บทที่361 รังเกียจที่แกไม่เอาไหนเกินไป
ชุมชนคำแหง
รพีพงษ์เดินเข้าไปในชุมชน เมื่อนึกถึงงานแต่งงานที่กำลัง จัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งกับอารียา เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
เมื่อนึกถึงวันนี้อารียายังคงต้องทำงาน รพีพงษ์ก็เลยไม่ได้ บอกอารียาเรื่องที่ตัวเองมาถึงที่เมืองริเวอร์ แต่มาที่ชุมชน เพียงคนเดียว โดยคิดว่าคืนนี้จะพาคนในครอบครัวออกไป
ทานอาหารดีๆสักมื้อ
ไม่นานหลังจากที่เขาเดินเข้าไปในชุมชน ชลิดาก็เดินตาม มา จ้องมองเขาด้วยความดูถูก และพูดว่า: นี่รพีพงษ์ไม่ใช่ เหรอ ไม่ได้เจอแกมาหลายวันเลย ฉันก็คิดว่าแกรู้ตัวว่าเกาะ อารียากินไม่ได้แล้วก็เลยหนีไปแล้ว”
รพีพงษ์จ้องมองไปที่ชลิดา หลังจากได้ยินคำพูดของหล่อน ก็ขมวดคิ้ว แล้วถามว่า: “หมายความว่ายังไง?”
“ฉันหมายความว่าอะไรใจแกก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ? ตอน นี้ที่บ้านของอารียาอยู่ในสภาพที่ตกระกำลำบากขนาดนี้ หรือว่าแมงตาอย่างแกยังจะอยู่ในบ้านของเธออีกต่อไปอยู่ เหรอ?”เบะปากแล้วพูด
เมื่อได้ยินคำพูดของชลิดา รพีพงษ์ก็เดาได้ว่าหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ ครั้งก่อนตอนที่ย้ายบ้าน โศรวิทย์ก็คงคิดว่าที่ พวกเขาย้ายไปอยู่ที่ชุมชนคำแหงเพราะบริษัทอยู่ต่อไปไม่ ไหวแล้ว
เขาขี้เกียจเถียงกับคนแบบนี้จึงเดินตรงไปด้านหน้า
เมื่อชลิดาเห็นรพีพงษ์ไม่ตอบโต้ รู้สึกว่าตัวเองพูดถูก อย่างแน่นอน ยิ่งได้คืบจะเอาศอกไปใหญ่ จึงเดินตามรพี พงษ์ แล้วก็พูดด้วยมาท่าทางที่กลับตาลปัตรว่า: “ทำไมล่ะ ฉันพูดถูกใช่ไหม อารียาก็น่าสงสารจริงๆ ตอนนี้อยู่ในสภาพ แบบนี้ แม้แต่เศษสวะอย่างแกก็ไม่เอาหล่อนแล้ว ตลกสิ้นดี”
รพีพงษ์ไม่สนใจคำพูดของชลิตา ราวกับว่าไม่ได้ยิน โต้ เถียงกับคนแบบนี้ไป มันเสียเวลาเปล่าๆ แคลร์ไม่น่าสงสาร เลย รอตอนที่พวกเขาจัดงานแต่งงานก่อน ทุกคนก็จะได้รู้ เอง
เมื่อชลิดาเห็นว่ารพีพงษ์ไม่สนใจตัวเอง ด้วยความโกรธที่ สะสมมา จึงวิ่งตรงหน้าหารพีพงษ์อย่างรวดเร็ว ขวางเขา เอาไว้ แล้วถามว่า: “แกหูหนวกหรือไง? แกไม่ได้ยินที่ฉันพูด เหรอ? แกวางแผนที่จะไม่เอาอารียาแล้วใช่มั้ย? รีบพูดออก มาเพื่อให้ฉันมีความสุข”
“ไสหัวไปให้พ้นซะ”
เมื่อรพีพงษ์เห็นชลิดาขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง ก็ด่าไป อย่างไม่เกรงใจ ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้อารียาไม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉัตรมงคล รพีพงษ์ก็ยังเห็นแก่ที่หล่อนเป็นผู้ใหญ่ กว่า อาจจะเกรงใจหล่อน แต่ตอนนี้ทั้งหมดนี้ไม่มีความ จำเป็นแล้ว
“แกว่าอะไร! แกกล้าให้ฉันไสหัวไปให้พ้นเหรอ? แกใหญ่ มาจากไหน กล้าที่จะพูดจาแบบนี้กับฉัน? จะบอกให้นะ ไม่มี อารียาแล้ว แกก็ไม่มีค่าอะไรเลย ยิ่งตอนนี้อารียาไม่ไหวแล้ว บริษัทของหล่อนก็อยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว แกมีสิทธิ์อะไรมา อวดดีกับฉัน?”ชลิตาก็ระเบิดความโกรธออกมา
รพีพงษ์ก็ผลักหล่อนออกไปโดยตรง แล้วเดินไปด้านหน้า ต่อไป ถ้าหากว่าชลิดายังคงเช้าซี้ต่อไป เขาจะไม่เกรงใจ แล้ว
“แกยังกล้าผลักฉันเหรอ แกต่อต้านเหรอ ขอโทษฉัน เดี๋ยวนี้!”ชลิดายิ่งอยู่ยิ่งโกรธมากขึ้น
รพีพงษ์ก็ไม่สนใจชลิดาเลย ไม่ว่าหล่อนจะโวยวายยังไง ก็ทำเหมือนมองไม่เห็น
ชลิดารู้สึกหงุดหงิดในใจ สิ่งที่คนอย่างหล่อนทนไม่ได้ที่ สุด ก็คือไม่ได้รับการตอบรับจากการจองล้างจองผลาญของ ตัวเอง รพีพงษ์เหมือนจะจับจุดนี้ได้ ดังนั้นถึงได้ไม่สนใจ หล่อน
ในตอนนี้ศศินัดดาออกมาจากในตึก และเดินไปหารพี่ พงษ์พวกเขา หลังจากที่รพีพงษ์เห็นศศินัดดา ก็เร่งฝีเท้าของตัวเองทันที และต้องการที่จะไปทักทายศศินัดดา
ศศินัดดายังคงระวังชลิดา ทันทีเงยหน้าขึ้นมาก็มองเห็น รพีพงษ์เดินตรงมาทางหล่อน ชลิตายังคงเดินตามอยู่หลัง สีหน้าก็เปลี่ยนไปดูไม่ดีขึ้นมา
ไอ้ดวงหายนะนี้เป็นผู้ชายที่ดวงแข็งจริงๆ กลับมาจากเกีย วโตแล้ว คนดีมักจะอายุสั้น คนเลวมักจะอายุยืน แม้แต่ ตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโตก็จัดการไอ้หมอนี่ไม่ได้ ไม่ แปลกใจเลยที่อาจารย์จะบอกว่ารพีพงษ์จะเป็นต้นเหตุที่ นำพาความหายนะมาสู่ครอบครัวเขา
ที่สำคัญรพีพงษ์เพิ่งจะกลับมาก็นำพาปัญหามาให้หล่อน ตอนแรกหล่อนคิดว่าวันนี้ตัวเองจะสามารถหลีกเลี่ยงชลิดา ได้ ใครจะไปคิดว่ารพีพงษ์จะพาหล่อนมาที่นี่โดยตรง
“แม่ครับ แม่จะออกไปข้างนอกเหรอครับ?” รพีพงษ์ถาม ด้วยรอยยิ้ม
“แกอย่ามาเรียกฉันว่าแม่นะ ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ต่ออีก หลายปี ไม่แน่ถูกแกเรียกไม่กี่ครั้ง อายุขัยของฉันก็น้อยลง ไป”ศศินัดดากล่าวด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
รพีพงษ์นิ่งอึ้งไป ไม่รู้ว่าศศินัดตาเป็นอะไร และถามว่า “แม่มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ? ดูท่าทางเหมือนแม่จะไม่มี
ความสุขเลย”
“มี ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฉันก็คือแก เห็นแกแล้ว ฉัน จะมีความสุขได้ยังไง”ศศินัดดากล่าว “ในเมื่อเจอกับแกที่นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขี้เกียจรอแกถึงกลับบ้านต่อยพูดกับแก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประตูบ้านฉัน แกห้ามเข้า เพื่อที่จะได้ ไม่น่าพาอันตรายต่างๆมาให้ครอบครัวพวกเราอีก ตอนนี้ แกก็ไปซักเถอะ ไม่ต้องไปที่บ้านแล้ว ของพวกนั้นของแก แกอยากได้อะไร ก็บอกกับชนิสรา เดี๋ยวฉันจะให้หล่อน จัดการแล้วเอามาให้แก”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของศศินัดดา รพีพงษ์ก็แสดงสีหน้า สงสัย เขาไม่รู้ว่าทำไมศศินัดดาถึงเป็นแบบนี้
“แม่ครับ แม่เป็นอะไรครับ จู่ๆทำไมไม่ให้ผมเข้าบ้าน หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”รพีพงษ์ถาม
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่ไม่อยากให้แกเข้าบ้านฉันเท่านั้นเอง แกมันก็เป็นแค่ดวงหายนะ เข้าบ้านฉันแล้ว คงจะนำพาความ หายนะมาสู่บ้านฉันแน่ๆ”ศศินัดดาพูดอย่างเหลืออด
หลังจากนั้นหล่อนก็เดินไปทางด้านหน้า และพูดเสริมว่า: “กุญแจประตูที่บ้านฉันก็เปลี่ยนแล้ว แกอยากเข้าไปก็เข้าไม่ ได้ ทางที่ดีฉันเตือนแกอย่าเข้าไปในชุมชนนี้จะดีกว่า ไม่
อย่างนั้นใครที่เจอกับแกก็จะโชคร้าย”
หลังจากพูดเสร็จ ศศินัดดาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ชลิดาที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ ก็หัวเราะออกมาทันที และพูดว่า: “รพีพงษ์ เมื่อกี้แกอวดดีมากเลยไม่ใช่เหรอ ปรากฏ ว่าแม้แต่ประตูบ้านเขาก็ยังไม่ให้เข้าเลย ตลกสิ้นดี”
รพีพงษ์ขมวดคิ้วมองไปที่ชลิดา และไม่สนใจ แต่หยิบ โทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาอารียาเล่าเหตุการณ์เมื่อกี้ ให้กับอารียา แล้วถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น
อารียาบอกกับรพีพงษ์ว่าเรื่องนี้พูดในโทรศัพท์มันไม่ ชัดเจน ให้เขาไปรอที่บริษัทตัวเอง รอเลิกงานแล้วค่อยคุย กับเขาดีๆ
รพีพงษ์วางสายโทรศัพท์ และเดินออกจากชุมชนไป ตอน แรกคิดว่าการกลับมาในครั้งนี้ของตัวเองจะเป็นการเริ่มต้นที่ ดีงาน ปัญหาของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ตัวเองก็จัดงานแต่งงานให้อารียาอีกครั้ง สิ่งเดียวที่เหลือคือ การตามหาพ่อ
ใครจะไปคิดว่าเพิ่งจะกลับมาถึงศศินัดดาก็สร้างปัญหาให้ เขา ทำให้เขาสับสนเล็กน้อย
“รพีพงษ์ ฉันยังนึกว่าแกเป็นเพราะบริษัทของอารียาอยู่ ต่อไปไม่ไหว ไม่อยากเอาเขาแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเป็น ครอบครัวของเขาไม่เอาแก คิดไม่ถึงว่าพวกเขาถึงขนาดนี้ แล้ว ก็ไม่อยากจะเอาเศษสวะอย่างแก ดูเหมือนว่าจะรังเกียจ ที่แกไม่เอาไหนเกินไป กลายเป็นภาระของครอบครัวพวก เขา”ชลิดากล่าวอย่างมีชัย
รพีพงษ์เดินออกจากประตูชุมชนอย่างรวดเร็ว และนั่ง แท็กซี่ตรงไปยังบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่ได้สนใจชลิดา
เมื่อชลิตาเห็นรพีพงษ์นั่งแท็กซี่ไปแล้ว ก็ตะคอกอย่างเย็น ชา พร้อมกับแสดงความเยาะเย้ยบนใบหน้าออกมา และ พิมพ์ว่า: “สถานการณ์ของบ้านพวกแกยิ่งแย่เท่าไหร่ ฉันก็ ยิ่งมีความสุข รอเดี๋ยวเถอะ จะช้าจะเร็วต้องมีสักวัน ครอบครัวเราก็จะเหยียบย่ำพวกแกอยู่ใต้เท้าเช่นเดียวกันกับ เมื่อก่อน!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ