พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่904 เสียวซ่านหนังศีรษะ



บทที่904 เสียวซ่านหนังศีรษะ

ทัดธนเห็นรพีพงษ์มองข้ามฝีมือของตัวเอง ก็เกิดดูแคลนขึ้นมา ที่ ผ่านมาเขาเจอคนแบบรพีพงษ์มามากแล้ว ล้วนคิดว่าสะกดจิต ของเขาก็แค่ขู่เท่านั้น เสียดายคนที่พูดแบบนั้น สุดท้ายก็หายไป จากโลก

“รพีพงษ์ เดี๋ยวมึงก็จะรู้การไม่ใช่พลังหนึ่งเดียวที่มีบนโลกนี้ แม้แดนวงการของมึงจะบีบกูได้ แต่สุดท้ายมึงก็ยังต้องตายใน มือของกูอยู่ดี”

หลังจากที่ดูแคลนแล้วนั้น ทัดธนก็หลับตาลง จากนั้น พลัง แตกซ่านออกมาจากร่างกายของเขา ไปที่รพีพงษ์

ขณะนี้รพีพงษ์ได้ปล่อยพลังจิตของตนออกมา ในสี่เหลี่ยม ระยะห้าเมตร ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเขา เขารับรู้ได้ถึงพลังที่ ทัดธนปล่อยออกมา มันพิเศษจริงๆ แต่ต่อหน้าพลังจิตของพี พงษ์ เหมือนกับจะ……..เล็กกระจิดริด

พลังที่ทัดธนปล่อยออกมาได้ถูกรวบรวมไว้ในสมองของรพี พงษ์แล้ว จิตวิญญาณที่อยู่ในสมองของรพีพงษ์เพียงแค่เปิดตา จ้องไปที่พลังนั้น พลังนั้นเหมือนได้รับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ ไม่ กล้ากําเริบเบสาน

แม้พลังนี้จะจู่โจมไปที่จิตใจของรพีพงษ์ สำหรับจิตวิญญาณ ของรพีพงษ์ เป็นแค่การจี้จุดเท่านั้น
ตอนแรกรพีพงษ์คิดว่าพลังจิตที่ทัดธนนั้นจะเหมือนเขา จึงได้ เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่หลังจากที่รับรู้พลังของทัดธนแล้วนั้น รพีพงษ์จึงเข้าใจว่าทัตธนนี้เป็นไอ้ไผ่ต่ำดีๆนี่เอง

อย่าว่าแต่จิตวิญญาณที่ปรากฏในสมองของรพีพงษ์เลย เกรง ว่าแม้แต่การรับรู้สัมผัสแบบนี้ของรพีพงษ์เขาก็ไม่มี

เขาน่าจะแค่ความสามารถพลังจิตที่ว่านี้ทำการจู่โจมง่ายๆ ต่อ

จิตใจของคนอื่น

สําหรับคนทั่วไปวิธีแบบนี้ อาจจะเก่งกาจมากก็เป็นได้ สำหรับ แดนปรมาจารย์ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก็ประหลาดใจ

แต่สําหรับแดนดั่งเทพ การจู่โจมแบบนี้มันเล็กน้อยมาก เพราะ ทุกคนที่เป็นแดนดั่งเทพนั้นเป็นคนที่มีความเพียร พวกเขามี ความแน่วแน่ในจิตใจ ไม่ใช่คนธรรมดาจะเทียบได้ ฝีมือแค่นี้ ของทัดธนมากสุดก็คือทำให้จิตใจวุ่นวายเท่านั้น ไม่สามารถ ทำลายอะไรมากไปกว่านี้ได้

และรพีพงษ์ก็ไม่กลัวความสามารถแบบนี้ พลังจิต ในสายตา ของเขาคือจิตวิญญาณเทพตื่นภวังค์เป็นผู้ทำ ประเทศจีน แม้ใน ประวัติศาสตร์ ที่มีจิตวิญญาณเทพและสำเร็จตื่นภวังค์ได้นั้นมีแค่ ไม่กี่คน

แม้รพีพงษ์จะไม่รู้ถึงความเก่งกาจของจิตวิญญาณเทพของตน สักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงข้อแตกต่างระหว่างพลังที่ทัด ธนและตัวเองปล่อยออกมา

ตอนแรกรพีพงษ์คิดว่าทัดธนจะเป็นคนที่เก่งกาจ เสียเวลาตั้งนานที่แท้ก็มีความสามารถแค่นี้ นี่ทำให้รพีพงษ์ค่อนข้างผิดหวัง

เพื่อให้แน่ชัดถึงข้อแตกต่างเกี่ยวกับพลังของจนและทัดธน รพี

พงษ์จึงชะงักอยู่กับที่ ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆออกมา หลังจากที่ทุกคนเห็นท่าทีของรพีพงษ์แล้ว ก็ล้วนคิดว่ารพีพงษ์ โดนวิชาของทัดธนเล่นงานเข้าแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ทัดธนแสดง ความสามารถนี้ให้พวกเขาดู ผู้ที่โดนวิชาก็จะเหม่อลอยแบบนี้

เหมือนกัน

ทัดธนก็ไม่สามารถรับรู้พลังของตัวเองที่อยู่ในสมองของรพี พงษ์ได้ว่าเจอกับอะไรบ้าง ดังนั้นก็คิดว่ารพีพงษ์ถูกวิชาเข้าแล้ว เช่นกัน

“เมื่อกี้ยังเข้มแข็งอยู่เลย ฉันคิดว่าเด็กนี่มันจะเก่งกาจ คิดไม่ ถึงว่าจะโดนวิชาของฉันเร็วขนาดนี้ อันดับหนึ่งของวงการของ ประเทศจีนนี่ ก็ไม่เท่าไหร่หน” ทัดธนกล่าวอย่างสะใจ

ผู้คนรอบๆก็พูดตามๆกัน

“ท่านทัดธนเก่งกาจจริงๆ ผมคิดว่ารพีพงษ์นี้จะต่อสู้กับท่านทัด ธนสักตั้ง คิดไม่ถึงว่ามันมาถึงก็โดนวิชาเสียแล้ว

“ดูๆไปแม้ความสามารถในด้านจะเก่งขนาดไหน ก็เทียบไม่ ได้กับวิชาสะกดจิตของท่านทัดธนนี่ รพีพงษ์นี่เพิ่งจะเจอหน้าก็ โดนวิชาของท่านทัดธนเข้าแล้ว ผมว่า ท่านทัดธนสามารถแทนที่ ตระกูลลัดดาวัลย์ได้อย่างไม่มีปัญหาเลยนะเนี่ย”

“ฝีมือของท่านทัดธนขั้นเทพ ท่านสิถึงจะถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของวงการแห่งประเทศจีน

ท่านทัตธนได้ยินคำชมเชยของคนเหล่านี้ ก็ยิ้มอย่างสะใจ

เขามองไปที่รพีพงษ์จากประสบการณ์เมื่อก่อน คนที่โดนวิชา ของเขา จะมึนงงอยู่สักพัก แม้การรับรู้จะทำให้คนตะลึง ก็ไม่มี ทางตื่นขึ้นมาอย่างทันใด ในเวลานี้ เขาสามารถจัดการรพีพงษ์ ได้อย่างสบาย

หงส์เห็นรพีพงษ์นิ่ง บวกกับคำพูดของคนเหล่านี้ในห้อง รับแขก ก็เริ่มเครียดขึ้นมา เธอมองรพีพงษ์หลายครั้ง คิดไม่ถึงว่า รพีพงษ์จะโดนวิชาได้ง่ายขนาดนี้

“เด็กนี่ทำไมเทียบกับฉันไม่ได้เลยนะ ฉันยังต้านทานได้สักพัก แต่นี่ทำไมจู่ๆเขานิ่งแล้วล่ะ? โดนไอ้ขี้โม้นทำร้ายแล้วเรา แบบนี้ ก็ต้องโชคร้ายไปกับเขาด้วยแล้วเนี่ย” หงส์โมโหในใจ

ทัดธนมองไปที่หงส์ ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วกล่าว “สิ่งที่แกไม่ ควรทํามากที่สุด ก็คือพาคนกลับมาหาเรื่อง ความจริงฉันปล่อย แกไปแล้วครั้งนึง ไม่คิดว่าแกไม่รู้จักแก้ไข รอให้ฉันจัดการไอ้นี่ เสร็จก่อน เดี๋ยวฉันจะมาจัดการกับแก ลักษณะอย่างแก ฉันค่อน ข้างชอบนะ”

พูดจบ ทัดธนจะลงมือต่อรพีพงษ์

หงส์เห็นดังนี้ ก็รีบขวางหน้ารพีพงษ์ไว้ แม้ในใจจะโมโหเพราะ รพีพงษ์ แต่เธอก็ไม่สามารถปล่อยรพีพงษ์ไว้แบบนี้ได้
“ไอ้เข้าน่าขยะแขยง อย่าคิดว่ามีพลังวิเศษหน่อยแล้วจะทํา อะไรก็ได้ ไม่ใช่ใครจะทำอะไรก็ได้ง่ายๆ เหมือนกัน!

ทัดธนไม่สนใจหงส์แม้ฝีมือของหงส์จะเป็นแดนปรมาจารย์

แล้วก็ตาม แต่รพีพงษ์โดนวิชาเข้าแล้ว หงส์จะรอดได้ไงกัน

ในขณะที่หงส์กำลังจะลงมือ ฉวยโอกาสตอนที่ทัดธนยังไม่ ปล่อยวิชาสะกดจิตออกมา รพีพงษ์ก็ยกมือขึ้น จับแขนของเธอ

หงส์สงสัย หันไปมองด้านหลัง พบว่ารพีพงษ์กำลังยิ้มให้ตัว

เอง

“คุณถูกไอ้นี่สะกดจิต?” ปฏิกิริยาแรกของหงส์คือรพีพงษ์ถูก ทัดธนควบคุมแล้ว จากข้อมูล ทัตธนมีความสามารถในการ สะกดจิตผู้อื่น

“ไม่ เมื่อกี้ฉันแค่สงบจิตแค่นั้น ฝีมือของมันแย่กว่าที่ผมคิดไว้ เยอะ ผมจัดการมันเอง”

พูดจบ รพีพงษ์ก็ลากหงส์ไปอยู่หลังตัวเอง แล้วมองไปที่ทัดธน ทัดธนก็ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะตื่นเร็วขนาดนี้ จึงตะลึงขึ้นมา

แต่ไม่นานเขาก็สงบลง แล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “คิดไม่ถึงว่าเด็ก อย่างมึงจะตื่นเร็วขนาดนี้ ประเมินจึงต่ำไป ทำให้มึงโดนวิชา ครั้งแรกได้ กูก็จะทำให้มึงโดนวิชาครั้งที่สองได้เช่นกัน ครั้งนี้กูจะ ไม่เสียเวลาอีก จะต้องจัดการกับมึงตั้งแต่วินาทีแรก! ”

พูดจบ ทัดธนได้ใช้พลังจิตของตนไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง
รพีพงษ์ยิ้มมุมปาก แล้วกล่าว “ความสามารถเท่าขี้เล็บอย่างนี้ ของมึง จะให้กูโดนวิชา จึงเป็นไอ้บ้าฝันกลางวันจริงๆ!

พูดจบ พลังจิตของรพีพงษ์ได้ถูกรวบรวมไว้ แล้วปล่อยไปที่

พลังจิตอันเล็กน้อยของทักธนนั่น

ขณะนี้ ทัดธนได้รับรู้อย่างแท้จริงแล้วว่าอะไรคือ การเสียวซ่าน หนังศีรษะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ