พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 540 ก็แค่เรื่องของประโยคเดียว



บทที่ 540 ก็แค่เรื่องของประโยคเดียว

ในอพาร์ตเมนต์

รพีพงษ์นั่งอยู่ข้างเตียง อยู่ในท่านี้ทั้งบ่าย

ในหัวของเขาคิดถึงทุกสิ่งที่เขาได้พบกับอารียาใน มหาวิทยาลัยฟูตัน ในวันนี้ กับสายตาที่ไม่คุ้นเคยของอารียาที่ มองมาที่เขา

ตอนนั้น ขนมปังพาอารียาออกไปรพีพงษ์ไม่ได้ตามออกไปอีก เขาได้ตัดสินจากสายตาของอารียาแล้วว่า ตอนนี้เธอไม่รู้จักเขา จริงๆ

นอกจากนี้ อารียายังมีตัวตนใหม่และชื่อใหม่ คุณหนูตระกูล

พงศ์ธนธดา ดารินทร์

ด้วยเหตุผลหลายประการ รพีพงษ์จึงไม่ได้พาอารียาไปอย่าง ดื้อ เพราะยังไงตอนนี้เขาก็รู้ว่าอารียาอยู่ไหนแล้ว จะตามหาเธอ อีกครั้งไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือต้องรู้ว่าอารียา ประสบอะไรมา

สิ่งหนึ่งที่เดาได้คือ หลังจากที่อารียาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจมีอาการความจำเสื่อมซึ่งสิ่งนี้จึงทำให้เธอไม่คุ้นเคยเลยเมื่อ เห็นตัวเอง ราวกับว่าเธอไม่รู้จักเขาเลย
นอกจากนี้ รพีพงษ์เดาว่าตระกูลพงศ์ธนธดา อาจเป็นบ้านที่แท้ จริงของอารียา เบาะแสที่ศักดาให้รพีพงษ์คือเซี่ยงไฮ้ หลังจากร พงษ์มาถึงที่นี่ เขาได้พบกับอารียาจริงๆ แต่อารียากลับกลาย เป็นคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา เมื่อนำสิ่งเหล่านี้มารวมกัน ซึ่งเป็น สิ่งที่ทำให้คิดได้มากที่สุด ก็คือสิ่งนี้

รพีพงษ์ไม่สนใจตัวตนของอารียา ไม่ว่าเธอจะเป็นคุณหนูของ ตระกูลพงศ์ธนธิดาหรือตระกูลฉัตรมงคล ขอแค่เป็นอารียาก็ยัง รักภรรยาอยู่ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ

รพีพงษ์มีความคิดนี้อยู่แล้ว เมื่อเขารู้ว่าอารียาไม่ใช่ลูกสาว แท้ๆของ ศักดากับศศินัดดา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่ทำให้ร พงษ์ไม่รู้จะทำยังไง คืออารียามีแนวโน้มที่จะความจำเสื่อมและ ไม่ทราบระดับความจำเสื่อมนี้ หากเป็นความจำเสื่อมระยะสั้น รพี พงษ์ยังสามารถยอมรับได้ หากเป็นความจำเสื่อมนี้เป็นแบบ ถาวร อารียาจําไม่ได้ว่ารพีพงษ์คือใคร งั้นมันก็ไม่ต่างจากการ ตายไป

รพีพงษ์รู้สึกว่าเขาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้ ดังนั้นเขาจึง นั่งอยู่ข้างเตียงเป็นเวลานาน

โทรศัพท์ดังขึ้น ดึงความคิดของรพีพงษ์กลับมา
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าวิไลพรเป็นคนโทรมา

” นายน้อย เราพบเบาะแสของบุคคลที่คุณกำลังตามหาแล้ว เพราะเราไม่ได้คิดถึงด้านนั้นมาก่อน ซึ่งทำให้เรามองข้ามความ เป็นไปได้บางอย่างไป เมื่อฉันเปรียบเทียบภาพถ่ายในวันนี้ ฉัน พบว่าคนรักที่คุณกำลังตามหา หน้าตาเหมือนกับคุณหนูตระกูล พงศ์ธนธดา ดารินทร์ นายน้อย คุณจะมาที่ฉันไหม มีนาจะเล่าให้ ฟังเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธิดาให้คุณฟัง “เสียง ของวิไลพรเริ่มออดอ้อนขึ้นมา

“ผมรู้แล้ว” รพีพงษ์ตอบอย่างเรียบง่ายแล้ววางสายโทรศัพท์ เขาหายใจเข้าลึกๆ จุดประสงค์ของเขาในการมาที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อมาตามหาอารียา ตอนนี้ได้พบอารียาแล้ว เขากลับไม่มีความ สุขเลย

หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานรพีพงษ์ก็ลุกขึ้นและวางแผนที่จะ ไปหาวิไลพร แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธิดา คืออารียาแต่เขาก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับตระกูลพงศ์ธนธดา สิ่ง เหล่านี้จำเป็นต้องถามจากวิไลพร

เขาเดินลงไปข้างล่าง พบว่าเยาวเรศกับนิษฐา ทั้งคู่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อรพีพงษ์ออกมาเยาวเรศก็ลุกขึ้นยืน ทันทีและถามรพีพงษ์ด้วยความกังวล “รพีพงษ์คุณไม่เป็นไรใช้ ไหมวันนี้ที่มหาวิทยาลัย …

“ผมสบายดี” รพีพงษ์ตอบแล้วเดินไปที่ประตู

เยาวเรศอยากถามรพีพงษ์ว่าเขากำลังจะไปทำอะไร แต่เมื่อ เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยในวันนี้ เธอก็กลืนน้ำลายอีก ครั้ง

หลังจากที่รพีพงษ์จากไปนิษฐาจึงค่อยกล่าวด้วยการดูถูก “จิม มี คุณอย่าไปคิดชอบคนอื่นเลย เขาเป็นถึงศาสตราจารย์รับเชิญ ที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง เป้าหมายของพวกเขาคือคุณหนูตระกูลพงศ์ ธนธดา คุณไม่เห็นสายตาที่เขามองคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธิดาใน วันนี้เหรอ”

เยาวเรศถอนหายใจ แน่นอนว่าเธอได้เห็นเหตุการณ์ตอนหลัง เลิกเรียน ในวันนี้แล้ว แม้แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะเสีย มารยาทต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้

“ และคิดไม่ถึงว่า เขาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญแท้ๆ จะใช้วิธี การต่ำทรามแบบนั้น เพื่อขึ้นไปพูดกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา เป็นภรรยาของเขา ซึ่งมันไร้ยางอายจริงๆ” นิษฐาวิจารณ์รพีพงษ์ อีกครั้ง

แม้ว่าในชั้นเรียนวันนี้รพีพงษ์ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้เกาะผู้ หญิงกินด้วยความสามารถของเขา ทำให้นิษฐารู้สึกว่าเธอเข้าใจ รพีพงษ์ผิดและรู้สึกผิดเล็กน้อย

แต่เมื่อเธอกำลังจะไปขอโทษรพีพงษ์ก็ผลักเธอออกไป ซึ่ง

ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมาก

รวมถึงเมื่อเห็นขนมปังกล่าวหารพีพงษ์ว่าไร้ยางอาย บอกว่า คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นภรรยาของเขา สิ่งที่ทำให้นิษฐา ดูถูกรพีพงษ์มากกว่าเดิม

แม้ว่ารพีพงษ์จะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน ทำเรื่องน่าอับอายเช่น นี้ ก็ยังไม่สามารถทำให้เธอหยุดดูถูกเขาได้

” อาจจะมีความเข้าใจผิดบางอย่างในนั้นก็ได้” เยาวเรศพูด

อย่างผิดหวังเล็กน้อย

“เข้าใจผิดเหรอ?ตกลูกหน่ะ เรื่องของวันนี้คุณยังดูไม่ออกเห รอ คุณหนูตระกูลซูพงศ์ธนธดาไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ หญิงสาวคนนั้น ก็บอกว่าเขาไร้ยางอาย เห็นได้ชัดว่าเขาใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้ เพื่อเข้าใกล้คุณหนูตระกูลซูพงศ์ธนธดา”

“ฉันยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีการศึกษาเมื่อเขาบรรยาย ในวันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนจะหยาบคายมาก แม้ว่าเขาจะ เป็นศาสตราจารย์รับเชิญในมหาวิทยาลัยของเราแล้วจะยังไง ยัง ไงเขาก็ไม่คู่ควรกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธิดา”

นิษฐายิ่งพูดก็ได้โมโห ราวกับว่าจับจุดอ่อนของรพีพงษ์ได้ ทำ หน้าเหมือนสั่งสอนรพีพงษ์อย่างรุนแรง

เยาวเรศก็นึกไม่ออกว่าทำไมรพีพงษ์ถึงทำแบบนี้ หลังจาก ถอนหายใจแล้วเธอก็หันกลับไปที่ห้อง

“หี เธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาที่ร่ำรวย คุณเป็นแค่ ศาสตราจารย์รับเชิญ คุณจะคู่ควรกับเธอได้อย่างไร คางคก อยากกินเนื้อห่านฟ้าจริงๆ” นิษฐาพึมพำ จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ ห้อง

อาคารลานคอน

ในห้องทํางานของวิไลพร

หลังจากทรพีพงษ์เปิดประตูและเดินเข้ามา วิไลพรก็ทักทาย เขาด้วยความกระตือรือร้น

วันนี้เธอสวมชุดกี่เพ้าสีม่วง รูปร่างที่งดงามของเธอได้เผยออก มาจนหมด การแต่งหน้าที่เย้ายวนของเธอ ทำให้เธอมีเสน่ห์ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด “สาวงาม” นั้น สองคำนี้เหมือนเตรียมไว้เป็น พิเศษสําหรับเธอ
“นายน้อย ในที่สุดคุณก็มาหามนาสักที มีนาคิดถึงคุณแทบ

บ้า”

วิไลพรยื่นมือออกไปและกอดรพีพงษ์

เมื่อรพีพงษ์เห็นสิ่งนี้ ก็เอามือมาโอบรอบเอวของเธอ มีครู่หนึ่ง วิไลพรคิดว่าชุดของเธอดึงดูดรพีพงษ์ได้สำเร็จ ดังนั้น รพีพงษ์จึง วางแผนที่จะทำบางอย่างกับเธอ

แต่ว่า วิไลพรยังไม่ทันดีใจ ก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอเสียสมดุล ศีรษะของเธอก็หมุนไปและมีเสียงกรีดร้องในห้องทำงาน

รพีพงษ์ยกตัวของวิไลพรขึ้นไปหมุนเล่นสองสามครั้งเหมือน กระบองกายสิทธิ์ในอากาศ จากนั้นวางเธอลงบนพื้น

วิไลพรรู้สึกว่าโลกหมุนไปชั่วขณะ หลังจากที่ถูกรพีพงษ์วางลง

จุดศูนย์ถ่วงของเธอก็ยังไม่เสถียร เธอก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

เพื่อทำให้ร่างกายของเธอคงที่

หลังจากนั้น เธอก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ เบะปากมองไปที่ร พงษ์เกือบจะร้องไห้ออกมา

เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะปฏิบัติต่อเธอ ผู้หญิงที่อ่อนโยนและ บอบบางเช่นนี้ นายน้อยของเธอไม่รู้จักทะนุถนอมอ่อนโยนต่อ สตรีเลย
จนถึงตอนนี้ วิไลพรได้รู้ซึ้งถึงความสามารถของผู้ชายที่อๆ แล้ว แม้แต่ดาว ในมหาลัยของเซี่ยงไฮ้อย่างเธอ ก็ยอมแพ้ใน ความที่อของเขา

รพีพงษ์เดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของวิไลพรและนั่งลง

แม้ว่าวิไลพรจะน้อยใจ แต่เธอก็ดูออกว่าวิไลพรไม่ค่อยมีความ สุขมากนัก หลังจากจัดเสื้อเสร็จ เธอก็รีบเดินไปที่ด้านข้างของรพี พงษ์

เธอสามารถเป็นผู้รับผิดชอบเทือกเขาสนาในเซี่ยงไฮ้ได้ แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าเวลาไหนควรเล่น เวลาไหนไม่ควรเล่น เห็น ได้ชัดว่ารพีพงษ์มีเรื่องกลุ้มใจ ถ้าเธอยังเพิกเฉยและยังคงขี้เล่น ตามใจตนเอง กลัวว่าเธอคงจะถูกรพีพงษ์ใช้เป็นกระบอง กายสิทธิ์โยนทิ้งไปแน่

“บอกเกี่ยวกับข้อมูลทุกอย่างที่คุณรู้เกี่ยวกับคุณหนูตระกูล พงศ์ธนธดา” รพีพงษ์ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระและตรงไปที่เรื่องหลัก

วิไลพรก็ไม่รีรอและกล่าวว่า ในช่วงนี้คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธ ดาคนนี้ ซึ่งปรากฏตัวต่อสายตาทุกคน ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครรู้ว่ามี คุณหนูคนนี้ในตระกูลพงศ์ธนธดาด้วย เธอปรากฏตัวออกมา กะทันหัน แต่ไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของคุณหนูคนนี้ ”
“ หลังจากที่รู้ว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธิดาตรงกับคนที่คุณ กำลังตามหา ฉันจึงส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าคุณหนูตระกูล พงศ์ธนธดาคนนี้ ดูเหมือนจะประสบอุบัติเหตุ จึงทำให้มีปัญหา ด้านความจำ ดังนั้น ได้เชิญคุณหมอที่ดีที่สุดในเซี่ยงไฮ้ไปรักษา ให้คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของรพีพงษ์ก็แน่นขึ้น เป็นเพราะความ จําเสื่อมของเธอ จึงทำให้เธอจารพิพงษ์ไม่ได้

“ หัวหน้าตระกูลพงศ์ธนธดาชลาธิปรักคุณหนูคนนี้มาก ดูแล เธออย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพ แวดล้อมของตระกูลพงศ์ธนธดาได้ดีขึ้นชลาธิปได้สมัครคอร์ส มากมายให้เธอ เธอไปที่มหาวิทยาลัยฟูตันเพื่อเรียนบริหารธุรกิจ 11

“ปัจจุบันเรามีข้อมูลสำหรับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาคนนี้ เท่านั้น ส่วนเธอมาจากไหน ยังไม่พบ”

หลังจากฟังวิไลพรพูดจบ รพีพงษ์พยักหน้า เขาเดาได้แล้วว่า เกิดอะไรขึ้น อารียาได้บังเอิญมาในเซี่ยงไฮ้หลังจากเกิดอุบัติเหตุ

” ตระกูลพงศ์ธนธดาโดดเด่นอะไรในเซี่ยงไฮ้?” รพีพงษ์ถาม

ไม่ว่าอารียาจะความจำเสื่อมหรือไม่ก็ตาม รพีพงษ์จะพาเธอไปในที่สุด ถ้าตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ห้าม เรื่องนี้ก็ จะไม่ยาก หากตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ยอมให้อารียาไป รพีพงษ์ จะไม่ยอมอย่างแน่นอนดังนั้นตอนนี้เขาจึงจำเป็นต้องเข้าใจ สถานการณ์ของตระกูลพงศ์ธนธดา เพื่อทำการตัดสินอย่าง คร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำในภายหลัง

ตระกูลพงศ์ธนธดาอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นตระกูลชั้นนำใน เซี่ยงไฮ้ แตกต่างจากเกียวโตคือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ธุรกิจก้าวหน้า แม้ว่าตระกูลพงศ์ธนธิดาจะเป็นเพียงตระกูลใหญ่ ในเซี่ยงไฮ้ ความจริงแล้วพวกเขายังมีภูมิหลังตระกูลระดับโลก อำนาจที่แสดงออกมาในเซี่ยงไฮ้ มีเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น ”

” ถ้านับดูอย่างจริงจังแล้ว ตระกูลพงศ์ธนธดานี้เป็นตระกูลที่มี อำนาจมากพอๆกับตระกูลวัชรากิจกุลที่เจ้านายทำลายล้างเมื่อ ครั้งก่อน”

รพีพงษ์พยักหน้า เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลพงศ์ธนธดาจะมีภูมิ หลังเช่นนี้ หากรพีพงษ์มีเพียงตระกูลลัดดาวัลย์อยู่เบื้องหลัง การ แย่งคนจากตระกูล พงศ์ธนธดาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แน่นอนว่า ตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ใช่ตระกูลเดียวที่อยู่เบื้องหลัง เขา พ่อของเขา ทำลายตระกูลวัชรากิจกุลโดยไม่แม้แต่กะพริบ ตา ในฐานะนายน้อยแห่งเทือกเขาสนา แน่นอนว่ารพีพงษ์จะไม่เห็นอำนาจแค่นี้ของ ตระกูลพงศ์ธนธิดาอยู่ในสายตา

* ในเซี่ยงไฮ้ ตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด ถ้าจะให้ พูดจริงๆว่าตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ควรจะเป็นตระกูลธาดาวรวง ศ์ ตระกูลธาดาวรวงศ์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในตระกูลอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ได้ปรากฏในเซี่ยงไฮ้ โดยแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมใน การต่อสู้ทางธุรกิจในเซี่ยงไฮ้ ต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงใน เซี่ยงไฮ้เท่านั้นที่จะได้รู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลธาดาวรวงศ์”

“เรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวขวัญคือ ตระกูลธาดาวรวงศ์นี้มี ความสัมพันธ์กับตระกูลนิธิวรสกุล ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดี มาก ตอนนั้นที่ชายชราถูกขับออกจากตระกูลนิธิวรสกุล แน่นอน ว่าตระกูลธาดาวรวงศ์ต้องเผชิญกับการถูกซ้ำเติมอย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้”

วิไลพรในฐานะผู้ดูแลเทือกเขาสนาในเซี่ยงไฮ้ กับเรื่องของ นนทภู เธอก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะว่ามีเพียงรู้สิ่งเหล่านี้ เธอจึงจะรู้ว่าศัตรูคนไหนที่เธอควรสู้ด้วย

รพีพงษ์หรี่ตาลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของวิไลพร เขาคิดไม่ ถึงว่าจะมีตระกูลดังกล่าวที่ซ่อนตัวอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เมื่อลองคิดดู ตระกูลธาดาวรวงศ์และพ่อของเขา ถือได้ว่ามีความคับข้องใจต่อกันไม่น้อยเลย

“คุณ ลานคอนกรุ๊ปเป็นเพียงบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุด ในเซี่ยงไฮ้ แม้ว่าคุณจะเป็นคนชอบเข้าสังคม มีเครือข่ายการ ติดต่อที่กว้างขวาง แต่ถ้าผมต้องการโจมตีตระกูลธาดาวรวงศ์ คุณสามารถช่วยผมจัดการพวกเขาได้หรือไม่?” รพีพงษ์พิจารณา ถามถึงเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ถามวิไลพรหนึ่งค่

มุมปากของวิไลพรยกขึ้น จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้าง สบายๆ”ลานคอนกรุ๊ปเป็นเพียงการปลอมตัวเท่านั้น เพื่อทำให้ คนอื่นไม่สามารถเข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเรา ถือว่าเป็นไพ่ใบสุดท้าย ฉันดูแลเซี่ยงไฮ้แล้วฉันจะแค่ควบคุม บริษัทเครื่องสําอางเล็กๆเพียงแห่งเดียวได้อย่างไรล่ะ”

“ถ้านายน้อยต้องการทำลายตระกูลธาดาวรวงศ์ ก็แค่ ประโยคเดียว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ