บทที่ 453 ตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูก
เมืองริเวอร์ บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล
อารียาเดินออกมาจากโรงจอดรถ มุ่งหน้าไปที่ห้อง ทํางานของตัวเอง บนใบหน้ามีความดีใจเล็ก ๆ
การพูดคุยความร่วมมือนั้นก่อนหน้านั้นสำเร็จก็จะ ทำให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลเบียดตัวขึ้นไปอยู่ใน การจัดอันดับธุรกิจของเมืองริเวอร์ ภายในนั้นเธอได้ ทุ่มเทกำลังกายและสติปัญญาไปเป็นอย่างมาก ถ้า หากว่าบริษัทสามารถสร้างผลงานได้แบบนี้ เธอต้องดีใจ อย่างยิ่งแน่นอน
แถมยังทำให้เธอรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วตัวเองนั้นก็ไม่ได้ แย่มากนัก อย่างน้อยที่สุดประสบการณ์และความ สามารถเหล่านั้นของเธอ ก็เพียงพอที่จะช่วยรพีพงษ์ ดูแลเรื่องราวต่าง ๆ ภายในบริษัท และไม่ใช่ให้รพีพงษ์ ช่วยเธอทั้งหมด
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ในใจของอารียาก็ผ่อนคลายลงไม่ น้อย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มักจะคิดฟุ้งซ่านอยู่ตลอด
เธอเดินเข้าไปภายในบริษัท ถึงเขตทํางานของ บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ทันใดนั้นก็เห็นคนมากมาย กําลังเก็บข้าวของ มีจํานวนไม่น้อยที่กําลังย้ายสิ่งของ ออกไปด้านนอกแล้ว คล้ายกับว่าบริษัทนั้นเจ๊งไปแล้ว
บนในหน้าของอารียาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เร่งรีบเดินเข้า ดึงคนมาหนึ่งคน เอ่ยปากถาม: “นี่พวกคุณ ทำอะไร? ทำไมถึงได้เก็บข้าวของกันหมด? ” คน ๆ นั้นจ้องอารียา พูดอย่างจําใจ: “ท่านประธาน บริษัทไม่ได้ประกาศล้มละลายแล้วหรือ บริษัทของพวก เราถูกW H กรุ๊ป อไปแล้ว ต่อไปพวกเราล้วนต้องไป ทํางานทีW H กรุ๊ป”
ทันใดนั้นอารียาก็รู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่าลงมาตอน
กลางวันแสก ๆ ระเบิดธรรมดาเปิดมาที่ข้างหู ในสมอง ใหญ่นั้นปรากฏความว่างเปล่าขึ้นเวลาสั้น ๆ “บริษัทจะล้มละลายได้อย่างไร ยิ่งไม่มีทางที่จะ ถูกW H กรุ๊ปซื้อไป พวกคุณกำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?
วันนี้ใช่ไม่ใช่วันApril Fools’ Day?”
หลังจากที่ปฏิกิริยากลับมา ภายในใจของอารียาก็ สงสัยจริง ๆ ว่าคนพวกนั้นกำลังล้อเธอเล่น ยังหยิบ โทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูวันที่โดยเฉพาะ น่าเสียดายที่วันนี้ ไม่ใช่วันApril Fools’ Day
วันนี้ย่อมไม่ใช่วันApril Fools’ Day พวกเขาไม่ได้ ” ล่อเธอเล่น บริษัทตระกูลฉัตรมงคลของพวกคุณถูก บริษัทW H กรุ๊ปของพวกเราซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว จากวัน นี้ไป พนักงานทั้งหมดที่นี่ของคุณ ล้วนต้องทำงานให้ฉัน” ในเวลานั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของอารียา ภายในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความหยอกล้อและลำพอง ใจ
อารียาหมุนตัวไปทันที หลังจากที่ได้เห็นว่าธายุกร ปรากฏอยู่ด้านหลังของตัวเองนั้น หัวคิ้วก็ขมวดทันที สีหน้าเปลี่ยนเป็นค่อนข้างจะไม่น่าดูขึ้นมา
ธายุกร คุณเลิกมาเล่นลูกไม้กับฉันที่นี่ ถ้าหากว่า บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลถูกคุณซื้อไปจริง ๆ แล้ว จําเป็นต้องให้ฉันเซ็นชื่อ คุณคิดว่าอาศัย คุณพูดออกมา จากปากไม่กี่ประโยค บริษัทตระกูลฉัตรมงคลก็เป็นของ คุณแล้วหรือ?” อารียาเหอะอย่างเย็นชา
ธายุกรไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ใบหน้าเต็มไป ด้วยความสงบนิ่งหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมา ให้อารียา ดูหนึ่งที
ประธานอารียา นี่คือสัญญายินยอมล้มละลายรวม ไปถึงโอนให้ผู้อื่นที่คุณเซ็นชื่อลงไปด้วยเอง คุณพูดได้ อย่างไรว่าผมนั้นแค่พูด ๆ ไปเท่านั้น นี่คือสัญญาที่ถือ เป็นหลักฐานทางตัวอักษรอย่างแน่นอน มีผลในทาง กฎหมาย คุณคงไม่ไม่ยอมรับทั้งหมดหรอกนะ?” ธายุกร ยิ้มเย็น
นี่มันเป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เคยเซ็นต์ของจําพวกนี้มา ก่อน คุณอย่านึกว่าคุณถือฉบับปลอมมาหลอกแล้วฉันจะ เชื่อ คุณรีบไสหัวออกไปจากบริษัทของฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะเรียกร.ป.ภ.! ” อารียาตะโกนใส่ธายุกรหนึ่งประโยค
” คุณดูอย่างละเอียดซิ นี่ใช่ผมปลอมไหม?” ธายุกร ยิ้มก่อนจะส่งเอกสารในมือตัวเองให้อารียา
อารียาจ้องมอง เห็นที่เซ็นชื่อที่สุดท้าย พริบตาก็ ถลึงตาโต นั่นเป็นเธอเซ็นชื่อด้วยตัวเองจริงๆ นี่ไม่มีทาง
ผิด
จะเป็นไปได้อย่างไร! ฉันไปเซ็นต์ของพวกนี้ตอน ไหน!อารียาใช้สายตาซักถามส่งไปให้ธายุกร
“คุณคิดดี ๆ อีกที เอกสารพวกนี้ผมได้มอบให้แม่ ของคุณให้คุณเซ็นต์ มาตราบนนี้ก็เขียนเอาไว้อย่าง ชัดเจน มีแม่ของคุณเป็นผู้รับเงินแทน เธอเอาค่าชดเชย ไปแล้ว ถ้าหากว่าไม่เชื่อล่ะก็คุณสามารถกลับบ้านไป ถามเธอดูได้ ทที่ผมนี่ล้วนทำตามขั้นตอนตามมาตรฐาน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ยอมรับ บริษัทตระกูลฉัตรมงคลก็เป็น ของบริษัทW H กรุ๊ปตั้งนานแล้ว” ธายุครบอก
ในสมองของอารียาปรากฏภาพเหตุการณ์วันนั้นที่ ศศินัดดาเอาปีกสัญญาประกันมาให้เธอเซ็น เธอจําได้ว่า รูปแบบพวกเอกสารโอนปนอยู่ข้างใน แต่ว่าในตอนนั้น เธอคิดว่ามันคือส่วนหนึ่งของสัญญาประกัน ไม่ได้คิด อะไรมากมายอย่างสิ้นเชิง
อีกอย่างอย่างไรอารียาก็ไม่สามารถที่จะนึกถึงได้ ว่าศศินัดดาจะช่วยธายุกรทําให้บริษัทของตระกูล ฉัตรมงคลล้มละลาย เรื่องนี้สำหรับเธอนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ วิธีที่นึกถึงจริง ๆ
มองเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอารียา ใบหน้าของธา ยุกรก็พึงพอใจยิ่งขึ้น เอ่ยปากบอก: “กลับไปแล้วย่าลืม ขอบคุณอาสะใภ้แทนผมด้วยล่ะ ถ้าหากไม่ได้เธอช่วย เหลือ ผมก็ยังไม่มีวิธีที่จะทำให้คุณเซ็นชื่อลงในสัญญา เงินที่ตามหลังจากการขายบริษัทนั้นผมจะส่งไปที่บัตร ใบนั้นที่ให้เธอไปแล้ว เงินจำนวนนี้เพียงพอที่จะทำให้ พวกคุณใช้ชีวิตดี ๆ ได้”
อารียากัดฟันด้วยความโกรธแค้นจ้องมองธายุกร ก็ ไม่ได้พูดอะไร ในตอนนี้เธอนั้นไม่มีอารมณ์ที่จะมาทะ เลาะกับธายุกรโดยสิ้นเชิง
เธอหมุนตัวกลับไป รีบวิ่งมุ่งไปที่โรงจอดรถทางนั้น เธอต้องการกลับไปถามศศินัดดา ว่านี่มันคือเรื่องอะไร กันแน่
ระหว่างขับรถกลับ ในใจของอารียาเต็มไปด้วย น้อยใจ เธอเหนื่อยยากล่ามากอย่างมากจึงจะสามารถ นําพาบริษัทของตระกูลฉัตรมงคลมาถึงจุดนี้อย่างทุกวัน นี้ สามารถบอกได้ว่าการพัฒนาทุกครั้งของบริษัทของ ตระกูลฉัตรมงคล ล้วนมาจากกำลังกายและสติปัญญา ของเธอจำนวนมาก
แต่ทว่าคิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้กลับถูกศศินัดดา ทําลายลงภายในพริบตาเดียว เธอจนปัญญาที่จะเข้าใจ ว่าทำไมศศินัดดาถึงทำเช่นนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีวิธี ที่จะอภัยให้ศศินัดดาแล้ว
อดกลั้นความฮึกเหิมภายในใจของตัวเอง อารียาขับ รถมาถึงที่ชุมชนนําแหง
เธอรีบก้าวเท้าไปถึงที่ประตูบ้าน หลังจากที่เปิด ประตู ก็เห็นศศินัดดากำลังเอ้อระเหยแทะเมล็ดแตงโม อยู่บนโซฟา
แคลร์ ลูกไม่ได้เพิ่งไปบริษัทหรอ ทำไมถึงได้กลับ มาเร็วนักล่ะ?” ศศินัดดาเห็นอารียากลับมา บนใบหน้าก็ ปรากฏความตกใจเล็กน้อย
อารียาเดินไปที่ด้านหน้าศศินัดดา หยิบเอาเมล็ด แตงโมที่อยู่บนโต๊ะ โยนลงไปที่พื้นอย่างโหดเหี้ยม
” ที่สุดแล้วฉันทำอะไรผิด! คุณถึงได้ทำกับฉันเช่นนี้! บริษัทที่ฉันลำบากบริหารจัดการมันมา คาดไม่ถึงว่าคุณ จะสมรู้ร่วมคิดกับธายุกรให้ฉันเซ็นชื่อ เอาบริษัทไปขาย โดยตรง คุณรู้ไหมว่าบริษัทนี้มีแรงกายใจของฉันอยู่ท่า ไหร่? ที่สุดแล้วฉันใช่ลูกสาวของคุณหรือเปล่า คุณยอม ที่จะช่วยธายุกร คุณก็ไม่ช่วยฉัน ชาติที่แล้วฉันติดค้าง คุณอยู่หรือไง! ”
อารียาสูญเสียความมีเหตุมีผล น้ำตาอดไม่ได้ที่จะ ไหลออกมาจากดวงตา ทั้งหมดนั้นดูเหมือนว่าหมดอาลัย ตายอยากเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้จะทำยังไงที่จะอดทน ต่อศศินัดดาอีกต่อไป
ศศินัดดาที่เห็นอารียาเอาจานที่ใส่เมล็ดแตงโมโยน ทิ้งไปก็ตกใจอย่างมาก หลังจากที่ได้ยินเธอพูดด้านหลัง ก็เข้าใจขึ้นว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร
เธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นทำผิดอะไร เธอทำให้ บริษัทตระกูลฉัตรมงคลล้มละลาย ทั้งหมดนั้นก็เพื่อให้ อารียาดี
“ลูกสาวที่โง่เง่าของแม่ ต่อให้ลูกทุ่มเทลงแรงกายใจ ไปให้บริษัทตระกูลฉัตรมงคลอีกมาก นั้นก็ไม่เกิด ประโยชน์ แม่รู้แล้วว่าบริษัทนั้นเป็นของรพีพงษ์ นี่คือลูก ทำงานให้รพีพงษ์ทั้งหมด ลูกก็อย่าโง่นักเลย แม่ทำก็เพื่อ ลูก!” ศศินัดดาลุกขึ้นมา ตะโกนออกมาด้วยท่าทางที่สง่า ไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย
“ทำเพื่อลูก ทำเพื่อลูก นอกจากประโยคนี้แล้ว ยัง สามารถพูดอย่างอื่นได้อีกไหม! ถ้าหากว่าแม่ทำเพื่อลูก จริง ๆ งั้นแม่ก็ไม่ควรที่จะก้าวก่ายเรื่องของลูก ถ้าหากว่า แม่ทำเพื่อลูกจริง ๆ ก็ไม่ควรที่จะทำให้รพีพงษ์รู้สึก ลำบากใจในทุก ๆ ด้าน แม่รู้หรือไม่ว่าหนูนั้นอดทนกับแม่ มาเป็นเวลานานมากแล้ว ถ้าหากว่าแม่ไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของ หนู หนูก็คงแตกหักกับแม่ไปนานแล้ว ” อารียาตะโกน ออกมาด้วยอารมณ์ที่มากเกินไปและท่าทางที่ผิดปกติ
ด้านในศักดาที่ได้ยินเสียงทะเลาะกันที่ข้างนอก ก็ รีบวิ่งออกมาไกล่เกลี่ย
ศศินัดดาได้ยินที่อารียาพูด ก็โกรธขึ้นมาทันที เดิมทีเธอก็เป็นคนที่คิดไปเองว่าใช่ แล้วยังจะสามารถ เข้าใจความน้อยใจของอารียาได้อย่างไรอีก
ในสายตาของเธอนั้น อารียาเพียงแค่ไม่ฟังคําพูด ของเธอ นั้นก็คืออกตัญญู งั้นก็ไม่ต้องคิดให้เธอมีชีวิตที่ดี
” คนที่ไม่รู้ดีชั่วแบบแก ฉันทำเพื่อแกตั้งมากมาย คาดไม่ถึงว่าแกจะพูดกับฉันอย่างงี้ แกลองคิดไปถึง จิตสำนึกของตัวเอง แกไม่ละอายแก่ใจที่ฉันเพื่อแก ทั้งหมดนั้นบ้างหรือ! ” ศศินัดดาถลึงตาทั้งสองข้างตะโกน
“หนูไม่ต้องการ! ” ในเวลานี้อารียานั้นไม่คิดที่จะ คำนึงถึงอารมณ์ใด ๆ ของศศินัดดาทั้งหมดอีกต่อไป เธอ รู้สึกว่าการมีอยู่ของศศินัดดา ทั้งหมดนั้นก็เพื่อที่จะ ทรมานเธอ หากว่าเธออดทนอีกต่อไป หลังจากนี้ก็คง ไม่มีวิธีใช้ชีวิตต่อไป
“ดี ดี แกไม่ต้องการ พวกนี้ที่ฉันทำไปเพื่อแกนั้น
ล้วนเป็นการหาเรื่องใส่ตัว! ฉันว่าแกคงโดนตัวซวยรพี
พงษ์นั้นล้างสมองแล้ว! ในเมื่อแกไม่ต้องการ งั้นยังจะ ต้องการแม่อย่างฉันไปทำไม! แน่จริงก็อย่าต้องการฉัน!” ศศินัดดานั้นรู้ดีว่าอารียาเป็นคนขี้ใจอ่อน ดังนั้นทุก ครั้งที่ทะเลาะล้วนหยิบมันมาบังคับเธอ
อารียาริมฝีปากสั่นมองศศินัดดาหนึ่งที เอ่ยปาก บอก: “ดี วันนี้ฉันกับคุณก็ตัดขาดจากความเป็นแม่ลูกกัน จากวันนี้ไป เรื่องของฉัน ไม่ต้องการให้คุณมายุ่ง! ”
พูดจบ อารียาก็หมุนตัวออกจากประตูบ้านไป ทิ้งไว้ แต่ศศินัดดาที่ใจลอยอยู่ที่เดิม รวมทั้งศักดาที่ไม่รู้ว่าจะ ทำอย่างไร
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ