พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่790 ในเมื่อจะประลอง ก็รีบประลองเถอะ



บทที่790 ในเมื่อจะประลอง ก็รีบประลองเถอะ

“ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหม รพีพงษ์ให้ประมุขสี่คนขึ้นพร้อมกัน เขา บ้าไปแล้ว! ”

“โอยย ลูกรัก รพีพงษ์บ้าไปแล้ว เมื่อเขาต่อสู้กับทัดเทพยัง ใช้เวลานานขนาดนี้ ยังดูสูญเสียพลังอีก ตอนนี้จะให้ขึ้นพร้อมกัน สี่คน”

“หรือเขารู้ว่าตัวเองแพ้แน่ เลยให้รีบๆขึ้น แบบนี้แพ้จะได้แพ้ แบบมีหน้าตาหน่อย คนเยอะขนาดนี้ แพ้อยู่แล้ว นับประสาอะไร ไม่ว่ายังไง ความกล้าของรพีพงษ์น่านับถือนัก แค่เขาทำแบบ

นี้ คง โดนรุมตาย”

ทุกคนเริ่มถกประเด็นรพีพงษ์ขึ้น ต่างรู้สึกเหลือเชื่อ

พวกบดีศวรคิดไม่ถึง พวกเขารอทุกคนไปปรพีพงษ์ให้ตาย คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะเรียกพร้อมกัน

ทีเดียว

หรือว่าเจ้านี่คิดว่าตัวเองตายแน่ เลยจะเอาให้ถึงที่สุด ชเยศกับธนพลหันไปมองบดีศวร จ้องด้วยสายตาตั้งคำถาม

“ท่านประมุขบดีศวร เอาไงดี”ชเยศถาม
บดีควรนิ่งคิด เนิ่นนาน เขายึดตัวตรง เอ่ยปาก ในเมื่อเขาเป็น คนเสนอเอง พวกเราก็จะสนอง เรื่องมาถึงขั้นนี้ หน้าตาไม่สำคัญ อีกต่อไป ต่อให้คนจะว่าหมาหมู่ วันนี้ก็ต้องกำจัดรพีพงษ์แบบ ถอนรากถอนโคน

ศักยภาพของเขาทุกคนเห็นแล้ว จะเอาอายุมาวัดไม่ได้ ใน เมื่อเขาให้โอกาสพวกเรา ก็ไม่ต้องเกรงใจ

พูดจบ บดีศวรเดินขึ้นเวที

ชเยศกับธนพลพยักหน้าให้กัน ตามบดีศวรขึ้นไปบนเวที

เมื่อเทียบกันเรื่องหน้าตาแล้ว การกำจัดรพีพงษ์ ถึงจะเป็นเรื่อง สำคัญในตอนนี้

ทั้งสามเดินขึ้นเวที ปรมาจารย์ทั้งสี่ยืนเรียงเป็นหนึ่งแถว มอง รพีพงษ์ด้วยแววเย็นชา

หลังจากบ้านลัดดาวัลย์ที่อยู่ในหมู่ผู้ชมได้ยินการตัดสินใจ ของรพีพงษ์ สีหน้าต่างร้อนรน แม้ว่าพวกเขาต่างรู้ว่าฝีมือรพีพงษ์ ไม่หยอก แต่ถ้าสุดยอดฝีมือขึ้นพร้อมกันสี่คนแบบนี้ พวกเขาก็ ตกใจไม่น้อย

“ลูกพี่นี่ไม่เบาเลย เรียกประมุขสี่คนขึ้นพร้อมกัน ต่อให้เป็น เขียนก็ไม่น่าจะรับไหว”ดำเกิงจ้องเขม็ง

“พวกเราต้องหาทางห้ามเอาไว้นะ อย่างมากยกเลิกการ ประลอง ขึ้นมาทีสี่คนแบบนี้ เท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ”ครองภพเอ่ย ปาก
ธฤตญาณส่ายหน้า พูด ไม่มีประโยชน์ ลงเจ้านี่ตัดสินใจแล้ว ไม่เปลี่ยนใจหรอก อีกอย่างเขาไม่ใช่คนที่ทําอะไรลวกๆ เขาทํา แบบนี้ คิดว่าทําตามความคิดตัวเองแน่ๆ ตอนนี้ผู้ประลองต่างขึ้น เวที จะหยุดยั้งไม่ง่าย ดูว่ารพีพงษ์รับมือยังไงแล้วกัน”

ทุกคนทั้งร้อนใจทั้งอ่อนใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้ พวกเขาได้แต่รอด ว่ารพีพงษ์จะรับมือกับประมุขทั้งสี่อย่าง

ไร

ที่รพีพงษ์ทำแบบนี้ แน่นอนว่าคิดดีแล้ว ตอนนี้เขารู้แล้วว่าบน ตัวประมุขทั้งสี่มียาคนละเม็ด ถ้าสู้ไปทีละยกคงหมดพลังก่อน อย่างมากต้านไหวแค่อีกยกเดียวเท่านั้น หลังจากที่ใช้เคล็ดลับ เขาต้านทั้งสี่คนไม่ไหวแน่ๆ

สู้ให้ขึ้นมาทีเดียวสี่คนเลยดีกว่า เขาจะใช้เคล็ดลับในจังหวะ สำคัญ ยกระดับพลังของตัวเอง เท่าที่เขาเข้าใจเคล็ดลับ พอด มาใช้ อย่าว่าแต่ปรมาจารย์สี่คนเลย ต่อให้ปรมาจารย์ที่กินยา คน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา

แบบนี้ประหยัดเวลาด้วย

แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่ฝึกพลังวิเศษและมีเคล็ดลับแบบรพี พงษ์ถึงจะกล้าทำ ถ้าเป็นคนที่มีแค่พลังเน่ยจิ้งธรรมดา หากท่า แบบนี้ คงตายทางเดียว

ตอนนี้ทุกคนเห็นว่ารพีพงษ์กำลังรนหาที่ตาย เพียงแต่พวกเขา แค่ไม่รู้ว่ารพีพงษ์จะใช้ไพ่ใบไหน
ชายชุดคลุมตามองประมุขทั้งสี่ขึ้นเวที จึงรีบหัวเราะ

“โง่บัดซบ ถ้าค่อยๆ ทีละคน แกยังมีทางรอด แต่ดันเรียก

พร้อมกันสี่คน กลัวตัวเองจะตายช้าหรือไง” “ยาที่ฉันให้พวกเขาไม่ใช่ยาเล่นๆนะ ถ้าพวกเขากินเข้าไปทั้ง

สี่คนแล้วปะทะฝีมือกับแก ต่อให้เทพลงมาจุติก็ช่วยแกไม่ได้! บนเวที พวกบดีศวรสี่คนมองรพีพงษ์ แววตาประกายด้วยรอย สังหาร

รพีพงษ์ยิ้มให้พวกเขาสี่คน พูดขึ้นพวกแกก็ไม่เกรงใจเลยนะ บอกให้ขึ้นพร้อมกัน ก็ขึ้นพร้อมกัน แบบนี้ไม่กลัวเสียชื่อเหรอ”

บดีศวรแค่นเสียงกล่าวกำจัดแก สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด”

“พ่อหนุ่ม แกพูดเองนะ ตอนนี้คิดจะถอนคำเหรอ! “ธนพล ตะโกนไปทางรพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้ม”ฉันไม่เคยบอกว่าเสียใจ แค่หยอกล้อนิดหน่อย

“หึ ไม่รู้จริงว่าแกคิดอะไร คิดจะท้าทายเราสี่คน หรือว่ามีชีวิต จนเบื่อแล้ว เลยอยากหาทางตาย”นิรภาพพูด

“งั้นพวกแกคิดมากไป พวกแกคิดว่าขึ้นมาสี่คน ก็จะชนะได้ หรือ งั้นฉันพูดแค่ว่า พวกแกชื่อเกินไป”รพีพงษ์เอ่ย

“ใกล้จะตายอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดมากหรอก พวกเราร่วมมือกัน คน แต่ละคนเพิ่มพลังยา แกไม่มีทางชนะแน่ แกจะวางท่ายังไงก็ เปลี่ยนผลลัพธ์ไม่ได้”ชเยศกล่าว รพีพงษ์เบ้ปาก ในใจยังคงมั่นใจกับการต่อกรกับคนทั้งสี่ ไม่รู้ว่าถ้าพวกเขาแพ้ให้กับพี พงษ์ในสถาการณ์แบบนี้ จะมีปฏิกิริยายังไง

“อย่าพูดพร่ำทำเพลงอยู่ รีบเข้ามา ประลองฉากนี้จบ จะกลับ ไปพักผ่อนแล้ว”รพีพงษ์เอ่ยปาก

บดีศวรแค่นเสียง พูด เกรงว่าจะไม่มีโอกาส!! พูดจบ จึงหยิบยาออกจากเสื้อ ใส่ปากไป

“กึนยาแล้ว รักษาสภาพการประลองให้ดีที่สุด ครั้งนี้ต้องไม่ เกิดข้อผิดพลาดใดๆ

พวกฃเยศอีกสามคนลังเล รีบหยิบยาออกมา ใส่ปาก

พริบตาเดียว ทั่วทั้งเวที พลังสี่ทิศแผ่ซ่าน ทุกคนต่างสัมผัสได้ ถึงพลังงานที่มองไม่เห็น ทำให้พวกเขาหายใจไม่ทั่วท้อง รพีพงษ์เห็นทั้งสี่มุ่งมั่น เขากระตุกคิ้ว แต่ไม่ได้ร้อนรน สีหน้า

ราบเรียบ แววตาทอประกายตื่นเต้น

ในเมื่อจะประลอง ก็รีบประลอง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ