พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 567 แค่ผิดวิธีเท่านั้น



บทที่ 567 แค่ผิดวิธีเท่านั้น

รพีพงษ์จ้องเขม็งด้วยความงงงัน เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองจากที่ ฟังจากวิไลพร คืออะไรนะ”

วิไลพรเห็นแววตาลุ่มลึกของรพีพงษ์สะท้อนอารมณ์พลุ่งพล่าน ออกมา เธอเข้าใจถ่องแท้ว่าทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยาแบบนั้น จึง พูดกับรพีพงษ์อีกรอบหนึ่ง ในชานมแก้วนั้น มีส่วนผสมของ ยาทําแท้ง”

จู่ๆรพีพงษ์รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาเสียอย่างนั้น ถ้าหากว่าในซานม นั้นมีส่วนผสมของยาทำแท้ง ก็หมายความว่า อารียาตั้งครรภ์

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง สิ่งแรกที่รพีพงษ์คิดได้ ก็คือเด็กในท้อง

เป็นลูกของเขาหรือเปล่า อย่างไรเสียช่วงที่อารียาหายตัวไปสอง

เดือนนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ยาวขนาดนั้น อะไรๆก็เกิดขึ้นได้

คิดมาถึงตรงนี้ รพีพงษ์ก็รู้สึกเดือดดาล เดิมทีเขาคิดว่าตระกูล พงศ์ธนธาดาจะดูแลอารียาอย่างดี แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่อง แบบนี้ขึ้นได้

วิไลพรเห็นปฏิกริยารพีพงษ์ จึงรีบยิ้มให้ทันที แล้วถามขึ้นคุณ กำลังคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของคุณหรือเปล่าใช่ไหม”

รพีพงษ์มองไปที่วิไลพร แต่ไม่ได้ปฏิเสธ

“ไม่แปลกหรอก ในด้านนี้คุณคงคิดเหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ วิไลพรทำเสียงเหมือนเจอของเล่นสนุกเข้า เจ้าหล่อนยิ้มออกมาอย่างขบขัน ที่จริงถ้าเธอท้องขึ้นมา ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะ เป็นลูกของคุณ ตระกูลพงศ์ธนธาดาต้องการดองญาติกับตระกูล ธาดาวรวงศ์ทั้งคู่ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน ในช่วงระหว่างนี้ บ้าน พงศ์ธนธาดาคงไม่เอถึงขนาดให้ใครมาแตะต้องตัวเธอ

ฟังคําพูดของวิไลพร รพีพงษ์จึงสงบลง รู้สึกว่าเธอพูดมีเหตุผล เมื่อกี้พอคิดไปอีกสถานการณ์หนึ่ง เขาเองก็ขาดสติไปบ้าง

“รีบให้หมอมาตรวจเธอเร็วเข้า ฉันต้องการรู้ว่าเธอท้องหรือ เปล่า”รพีพงษ์พูดขึ้น

วิไลพรพยักหน้า รีบจัดแพทย์มาตรวจทันที

ไม่นานนัก หมอสองสามคนก็หิ้วเครื่องมือเข้ามาในห้องอารี ยา หลังจากที่ตรวจแล้ว คุณหมอจึงสรุปผลว่า “ท้องได้สามเดือน

พอได้ฟังผล รพีพงษ์ถอนหายใจออกมาที่หนึ่ง ก่อนหน้านี้สาม เดือน อารียายังอยู่เมืองริเวอร์ ก็หมายความว่าเด็กในท้องอารี ยา เป็นลูกของรพีพงษ์ ก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นว่าทำ ไมตระกูลพงศ์ ธนธาดาจึงต้องทำแท้งท้องนี้

หลังจากฟาดเคราะห์ไป รพีพงษ์ก็เริ่มโทษตัวเอง เขาคิดไม่ถึง เรื่องต่างๆนานาที่อารียาเจอระหว่างท้อง ตอนที่อารียาเกิดเรื่อง เขาก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองริเวอร์ เขายังคงคิดว่าทั้งหมด เป็นความ ผิดเขาทั้งเพ

“สรุปแล้วว่าเมียคุณท้อง พวกเขาใช้ยาทำแท้ง ก็น่าจะเพราะ ต้องการดองญาติกับพวกธาดาวรวงศ์นั่นแหละ แล้วคุณจะทำไง ต่อดี”หลังจากที่วิไลพรเห็นผลตรวจ จึงถามรพีพงษ์ที่นั่งเงียบเป็นเป่าสาก

รพีพงษ์เงยหน้า จ้องมองวิไลพร ใช้น้ำเสียงเย็นชาไปหา ชลาธิป ถามเขาดูว่าเห็นอารียาเป็นลูกสาวจริงๆหรือเปล่า ถ้าเขา อธิบายได้ไม่สมเหตุสมผล ก็ฆ่าทิ้งซะ

วิไลพรรู้ว่ารพีพงษ์โกธรเข้าแล้วจริงๆ ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะร พงษ์ตั้งใจไปหาอารียาถึงจตุรัสถนนคนเดิน แล้วบังเอิญเห็น ขนมปังวางยา ลูกของรพีพงษ์ก็คงรักษาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ

สําหรับรพีพงษ์แล้ว เขาให้อภัยไม่ได้ แม้ว่าคนที่ก่อเรื่องจะ เป็นพงศาคณาญาติของอารี ยาก็เถอะ รพีพงษ์ก็ไม่ปล่อยเอาไว้ เป็นอันขาด

ถึงขนาดใช้ยาทำแท้ง จะไปนับญาติอะไรได้อีก สำหรับเรื่องพวกนี้ รพีพงษ์แยกออกอยู่เสมอ

“สาวใช้นั่นมันปากแข็ง เป็นตายยังไงก็ไม่ยอมรับ คุณจะทำยัง ไง”วิไลพรถามต่อ

รพีพงษ์แค่นเสียงเย็นชาพูดขึ้นในโลกนี้ไม่มีคนปากแข็ง หรอก แค่ใช้ผิดวิธีก็เท่านั้น พาฉันไปหามัน

ตอนนี้รพีพงษ์กำลังเดือดดาล ต้องการจะระบายอารมณ์ ขนมปังเป็นคนวางยา เขาจะ ปล่อยหล่อนไปง่ายๆได้อย่างไร

วิไลพรเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก พารพีพงษ์ไปห้องที่ขังขนมปังไว้
ในห้องที่มีดสลัว ขนมปังกำลังนั่งคุดคู้อยู่ หล่อนมองไปที่ชาย ฉกรรจ์สองคนอย่างหวาดผวา เมื่อกี้หล่อนโดนซ้อมไปทีหนึ่ง ตอนนี้บนใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำ

“แก……พวกแกปล่อยฉันนะ ฉันเป็นคนของตระกูลพงศ์ธน ธาดา ถ้าคุณท่านรู้ว่าพวกแกทำกับฉันแบบนี้ คุณท่านจะต้องไม่ ปล่อยพวกแกไว้แน่! “ขนมปังตะโกนใส่คนทั้งสอง

ชายฉกรรจ์สองคนต่างก็กำลังเดือดดาล พวกเขาไม่เคยเจอ เด็กสาวที่ปากแข็งขนาดนี้ ไม่ว่าจะซ้อมยังไง ก็ไม่ยอมเปิดปาก พูดออกมา

“ถ้าแกไม่ยอมพูดความจริง คุณท่านของแกก็จะไม่มีวันรู้ว่าแก เคราะห์ร้ายอยู่ที่ไหน อีกอย่างคนอย่างแก ก็กำลังจะหายจาก โลกนี้ไปเร็วๆนี้”ประตูห้องเปิดออก ในตอนนี้ มีเสียงลอดออกมา ขนมปังได้ยินเสียงนั้น จึงตัวสั่นเทาขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

เธอเงยหน้าขึ้น มองไปทางรพีพงษ์ กัดฟันพูด “แกลักพาฉันมา ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แถมยังปรักปรำว่าฉันวางยาคุณหนู อภัยให้ไม่ ได้ ตระกูลพงศ์ธนธาดาจะทำให้แกรู้ซึ้งถึงคำว่าเสียใจเอง”

รพีพงษ์เดินไปตรงหน้าขนมปัง คุกเข่าลง เผยยิ้มให้หล่อน จากนั้นจึงดึงมือหล่อนข้างหนึ่งมา

“พูดแบบนี้ หมายความว่ายังไม่ยอมสารภาพสินะ”รพีพงษ์พูด ขนมปังอยากกระตุกมือตัวเองกลับมาเหลือเกิน แต่ว่าออกแรง ยังไงก็ไร้ผล
“แก…….แกจะเอายังไงขนมปังถามอย่างละล่ำละลัก

“แกมีเวลาสามวินาที รพีพงษ์เปิดปากพูด

ขนมปังไม่ตกใจกับคำขู่ของรพีพงษ์ง่ายๆหรอก จึงต้องรพีพงษ์ เขม็ง โดยไม่พูดอะไร

เวลาสามวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์เห็นขนมปังไม่พูด ว่าอะไร จึงหักนิ้วหัวแม่โป้งหล่อนเสีย เขาออกแรงหัก เสียงดัง กร๊วบ ห้องทั้งห้องก้องไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของขนมปัง

ให้เวลาอีกสามวินาที”รพีพงษ์เปิดปากพูดอีก

ขนมปังมัวแต่สนใจนิ้วหัวแม่โป้งของตัวเอง ไหนเลยจะมา ตอบคำถามรพีพงษ์ เธอดิ้นพราดๆ เห็นได้ชัดว่าอ่อนเรียวอ่อน แรง

ผ่านไปอีกสามวินาที รพีพงษ์ไม่ลังเล หักนิ้วมือของขนมปังอีก

วิไลพรกับชายฉกรรจ์สองคนที่ยืนอยู่ข้างๆสูดลมหายใจด้วย ความหวาดเสียว โดยเฉพาะชายฉกรรจ์สองคนนั้น พวกเขารู้สึก ว่าตัวเองลงมือโหดแล้ว ตอนนี้เพิ่งรู้ว่า ตัวเอง ค่อนข้างอ่อนโยน กับขนมปังแล้ว

แบบนี้เอง รพีพงษ์หักนิ้วขนมปังไปหกนิ้ว ในตอนที่รพีพงษ์ กำลังจะหักนิ้วที่เจ็ด ขนมปังพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดบน นิ้วมือของตนจึงพูดขึ้น “คุณนายใหญ่ให้ฉันเป็นคนวางยาคุณหนู ท่านบอกว่าคุณหนูท้องลูกคนอื่น แต่งเข้าบ้านธาดาวรวงศ์ไม่ได้ทั้งหมดคุณนายใหญ่เป็นคนวางแผน ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไป ฉัน ผิดไปแล้ว ไม่กล้าแล้ว

เห็นขนมปังพูดความจริง รพีพงษ์หรี่ตาลง แรงอาฆาตพลุ่งพล่านขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ