พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 912 วิชาสะกดจิต



บทที่ 912 วิชาสะกดจิต

ในห้องโถงของร้านอาหาร รพีพงษ์และหงส์ทั้งสองคนได้นั่งที่ หน้าโต๊ะแล้ว และผู้หญิงเหล่านั้นที่เรวตเชิญมาก็ทยอยกันนั่งลง มา

รพีพงษ์สังเกตดูผู้หญิงเหล่านี้อย่างละเอียดแวบหนึ่ง พบว่า พวกหล่อนต่างก็เป็นแค่คนธรรมดา มีลักษณะที่โดดเด่นเพียง อย่างเดียวคือสวยงามมาก

สิ่งนี้ทำให้ในใจของรพีพงษ์สงสัยว่าเรวัดฉวยโอกาสที่เรียก ว่าเชิญอาจารย์มาทานอาหารหรือเปล่า จงใจมาอยู่กับสาวๆ

หงส์มองไปที่ผู้หญิงเหล่านั้นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยใบหน้าแปลก ประหลาด กระซิบบอกกับรพีพงษ์ว่า: “ไหนบอกว่าเชิญอาจารย์ มาทานอาหารไง เรียกหญิงสาวมากมายขนาดนี้มาทำอะไร?”

“เรื่องนี้ต้องถามตัวของเรวัตคนนั้นแล้ว ดูไปก่อนค่อยว่ากัน เถอะ ดูว่าอาจารย์ที่พูดถึงเป็นใคร ถ้าหากสถานการณ์ไม่ค่อยดี พวกเราก็ค่อยออกจากที่นี่ก็พอแล้ว”รพีพงษ์ตอบกลับ

หงส์พยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก

สามารถมองเห็นความสงสัยบนใบหน้าของผู้หญิงเหล่านั้นได้ เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าเรวัตจะเชิญผู้หญิงมากมายขนาดนี้ สถานการณ์แบบนี้แตกต่างจากที่เราตบอกพวกหล่อน

แต่ในเมื่อมาแล้ว จะจากไปแบบนี้ก็คงจะไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ที่เรวัดบอกยังไม่ปรากฏตัว ถ้าหากไปแบบนี้ ไม่เพียงแต่ จะขัดใจกับคุณชายของตระกูลกิติมหาคุณ ยังขัดใจกับอาจารย์ อีก สําหรับพวกหล่อนแล้วได้ไม่คุ้มเสีย

ผ่านไปสักพัก เรวัตก็เดินออกมาจากข้างใน อาจารย์ทั้งสาม ท่านนั้นก็เดินตามออกมาด้วยกัน

“ฉันมาแนะให้ทุกคนก่อน ทั้งสามท่านนี้ ก็คืออาจารย์ที่ฉัน เชิญมา ท่านนี้คือจิรัสย์ อาจารย์จิรัสย์ ท่านนี้คือธรณินทร์ อาจารย์ธรณินทร์ ท่านนี้คือนิรวิทย์ อาจารย์นิรวิทย์”

เรวัตแนะนำอาจารย์ทั้งสามนี้ให้ทุกคนที่อยู่ในร้านอาหารรู้จัก

สายตาของรพีพงษ์มองไปที่ทั้งสาม และไม่พบความผันผวน ของเนยจิ้งอยู่บนตัวของทั้งสามคน แต่พลังอานุภาพบนตัวทั้ง สามคนแตกต่างจากของคนธรรมดาจริงๆ ดังนั้นรพีพงษ์จึงใช้ พลังจิตในการตรวจสอบดูทั้งสามอีกครั้ง พบว่าทั่วตัวสามคนมี ชั้นของแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแผ่กระจายออก มาจากร่างกาย

ถ้าหากเราไม่ผิด ทั้งสามนี้ควรได้รับการฝึกฝนวรยุทธบาง อย่างของแวดวงวิชาเวทย์ แม้ว่าพวกเขาไม่มีเนยจิ้ง แต่พลังที่ ฝึกฝนออกมาจากวรยุทธแบบนี้ก็ไม่ได้แย่กว่าเน่ยจิ้ง

จิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนยิ้มให้คนที่โต๊ะเล็กน้อย เมื่อตอนที่ สายตาตกอยู่ที่บนตัวรพีพงษ์ ก็ตั้งใจมองไปสองวินาทีเป็นพิเศษ จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งลงที่หน้าโต๊ะ และใช้สายตาที่ส่งสูงจับจ้อง มองไปที่ผู้คนที่อยู่หน้าโต๊ะ
หญิงสาวที่นั่งอยู่ในที่นี้ต่างก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย หลายคน ยืดตัวตรงขึ้น โดยต้องการรักษาความประทับใจที่ดีเมื่ออยู่ต่อ หน้าอาจารย์

เรวัตก็นั่งลงมา จากนั้นก็เริ่มให้พนักงานเสิร์ฟอาหาร หลังจาก ที่โต๊ะเต็มไปด้วยอาหาร เรวัตมองไปที่ทุกคน เอ่ยปากว่า “พวก คุณน่าจะอยากรู้มากว่าอาจารย์ทั้งสามชำนาญอะไร ต่อไปก็ให้ ฉันมาแนะนำให้ทุกคน

“อาจารย์ทั้งสามท่านนี้ ชำนาญที่สุด ก็คือวิชาสะกดจิตและวิ ชาฝึกค และที่ฉันเชิญพวกคุณมา ความจริงแล้วก็เพื่อช่วยให้ อาจารย์ทั้งสามท่านฝึกฝนวิชาฝึกคให้สำเร็จ อาจารย์ทั้งสาม ท่านจําเป็นต้องร่วมประเวณีกับพวกคุณ มาเพิ่มพลังวิชา สามารถช่วยเหลืออาจารย์ทั้งสามท่านได้ พวกคุณน่าจะรู้สึกเป็น เกียรติ”

ทันทีที่เรวัตพูดจบ ใบหน้าของทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็เต็ม ไปด้วยความตกตะลึง คาดไม่ถึงเราตกลับพูดค่าต่ำทรามเช่นนี้ ออกมาได้

“นายหมายความว่าอย่างไร? ใครจะไปทำอะไรแบบนั้นกับ พวกเขา? นายคงจะไม่ใช่ว่าจงใจหลอกพวกเรามาใช่มั้ย?”หงส์ ตะโกนใส่เรวัตอย่างรุนแรง

เรวัตยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ในเมื่อทุกคนต่างก็นั่งลงมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่ปิดบังแล้ว หล่อนพูดถูก ฉันจงใจหลอก พวกคุณมาจริงๆ”
“นายนี่มันสารเลว หรือว่านายไม่กลัวว่าชื่อเสียงของตระกูล ติมหาคุณจะถูกทำลายด้วยเงื้อมมือของนายเหรอ?”หงส์จ้องไปที่ เรวัตแล้วตะโกน และผู้หญิงที่เหลือสายตาต่างก็แสดงสายตาที่ รังเกียจให้กับเรวัต

“เมื่อกี้นี้ฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ อาจารย์ทั้งสามทั้งชำนาญ วิชาสะกดจิต เมื่อพวกคุณโดนวิชาสะกดจิตของพวกเขา แล้วจะ มีใครรู้บ้างว่าฉันหลอกพวกคุณ?” ใบหน้าของเรวัตเต็มไปด้วย ความเฉยเมย

ทันทีที่เสียงของเขาลดลง มือของจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนเริ่ม จีบมือร่ายมนต์ จากนั้นพลังประหลาดแปลกมากก็แผ่ซ่านออกมา จากบนตัวของทั้งสามคน ปกคลุมทุกคนที่อยู่ในร้านอาหารไป ทันที

หงส์ที่เดิมทีว่าจะตั้งใจจะถกเถียงกับเรวัดและคนที่เรียกว่า อาจารย์ทั้งสามคนก็ถูกปกคลุมด้วยพลังนี้ นั่งลงมาอย่างเหมือ ลอยในทันที คนทั้งคนก็สับสนมึนงง ราวกับว่าสูญเสียจิต วิญญาณ

รพีพงษ์ก็รู้สึกได้ถึงพลังนั้นที่ปกคลุมอยู่บนร่างกายของตัวเอง จากนั้นก็เริ่มส่งผลต่อจิตวิญญาณของตัวเอง พลังนี้พยายามที่จะ ปิดผนึกสติสัมปชัญญะการรับรู้ของรพีพงษ์ หลังจากที่จิต วิญญาณในหัวสมองของรพีพงษ์รับรู้ บนร่างกายก็แผ่แสงออก มาอย่างฉับพลัน จากนั้นรพีพงษ์ก็รู้สึกถึงพลังที่หายไปอย่างไร้ ร่องรอย
เขาเหลือบมองไปที่รอบๆ พบว่าผู้หญิงทุกคนรวมทั้งหงส์ดู เหมือนกับว่าจะโดนควบคุมจิตใจ นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เดิม ราวกับ ไม่ได้รับคำสั่ง ก็ไม่ยอมเคลื่อนไหวเหมือนกับหุ่นเชิด

เพื่อที่จะรู้แน่ชัดว่าเรวัดและสามคนนี้ที่เรียกว่าอาจารย์ ต้องการจะทำอะไร รพีพงษ์อยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว แต่กลับคอย สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

อาจารย์ทั้งสามคนต่างลุกขึ้นยืน จิรัสย์มองไปที่เรวัตแล้วยิ้ม เอ่ยปากว่า “ผู้คนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว เพียงแค่โดนวิชา สะกดจิตของพวกเรา นอกจากพวกเราตาย หรือว่าพวกเราเป็น คนคลายมนต์สะกดบนร่างกายของพวกเขาเอง ภายในหนึ่ง เดือน พวกเขาจะเชื่อฟังเราทั้งหมด

“ครั้งนี้คุณชายเรวัตได้หาหญิงที่คุณภาพสูงมามากมาย ไม่ เพียงแต่วิชาฝึกคของพวกเราจะสามารถที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ยัง สามารถมีความสุขสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ทีเดียว”

บนใบหน้าของเรวัตก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เอ่ยปากว่า “อาจารย์ทั้งสามท่านมีความสุขก็พอ ฉันก็จะเลือกสักสองคนมา สนุก หลังจากสนุกเสร็จ ยังจะส่งพวกหล่อนให้อาจารย์ทั้งสาม ท่าน”

หลังจากพูดเสร็จ สายตาของเรวัตก็มองไปที่บนตัวรพีพงษ์

“เด็กคนนั้นก็ถูกอาจารย์ทั้งสามทั้งท่านควบคุมแล้วเหรอ?” เร วัตเอ่ยปากถาม

จิรัสย์พยักหน้า แล้วพูดว่า “ใครก็ตามที่ไม่รู้วิชาเวทย์ เพียงแค่โดนวิชาสะกดจิตของพวกเรา ก็จะสูญเสียการควบคุมสติของ ตัวเอง แม้ว่าเด็กคนนี้จะเป็นนักรบ แต่ดูอายุแล้วก็ไม่น่าจะเป็น นักรบที่สามารถบรรลุถึงแดนดั่งเทพได้ คงจะต้านทานวิชาสะกด จิตของพวกเราไม่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้คุณชายเรวัดสามารถ จัดการกับเขาได้ตามความต้องการ

เรวัตยิ้มและเดินไปทางรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า “เด็กน้อย แก คงจะคาดไม่ถึง ที่ฉันเชิญพวกแกมา ความจริงคืออยากจะสั่ง สอนแกอย่างโหดๆ แกแค่คนต่างถิ่นคนหนึ่ง กลับกล้ามาแย่ง ของกับฉัน ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ”

“ตอนนี้แกโดนวิชาสะกดจิตของอาจารย์ทั้งสามท่าน แม้แต่

ชีวิตของแกก็อยู่ในกำมือของฉัน ฉันจะดูว่าแกยังจะแย่งของกับ ฉันยังไงอีก!” หลังจากพูดจบ เรวัตก็หยุดลงมาตรงหน้ารพีพงษ์ เอ่ยปากพูด

ว่า: “เลียรองเท้าให้ฉันก่อน ให้ฉันได้ดูว่ากลยุทธ์ของอาจารย์ทั้ง

สามท่านวิเศษเหมือนราวกับในตำนานจริงๆหรือเปล่า”

รพีพงษ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หลังจากที่เรวัตเห็น สีหน้าก็เต็มไป ด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงคนที่โดนวิชาสะกดจิตจะเชื่อ ฟังขนาดนี้จริงๆ

อย่างไรก็ตามรพีพงษ์ไม่ได้เลียรองเท้าให้เขาตามที่เรวัตบอก แต่กลับแสดงให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เขา จากนั้นเตะไปที่บน ตัวเรวัต ในทันที

ร่างของเรวัตบินกลับออกไปทันที กระแทกกับบนกำแพง คนทั้งคนก็ฝังอยู่ในกำแพงโดยตรง

“ขอโทษด้วย ฝีมือของอาจารย์ทั้งสามคนนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้ วิเศษอย่างที่แกคิด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ