บทที่ 200 ถ้าฉันไม่มีความสุข แกก็อย่าหวังจะมี ความสุข
ประตูRose&Mary Hostelรพีพงษ์และจิรายุศยิน
อยู่ด้วยกัน
ศศินัดดาศักดาและอารียาเดินเข้าไปข้างในแล้ว จิ ราบุศจัดคนไปส่งทัตพงศ์กลับบ้านแล้ว
“พี่รพี คุณคือดวงดาวแห่งโชคลาภของผมจริงๆ ผมยังคิดไม่ตกอยู่เลยว่าจะทำอย่างไรกับงานประมูลปี นี้ ปรากฏว่าคุณมา มีคุณอยู่ ผมก็ไม่ต้องเป็นกังวล อะไรแล้ว ไอ้เด็กน้อยทิวัตถ์นั่นจะต้องคิดไม่ถึงว่าผมก็ มีไพ่ใบสุดท้ายแบบคุณ” จิรายุศยิ้มพลางกล่าว
“แกกับไอ้ทิวัตถ์นั่นเป็นศัตรูกันหรอ? เขาก็เป็นคน อำเภอหยกเหมือนกัน?” รพีพงษ์ถาม
“เปล่า ทิวัตถ์นี่ความจริงเป็นคนเมืองริเวอร์ ครอบครัวประกอบธุรกิจเพชรพลอย ก็ถือได้ว่าเป็น คนรวย แน่นอน ถ้าในเมืองริเวอร์เขาก็ไม่ติดอันดับใดๆ ครั้งนี้เขามาจับธุรกิจค้าหยกที่อำเภอหยกแล้ว อยาก จะแบ่ง ผลกำไรจากผมไปนิดหน่อย แล้วยังเชิญ ปรมาจารย์จารุพิชญ์นี้มาโดยเฉพาะ ถ้าเขาทำสำเร็จ ล่ะก็ ต่อไปธุรกิจหยกของอำเภอหยกนี้ ผมก็จะต้อง แบ่งตลาดครึ่งหนึ่งไปให้กับเขา ถึงเวลานั้นในอำเภอ หยกผมอาจจะไม่ได้เจิดจรัสมากขนาดนี้แล้ว” จิรายุ ศอธิบาย
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วกล่าว “ในเมื่อเป็นการ ประมูล ฉันก็ทำได้แค่รับประกันคุณภาพของหินหยก เท่านั้น ประมูลได้หรือไม่นั้น ก็ต้องพึ่งตัวแกเองนะ”
จิรายุศพยักหน้า แล้วกล่าว “เรื่องนี้ผมเข้าใจ ถึง เวลานั้นพี่รพีเพียงแค่ดูหินให้ชัดเจนก็เพียงพอแล้ว เรื่องเงินผล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ วันมจีนเขาและจิรายุศ ไปในเมืองพร้อมกัน ศศินัดดาและอารียาทั้งสองก็อยู่ ในเมือง เดินเที่ยวไป รอการประมูลครั้งนี้จบลงแล้ว พวกเขาก็ได้เวลากลับแล้ว
ไม่รู้ว่าธายุกรสูบเงินจากโครงการของบริษัทซัน บับเบิ้ลกรุ๊ปไปเท่าไหร่แล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าพอที่จะ เทคโอเวอร์บริษัทตระกูลฉัตรมงครหรือยัง
“เออ แกมีบอดี้การ์ดมือฉมังสักหน่อยไหม มรีนนี้ ฉันไปงานประมูลกับแก ภรรยาของฉันพวกเธอเที่ยว ในเมือง ฉันไม่ค่อยวางใจ” รพีพงษ์กล่าว
จิรายุศหัวเราะขึ้นมา แล้วกล่าว “มีแน่นอน ไม่ว่า ยังไงผมก็เป็นบุคคลสำคัญของอำเภอหยก คนที่ไม่ ชอบผมก็เยอะ ผมก็ต้องป้องกันตัวเป็นธรรมดา”
พูดจบ จิรายุศก็ผิวปาก จากนั้น ร่างของทั้งหกเข้า มาหาจิรายุศอย่างรวดเร็ว
รพีพงษ์มองไปที่ทั้งหกคน ในใจก็ค่อนข้าง ประหลาดใจ เขาและจิรายุศเจอกันก็หลายครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่ได้พบกับหกคนนี้เลย
ดูๆแล้วหกคนนี้เก่งฉกาจมาก
แล้วเมื่อสักครู่นี้ที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมา ฝีมือน่า จะดีไม่เบา ในอำเภอหยกนี้ พูดได้ว่าฝีมือดีไม่มีที่ติ
จิรายุศมองไปที่หกคนอย่างภูมิใจ แล้วกล่าว “พวก เขาทั้งหกฉันคัดสรรมาอย่างดี ผู้นำคือฆาตกรที่มีชื่อ เสียงอันดับหนึ่งของนานาชาติในปีนั้น ภายหลังไม่ทำ แล้ว ฉันเลยเอาเขามา พวกเขาทั้งหกคนชำนาญใน ด้านต่างๆมีลอบฆ่า ซุ่มโจมตี กบฏ แกะรอย เป็นตัว เลือกชั้นดีเลยล่ะ”
รพีพงษ์มองพวกเขาทั้งหกอย่างชื่มชม แล้วกล่าว “ดูๆแล้วช่วงหลายปีมานี้แกฉลาดขึ้นเยอะเลยนะ”
จิรายุศยิ้ม แล้วกล่าว “เทียบกับพี่รพีแล้วยังห่าง
ไกลอีกมาก”
“แกให้พวกเขาตามภรรยาของฉัน แล้วแกล่ะจะทำ
ยังไง? รพีพงษ์กล่าว
จิรายุศหัวเราะเสียงดัง แล้วกล่าว “ไม่ใช่ว่ามีคุณ อยู่หรอ คุณคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ผมยังต้องกลัว อะไรอีก”
รพีพงษ์ยิ้มแหยๆ แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังจากวางแผนเสร็จ รพีพงษ์ก็กลับโรงแรม มรีน นี้จิรายุศจะส่งคนมารับเขา จากนั้นพวกเขาก็จะไปตัว เมืองของอำเภอหยกด้วยกัน เข้าร่วมการประมูล
วันต่อมา รพีพงษ์และอารียาศศินัดดาและศักดา
ไปถนนหินหยกของอำเภอหยก ที่นี่ผลิตหยก รพีพงษ์ ให้อารียาและศศินัดดาทั้งคู่ซื้อเครื่องประดับและกำไล หยกมากมาย
ในขณะที่ทั้งสามเดินรอบๆถนนหินหยกอยู่นั้น ใน บ้านหลังเก่าหลังหนึ่งของตัวเมืองอำเภอหยก บจีปราง ทิพย์ตุลยวัตสามคนเดินรอบๆอย่างเกรงกลัว ในมือ ของตุลยวัตถือห่ออยู่ห่อหนึ่ง ดูๆแล้วบวมๆ ไม่รู้ว่าข้าง ในใส่อะไรบ้าง
“ลูกสาว คนที่แกพูดจะมาจริงไหม?” บจีถามอย่าง กระวนกระวาย
“ต้องมาสิ ฉันนัดเขาไว้แล้ว คนนี้ชื่อเสียงความน่า เชื่อถือถือว่าไม่เลว เพียงแค่ให้เงินมากพอ เขาก็จะ จัดการได้อย่างเรียบร้อย” ปรางทิพย์กล่าว
“แต่พวกเราทำแบบนี้ดีจริงไหม รพีพงษ์เป็นคนที่มี ความเกี่ยวข้องกับจิรายุศเค้าจะช่วยพวกเราจัดการ
หรอ?”ตุลยวัตถาม
“วางใจได้ ฆาตกรอย่างพวกเขา ให้ความสำคัญ กับเงิน ไม่ว่าจะเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับใคร เพียง แค่ให้เงินเพียงพอ พวกเขาก็ทำได้อย่างดี”ปรางทิพย์ กล่าว
ตุลยวัตและบจีพยักหน้า แล้วไม่พูดอะไรอีก
เมื่อวานพวกเขาถูกไวทยุตไล่ออกจากตระกูลเขมพงศ์ แล้วยังอับอายขายขี้หน้าอย่างมาก นี่มันถือเป็น วันที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขา ไม่มีตระกูลเขมพงศ์ไว้ คอยปกป้องแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ต่อไปของพวกเขา จะเปลี่ยนเป็นยากเย็นแสนเข็ญทันที
ทั้งสามคนโยนความผิดนี้ให้กับครอบครัวของศศิ นัดดา โดยเฉพาะรพีพงษ์ พวกเขารู้สึกว่ายอมไม่ได้ ปรางทิพย์ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ถึงขั้นสาบานว่าจะทำให้ ครอบครัวศศินัดดาได้รับการลงโทษที่แสนสาหัส ทั้งหมด
พอดีในตอนที่คบกับโมไนยนั้น ปรางทิพย์ได้รู้จัก นักฆ่าคนหนึ่ง พูดว่าเป็นนักฆ่า แต่ความจริงก็คือคนที่ รับจ้างทำเรื่องสกปรกเท่านั้น
ปรางทิพย์ได้ขายสิ่งของที่โมไนยซื้อให้กับเธอ ทั้งหมด รวบรวมได้สามแสน แล้วติดต่อไปที่นักฆ่าคน นั้น เพื่อให้เขาจัดการกับครอบครัวศศินัดดา
ผ่านไปไม่นาน มีคนผิวดำคนนึง ใบหน้าอำมหิต เป็นผู้ชายที่มีแววตาดุร้ายก็ปรากฏกายต่อหน้า ครอบครัวของปรางทิพย์
บจีและตุลยวัตทั้งคู่มองไปที่คนนั้น ก็ตกใจขึ้นมา
ทันที
“แกคือฌัลล์?” ปรางทิพย์มองไปที่คนนั้นแล้วถาม
ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าไปที่ปรางทิพย์ แล้วถาม “เอาเงินมาหรือยัง?”
ปรางทิพย์รีบเอาห่อนั้นที่อยู่ที่ในอกของตุลยวัต นั้นยื่นไปให้ฌัลล์ แล้วกล่าว “ในนี้มีสามแสน แกนับดู”
ฌัลล์ถือห่อไป เปิดออกดู แล้วกล่าว “แค่สามแสน แลกกับคนสี่ชีวิตไม่ได้หรอกนะ”
“ฉันไม่ได้ให้ฆ่าพวกเขา ฉันแค่ต้องการให้แก ทำร้ายพวกเขา ผู้หญิงวัยรุ่นที่สวยๆคนนั้น ฉันอยากจะ ให้แกเอาลูกน้องแกไปจัดการเธอ จัดการจนเธอยับ เยิน คนที่เหลือ ทำให้พวกมันพิการ เงื่อนไขแค่นี้ สาม แสนน่าจะพอนะ”ปรางทิพย์กล่าว
ฌัลล์หัวเราะ แล้วกล่าว “ถ้าอย่างนี้พอ แล้วยังได้ผู้ หญิงฟรีๆอีก ถือว่าฉันได้เปรียบ”
จากนั้นปรางทิพย์ก็เอารูปทุกคนในครอบครัวศศิ
นัดดาให้กับฌัลล์ แล้วกล่าว “นี่เป็นรูปของพวกเขา ถ้า
จะให้ดีสองสามวันนี้ลงมือซะ ถ้าช้าอีก พวกเขาน่าจะ
ไปจากที่นี่แล้ว”
มัลล์พยักหน้า แล้วกล่าว “ไว้ใจได้ ช้าสุดพรุ่งนี้
ลงมือ”
พูดจบ ฌัลล์ก็ถือเงินแล้วจากไป
สายตาของปรางทิพย์เปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดขึ้นมา แล้วพูดกับตัวเองว่า “อารียา ฉันบอกแล้ว ถ้าฉันไม่มี ความสุข ก็ไมีทางให้พวกแกมีความสุข แกรอความสิ้น หวังได้เลย ไม่รู้จริงๆว่าตอนที่แกโดนพวกผู้ชายรุม โทรม จะมีความรู้สึกยังไงนะ”
ผ่านไปหนึ่งคืน รุ่งขึ้นของอีกวัน จิรายุศก็มาถึง ประตูของRose&Mary Hostel
รพีพงษ์บอกอารียาว่า ถ้าเธอเกิดปัญหาต้องโทร หาตน แล้วโอนเงินให้สามแสน ให้เธอนำเงินนี้พาศศิ
นัดดาและศักดาไปเที่ยวกิน ซื้อของฝาก
อารียาเห็นในบัญชีของตนมีเงินเข้ามาสามแสน ก็ พูดไม่ออกทันที ซื้อของฝากต้องใช้เงินสามแสนเลย หรอ รพีพงษ์จะให้เธอซื้อเท่ากับยอดที่ร้านของฝาก ขายได้หนึ่งไปเลยหรอ
ศศินัดดาเห็นอารียาตะลึง แล้วถามว่า “ลูกสาว
เป็นอะไรไป?”
“ไม่มีอะไร รพีพงษ์โอนเงินให้ฉันนิดหน่อย ให้ฉัน ซื้อของฝาก”อารียากล่าว
“เขาโอนให้แกเท่าไหร่? ดูลักษณะแกแล้ว โอนให้ น้อยใช่ไหม?”ศศินัดดากล่าว
“เขาโอนให้ฉันสาม….ชั่งเถอะ ไม่คุยกับคุณล่ะ” อารียาคิดๆไป ถ้าบอกกับศศินัดดาล่ะก็ ศศินัดดาจะ ต้องเอาเงินนี้ไปใช้เองแน่ๆ เลยไม่ได้พูดออกมา”
“ให้แค่สามร้อยเองหรอ รพีพงษ์นี้ขี้งกไปแล้วนะ
ยังพูดทุกวันอีกว่าตัวเองมีเงิน ฉันว่าคุยโวโอ้อวดต่าง
หาก พวกเราได้พักRose&Mary Hostelต้องเป็นท่าน
ยุดจ่ายให้แน่ๆ ลูกสาว ความจริงฉันว่าท่ายยุดก็ไม่เลวนะ ไม่งั้น แกลองทบทวนดูไหม!”ศศินัดดากล่าว
อารียามองบน แล้วกล่าว “แม่ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ เงินที่ใช้ซื้อของในวันนี้ ให้คุณจ่ายเองทั้งหมด” ศศินัดดาหัวเราะอารียา แล้วกล่าว “พูดนิดหน่อยก็
ไม่ได้ โดนรพีพงษ์จูงจมูกจริงๆด้วย”
ศักดายืนอยู่ข้างๆ กำลังมองไปที่ทั้งคู่ ก็ไม่พูด อะไร การมีตัวตนของเขาในครอบครัวนี้ แทบจะไม่ เหลือแล้ว
หลังจากที่รพีพงษ์จากไปไม่นาน ทั้งสามก็ออก จากโรงแรม แล้วไปเที่ยวในตัวเมืองของอำเภอหยก
ศศินัดดาซื้อของฝากมากมาย ศักดาก็คอยถือ กระเป๋าให้กับทั้งคู่
หลังจากที่ซื้อของไปแล้วบ้าง ทั้งสามเดินออกมา จากร้านของที่ระลึก ขณะนี้มีเด็กผู้หญิงวิ่งไอยู่ตรง หน้าของอารียา ดึงแขนของอารียา แล้วกล่าว “พี่สาว พี่ชายฉันเป็นลมอยู่ในซอยด้านหน้า พวกคุณไปช่วย เขาหน่อยได้ไหม?”
หลังจากที่อารียาได้ยินเด็กผู้หญิงพูดจบ ก็ถาม “ซอยไหน รีบพาฉันไปเร็ว” เด็กผู้หญิงคนนั้นก็รีบพาอารียาเดินไปทางนั้น ศศิ
นัดดาและศักดาไม่อยากยุ่ง แต่เมื่อเห็นอารียาเดินไป
ก็ทำได้เพียงเดินตามไป ไม่นานเด็กผู้หญิงก็พาอารียาไปยังซอยตัน อารียามองเข้าไปด้านใน พบว่าไม่มีคนเป็นลม
เธอหันไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้น แต่เด็กนั่นกลับหัน หลังแล้วรีบวิ่งหนีไป “นางเด้กนี่หลอกกันนี่หน่า ที่นี่มีคนเป็นลมที่ไหน
กัน มันชั่งน่าโมโหจริงๆ” ศศินัดดาพึมพำ
ขณะเดียวกันนี้เองอารียารู้สึกมีอะไรไม่ชอบมาพา กล ในใจของเธอรับรู้ได้ถึงสิ่งที่แปลกไป แล้วรีบกล่าว “พวกเรารีบออกไปจากที่นี่”
ในขณะนี้เอง ฌัลล์ได้พาพวกมาอีกสิบกว่าคน แล้วเดินบีบให้อารียาทั้งสามเดินลึกเข้าไปที่สุด
“แก…แกเป็นใคร?”ศักดาถาม
“มีคนให้เงินกูทำให้พวกมึงพิการ วันนี้พวกแกอย่า หวังจะได้ออกไปอีกเลย เสียดายขาดไปหนึ่ง เดี๋ยว ต้องไปจัดการอีกคนโดยเฉพาะอีก ยุ่งยากจัง” ฌัลล์ หัวเราะพลางพูด
ศักดาตกใจจนรีบถอยไปด้านหลัง ศศินัดดาด่า “ใช้ไม่ได้จริงๆ กลัวซะขนาดนั้น”
อารียาขมวดคิ้วแล้วดูไปที่ฌัลล์ กล่าว “คนนั้นให้ เงินเท่าไหร่? ฉันจะให้มากกว่า”
ฌัลล์หัวเราะให้อารียา แล้วกล่าว “ขอโทษนะ ถ้า เรารับงานแล้ว ห้ามผิดคำพูด เธอนี่ชั่งสวยงามจริงๆ ดุๆ แล้ววันนี้น่าจะสนุกน่าดู”
“รีบทำให้ไอ้แก่สองตัวนั้นขาหัก แล้วพวกเราค่อย รุมโทรมคนสวยคนนี้ นี่เป็นผลตอบแทนของงานชิ้นนี้ นะ
ศศินัดดากระวนกระวาย มองไปที่อารียา แล้วถาม “ลูกสาว ตอนนี้ควรทำยังไงดี?”
อารียาค่อนข้างร้อนรน ในสถานการณ์แบบนี้ เธอ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำอย่างไร
สายตาให้พวกเขากำลังพุ่งเข้ามา ใบหน้าของศศิ
นัดดาและศักดาดูสิ้นหวัง
ในขณะเดียวกันนี้เอง ทั้งหกคนก็ปรากฏตัวใน ซอยทันที แล้วขวางพวกฌัลล์เอาไว้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ