บทที่456 ชนะติดกันสามนัด
รพีพงษ์โผขึ้นไปบนเวทีประลอง มองไปรอบๆ
พิธีกรเห็นรพีพงษ์ขึ้นเวทีประลอง ไม่พูดพร่ำทำ เพลง รับประกาศเริ่มยกทีหนึ่ง
อีกฝั่งเป็นชายฉกรรจ์ยืนอยู่ตรงข้ามรพีพงษ์ แขน ของคนนั้นใหญ่เท่ากับขาอ่อน เมื่อเบ่งแขนเต็มไปด้วย กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งออกมา
อันดับเทพเจ้าแห่งสงครามลำดับที่สิบ ค้อนสะท้าน ฟ้านิรโมกษ์!
นิรโมกษ์ถือเป็นหนึ่งในสิบอันดับเทพเจ้าแห่ง สงคราม ด้วยพลังกำลังแขนสองข้างอันน่าผวา กำลัง มากถึงขั้นบดเนื้อจนละเอียด
ได้ยินมาว่าแม้ดัมพ์รงค์ ก็ไม่สามารถต้านทานหมัด ของพี่นิรโมกษ์ที่ต่อยอย่างเต็มกำลังได้
ทุกคนเห็นพี่นิรโมกษ์ขึ้นเวทีประลอง ก็ส่งเสียง ต้อนรับในทันใด ในเทือกเขากิสนาพี่นิรโมก โชคค่อน ข้างดี บวกกับมีความสามารถ ดึงนั้นจึงมีคนจํานวนมากที่ เคารพเขา
พี่พี่นิรโมกษ์ ทุบไอ้ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงนี่ให้ตายไปเลย บด เนื้อมันให้ละเอียด!
ทบมันให้ตาย! ใช้แขนอันแข็งแกร่งของพี่บดมันให้ ละเอียด!
เมื่อค้อนกระแทกฟ้าลงมือ สําหรับคนธรรมดาที่ โดนเข้าไปกระดูกจะถูกบดจนละเอียด ไอ้รพีพงษ์นี่ดูๆ แล้วแทบจะปลิวไปกับลม เกรงว่าแม้แต่หมัดของ นิร โมกษ์ก็ไม่น่าจะต้านทานไหว!”
พี่นิรโมกษ์เคร่งขรึม หลังจากที่ขึ้นเวทีแล้ว ก็มองไป ที่รพีพงษ์อย่างนิ่งสงบ จากนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วพุ่ง เข้าไปที่รพีพงษ์
รพีพงษ์ก็ไม่ลังเล สามารถเป็นหนึ่งในสิบอันดับ เทพเจ้าแห่งสงครามได้นั้นไม่ธรรมดา อยากจะจัดการ ด้วยท่าเดียวจอด เกรงว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นต่อ จากนี้ไปเมื่อต้องชกกับผู้มีฝีมือทุกคน รพีพงษ์ต้องตั้งใจ อย่างเต็มที่แล้ว
พี่นิรโมกษ์ปล่อยหมัดไปที่รพีพงษ์ อากาศรอบๆเต็ม
ไปด้วยเสียงของหมัดที่ปล่อยออกไป รพีพงษ์ แลกหมัด ไป เขารีบหลบ หมัดของพี่นิรโมกษ์ต่อยไปโดนพื้น จน พื้นเป็นหลุมลงไป
สมาชิกของตระกูลนักธุรกิจเหล่านั้นที่มาดูการแข่ง ข็นแมตช์นี้ ล้วนตะลึงเพราะหมัดของ นิรโมกษ์ที่ปล่อย มา
“เก่งขนาดนี้ นี่มันเหมือนเอาเหล็กทุบไปจริงๆเลยนะ ไม่แปลกที่ได้รับฉายาว่าค้อนกระแทกฟ้า ไม่คาดคิดว่า ปีนบันไดสูงจะน่าเกรงขามได้ขนาดนี้ แมตช์แรกเก่งกาจ ขนาดนี้ เกรงว่าแมตช์ต่อไปจะยิ่งหนักกว่านี้อีก”
“ตามรูปการณ์นี้ ถ้ารพีพงษ์โดนต่อยสักหมัด เกรง ว่าจะไม่รอด ธนเทพที่นั่งอยู่ชั้นสามเห็นความสามารถของพี่นิร โมกษ์ ยิ้มมุมปาก อย่างตื่นเต้น แล้วพูดกับตัวเองว่า “ห่วย แตกจริงๆ แม้แต่หมัดของพี่นิรโมกษ์ยังไม่กล้ารับ เป็น ผู้ชายประสาอะไร
“คุณกล้ารับไหม? เหยียดหยาม ” ฝนสุดาที่อยู่ข้างๆถามอย่าง
ธนเทพไอแคกๆ ด้วยใบหน้าอับอาย แล้วกล่าว “แน่…….แน่นอนว่าไม่กล้า แต่ผมไม่จําเป็นต้อง……
“เหอะ……แม้แต่หมัดของพี่นิรโมกษ์ยังไม่กล้ารับ เป็นผู้ชายประสาอะไร” ฝนสุดาทวนค่าพูดของธนเทพ อีกครั้ง
ธนเทพอายจนหน้าแดง รู้สึกโกรธแค้นในใจ ไม่ เข้าใจว่าทําไมฝนสุดาเป็นประปฏิปักษ์กับเขาด้วย
บนเวที รพีพงษ์กำลังแลกหมัดอยู่กับพี่นิรโมกษ์ ตอนแรกพี่นิรโมก คิดว่าต่อยไม่กี่หมัดก็จะเคโอรพีพงษ์ ได้แล้ว แต่ฝีมือที่รพีพงษ์มี เหนือความคาดหมายของเขา ไอ้นี่ ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้
หลังจากที่ต่อสู้กันไป รพีพงษ์และพี่นิรโมกษ์ต่างคน ต่างถอยคนล่ะสองก้าว พี่นิรโมกษ์รวบรวมพลังทั้งหมด เพื่อจะน็อครพีพงษ์
รพีพงษ์เห็นดังนั้น หลับตาลง จากนั้นก็ทําแบบพี่นิร โมกษ์ เริ่มรวบรวมพลัง
“เชรด ไอ้นี่คงไม่คิดจะรับหมัดของพี่นิรโมกษ์ โดยตรงใช่ไหม?” บรรดาอันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม ตะลึง “เหอะ ไอ้โง่ แม้แต่ดัมพ์รงค์ยังไม่กล้ารัมหมัดของพี่ นิรโมกษ์โดยตรงเลย แกคงบ้าไปแล้วสินะ ถึงได้ทําแบบ
นี้” ธนเทพหัวเราะเยาะเย้ย
หลังจากทั้งสองที่อยู่บนเวทีได้รวบรวมพลังแล้วนั้น ก็ลอยตัวพุ่งเข้าหากัน หมัดแลกหมัด หมัดของทั้งคู่ปะทะ กันอย่างรุนแรง
ทุกคนลุ้น รอผลจากการปะทะ ในความคิดของพวก เขา เหตุการณ์ต่อไปคือแขนของรพีพงษ์น่าจะหักแล้วเค โอ
แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาคิดนั้นไม่ได้เกิดขึ้น หลังจากที หมัดของรพีพงษ์ และ นิรโมกษ์ปะทะกันแล้ว ร่างของรพี พงษ์ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงไม่ไปไหน กลับกัน หลัง จากที่พี่นิรโมกษ์ดวนหมัดกับรพีพงษ์แล้วนั้น ได้ขมวดคิ้ว ขึ้นมา ร่างกายก่ายำาดั่งภูเขาจะต้านทานแรงของรพีพงษ์ ไว้ไม่อยู่ ได้ถอยหลังไปประมาณห้าเมตร
ทั้งสนามเงียบสงัดทันใด ทุกคนมองเหตุการณ์อย่าง คาดไม่ถึง ไม่คาดคิดว่าการดวนหมัดระหว่างพี่นิรโมกษ์ และรพีพงษ์นั้นจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ!
“ชนะแล้ว” รพีพงษ์ยกมือกำหมัดต่อพี่นิรโมกษ์
พี่นิรโมกษ์มองรพีพงษ์อย่างตะลึง ไม่คาดคิดว่า ความสามารถของอีกฝั่งจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
ในสายตาคนอื่น พี่นิรโมกษ์เป็นฝ่ายได้เปรียบใน การแข่งขันแมตช์นี้ แต่นิรโมกข์รู้ดี เมื่อกี้ถ้ารพีพงษ์ไม่ยั้ง มือไว้ แขนของเขาต้องใช้การไม่ได้แล้วเป็นแน่
แล้วรพีพงษ์ก็ยังมีโอกาสที่จะฆ่าเขาบนเวทีได้เลย แต่อีกฝังไม่ได้ทําแบบนี้ แต่กลับพูดมาหนึ่งคํา ดังนั้นพี่นิร โมก จึงตะลึง
แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจความหมายของรพีพงษ์ หลัง จากที่ถอนหายใจอย่างเซ็งแล้ว ก็เคารพรพิง ตาม มารยาท แล้วกล่าว “ผมยอมแพ้!
“เชรด ทําไมพนิรโมกษ์ถึงได้ยอมแพ้เองล่ะ? เมื่อกี้ก็ แค่เสียเปรียบเอง ไม่ถึงขึ้นต้องยอมแพ้ป้ะ?” อันดับ เทพเจ้าแห่งสงครามที่ฝีมือดีต่างตะลึง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทําไมเขายอมรับเองล่ะ! ด่าออกมา ” ธนเทพ
ฝนสุดาเห็นดังนั้น ก็รู้สึกผ่อนคลายลง มองไปที่รพี พงษ์ด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ นิรโมก ยอมแพ้แล้วนั้น ก็ลงจากเวทีไป
รพีพงษ์รีบปรับอารมณ์ของตัวเอง เพื่อสู้กับคู่แข่งคนต่อ
ไป
เมื่อกี้เขามีโอกาสฆ่าพี่นิรโมกษ์แล้ว แต่เขาไม่ได้ทํา แบบนั้น เพราะเขาไม่ใช่นนทภูในตอนนั้น ที่ต้องฆ่าคู่แข่ง ของตนทุกคนให้ตายอย่างสนิท
แล้วตอนนี้เป็นถิ่นของเขาเอง พวกอันดับเทพเจ้า แห่งสงครามที่ฝีมือดี ล้วนเป็นคนมีกําลังของเทือกเขากิ สนา ถ้าถูกฆ่าสักกี่คน เกรงว่านนทภูจะเจ็บใจไม่น้อย
ดังนั้นให้คู่แข่งยอมแพ้เองก็พอแล้ว สามารถเป็น หนึ่งในสิบอันดับเทพเจ้าสงครามได้นั้น พวกเขาเข้าใจ รพีพงษ์ ดังนั้นจึงได้ยอมแพ้ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นนทภูที่นั่งอยู่ชั้นสองรู้สึกพูดไม่ออกกับหมัดที่รพี พงษ์ต่อยออกไป ในใจค่อนข้างเคร่งเครียด กลัวการที พงษ์จะต่อยนักมวยที่เขาฝึกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยตาย
ตอนนี้เห็นพี่นิรโมก ไม่โดนเคโอ แล้วยังยอมแพ้เอง ก็รู้ลึกผ่อนคลายขึ้นมา
คนที่นั่งอยู่ข้างนนทภู เป็นคนแก่ผมหงอก เหมือนคน จีนโบราณ นนทภูนั่งอยู่ข้างๆเขา ก็รู้สึกได้ถึงความเคร่ง ขรึดม
ขณะนี้คนแก่นั้นหัวเราะพลางดูเวทีด้านล่างไปพลาง จากนั้นก็ลูบหนวดของตัวเอง แล้วกล่าว “น่าสนใจ”
นนทภูได้ยินคําพูดของคนแก่คนนั้น ก็รีบมองไป รอบๆ ประวัติของคนแก่คนนี้น่าเกรงขาม คนปกติไม่มี ทางอยู่ในสายตาเขาได้ เขาออกความคิดเห็นได้นั้น แสดงว่าความสามารถของรพีพงษ์ ห่างไกลจากคนปกติ ทั่วไปมาก
“ท่านบุญถึง ตอนนั้นคุณยังพูดอยู่ไม่ใช่หรอว่าผมให้ คุณมาที่นี่เพื่อดูความท้าทายนั้น มันค่อนข้างน่าเบื่อ ทำไมตอนนี้ตั้งใจดูแล้วล่ะ” นนทภูหัวเราะพลางถามท่าน บุญถึง
คนแก่หัวเราะแล้วกล่าว “ตอนนั้นผมคิดว่าเด็กน้อย คนนี้ไม่มีน้ำยา เด็กต่อยกัน น่าเบื่ออยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูๆ แล้ว เด็กน้อยคนนี้ไม่ธรรมดา”
“ท่านบุญถึง ถ้าผมจําไม่ผิดล่ะก็ คนไม่ค่อยแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับเด็กพวกนี้สักเท่าไหร่นะ แม้แต่มาร พวกนั้นของพวกคุณ เกรงว่าจะไม่เคยได้รับข้อเสนอแนะ แบบนี้จากคุณใช่ไหม” นนทภูกล่าว อย่างรู้สึกภูมิใจ แทนลูกชายของตน
“ก็แค่พูดๆไป เด็กคนนี้ไม่เลวจริงๆ แต่ยังไม่ถึงจุด นั้น แกอย่าเพิ่งดีใจไป” ท่านบุญถึงมองบนต่อนนทภู นนทภูไม่สนใจ เพราะท่านบุญถึงมีสิทธิ์พูดแบบนี้
วันนี้ที่เขาเรียกท่านบุญถึงมานั้น เพราะอยากจะให้เขา
เห็นฝีมือของรพีพงษ์ และท่านบุญถึงก็รู้แล้ว ว่าบนเวที
นั้น เป็นลูกชายของนนทภู
ปีนบันไดสูงยังคงดำเนินต่อไป มาถึงลำดับที่เก้าของ เทพเจ้าสงคราม มือผีพรกิตติ์ ขึ้นเวทีต่อสู้กับรพีพงษ์
สิ่งที่พรกิตติ์ช่านาญคือวิชามวย ทุกครั้งที่ออกหมัด เป็นการยากที่คู่ต่อสู้จะเดาทางออก ว่ามือทั้งสองข้าง ของเขาจะต่อยไปทางไหน ด้วยเหตุนี้เองจึงได้ฉายานาม ว่ามือผี
ความเร็วของพรกิตติ์นั้นอยู่ในขั้นที่เร็วมาก บวกกับ พลังด้วยแล้ว ชนะขาด นิรโมกษ์
เสียดายที่ถึงแม้ความเร็วของเขาจะเร็วขนาดไหนก็ ไม่เร็วไปกว่ารพีพงษ์ หลังจากที่แลกหมัดกันไปเป็นสิบ กว่าครั้ง รพีพงษ์เป็นฝ่ายบุกพรกิตติ์ ทำให้เขายอมแพ้ไป เอง หมดยกสอง
หลังจากยกสาม สถานการณ์ยังเป็นอย่างเดิม การ ประลองของรพีพงษ์และอันดับเทพเจ้าสงครามยังคงดุ เดือด คนดูต่างลุ้นกันจนตาไม่กระพริบ
พวกเขาคิดว่าในยกแรก รพีพงษ์จะโดนต่อยตาย เสียแล้ว แต่ทว่ายกสามก็แล้ว พยายามบีบให้อันดับ เทพเจ้ายอมแพ้เอง นี่เหนือความคาดหมายของทุกๆคน ความสามารถของรพีพง ทําให้ทุกคนต้องตะลึง เขาทําให้ความคิดของทุกคนเปลี่ยนไป
ตอนแรกทุกคนล้วนรอดูรพีพงษ์โดนเล่นงานจนตาย แต่หลังจากที่ชนะมาแล้วสามยก ทุกคนล้วนคาดหวังใน ตัวรพีพงษ์ คนจํานวนไม่น้อยต่างรอคอยว่ารพีพงษ์จะ ชนะได้อีกกี่ยก ยิ่งรพีพงษ์ชนะ ยิ่งเซอร์ไพร์สพวกเขา มากขึ้น ในใจพวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
แน่นอน นอกจากธนเทพ เขาเห็นรพีพงษ์ชนะติดกัน สามครั้ง ก็ยิ่งเกลียดรพีพงษ์เข้าไส้ อยากที่จะขึ้นบนเวที แล้วฆ่าเขาทิ้งซะ เสียดาย เขาไม่มีความสามารถนี้ และก็ ไม่มีความกล้าพออีกด้วย
สู้ติดกันสามนัด รพีพงษ์เริ่มรู้สึกหมดแรง การต่อสู้ ขั้นสูงขนาดนี้ เสียกำลังอย่างน่าตกใจ เมื่อถึงตอนนี้ เขา เริ่มไปต่อไม่ไหวแล้ว
แต่เขาก็ไม่วิตกกังวล แต่กลับตื่นตัวขึ้นอีก เขายื่น มือมาทุบตัวร่างกายตัวเอง การหายใจเริ่มมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่นาน สายตาของรพีพงษ์เป็น ประกาย จากตอนแรกที่อ่อนล้า
ท่านบุญถึงเห็นภาพนี้ ก็ตะลึง แล้วพูดกับตัวเองว่า “การหายใจของเด็กคนนี้ ทําไมแลดูเพิ่มมากกว่าเมื่อกี้ อีก? หรือว่า การต่อสู้เมื่อกี้ ยังไม่ถึงขีดสุดความสามารถ ของเขา?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ