บทที่ 521 ศาสตราจารย์รับเชิญ
มหาวิทยาลัยฟูตัน
ในห้องทำงานของคณะประวัติศาสตร์
อาจารย์กลุ่มหนึ่งกำลังนั่งคุยกันหลังเลิกเรียน อาจารย์ก็ไม่ ต่างจากคนปกติทั่วไป พวกเขาชอบนั่งด้วยกันและพูดคุยนินทา กันตามประสา
“พวกคุณรู้ไหมว่าคณะของเรากำลังจะมีศาสตราจารย์รับเชิญ มาว่ากันว่าพื้นเพไม่ธรรมดา คณะจะเปิดชั้นเรียน โอเพ่นคลาส สําหรับศาสตราจารย์คนนี้ ได้ยินมาว่าจะสอนเกี่ยวกับความรู้ เรื่องวัตถุอารยธรรมทางประวัติศาสตร์ “อาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่ง เอ่ยปากกล่าว
* ปัดโธ่ จริงหรือเปล่า คณะของเราไม่ได้จ้างศาสตราจารย์รับ เชิญมานานแล้วใช่ไหม? ว่ากันว่าผู้อำนวยการผดุงสิทธิ์ไม่เห็นนัก ประวัติศาสตร์จากภายนอกอยู่ในสายตา ศาสตราจารย์ที่ สามารถให้ผู้อำนวยการผดุงสิทธิ์ยอมรับเชิญมา ต้องเก่งมาก แน่ๆ!”
“แน่นอน ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหน แต่คนที่ศึกษาวัตถุ อารยธรรมทางประวัติศาสตร์คงต้องเป็นชายชราอายุเจ็ดสิบ แปดสิบปีละมั้ง”
“ไม่ไม่ไม่ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่อายุน้อยมาก ว่ากันว่าเขาอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้นและไม่ต่างจากนักศึกษาใน มหาวิทยาลัยของเรามากนัก” ในเวลานี้ มีอาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่ง กล่าว
“นี่คุณพูดเล่นใช่ไหม มีงานวิจัยเกี่ยวกับวัตถุอารยธรรมทาง ประวัติศาสตร์และได้รับเชิญจากผู้อำนวยการให้เป็น ศาสตราจารย์รับเชิญ จะต้องมีคุณสมบัติและประสบการณ์ที่สูง มากอย่างแน่นอน ประสบการณ์นั้นจะต้องผ่านกาลเวลา ศาสตราจารย์รับเชิญคนนี้จะมีอายุแค่ยี่สิบกว่าปีได้อย่างไร คน ที่พูดเป็นอาจารย์ชายหนุ่มรูปหล่อ นามว่าไผทสันต์ซึ่งเป็น อาจารย์ชายที่มีความสามารถมากที่สุดคนหนึ่งในคณะ ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟูตัน
ตอนนี้ ไผทสันต์อายุ 29 ปี ได้กลายเป็นวิทยากรที่ดีที่สุดใน คณะประวัติศาสตร์ เขาตีพิมพ์บทความสิบกว่าบทในนิตยสารที่ มีอิทธิพลในระดับนานาชาติ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาจารย์ ที่ยอดเยี่ยมของ มหาวิทยาลัยฟูตันมาหลายครั้ง เป็นหนึ่งในผู้มี ความหวังได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองศาสตราจารย์ใน อนาคต
เขาทำผลงานได้ดีมากในคณะ ดังนั้นเขาจึงภูมิใจในตัวเขา มาก เขารู้สึกว่าเขาสามารถมีหวังได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นรอง ศาสตราจารย์ในอายุวัยยี่สิบเก้าปี ถือว่าเก่งมากแล้ว จะมีคนเก่ง ที่อายุแค่ยี่สิบกว่าปีก็ได้รับความชื่นชอบจากผู้อำนวยการผดุง สิทธิ์และเชิญให้เขาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญในมหาวิทยาลัยได้ อย่างไร
ทุกคนรู้สึกว่าสิ่งที่ไผทสันต์พูดสมเหตุสมผลแล้วพยักหน้า
เวลาประตูห้องทำงานถูกเปิดออก มโนซาเดินเข้ามาจาก ด้านเธอมาที่สำนักงานเพื่อช่วยผดุงสิทธิ์เอาเอกสาร จากไป
ประตูมหาลัยเพื่อไปรับรพีพงษ์
เมื่อคิดเรื่องพงษ์รับปากว่ามาที่มหาลัยฐานะศาสตราจารย์รับเชิญและจะมาในวันนี้ มโนซาความ คาดหวังในเล็กน้อย
อาจารย์ทุกคนรู้มโนชาเป็นนักศึกษาน่าภูมิใจผดุงสิทธิ์แล้วทุกเห็นมโนชาเข้าอาจารย์คนหนึ่งถามทันทีชา คุณไหม อาจารย์เชิญมหาวิทยาลัยของเราเป็นใครอายุเท่าไหร่
คุณเป็นคนเกียวโต ปีนี้เขาน่าอายุสิบกว่า มากกว่าเล็กน้อย” มโนชาตอบ มีร่องรอยของการนับถือในดวงตาของ
เธอ
หลังรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ว่าศาสตราจารย์ที่ได้รับเชิญมานั้นอายุเพียงสิบต้นเท่านั้น
ซาคุณไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเราใช่ไหม ในวัยสิบมาเป็น
ศาสตราจารย์รับเชิญได้อย่างไรทางประวัติศาสตร์ของเขาไม่น้อยไปกว่าอาจารย์อายุมากที่มี ประสบการณ์ แม้แต่ปรมัตถ์ ท่านอาจารย์ปรมัตถ์ ผู้ที่พิสูจน์วัตถุ โบราณก็ยังเคารพคุณรพี” มโนชากล่าวอย่างใฝ่หา ทุกคนดูออก ว่ามโนซารู้สึกดีกับคุณรพี่คนนี้
ไผทสันต์เห็นการแสดงออกของมโนซา ใบหน้าของเขาก็ แสดงความไม่พอใจทันที ในฐานะอาจารย์ชายที่เก่งที่สุดในคณะ ประวัติศาสตร์ ไผทสันต์มีมาตรฐานที่ค่อนข้างสูง สำหรับคู่สมรส นักศึกษาที่เก่งที่สุดในคณะประวัติศาสตร์คือมโนชาที่มีความรู้ และหน้าตาดี ซึ่งเป็นคนในอุดมคติของเขาโดยธรรมชาติ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงความคิดของเขาให้กับมโนซาอย่าง ชัดเจน แต่เขาก็ชวนมโนซาไปทานอาหารมาแล้วสองสามครั้ง แสดงความรู้สึกดีๆที่มีต่อเธอ เขาต้องการรอให้มโนชาจบการ ศึกษา จากนั้นค่อยสารภาพรัก เช่นนี้ในมหาวิทยาลัยก็จะไม่มี ใครพูดอะไรอีก
และเขาเชื่อเสมอว่ามโนชาสามารถมองเห็นความเก่งของเขา และจะไม่ปฏิเสธเขา
แต่ตอนนี้ ไผทสันต์รู้สึกถึงวิกฤต จากการมองสีหน้าของมโน ชา เขาสามารถเห็นความโปรดปรานของมโนชาที่มีต่อ ศาสตราจารย์รับเชิญคนนั้น ซึ่งมโนชาไม่เคยแสดงอาการเช่นนี้ ให้เขาเห็นมาก่อน
“แม้ว่าศาสตราจารย์รับเชิญจะมีอายุเพียงยี่สิบต้นๆเท่านั้น เขาสามารถมาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาลัยของเราได้ เขาเข้าเพราะความสัมพันธ์เป็นไปเรื่องแบบไม่ใช่ แปลก ตอนนี้ คนครอบครัวเขาจะร่ำรวย อย่างก็ตาม ผมไม่เชื่อว่าเขาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญได้ใน วัยสิบเขา” ไผทสันต์แสดง
มโนซาโต้กลับทันที ใช่แบบนั้นที่ความรู้จริงๆ ความเข้าใจเกี่ยวกับโบราณวัตถุประวัติศาสตร์ แม้แต่ผู้ นวยนับถือในความของเขา เป็นศาสตราจารย์ รับเชิญใช้เงินเพื่อหาความสัมพันธ์อย่างไรล่ะตอนแรกผู้ อำนวยการอยากเชิญคุณรพี แต่รพี่ไม่อยากด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินคำพูดของมโนชา ไผทสันต์ก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น เขาไม่ถึงว่ามโนชาจะปกป้องศาสตราจารย์รับเชิญคนนั้น ขนาดนี้
ซา คุณยังเด็ก ต้องถูกหลอกโดยแน่นอน คน ประเภทนั้น สามารถความสามารถแท้จริงออกคุณกระตือรือร้นกับคนแบบนั้น มากขนาดจะเกิด
มโนชาอยากตอบโต้ ในขณะมีปรากฏตัวประตูห้อง ทำงานและเข้าในงาน
สันต์หันหน้ามองชายคนและพูดว่า ศึกษาคนนี้
นี่เป็นห้องทํางานก่อน”
“ขอโทษครับ ผมศึกษา ผมมาเพื่อหาใครสัก”รพีพงษ์ยิ้มให้ไผทสันต์ จากนั้นหันไปมองมโนชา
มโนชาตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นรพีพงษ์ คนทั้งคน ก็เริ่มกังวล กังวลว่ารพีพงษ์จะไม่พอใจที่เขาได้ยินการสนทนา ของพวกเขาในขณะนี้
“คุณ…คุณรพี ทำไมคุณมาถึงเร็วจัง ฉันบอกว่าจะไปรับคุณที่ หน้าประตูมหาลัย” มโนชาเอ่ยปากกล่าว
“ผมทำธุระทางโน้นเสร็จเร็ว ผมจึงมาที่นี่ก่อนเวลา” รพีพงษ์ กล่าว
มโนชาพยักหน้า หันไปมองอาจารย์ในห้องทำงานและกล่าว ว่า “นี่คือศาสตราจารย์รับเชิญที่ผู้อำนวยการรพีพงษ์ คุณรพี”
อาจารย์ทุกคนต่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะเด็ก
ขนาดนี้ เมื่อกี้ ไผทสันต์เข้าใจผิดว่าเขาเป็นนักศึกษา
“คุณรพี ฉันจะพาคุณไปพบผู้อำนวยการก่อน” มโนซาทำท่า ทางเชิญให้กับรพีพงษ์
รพีพงษ์พยักหน้า หันหลังเดินออกจากห้องทำงาน แม้ว่าเขาจะ ได้ยินการพูดคุยของพวกเขา แต่เขาก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ เขามาที่ นี่เพราะบังเอิญเห็นมโนชาอยู่ข้างในนี้ เขาจึงเดินเข้าไป
หลังจากมโนชาพารพีพงษ์ไป ไผทสันต์แสดงสีหน้าไม่พอใจ กำหมัดแน่นและทุบมันลงบนโต๊ะ
“ศาสตราจารย์รับเชิญอะไรกัน อย่างมากก็ใช้เงินซื้อเข้ามานั่น แหละ คนแบบนี้ ตื้นและไม่มีความรู้สุดๆ คิดไม่ถึงว่ามโนชาจะให้ความเคารพเขามากขนาดนี้ โง่จริงๆ “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ