บทที่ 611 ฉันชอบนาย
รพีพงษ์หรี่ตาลงมองผู้หญิงที่งดงามราวกับ นางฟ้าที่อยู่ตรงหน้า เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำไมคุณต้องเข้ามาใกล้ภรรยาผม”
ฝนสุดายิ้มหวานให้กับรพีพงษ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่ได้เข้าใกล้เธอสักหน่อย นิสัยของเราสองคน คล้ายกัน พูดคุยถูกคอกัน ถึงนายจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่ สามารถห้ามให้ฉันคบหาใครได้หรอกนะ”
“งั้นผมคงต้องคิดว่าคุณเป็นตัวอันตราย และ ควรกำจัดคุณเป็นอันดับแรก” รพีพงษ์พูดอย่างไม่ เกรงใจ
ถึงแม้ตอนแรกเขากับฝนสุดาจะไม่ได้มีอะไร โกรธแค้นกัน หนําซ๊าเขายังเคลียร์ความสัมพันธ์ของ เขากับฝนสุดาอีกด้วย แต่ว่าตอนนี้อารียากำลังท้อง รพีพงษ์ไม่เข้าใจเป้าหมายของฝนสุดา ดังนั้นเขาจึง ต้องระมัดระวังอยู่เสมอ
ใบหน้าแสนหวานของฝนสุดาแปรเปลี่ยนเป็น ความโกรธ เธอมองรพีพงษ์ด้วยสีหน้าโกรธเคือง ท่าที ราวกับนางฟ้าเมื่อครู่ได้หายไปในพริบตา เหลืออยู่ เพียงหญิงสาวที่กำลังโกรธ
“นายนี่มันยังไงกัน ถามฉันสักคำสิ ฉันอุตส่าห์ อุบไว้แล้ว ทำไมนายถึงบื้อขนาดนี้” ฝนสุดาพูดด้วย ความหงุดหงิด
“ขอโทษด้วย ผมไม่มีเวลามาฟังคุณหรอกนะ ทุกคนที่คิดร้ายต่อภรรยาของผม ผมจำเป็นต้องกำจัด ทิ้ง” รพีพงษ์พูดจบก็หันหลังเดินออกไปข้างนอก
ฝนสุดามือแน่น เธอกระทืบเท้าฟีดฟัดแล้วเดิน ตามไป
“โอ๊ย รอเดี๋ยวสิ ฉันพูดไปแล้วว่าการที่ฉันมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะภรรยาของนาย ไม่ทันไรก็จะกำจัดฉันซะ แล้ว นายรู้หรือเปล่าว่าคนที่นายจะกำจัดน่ะ อาจจะ เป็นภรรยาของนายในอนาคตก็ได้นะ” ฝนสุดาพูด ด้วยสีหน้าโกรธเคือง
ถ้าคนที่ต่อแถวตามจีบฝนสุดามาเห็นเธอใน ตอนนี้ คงจะร้องไห้ออกมากันเป็นแถว ผู้หญิงที่พวก เขาต้องตาต้องใจ กลับมาตามจีบชายอื่น
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่ฝนสุดาพูดก็หยุดเดิน ทันที เขาหันไปมองฝนสุดา
ฝนสุดาเห็นดังนั้นก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จู่ๆ เธอก็โผ เข้าไปหารพีพงษ์
“โอ๊ย ทำไมจู่ๆ ก็หยุดเดินล่ะ” ฝนสุดาพูดเสียง
เบา ตัวของเธอแทบจะรวมเข้ากับตัวของรพีพงษ์
รพีพงษ์ดูไม่ออกว่าฝนสุดาตั้งใจ เขารีบถอย หลังแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณหมายความว่ายังไง”
ฝนสุดายังคงซึมซับความอบอุ่นจากร่างกาย ของรพีพงษ์ เมื่อได้ยินรพีพงษ์ถามเช่นนั้นเธอจึงพูด ออกไปอย่างเก้ๆ กังๆ ว่า “โอเค ฉันไม่อุบไว้แล้วก็ได้ ฉันมาที่นี่ก็เพราะนาย ฉันรู้จักกับภรรยาของนาย เพราะความบังเอิญจริงๆ แต่ในอนาคต ไม่แน่ทุกคน อาจจะเป็นครอบครัวเดียวกัน สร้างความสัมพันธ์เอา ไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนิ”
รพีพงษ์ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ครอบครัวเดียวกัน เหรอ คุณพูดอะไรไร้สาระ”
“โอ๊ย นาย ชื่อบื้อจริงๆ ต้องให้ฉันพูดออกมา จริงๆ ใช่ไหม นายถึงจะเข้าใจ” ฝนสุดามองรพีพงษ์ อย่างเหนื่อยใจ
“รีบพูดมา” รพีพงษ์พูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฉันชอบนายไง ชีวิตนี้จะมองแค่นายคนเดียว ไม่ว่านายจะมีภรรยาหรือไม่ ฉันก็จะแต่งกับนาย เข้าใจที่ฉันพูดหรือยัง!” ฝนสุดาหน้าแดง หญิงสาวก้ม หน้าไม่กล้าสบตารพีพงษ์
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่ฝนสุดาพูด จู่ๆ เขาก็พูด อะไรไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองมีโชคด้านความรัก หรืออย่างไร ถึงมักจะมีผู้หญิงเข้ามาชอบเขาเสมอ
ถ้าพูดตามหลักแล้ว ผู้ชายแท้ๆ และซื่อบื้ออ ย่างเขา ไม่น่าจะมีใครมาชอบสิถึงจะถูก ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของเขาก็มีเพียงอารียาคนเดียวเท่านั้น ไม่เข้าใจ จริงๆ ว่าผู้หญิงพวกนี้คิดอะไรอยู่
หลังจากที่เขาคิดอยู่ในใจสักครู่ เขาจึงมองฝน สุดาแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ คุณรีบล้มเลิกความคิด นี้ซะเถอะ ใจของผมมีแค่อารีคนเดียว และไม่สามารถ มีใครได้อีก”
ฝนสุดาไม่ได้แคร์เรื่องนี้ เธอพูดออกมาว่า “ถึง แม้ว่าตอนนี้ในใจของนายยังไม่มีฉัน แต่ฉันจะเข้าไป อยู่ในใจของนายให้ได้
“เกรงว่าคุณจะคิดเยอะไปแล้ว” รพีพงษ์พูด ด้วยความมั่นใจ
ฝนสุดาสัมผัสได้ถึงความมั่นใจของรพีพงษ์ เธอ เบิกตาโต สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ไม่เคยมีใครปฏิเสธผู้ หญิงสวยราวกับนางฟ้าเช่นเธอ
รพีพงษ์ ทำไมนายเป็นแบบนี้ ฉันจะแต่งกับ นายคนเดียว นายจะทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ” ฝน สุดาพูดด้วยความหงุดหงิด
“คุณยังเด็ก หน้าตาสะสวย แถมยังเป็นคุณหนู ตระกูลก้องวณิชกุล คุณต้องเจอคนที่เหมาะสมกับ คุณอย่างแน่นอน ต่อจากนี้อย่าคิดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อีก” รพีพงษ์ถอนหายใจ และพูดเตือนฝนสุดาอย่าง ใจเย็น
“ไม่ ฉันจะแต่งกับนายคนเดียว ถ้าไม่ได้ ฉันก็ คงต้องฆ่านาย” ฝนสุดาเม้มปากแล้วพูดว่า “นี่เป็นข้อ ปฏิบัติของตระกูลเรา ตอนที่อยู่ที่กิสนา นายจำได้ ไหมว่านายแตะเท้าฉัน
รพีพงษ์ขมวดคิ้วแล้วพยักหน้า
“สำหรับผู้หญิงในตระกูลก้องวณิชกุล เท้าเป็น ส่วนที่หวงห้ามมาก สามีเท่านั้นที่จะแตะต้องได้ สำหรับผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน ถ้าโดนผู้ชายแตะเท้า จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น หรือไม่ก็ฆ่าเขา นี่เป็น ข้อปฏิบัติที่ตระกูลก้องวณิชกุลทำกันมารุ่นต่อรุ่น เมื่อ มาถึงรุ่นฉันก็ไม่สามารถละเมิดข้อปฏิบัตินี้ได้
รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าตระกูลก้องวณิชกุลจะมีข้อ ปฏิบัติที่คร่ำครีเช่นนี้ ที่เขาแตะเท้าเธอก็เพราะอยากรู้ เรื่องของนนทภูเท่านั้น สำหรับคนรุ่นใหม่แบบเขา จะ ไปคิดได้ยังไงว่าการแตะเท้าจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
คนที่อธิบายทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยอย่างฝน สุดาเหมือนลูกแกะที่รอคอยการตัดสิน หญิงสาวรอ คอยคำตอบของรพีพงษ์ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่มี ความมั่นใจ แต่ก็ยังกลัวว่ารพีพงษ์จะไม่ยอมรับ
รพีพงษ์คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามขึ้นว่า “แล้วข้อปฏิบัติในตระกูลของคุณบอกไว้หรือเปล่าว่า ถ้าฆ่าคนนั้นไม่ตาย จะต้องทำอย่างไร”
ฝนสุดาอึ้งไป เธอไม่เคยคิดถึงคำถามเช่นนี้มา ก่อน เพราะเธอก็ไม่คิดจะฆ่ารพีพงษ์อยู่แล้ว เธอคิดมา ตลอดว่าตัวเองจะทำให้รพีพงษ์มาอยู่ในกำมือให้ได้
“ระ เรื่องนี้ไม่ได้บอกไว้ ถ้าฆ่าไม่ตายก็ฆ่าต่อไป จนกว่าจะตายมั้ง” ฝนสุดาเอ่ยขึ้น
“งั้นก็ดี ตั้งแต่ตอนนี้ คุณก็เริ่มฆ่าผมได้ ผมจะ ไม่ตอบโต้คุณก่อน แต่ถ้าคุณลงมือผมจะตอบโต้กลับ จนกว่าคุณจะฆ่าผมได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็คงไม่เป็นการ ละเมิดข้อปฏิบัติของตระกูลใช่ไหม” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ฝนสุดาเบิกตาคู่สวย เธอคิดว่าหลังจากที่บอก เรื่องข้อปฏิบัติในตระกูลให้รพีพงษ์รู้ น่าจะเกิดอะไร บางอย่างขึ้น แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงจริงๆ คือการที่รพี พงษ์จะให้เธอฆ่าเขา ความคิดของเขา ทำให้ฝนสุดา อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “อย่างนี้ก็ได้เหรอ”
“รพีพงษ์ ฉันไม่ได้ด้อยไปกว่าอารียาเลย ทำไม นายถึงคิดว่าฉันไม่มีโอกาสที่จะอยู่กับนาย” ฝนสุดา พูดอย่างไม่ยอมแพ้
“เพราะเธอเป็นภรรยาของผม แค่นี้ก็เพียง พอแล้ว”
รพีพงษ์พูดจบ ก็หันหลังเดินเข้าไปในห้อง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ