปกคลุม ใจรพีพงษ์ เดิมทีเขาคิดว่าแค่หาโยษิตาเจอ ก็ จะได้เบาะแสอารียา แต่ดูท่า เรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
“รพีพงษ์ ตอนนี้แกผิดหวังมากสินะ จะบอกแกให้ ยิ่งแกผิด หวัง ฉันก็ยิ่งสะใจ ตอนนี้ฉัน แอบดีใจที่การหายตัวไปของอารี ยาไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะถ้าฉันเป็นคนทำจริง ตอนที่แกทรมานฉัน ฉันอาจจะทนไม่ไหว แต่ว่าฉันไม่รู้ เพราะงั้นต่อให้แกฆ่าฉันให้ ตาย ฉันก็ตอบ ไม่ได้ว่าอารียาอยู่ไหน! “โยษิตายิ้มอย่างลำพอง ใจขึ้นมา
รพีพงษ์เห็นสถานการณ์แล้ว จึงตบลงบนหน้าโยษิตาอีกฉาด หนึ่ง สีหน้าโยษิตาแข็งขึ้น มาทันที รพีพงษ์ แกมันไอ้ฉิบหาย! โยษิตาตะโกนเสียงพร่า
“ต่อให้แกไม่รู้จริง แกคิดว่าวันนี้แกจะอยู่ดีเหรอ”
รพีพงษ์แค่นเสียง ลงมือกับโยษิตาอย่างไม่เกรงใจ เมื่อครูโย ษิตาทําให้รพีพงษ์เดือดดาลขึ้นมา แม้ว่าตอนนี้รพีพงษ์จะยังฆ่า เธอไม่ได้ แต่ถ้าเขาจะซ่อมโยษิตา ใครเล่าจะขวาง เขาอยู่
คนรอบตัวมองดูรพีพงษ์ลงมือกับโยษิตา ในใจต่างรู้สึก ตระหนก เพราะว่ารพิพงษ์ลงมือ หนักมาก พวกเขาเคยเห็นฉาก ผู้ชายซ้อมผู้หญิงแบบนี้ก็แต่ในละครทีวีเท่านั้น
“สวรรค์ นี่ก็รุนแรงไปหน่อยเนอะ ผู้หญิงคนนี้ไปทำอะไรให้ถึง ทำให้ผู้ชายคนนี้โกรธได้ ขนาดนี้”
“รุนแรงเกินไปแล้ว พวกเราต้องแจ้งความมั้ย
“ช่างเถอะนะ ดูท่าแล้วผู้หญิงคนนั้นคงทำอะไรไว้ผิดต่อผู้ชาย คนนั้นน่ะ ไม่แน่ว่าสองผัวเมีย ผู้หญิงมีชู้ก็ได้ เรื่องของชาวบ้าน ตำรวจก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ”
“แหมๆ ผู้หญิงสวยนี่ไม่ดีจริงๆด้วย เอะอะก็มีชู้ ตอนนี้โดน ซ้อม ก็สมน้ำหน้าละนะ”
ผ่านไปนาน โยษิตา โดนรพีพงษ์ซ้อมจนหายใจรวยริน รพีพงษ์ ถึงได้ยอมปล่อยเธอไปแล้วโยนเธอกองไว้บนพื้น
เขาจ้องเขม็งไปที่โยษิตา พูดเสียงเย็นชา”วันนี้แค่สั่งสอน เบาะๆ ไม่ว่าการหายตัวของแคลร์จะเกี่ยวกับแกหรือไม่ แต่แกก็ เป็นต้นเหตุ ทั้งแกและจิรเวช ฉันไม่เอาไว้ทั้งคู่ แล้ววันนั้น ก็ไม่ นานนักหรอก”
พูดจบ รพีพงษ์จึงหมุนตัวจากร้านขายของ โบราณคดีคาย ไป
โยษิตาล้มลงบนพื้น ไร้เรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง เธอรู้สึกรวดร้าว ไปทั้งสรรพางค์กาย น้ำตา ไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยโดนตีแม้แต่แปะเดียว เธอคิดว่าร พงษ์คงจะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง จะออมมือกับเธอบ้าง หากแต่ ความจริงได้พิสูจน์ เธอไร้เดียงสาเกินไป
บอดี้การ์ดที่โดนรพีพงษ์ซัดจนหมอบรออยู่ครู่หนึ่ง จึงคลานขึ้น มาจากพื้น เดินไปข้างๆ โยษิตา พยุงหล่อนขึ้น แล้วพาออกไป
ที่จริงตอนนั้นพวกเขาสองคนฟื้นแล้วล่ะ เพียงแต่รพีพงษ์ ร้ายกาจเกินไป พวกเขารู้แก่ใจว่าต่อให้ลุกขึ้นในตอนนั้น ก็ต้อง โดนรพีพงษ์ซ้อมอยู่ดี ก็เลยแกล้งลุกไม่ขึ้นเสียเลย แล้วนอน หมอบอยู่บนพื้น
คฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์
รพีพงษ์นั่งอยู่ในห้องหนังสือ ขมวดคิ้วแน่น ในหัวคิดถึงเรื่อง ราวที่เกิดขึ้นกับโยษิตาในวันนี้
เขาบรรจงคิดถึงรายละเอียด หาทางจับผิดว่าโยษิตาได้โกหก เขาหรือไม่
ก่อนหน้าเขาคิดเสมอว่า อารียาหายตัวไป เป็นฝีมือของโยชิ ตา แต่ตอนนี้โยษิตายืนยัน เองว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ แล้วดูที หล่อนก็ไม่เหมือนคนที่กำลังล้อเล่น ทำให้รพีพงษ์สับสนมาก
ถ้าหากการหายตัวของอารียาไม่เกี่ยวกับโยษิตา แล้วใครกัน ที่พาอารียาไป
รพีพงษ์นึกถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดอีกรอบ แต่สุดท้ายก็นึก หาเหตุผลที่คนพวกนี้จะพาอารียาไปไม่ออก
อีกอย่างคนที่จะลงมือกับอารียา ก็มีแต่โยษิตาเท่านั้นแหละ ถ้าโยษิตาไม่ได้ทำ รพีพงษ์ก็คิดไม่ออกจริงๆว่าใครบ้างจะทิ้ง เบาะแสของอารียาไว้ให้เขาได้บ้าง
หลังจากที่คิดไม่ตกเป็นนานสองนาน รพีพงษ์จึงหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา โทรหาธฤตญาณ
“เรื่องการหายตัวของแคลร์อาจจะไม่เกี่ยวกับโยษิตา ก่อน หน้าพวกเราเดาผิดกันหมดเลย นายลองตรวจสอบอีกทีว่าตอน นั้นมีใครผ่านแถวนั้นบ้าง อย่าตัดคนที่มีความเป็นไปได้ออกเด็ด ขาด”
“เข้าใจ”เสียงตอบมาตามสายโทรศัพท์
หลังจากที่วางหูโทรศัพท์ รพีพงษ์ถอนหายใจออกมายาวๆ ใน ใจเริ่มกังวลว่าตอนนี้อารียาจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าไม่รู้ว่า คนที่พาอารียาไปคือใคร รพีพงษ์อดที่จะคิดไปในแง่ร้ายไม่ได้
กรุ๊ปKIN
ในห้องทํางานของจิรเวช
บอดี้การ์ดสองคนประคอง โยษิตาที่หมดสภาพ พวกเขาได้ส่ง โยษิตาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อย คุณหมอได้ทายาที่แขน ให้โยษิตา บอกว่า โอกาสที่จะหายกลับเป็นปกติ นั้นมีน้อยมาก
จิรเวชกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ เมื่อเห็นมีคนเข้ามา จึง เหลือบตาขึ้นมอง แล้วตะโกนออกไปว่า”แม่งอะไรวะ”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “คือ…..คือคุณโยษิตา โดนซ้อม ครับ”
จิรเวชรีบขมิ้นคิ้วถามทันที “ใครที่ไหนซ้อมเธอได้ถึงขนาดนี้ บอดี้การ์ดคนนั้นจึงรีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านโบราณคดีคาย ดี้ให้จิรเวชฟัง
หลังจากที่จิรเวชได้ฟัง จึงหรี่ตาลง พูดเย็นซาว่า”ไอ้รพีพงษ์มัน จะเหิมเกริมมากเกินไปแล้วบ้านลัดดาวัลย์ของมันจนตรอกขนาด นี้ มันยังกล้าลงมือ นี่เป็นท่าทีของหมาจนตรอกหรือไง”
เขาเดินเข้ามา จ้องโยษิตาแล้วพูดว่า “แหมๆ ลงมือหนักไม่เบา เลยนะ ซ้อมจนสภาพขนาดนี้”
“ฉัน……. มาจากริมฝีปาก
…………………………มัน! “โยษิตาเค้นคำพูดออก
จิรเวชยิ้มแล้วพูดขึ้น สบายใจได้ อีกไม่นานฉันก็จะได้ร่วมมือ ในโครงการบูรณะเขตพื้นที่เก่า ต่อไปตระกูลที่จนตรอกอย่างลัด ดาวัลย์ก็ต่อกรกับฉันไม่ได้”
“คุณชายครับ รพีพงษ์นั่นฝีมือดีมากนะครับ พวกยอดฝีมือที่ คุณชายพามานะ เกรงว่าจะสู้ไม่ได้”บอดี้การ์ดพูดเตือนขึ้น
จิรเวชแสยะยิ้มพูดขึ้นมันจะเก่งกาจแค่ไหนแล้วไง พวกแกไม่ ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ฉันได้เตรียมของขวัญชิ้นโบว์แดงไว้ให้มัน แล้วล่ะ”
“รอบนี้ฉันทุ่มทุนสุดตัวที่จ้างยอดฝีมือที่ฝีมือฉกาจมาต่อสู้กับ มัน ต่อให้รพีพงษ์เก่งกาจแค่ไหน ก็สู้ไม่ได้หรอกนะ”
“ถึงเวลานั้น รพีพงษ์ต้องคุกเข่าขอร้อง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ