บทที่ 530 ถือว่ารู้จักตัวเอง
เมื่อตรีโลจน์ได้ยินสิ่งที่เยาวเรศพูด ใบหน้าของเขาก็แสดงให้ เห็นถึงความประหลาดใจ เขาคิดไม่ถึงว่าเยาวเรศจะคิดว่าชาย หนุ่มที่อายุน้อยและแข็งแกร่งจำนวนมากขนาดนี้ จะถูกรพีพงษ์ ชายหนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกินทุบตีจนต้องหาฟันทั่วพื้น
นี่เป็นการดูถูกเหยียดหยามเขามาก
อย่างน้อยเขาก็สูง 1.9 เมตร อีกอย่างเขามักจะออกกำลังกาย ทุกวัน ไม่ว่ายังไง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่แม้แต่จัดการชายหนุ่มที่ เกาะผู้หญิงกินก็ไม่ได้
หรือว่าเยาวเรศโดนชายหนุ่มที่เกาะผู้หญิงกินคนนี้หลอกถึงขั้น นี้เลยเหรอ? กลับคิดว่าไอ้หมอนี่สามารถเอาชนะพวกเขาที่มี จํานวนคนเยอะขนาดนี้
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังตรีโลจน์ บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ ไม่พอ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เยาวเรศพูด พวกเขา กำลังอยู่ในวัยกระฉับกระเฉงทรงพลัง แน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อ ว่าคนมากมายขนาดนี้จะจัดการไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกิน ได้
จิมมี่ คุณกำลังล้อเล่นอะไรกับพวกเราเหรอ?อย่างเขาเนี่ยนะ เขาจะทุบตีพวกเราจนฟันร่วง? นี่มันเรื่องน่าขำไม่ใช่หรอกเหรอ” ตรีโลจน์กลั้นความโกรธในใจของเขาและพูด
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น รพีพงษ์เก่งมาก พวกคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา จริงๆ” เยาวเรศพูดอย่างจริงจัง เธอไม่ได้เห็นมันเป็นเรื่องตลก หลังจากที่เคยได้เห็นฝีมือของเยาวเรศ เธอก็รู้เป็นอย่างดีเกี่ยว กับความน่ากลัวของเยาวเรศ
สิ่งนี้ทำให้ตรีโลจน์รู้สึกโมโหมากยิ่งขึ้น เขารู้สึกว่าถ้าวันนี้เขา
ไม่สั่งสอนรพีพงษ์ต่อหน้าทุกคน ต่อไปเขาก็คงสู้ไม่ได้แม้แต่คน เกาะผู้หญิงกินแน่ “ไอ้ขี้ขลาดคนนี้เนี่ยนะ จะเก่งแค่ไหนกัน?ผมว่าผมสามารถ
จัดการเขาได้ด้วยตัวผมคนเดียว”
“ถูกต้อง ไอ้หมอนี้ดูธรรมดา เป็นไปได้ที่เขาคนเดียวจะล้ม พวกเราทั้งหมดได้ เยาวเรศ คุณต้องถูกเขาหลอกแน่นอน
“ลงมือเลยใช้กำปั้นของคุณเพื่อพิสูจน์ว่าคุณสามารถจัดการ
เขาได้”
เพื่อนนักศึกษาที่อยู่ข้างหลังตรีโลจน์ ต่างก็กระตือรือร้นที่จะ ลองดู อยากพิสูจน์ว่าคำพูดของเยาวเรศนั้นผิด
ตรีโลจน์ไม่ลังเลอีกต่อไป ชกไปที่ร่างกายของรพีพงษ์โดยตรง ด้วยหมัดของเขา
รพีพงษ์ยกมือขึ้นและจับข้อมือของตรีโลจนไว้ ทำให้หมัดของ เขาไม่สามารถไปข้างหน้าแม้แต่น้อย
ตรีโลจน์ต้องการที่จะหลุดพ้น แต่พบว่าไม่ว่าเขาจะใช้พละกำลังมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถแม้แต่จะดึงมือของเขากลับ จากมือของรพีพงษ์ได้
ต้องรู้ว่าเขาเป็นคนบ้าการฟิตเนส กล้ามของเขาได้รับการ ฝึกฝนออกมาจริงๆ สามารถยืนนิ่งและจับแขนของเขา จนทำให้ เขาไม่สามารถเอามือกลับคืนมาได้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“แม่งเอ้ย ปล่อยมือกูนะ!” ตรีโลจน์ที่ทำอะไรไม่ถูกก็ตะโกนใส่ รพีพงษ์
รพีพงษ์เหวี่ยงแขนของตรีโลจน์ออกไป ทำให้เขาถอยไปด้าน
หลังไปหลายก้าว
“พวกคุณยังเป็นแค่นักศึกษา ผมไม่อยากทำอะไรกับพวกคุณ เพื่อนของผมยังรอผมอยู่ เรื่องเมื่อกี้ที่พวกคุณพูด ผมจะไม่ถือสา หวังว่าพวกคุณจะรู้ตัวนะ ”
หลังจากพูดจบ รพีพงษ์ก็เดินเข้าไปในบาร์
ตรีโลจน์รู้สึกระวังจากการกระทำเมื่อกี้ของรพีพงษ์จึงไม่กล้าที่ จะลงมือกับรพีพงษ์อีก เพียงแค่มองดู รพีพงษ์เข้าไปในบาร์
จนร่างของรพีพงษ์จางหายไป ตรีโลจน์จึงค่อยดึงสติกลับมา ได้ แต่ในเวลานี้เขาก็ไม่กล้าที่จะตามไปทันที เพราะไนท์คลับ สวรรค์เป็นที่ของโสธร เขาจึงไม่กล้าสร้างปัญหาในไนท์คลับ สวรรค์ของโสธร โดยไม่มีเหตุผล
นิษฐาที่เฝ้าดูเรื่องสนุกอยู่ด้านข้าง เห็นรพีพงษ์เดินเข้าไปแบบ นี้ก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันทีพูดกับตรีโลจน์ว่า “ปล่อยเขาเข้าไปแบบนี้เลยเหรอ? ไอ้หมอนั้นหยิ่งผยอมเกินไปจริงๆตรีโลจน์ คุณไม่ ควรจัดการมันหรอกเหรอ! ”
ตรีโลจน์เหลือบมองไปที่นิษฐาหนึ่งที พูดอย่างเป็นซาว่า “ข้าง ในเป็นที่ของโสธร ถ้าหาเรื่อง โดยไม่มีเหตุผลจะทำให้เกิดปัญหา แต่ว่า ไอ้หมอนี้กล้าที่จะหยิ่งผยองเช่นนี้ ผมจะไม่มีวันปล่อยเขา ไปแน่นอน โอกาสหน้า ผมจะสั่งสอนวิธีการเป็นคนให้เขาเอง วันนี้เรามาเพื่อเที่ยวสนุก อย่าให้ไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกิน มาทําลายอารมณ์ของเรา
คนกลุ่มหนึ่งพยักหน้า โดยรู้สึกว่าสิ่งที่ตรีโลจน์พูดนั้นสมเหตุ สมผล พวกเขาทั้งหมดแสดงความเห็นว่าไม่ควรไปถือสาผู้ชายที่ เกาะผู้หญิงกิน
เยาวเรศถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าไม่มีการต่อสู้ หากมีการต่อสู้ในตอนนี้ จุดจบของพวกตรีโลจน์ต้องจบลงอย่าง น่าอนาถ
ตรีโลจน์หันหน้าไปมองเยาวเรศ ดวงตาของเขาแสดงให้เห็น ถึงความทะเยอทะยานในการครอบครอง ในวันนี้ที่เขาออกมา เที่ยวและเลี้ยงเพื่อน เพียงเพื่อจีบเยาวเรศ ให้ติด ดังนั้นเรื่องที่ เขาจะสั่งสอนรพีพงษ์ รอให้เขาจีบเยาวเรศติดก่อนค่อยว่ากัน ใหม่
คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปที่ไนท์คลับสวรรค์ ไม่นานก็ลืมเรื่องเมื่อ ไปจนหมด
ไนท์คลับสวรรค์ ในฐานะที่เป็นที่ของหัวหน้ามาเฟีย ทั่วในเซี่ยงไฮ้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่แพงที่สุดในเซี่ยงไฮ้ เป็นที่นิยมมาก และเต็มไปด้วยชายและหญิงที่หล่อเหลาและสวย นอกจากนี้ ยัง มีเทคนิคการเล่นมากมายภายใน ดึงดูดชายหนุ่มและหญิงสาว มากมายมาเที่ยวที่นี่
แสงสีในบาร์มืดสลัว แสงไฟหลากสีกวาดไปทั่วผู้คนตลอด เวลาและดนตรีที่ทำให้หูแทบหนวก กระตุ้นฮอร์โมนในร่างกาย ของทุกคน
ทันทีที่ตรีโลจน์เข้ามา เขาหยิบการ์ดยื่นให้บริกรและขอให้บริ กรเสิร์ฟไวน์ ทุกคนมองไปที่ตรีโลจน์ที่ใจกว้าง ใบหน้าเต็มไป ด้วยความอิจฉา
นิษฐามองไปที่สภาพแวดล้อมในบาร์ พลางคิดถึงรพีพงษ์ที่ เกาะผู้หญิงกิน หากคนที่ดูแลเขาไม่ให้เงินเขาก็คงไม่สามารถมา กินสถานที่เช่นนี้ได้ แน่นอนตอนนี้ รพีพงษ์ต้องแอบรออยู่ที่ห้อง น้ำแน่ๆ
“หึ ตามมาที่นี่แล้วจะยังไง หรือคุณจะสามารถใช้จ่ายเหมือน ตรีโลจน์ อย่างมากคุณก็ทำได้เพียงมองอยู่ไกลๆเท่านั้น ไอ่คน เกาะผู้หญิงกิน ยังกล้ามาคิดไม่ซื่อกับผู้หญิงของคนอื่น ถ้าฉันรู้ว่า ผู้หญิงที่เลี้ยงดูคุณคือใคร ฉันจะบอกความจริงทุกอย่างออกมา จะทำให้คุณไม่สามารถแม้แต่เกาะผู้หญิงกิน “นิษฐาพึมพำ
ในเวลานี้ ในห้องส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในไนท์คลับสวรรค์ มี หญิงสาวสวยระดับยอดเยี่ยมยืนเรียงแถวกันอยู่ที่ประตู ไวน์หา ยากและของว่างชนิดพิเศษหลายชนิดวางอยู่บนโต๊ะในห้องหรู
โดยทั่วไปแล้ว มีเพียงลูกค้าชั้นนำเท่านั้นที่สามารถได้รับการ บริการเช่นนี้
ในไม่ช้า ประตูห้องก็เปิดออกและรพีพงษ์ก็เดินเข้ามาจากด้าน นอก
สาวๆที่ยืนอยู่หน้าประตูหันไปหารพิพงษ์ทันที โค้งคำนับและ กล่าวทักทายรพีพงษ์ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ยินดีต้อนรับคุณ รพี”
รพีพงษ์มีอาการขนลุกด้วยการทักทายจากน้ำเสียงของสาวๆ
ในนแถวนี้
โสธรลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปหารพีพงษ์พร้อมกับรอยยิ้มบน ใบหน้าและพูดว่า “คุณรที่คุณสามารถมาที่ของผม ทำให้ที่นี่ของ ผมดูสูงส่งและสง่าจริงๆ สาวๆเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกมาอย่าง ดีจากผม คุณรพี่ชอบคนไหน ให้พวกเธอมาร่วมดื่มกับคุณรพี ”
รพีพงษ์มองไปที่โสธร โดยหมดคำพูด เอ่ยปากพูดว่า “ไม่ต้อง แล้ว ให้พวกเธอออกไปเถอะ”
โสธรหมุนดวงตาและรีบพูดกับสาวๆแถวนั้นว่า “ยังไม่ได้ยินที่ คุณรพีพูดเหรอ ผู้หญิงธรรมดาอย่างพวกคุณ ไม่เข้าตาของคุณ รพี ยังไม่รีบออกไปอีก!!
สาวๆแถวนั้นเดินออกจากห้องส่วนตัวทันที
รพีพงษ์เดินไปที่โซฟาและนั่งลง โสธรนั่งข้างๆเขาและพูดด้วย รอยยิ้ม “ฐานะของคุณรพีนั้นสูงส่ง หาผู้หญิงธรรมดาแบบนี้มาเป็นเพราะผมไม่รอบคอบเอง ด้วยฐานะของคุณรพี คงจะมีเพียง สุภาพสตรีคนโตที่เพิ่งได้รับชื่อเสียงจากตระกูลพงศ์ธนธิดา เท่านั้นที่คู่ควรกับท่าน “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ