พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่688 นายแน่ใจหรอ



บทที่688 นายแน่ใจหรอ

ด้านนอกร้านกาแฟ ชาลิสานั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์แล้ว

รพีพงษ์รู้สึกกระอักกระอ่วน เอ่ยปากถามว่า “เอ่อฉัน ฉันจะไป บ้านของคุณยังไง นั่งแท็กซี่เหรอ? งั้นช่วยบอกที่อยู่ให้ฉันด้วย

ชาลิสาหันหน้าไปมองรพีพงษ์แวบเดียว แล้วพูดว่า “นายโง่ เหรอ นั่งที่ด้านหลังฉัน

รพีพงษ์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขายังไม่เคยนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ผู้ หญิงมาก่อน แต่ในเมื่อชาลิสาพูดแบบนี้แล้ว ถ้าเขายังปฏิเสธอีก เห็นได้ชัดว่าบ่ายเบี่ยงไปมาเล็กน้อย

ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่ด้านหลังของชาลิสา

ชาลิสาสตาร์ตรถมอเตอร์ไซค์ และเสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ก็ดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็ขับรถไปด้านหน้าตามท้องถนนอย่าง รวดเร็ว

ชาลิสาขับมอเตอร์ไซค์รวดเร็วมาก มองออกว่ายังเป็นคนที่ ชอบแสวงหาความตื่นเต้น แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ค่อยได้ขับ มอเตอร์ไซค์มากนัก แต่เขาก็เคยขับรถแข่งมาก่อน ดังนั้นสำหรับ ความเร็วแบบนี้สบายๆ

ไม่นาน ชาลิสาก็จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่หน้าอาคารห้าชั้นหลัง หนึ่ง อาคารที่มีการก่อนสร้างสไตล์จีนที่แข็งแรงมาก แผ่นป้าย แขวนไว้ที่ประตูด้วย ด้านบนเขียนไว้ว่า “สำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน”ไม่กี่ตัว

ธงถูกแขวนไว้ที่ด้านข้างของแผ่นป้าย มีตัวหนังสือคำว่า “ เขียนไว้บนธงหนึ่งตัว

ซาลิสาพารพีพงษ์เดินไปที่ประตูใหญ่ เข้าไปด้านใน เป็นห้อง นั่งเล่นย้อนยุค ที่มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ภายในมีภาพวาดโบราณ อยู่ มีโต๊ะเก้าอี้ไม้จันทน์แดง และพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ ด้านบน วาดแผนภาพไทเก็ก มีเสาร์ไม้อยู่ทั้งสองด้าน มองแวบเดียวก็รู้ แล้วว่าเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิม

ในเวลานี้มีหลายคนกำลังนั่งพูดคุยอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น นั่งอยู่ที่นั่งหลัก เป็นคนที่หน้าตาห้าวหาญ ชายวัยกลางที่ร่างสูง ใหญ่ คนคนนี้ก็คือประธานของสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพ จีน พ่อของชาลิสา โศศุจ

คนที่นั่งอยู่ด้านข้างโศสุจ ใส่ชุดซ้อมศิลปะการต่อสู้ เป็นผู้ชาย ที่ไว้เคราแพะ คนคนนี้เป็นเพื่อนของโสสุจ ในขนาดเดียวกันก็ เป็นสมาชิกสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน ชื่อว่าเขมทัต

ด้านข้างของเขมทัตมีชายหนุ่มยืนอยู่คนหนึ่ง อายุรุ่นราวคราว เดียวกันกับรพีพงษ์ คือลูกชายของเขมทัต ชื่อว่าพิชยะ

“กันต์อายุยังน้อย ก็บรรลุถึงความแข็งแกร่งเน่ยจิ้งชั้นต้นแล้ว ถือได้ว่าเป็นความสามารถพิเศษที่หาได้ยากในรอบหนึ่งศตวรรษ แม้แต่อนันยชของตระกูลนิธิวรสกุลที่เรียนกับปรมาจารย์ ตอนนี้ ก็ยังมีความแข็งแกร่งเน่ยจิ้งชั้นต้นเท่านั้น ถ้ากันต์สามารถ แสวงหาปรมาจารย์ท่านหนึ่งมาเป็นอาจารย์ อนาคตจะไร้ขีดจำกัด” โศศุจกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“พี่โศศจชมเกินไปแล้ว ที่อยู่ของปรมาจารย์นั่นเป็นสิ่งที่หาได้

ยาก จะพบเจอได้ง่ายขนาดนี้ได้อย่างไร กันต์มีระดับตอนนี้ได้

ฉันก็ยินดีเป็นอย่างมาก เขมทัตกล่าวอย่างถ่อมตัว พิชยะที่อยู่ด้านข้างกำลังยิ้ม แววตาเผยถึงความภูมิใจไม่อาจ

คาดเดาได้

ในไชน่าทาวน์ของอเมริกา ในบรรดาคนรุ่นใหม่ คนที่สามารถ สู้กับเขาได้ ก็มีเพียงอนันยา และอนันยชคืออาศัยการสอนของ ปรมาจารย์ถึงได้มีความแข็งแกร่งอย่างในตอนนี้ แต่เขายังคง ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีการสอนของปรมาจารย์ ใน ใจก็จะต้องมีความอวดดีเป็นธรรมดา

“กันต์ทำให้นายหมดห่วงจริงๆ ถ้ายัยเด็กลิสาสามารถสู้ครึ่ง ของกันต์ได้ ฉันก็หมดห่วง ยัยเด็ก ช่วงกำลังเข้าร่วมงานของ เทือกเขากิสนา แต่ไม่ได้อยู่ในทางที่ถูกต้อง เทือกเขาสนาเป็น สถานที่เที่ยวเล่น แม้ว่าจะหาเงินมาได้มากมาย สําหรับคนที่ฝึก ศิลปะการต่อสู้อย่างพวกเรา ก็ไม่มีประโยชน์อะไร” โศศจถอน หายใจอย่างจนปัญญา

ในขณะนี้ ชาลิสาเดินเข้ามาพร้อมกับรพีพงษ์ หล่อนมองดูโศศุ จอย่างไม่พอใจ เอ่ยปากว่า “พ่อ นินทาว่าร้ายให้คนอื่นลับหลัง ก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่มีมารยาทนะ

โศศจทั้งสามคนหันไปมอง โศศจส่งเสียงเย็นชา แล้วพูดว่า “นี่ฉันนินทาว่าร้ายให้แกเหรอ? หรือว่าสิ่งที่ฉันพูดมันไม่ถูกต้องเหรอ? เทือกเขาสนาเป็นเพียงสวนสนุกที่สูงส่งกว่าเท่านั้นเอง วันๆแกกลับใช้เวลาและพลังไปกับสิ่งที่ไร้ความหมาย ฉันว่าให้ แกไม่กี่คำแกยังไม่พอใจอีก

“พ่อ หนูเคยบอกกับพ่อหลายครั้งแล้ว เทือกเขาสนาไม่ได้ ธรรมดาอย่างที่พ่อคิด ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังหนูคนนี้เป็นลูกชาย ของเจ้านายเทือกเขาสนา เขา….ชาลิสาพูดถึงด้านหลัง จู่ๆก็ รู้สึก

เสียใจขึ้นมา เดิมทีหล่อนต้องการเอารพีพงษ์มาเพื่อพิสูจน์ว่า เทือกเขากิสนาไม่ธรรมดา แต่ทันใดนั้นก็นึกถึงว่ารพีพงษ์ไม่โดด เด่นอะไร จู่ๆฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี

“อะไรนะ! แกพาลูกชายของเจ้านายพวกเขากลับบ้านมาด้วย เหรอ?” โศศจตะโกนขึ้นด้วยความโกรธทันใด สายตาตกไปอยู่ บนตัวรพีพงษ์

เขมทัตและพิชยะทั้งสองคนก็มองรพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ใน แววตาของพิชยะมีความเป็นปรปักษ์ต่อรพีพงษ์ ในความคิดของ เขา เหตุผลที่ซาลิสา ให้ความสำคัญกับเรื่องของเทือกเขาสนา เป็นอย่างมาก บางทีอาจลุ่มหลงลูกชายของเจ้านายพวกเขาก็ เป็นได้

เขารู้สึกว่าลูกชายของเจ้านายเทือกเขาสนา ไม่แตกต่างอะไร จากทายาทเศรษฐี คนประเภทนี้มักมีวาทศิลป์ดีที่สุด บางทีชาติ สาก็อาจถูกหลอกลวงด้วยวาทศิลป์

พิชยะมีหลงตัวเองสูง มักจะคิดว่าคนเดียวที่คู่ควรกับตัวเอง ก็มีเพียงแต่ลูกสาวของประธานสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน แม้ว่าทั้งสองคนไม่ได้คบหากัน แต่ทั้งคู่ก็รู้ถึงเงื่อนไขนี้ดี ที่สำคัญ ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็ต้องการแบบนี้ เพียงแต่ยังไม่ได้ทำให้ เป็นเรื่องเป็นราว

ดังนั้นทันทีที่พิชยะเห็นรพีพงษ์ ก็ถือว่าเขาเป็นคู่แข่งทางความ รักของตัวเอง

“ลิสา เธอก็น่าจะรู้ดีว่า คนประเภทนี้เป็นเพียงเพลย์บอยที่ เสื่อมทรามของชีวิตเท่านั้น เธอคงจะลุ่มหลงวาทศิลป์ของเขา แล้วแน่ๆ เขานอกเหนือจากความรวยแล้ว ไม่มีข้อดีอื่นๆเลย เธอ ก็น่าจะรู้ดีที่สุด พิชยะเอ่ยปาก

โสดุจฟังความหมายของคำพูดของพิชยะออกทันที ดวงตาก็ เบิกกว้าง ในใจรู้ว่ามีความเป็นไปได้

เขาจ้องมองรพีพงษ์อย่างละเอียด แล้วพูดว่า “เด็กน้อย ที่นี่ ไม่ใช่ที่ทนายควรจะมา ลูกสาวของฉันก็ไม่ใช่ว่าใครจะมาคิด อะไรก็ได้ ก่อนที่ฉันจะโกรธ ฉันเตือนนายให้รีบออกจากที่ไปซะ ไม่อย่างนั้น ก็อย่าหากว่าฉันไม่เกรง

โศศุจกําหมัดแน่น จนเกิดส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมา

รพีพงษ์ถึงกับงง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอโศศุจ ทำไมเพิ่งจะมา ถึงบ้านของเขา ก็กลายเป็นทายาทเศรษฐีที่คิดอะไรกับชาลิสา

“พ่อ พิชยะ พวกท่านพูดจาเหลวไหลอะไร หนูมีความสัมพันธ์ แค่ร่วมงานกับเขาเท่านั้นเอง เขาเพิ่งมาถึงอเมริกา ดังนั้นหนูจึงพาเขาไปทําความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม ซาลิสายังกล่าว ด้วยความรําคาญ

“ทําคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมไปทำข้างนอกซะ บ้านพวกเรา ไม่ต้อนรับทายาทเศรษฐีลูกท่านหลานเธอที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ โศศจส่งเสียงเย็นชา

“เทือกเขาสนาของฉันไม่ใช่สถานที่แบบที่คุณคิด ฉันก็ไม่ไม่ ได้เป็นทายาทเศรษฐีลูกท่านหลานเธอที่ไร้ประโยชน์อย่างที่คุณ พูด ต่อให้คุณจะเป็นประธานสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน ก็ไม่ควรหยิ่งถือตัวเป็นใหญ่เอาแต่ใจแบบนี้?”รพีพงษ์ไม่ได้เป็น คนชื่อที่ง่ายต่อการกลั่นแกล้ง ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเลือกได้ ตามอำเภอใจได้ด้วย

“ฮ่าๆ พูดแบบนี้ นายยังคิดว่านายแข็งแกร่งเหรอ?”พิชยะ หัวเราะเยาะ และก้าวไปข้างหน้าสองก้าว “คุณลุง คนคนนี้ให้ผม จัดการเถอะ เขาไม่คุ้มที่จะให้ลุงโกรธมากมายขนาดนี้

หลังพูดจบ พิชยะมองไปที่รพีพงษ์ เอ่ยปากว่า “ในเมื่อนายไม่ พอใจขนาดนี้ งั้นนายที่จะสู้กับฉันสักยกมั้ยล่ะ? พวกเราก็เป็นนัก ศิลปะการต่อสู้ทั้งนั้น ปัญหาทั้งหมด ก็สามารถแก้ไขด้วยหมัด ไม่รู้ว่านายลูกท่านหลานเธอท่านนี้ จะยอมรับวิธีนี้มั้ย?”

“นายแน่ใจ?”รพีพงษ์กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ตอบกลับ เขาสามค่าอย่างแผ่วเบา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ