พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่756 ก็แค่นั้นเอ



บทที่756 ก็แค่นั้นเอ

“นี่ นี่ก็คือความแข็งแกร่งของนายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์เหรอ?” ปานศักดิ์ยืมกุมมือจ้องมองไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ตรงกลางลานบ้าน อย่างตะลึง ร่างรพีพงษ์ที่เต็มไปด้วยลมปราณ ในใจมีอารมณ์ที่ ซับซ้อน โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน

เมื่อนึกถึงตอนที่เขายังอวดกล้ามตัวเองโชว์ต่อหน้ารพีพงษ์ ปานศักดิ์ก็อยากจะหาที่ที่หนึ่งรีบมุดดินหนีเข้าไป ไม่อยากพบ เจอผู้คนอีกแล้ว

ได้ยินเสียงเฉพาะด้านบนหลังคา เสียงดังขึ้นมา นาฬิกา เรือนใหญ่ก็หล่นลงด้านนอกกำแพง จากนั้นร่างไม่กี่ร่างบน หลังคาก็กระโดดลงมา และอีกร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ตกมาอยู่ตรงหน้าคนไม่กี่คนนั้น ก็คือนายใหญ่ของตระกูลภูธน ปภาวิชญ์

ดวงตาของปภาวิชญ์จ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยความโกรธ ส่งเสียง เย็นชา “มอบของขวัญให้แกแล้วไม่เอา ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี!”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ถ้านายใหญ่ตระกูลภูธนชอบ ที่คนอื่นมอบนาฬิกาให้ ฉันก็สามารถมอบให้แกได้หนึ่งเดือน

“หึ เด็กปากคอเราะราย ในเมื่อแกรู้ว่าฉันเป็นใคร ถ้าอย่างนั้น แกก็น่าจะรู้จุดประสงค์ที่วันนี้ฉันมาที่นี่ ส่งมอบชีวิตของแกมา ขอโทษให้กับน้องชายฉันซะ ไม่อย่างนั้น ตระกูลลัดดาวัลย์ ทั้งหมดของพวกแก จะหายสาบสูญไปในคืนนี้ ปภาวิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ความสามารถของน้องชายแกไม่เท่าคนอื่น คิดจะลงมือกับ ภรรยาและลูกสาวของฉัน ฉันฆ่าเขา เขาสมควรได้รับมันแล้ว จะ ขอโทษได้อย่างไร?”รพีพงษ์ถามกลับ

ทันใดนั้นปภาวิชญ์ไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร แม้ว่าความจริงจะ เป็นเช่นนั้น แต่น้องชายของเขาไม่ควรตายเปล่า ความแค้นนี้ ต้องชาระ

“อย่ามาพูดจาไร้สาระกับฉันที่นี่ ถ้าตัวแกเองไม่อยากขอโทษ

ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ! ปภาวิชญ์เอ่ยปาก

รพีพงษ์ไม่ได้พูดจาไร้สาระกับเขา แต่หันกลับมา และกระโดด ขึ้นไปบนเวทีประลองที่จัดเตรียมไว้

“เชิญเถอะ”

ปภาวิชญ์หรี่ตาลง คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะตั้งใจจัดเตรียมเวที ประลองไว้รอเขา ดูเหมือนว่าวันนี้ไม่สั่งสอนเขา เขาก็คงคิดว่า ตระกูลภูธนสามารถมีเรื่องได้ตามอำเภอใจ

เขาย่างก้าวออกไปด้านหน้า ในวินาทีถัดมา ก็ขึ้นมาถึงบนเวที ประลอง ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็มองไม่เห็นค่อยชัดเจนว่า เขาขึ้นมาได้อย่างไร

ในเวลานี้มีคนจากตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณและสำนักจำ ปภาวิชญ์ได้แล้ว ก็แสดงสีหน้าตกใจทันที

“คือตระกูลภูธนจากแถบเมืองชลาลัยนี่เอง ตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณอันดับหนึ่งในแถบเมืองชลาลัย คนนั้นคือนายใหญ่ ของพวกเขา ปภาวิชญ์ โอ้พระเจ้าช่วย ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงไป ทั่วแผ่นดินจีนกลับปรากฏตัวขึ้นที่งานเลี้ยงของตระกูลลัดดาวัลย์ หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ฉันไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน

“ใช่ปภาวิชญ์ของตระกูลภูธนจริงๆด้วย นายใหญ่ของตระกูล ลัดดาวัลย์ก็สุดยอดมากเกินแล้ว บีบคั้นให้คนใหญ่คนโตใน ระดับนี้ออกมาได้”

“ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็โชคร้าย ปภาวิชญ์เป็นที่รู้จักกัน ในฐานะคนอันดับหนึ่งของแถบเมืองชลาลัย เมื่อเทียบชินาธิปที่ ตายด้วยเงื้อมมือของรพีพงษ์กับปภาวิชญ์แล้ว ก็ยังห่างไกลกัน อีกมาก ตอนนี้ปภาวิชญ์ได้ปรากฏมาตัวเอง กลัวว่ารพีพงษ์คงจะ แย่แน่ๆ”

“อย่างไรก็ตามรพีพงษ์ยังอายุน้อย กล้ายั่วยุคนระดับนี้ ต่อให้ เขาจะมีพลังมากแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ในช่วงเวลาสั้นๆนี้จะ เทียบเท่ากับปภาวิชญ์ยอดฝีมือในระดับแบบนี้ ถ้าหากคืนนี้ร พงษ์ถูกฆ่าตาย อย่างนั้นก็น่าเสียดายมากจริงๆ

เมื่อผนึกสินและครองสุขทั้งสองคนที่อยู่ในฝูงชนได้เห็นร พงษ์และปภาวิชญ์ทั้งสองคนขึ้นเวทีประลองแล้ว รอยยิ้ม ปรากฏก็ขึ้นบนใบหน้า

“ผู้อาวุโสผนึกสิน ดูเหมือนว่าเดี๋ยวท่านจะได้ออกหน้าในไม่ช้า นี้แล้ว ถึงตอนนั้นรพีพงษ์พ่ายแพ้ให้ปภาวิชญ์ ท่านลงมือช่วย ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่เข้าร่วมกลุ่มสิงโตของพวกเราก็ไม่ได้ แล้ว”ครองสุขกล่าวด้วยยิ้ม

ผนึกสินก็ยิ้มแล้วพยักหน้าเช่นกัน แล้วพูดว่า “ความสามารถ ของรพีพงษ์นี้น่ากลัวเกินไป เมื่อก่อนคาดว่าไม่เคยประสบกับ ความพ่ายแพ้มาก่อน ครั้งนี้เป็นเรื่องของตระกูลภูธน ก็ถือได้ว่า เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขา ถ้าเขาเข้าร่วมกลุ่มสิงโตของ ฉันจริงๆ ถ้าอย่างนั้น ในอนาคตความหวังของพวกเราก็เพิ่มมาก

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งคู่ดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างออก และมีใบหน้าที่ดูแน่วแน่ขึ้นเหมือนกัน

บนเวทีประลอง รพีพงษ์และปภาวิชญ์ยืนอยู่ตรงข้ามกัน

รพีพงษ์เอ่ยปากว่า “ฉันเพิ่งเข้าใจว่า ทำไมอาจารย์ของฉันถึง ได้เบื่อตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณของพวกแก เรียกว่า ครอบครัวตระกูล ก็ไม่รู้จักแยกระหว่างถูกผิด เกิดเสียเปรียบขึ้น มา ไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนผิด กองกำลังชั่วร้ายก็จะต้องไปหา คนอื่นเขาเรียกร้องกลับคืนมา ฉันพูดถูกมั้ย?”

ปภาวิชญ์ส่งเสียงอย่างเย็นชา และเอ่ยปากว่า: “อย่ามาพูดจา ไร้สาระที่นี่ อาจารย์ของแกก็เป็นแค่คนหลอกลวง หรือว่าแกคิด ว่าความชั่วร้ายที่เขาก่อไว้มันน้อยเหรอ? แกฆ่าน้องชายของฉัน ฉันมาหาแกเพื่อแก้แค้น เป็นสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงมิได้ อย่ามา พูดอะไรที่ไม่มีประโยชน์กับฉัน

“ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นที่น้องชายของแกคิดอยากจะลงมือกับภรรยาและลูกสาวของฉัน ตามตรรกะความคิดของแก ถ้าฉัน ทําลายตระกูลภูธนของแกเพื่อปกป้องภรรยาและลูกสาวของฉัน ให้ไม่มีความกังวล แกก็ไม่มีอะไรที่จะคัดค้าน ถูกมั้ย?”รพีพงษ์ กล่าวรอยยิ้ม

“อย่างแกเหรอ จะทําลายตระกูลภูธนของฉัน? ฝันไปจริงๆ! แก ควรคิดก่อนว่าจะหนีหายนะในวันนี้ได้อย่างไร!

ปภาวิชญ์ไม่ได้พูดจาไร้สาระต่อไป กระทืบเท้าอย่างกะทันหัน และเวทีประลองที่สร้างขึ้นชั่วคราวก็สั่นสะเทือนขึ้นมาทันที รอย แตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเขา ต่อจากนั้นคนทั้งคนก็ พุ่งชนไปที่ทางรพีพงษ์

รพีพงษ์หรี่ตาลง รู้สึกว่าพลังของปภาวิชญ์แข็งแกร่งกว่าชินา ธิป แต่ก็ไม่ได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย และพลังวิเศษเสนใน ร่างกายกำลังไหลเวียน ก่อนที่ชินาธิปจะพุ่งมาถึงตรงหน้าตัวเอง ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้น ทำให้ความ เร็วของปภาวิชญ์ช้าลงไปบ้าง

“กินฝ่ามือฉันไปก่อนเป็นไง?”

“ฝ่ามือดาวฟ้า!”

รพีพงษ์ฟาดฝ่ามือไปด้านหน้าด้วยแรงทั้งหมด นี่คือหลังจากที่ เข้าสู่พลังวิเศษเสนชั้นสูง เป็นครั้งแรกที่ใช้พละกำลังทั้งหมดใน การฟาดฝ่ามือดาวฟ้า ปภาวิชญ์อยู่ตรงหน้าเขาก็ไม่ใช่ยอดฝีมือ ที่น่ากลัวอะไร เขาเป็นเพียงหนูทดลองสำหรับทดลองพลังของ กระบวนท่วงท่าเท่านั้นเอง
ปภาวิชญ์คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะใช้ท่วงท่าที่ทรงพลังเช่นนี้ใน ทันทีที่ขึ้นมา แม้ว่าจะรู้ว่ารพีพงษ์สามารถฆ่าชินาธิปได้ ความ แข็งแกร่งไม่ควรประมาทอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเรื่อง นี้แม้แต่น้อย แต่เขาคาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะสะเพร่าถึงขนาดนี้ ขึ้น แล้ว ก็เปิดเผยไพ่ตายของตัวเองออกมา

“หมัดเสือคาราม! ปภาวิชญ์ไม่รีรอ ใช้ท่วงท่าเหมือนกับจิร ภาส ปะทะกับฝ่ามือของรพีพงษ์

พลังอานุภาพที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น และเสื้อผ้าของทุกคนก็ถูก

ปลิว

เวทีประลองใต้เท้าของรพีพงษ์และปภาวิชญ์แตกเป็นสองท่อน และล้มลงมาในทันที

ทั้งคู่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์ยืนอยู่บนมุมที่เวทีประลองล้ม ลงอย่างไม่กังวล แต่ในขณะที่ปภาวิชญ์ล้มลงบนพื้น และรีบถอย ไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว กัดฟันลบล้างท่วงท่าเมื่อกี้นี้ของพี พงษ์ให้หมดไป

ทุกคนประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าเมื่อรพีพงษ์ขึ้นมา ก็ทำให้ป ภาวิชญ์เสียเปรียบได้ขนาดนี้ อยู่ในใจของพวกเขา รพีพงษ์น่าจะ สู้ปภาวิชญ์ไม่ได้ถึงจะถูก

ตอนนี้พวกเขาจําเป็นต้องตรวจสอบรพีพงษ์ใหม่ ๆ

ปภาวิชญ์กัดฟันจ้องมองไปที่รพีพงษ์ ราวกับว่ารพีพงษ์ทำให้ เขาอับอายเป็นอย่างมาก
บนใบหน้ารพีพงษ์ดูนิ่งสงบ รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น “แกไม่เลวจริงๆด้วย แข็งแกร่งกว่าชนาธิป แต่ว่า…..ก็แค่นั้นเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ