พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่518 เบาะแสของอารียา



บทที่518 เบาะแสของอารียา

อาคารTY

หน้าเตียงนอนผู้ป่วยของจารุณี รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ข้างเตียง ปอกแอปเปิลให้จารุณี

ดวงตาทั้งสองข้างของจารุณีมองไปที่รพีพงษ์ แววตาเปล่ง ประกายสวยงาม จนละสายตาไม่ได้เลย

หลังจากปอกแอปเปิลเสร็จแล้ว รพีพงษ์ก็ยื่นให้จารุณี และพูด ด้วยรอยยิ้มว่า “กินเถอะ”

จารุณีกลืนน้ำลาย และไม่รู้ว่าเป็นแอปเปิลนี้น่าดึงดูดคน หรือ รพีพงษ์ที่ดึงดูกันแน่

หลังจากพักฟื้นระยะหนึ่ง อาการของจารุณีดีขึ้นมาก ใบหน้าที่ ผอมบางของเธอก่อนหน้านี้ฟื้นฟูขึ้นมามีเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย และคนทั้งคนก็มีความว่องไวมากขึ้น ตามที่หมอบอก ใช้เวลาไม่ นาน เธอก็จะสามารถลุกจากเตียงมาเคลื่อนไหวได้

“ฉันอยากกินนายจารุณีเลียลิ้นโดยไม่ลังเล แสดงให้เห็นถึง ความต้องการที่มีต่อรพีพงษ์

รพีพงษ์มองไปที่จารุณีอย่างสงบ และยัดแอปเปิลเข้าไปใน ปากของเธอโดยตรง และพูดว่า “กินเนื้อคนมันผิดกฎหมายนะ”

“โธ่เอ๊ย ใครว่าฉันจะกินเนื้อของนายกันล่ะ ที่ฉันพูดคือกินอันนั้น นายก็รู้ จารุณีส่งสายตาหวานให้กับรพีพงษ์

รพีพงษ์เหลือบมองไปที่จารุณี แล้วพูดว่า “เธอควรจะนอนพัก ได้แล้ว ฉันไปก่อนล่ะ

จารุณีก็พูดอย่างน้อยใจ: งกจริงๆเลย ฉันไม่พูดแบบนั้นแล้ว ก็ได้ นายนั่งลงมาดีๆเลย ถ้านายไป ความเร็วในการฟื้นฟู ร่างกายของฉันจะช้ามาก นายไม่อยากให้ฉันหายป่วยเร็วๆเห รอ?”

รพีพงษ์มองไปที่จารุณีอย่างเอือมระอา เมื่อคิดว่าเด็กผู้หญิง คนนี้เป็นคนป่วย ตัวเองก็ต้องยอมอ่อนข้อให้กับเธอ ดังนั้นจึง กลับมานั่งอีกครั้ง

ในช่วงเวลานี้ที่เกียวโตค่อนข้างไม่สงบ ตั้งแต่หลังจากที่ร พงษ์กำจัดจิรเวชและโยษิตาทั้งสองคน กรุ๊ปKINถูกตรวจสอบยืด ทรัพย์ แผนการปรับปรุงเมืองเก่าถอนชื่อกรุ๊ปKINออกไป ตระกูล ลัดดาวัลย์เข้าควบคุมกิจการภายใต้ชื่อเดิมของกรุ๊ปKIN เรื่อง ราวต่างๆเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนอย่างครึกครื้นอยู่นาน

แทบจะไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่า กรุ๊ปKINที่เมื่อวัน ก่อนยังคงมีชื่อเสียงเจริญรุ่งเรืองอยู่ พริบตาเดียวก็ดับลง และทุก คนสามารถเดาได้ว่าที่ทำให้ชะตากรรมของกรุ๊ปKINเกิดจุด เปลี่ยน ก็คือตระกูลลัดดาวัลย์

สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้ถึงอำนาจของตระกูลลัดดาวัลย์อีกครั้ง กรุ๊ปKINที่มีอำนาจ ยังสามารถดับลงได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งเพียง พอที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่ากลัวของตระกูลลัดดาวัลย์
ผู้มีอำนาจอิทธิพลทั้งหมดในเกียวโตถึงช่องว่างระหว่าง พวกเขาและกรุ๊ปKIN กรุ๊ปKINก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลลัดดา วัลย์ พวกเขาก็ยิ่งไม่มีทางที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลลัดดาวัลย์ได้ เป็นธรรมดา ดังนั้นชื่อเสียงของตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโต จึง ดังมากกว่าเดิม นอกจากนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ยังมีแนวโน้มที่จะ ครอบง่าเกียวโต

หอการค้าสมน.ก็เป็นเพราะมีความสัมพันธ์กับตระกูลลัดดา วัลย์ สถานการณ์ก็ดีขึ้นไปด้วย และรวมถึงความร่วมมือใน แผนการฟื้นฟูเมืองเก่า ก็ทำให้หอการค้าสมน มีอำนาจกว่ามาก ที่ผ่านมา

และในฐานะตัวเอกที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้เพียงคนเดียว ชื่อร พงษ์นี้ ก็โด่งดังในเกียวโตเช่นกัน ข่าวลือเหล่านั้นที่ผ่านมาของ รพีพงษ์ การใส่ร้าย ถูกลบล้างออกไปทั้งหมด ตอนนี้ทุกคนรู้แล้ว ว่าความลึกลับของรพีพงษ์ เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจคาดเดาได้

“รพีพงษ์ นายกำลังคิดอะไรอยู่?”จารุณีกะพริบดวงตาโตสอง ข้าง มองไปที่รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ด้านข้างของเตียง และถาม

รพีพงษ์ยิ้มให้จารุณีเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร แต่เหมือ ลอยเท่านั้นเอง”

เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ในใจของจารุณีก็รู้แล้วว่ารพีพงษ์ กำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากคนคนนั้นแล้ว จะมีใครที่ทำให้รพีพงษ์ แสดงสีหน้าแบบนี้ออกมาได้อีก

แม้ว่าในใจจะผิดหวัง แต่ว่าจารุณีก็ไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากว่าเธอเคยรับปากกับรพีพงษ์แล้ว หลังจากนี้จะไม่ให้ความสนใจกับ รพีพงษ์อีก แต่จะให้ความสนใจกับลูกชายของรพีพงษ์

ตอนนี้คิดๆดูเงื่อนไขของตัวเองแล้วโง่มากจริงๆ ตอนนี้ตัว ของอารียาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ลูกชายของรพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อ ไหร่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าเกิดเป็นลูกสาวคนล่ะ นั้นก็เท่ากับว่า เงื่อนไขที่เธอพูดออกมานี้เปล่าประโยชน์

“เฮ้อ น่าโมโหจริงๆ ฉันในสถานการณ์นั้น เหมือนกับเป็นคน โง่”จารุณีตะโกนอย่างไม่มีเหตุผล

สีหน้าของรพีพงษ์แปลกใจ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับจารุณี แล้ว ถาม: “ทำไม? ทำไมเธอถึงเหมือนกับคนโง่ล่ะ?” จารุณีรู้สึกว่ารพีพงษ์กำลังหัวเราะเยาะเธอ และก็ยิ่งโกรธมาก

ขึ้น

“ไม่ต้องยุ่ง เป็นเพราะนายทั้งนั้น ฉันถึงได้กลายเป็นคนโง่”จา รุณีพูดด้วยความโกรธ

เมื่อทั้งสองคนทะเลาะกัน โทรศัพท์รพีพงษ์ก็ได้รับข้อความ มี รูปถ่ายที่ส่งมาพร้อมกับข้อความ บนรูปถ่ายเป็นด้านข้างของ ใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง หลังจากที่เห็นรูปถ่ายใบนี้ รพีพงษ์ ก็ลุกขึ้นมาทันที

รพีพงษ์แน่ใจได้เลยว่า ด้านข้างของใบหน้าในรูปถ่ายนี้ คือ อารียาร้อยเปอร์เซ็นต์

ด้านล่างของรูปถ่าย มีหนึ่งประโยค:มหาวิทยาลัยฟูตันที่เมืองเซี่ยงไฮ้

รพีพงษ์จ้องมองไปที่พื้นหลังของภาพถ่ายอย่างละเอียด และ พบว่ามันเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยฟูตัน จริงๆ

คาดไม่ถึงว่าอารียาจะไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ที่สำคัญยังปรากฏตัว

ที่ในมหาวิทยาลัยฟูตัน!

ทันใดนั้นความหวังก็ผุดขึ้นมาในใจของรพีพงษ์ ตามหามา นานขนาดนี้ ในที่สุดก็มีเบาะแสของอารียา ที่สำคัญดูท่าทางของ อารียาแล้ว เหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และก็ดูมี ความสุขมาก

หลังจากตื่นเต้นแล้ว ในใจรพีพงษ์เกิดความสงสัยขึ้นมา เธอ ไม่เข้าใจว่าทำไมหลังจากที่อารียาหายตัวไป ทำไมไม่ได้รับบาด เจ็บอะไรเลย ที่สำคัญดูไปแล้วยังมีความสุขขนาดนี้

หรือว่าอารียาจะไม่ได้รับอุบัติเหตุ ไม่ควรรีบกลับมาหาตัวเอง เหรอ? แม้จะไม่กลับมา อย่างน้อยก็ต้องติดต่อตัวเอง เธอก็ต้องรู้ ว่าตัวเองเป็นห่วง จากที่รพีพงษ์รู้จักอารียา เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอไม่มีทางที่จะมีความสุขมากมายขนาดนี้ในมหาวิทยาลัยได้

ต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างที่รพีพงษ์ไม่รู้แน่ๆ หรือว่า คนใน รูปถ่ายเป็นแค่คนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับอารียา ความจริง แล้วเธอไม่ใช่อารียา

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ตอนนี้รพีพงษ์ก็ถือว่ามองเห็นความ หวัง คนในรูปถ่ายคืออารียาหรือเปล่า รอรพีพงษ์เจอตัว ก็สามารถทำให้มันชัดเจน

จารุณีที่มองดูความตื่นเต้นของรพีพงษ์ จากสงสัยกลายเป็น เต็ดเดี่ยว แปลกใจเล็กน้อย จึงถามว่า: “นายเป็นอะไร?”

รพีพงษ์ยิ้มและมองไปที่จารุณี แล้วพูดว่า: “พบเบาะแสของพี่ สะใภ้เธอแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่หล่อนหรือเปล่า ฉันรู้สึก ว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าไม่ผิด ฉันจะจองตั๋วเดี๋ยวนี้ รีบไปดูให้ แน่ชัด เธอพักรักษาตัวดีๆ รอฉันกลับมา มอบของขวัญให้เธอ

หลังจากพูดจบ รพีพงษ์หันหลังออกจากห้องพักผู้ป่วยไป

จารุณีมองไปที่ด้านหลังของรพีพงษ์ที่จากไป บนใบหน้า แสดงออกมาถึงความผิดหวัง ไม่รู้ว่าทำไม “พี่สะใภ้ สองคำนี้ ทําให้ร่างกายของเธอเกิดไม่มีเรี่ยวแรง

หลังจากที่ออกมาจากอาคารTY รพีพงษ์ก็นั่งรถไปคฤหาสน์ ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ตั้งใจจะ โทรไปหาท่านคทา ในขณะนี้ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เป็นผดุงสิทธิ์ที่โทรมา

รพีพงษ์รับสาย เสียงของผดุงสิทธิ์ก็ดังขึ้น “คุณรพี ไม่รู้ว่าคุณ คิดได้หรือยัง ช่วงนี้สาขาของพวกเราต้องการศาสตราจารย์ที่ เข้าใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ผมรู้สึกว่าคุณเป็นคนคัดเลือก ที่เหมาะสมที่สุด โอกาสแบบนี้ มีไม่มากจริงๆ ถ้าหากว่าได้ ผม ยังว่าหวังว่าคุณจะสามารถมาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่พวกเรา ได้”

รพีพงษ์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสถานที่ที่อารียาปรากฏตัวขึ้น พูดกับคนในโทรศัพท์ว่า: “ก็ได้ ผมจะรีบไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ให้เร็วที่สุด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ