พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 436 ฉันรังเกียจความสกปรก



บทที่ 436 ฉันรังเกียจความสกปรก

ห้องหมายเลข 12 หมาบ้าใบหน้าเต็มไปด้วยความ ไม่สงบนั่งอยู่บนเตียง แววตาวูบไหว ลุกขึ้นยืนบ่อยครั้ง ชัดเจนว่าร้อนรน

คนอื่นๆ ในห้องต่างก็มีความเคร่งเครียด พวกเขา ต่างก็คิดไม่ถึงว่า ยมราชเตชัสอันดับเทพเจ้าแห่ง สงครามลำดับที่สิบสามถึงกับยอมแพ้บนสนามประลอง โดยตรง นี่ทําให้พวกเขาล้วนแต่เสียใจภายหลังที่ก่อน หน้านี้เย้ยหยันรพีพงษ์และคนในห้องหมายเลข 13 ไป

ลูกพี่ รพีพงษ์นั่นก็เท่ากับว่าผ่านการท้าประลอง ” แล้วนะ หลังจากนี้ตำแหน่งของเขาในเทือกเขากิสนา ก็ สูงกว่าพวกเราไปมากเลย พวกเราก่อนหน้านี้ยั่วยุเขา ขนาดนั้น พี่ว่าเขาจะมาแก้แค้นพวกเราหรือไม่? ” ใน ตอนนี้ลูกน้องที่อยู่ข้างเขาพูดขึ้น

หมาบ้ามองคนคนนั้น พูดว่า “แม้ว่ามันจะผ่านการ ท้าประลองแล้วจะอย่างไร ในคุกใต้ดินไม่อนุญาตให้ เข้าห้องอื่นได้ตามใจ ไม่เช่นนั้นที่นี่คงวุ่นวายจนเละเป็น โจ๊กไปนานแล้ว รพีพงษ์นั่นถึงอยากจะจัดการฉันแล้ว จะอย่างไร แค่ฉันไม่ออกไป มันก็ทําอะไรฉันไม่ได้”

ก็เป็นตอนนี้ ที่รพีพงษ์เดินมาถึงประตูห้อง หมายเลข 12 คนของห้องหมายเลข 12 เห็นแล้วต่างก็ ตกใจกันยกใหญ่

“ลูก…ลูกพี่ รพีพงษ์มาแล้ว ” คนที่พูดเมื่อครู่มือสั่น เทาข้างหนึ่งชี้ไปทางประตูด้านนั้น หมาบ้าในใจก็ตกลงพื้น หน้าผากผุดเหงื่อเย็นออก

มา

เขายืนขึ้น เดินไปทางด้านหน้าสองก้าว ตาสองข้าง จ้องตรงไปที่รพีพงษ์ ถามขึ้น : “แก….แกมาทําอะไร? ”

มุมปากของรพีพงษ์ฉีกยิ้มเยาะ พูดว่า “แกลืมไป แล้วว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดอะไรไว้หรือ? ”

หมาบ้าในใจมีความหวาดผวาที่ไม่อาจบรรยายได้ กลุ่มหนึ่งทะลักออกมา เขาจำได้อย่างชัดเจน เมื่อวานร พีพงษ์พูดว่ารอให้ผ่านการท้าประลองแล้ว เรื่องแรกที่ จะทำ ก็คือเอาชีวิตของเขา

แก…แกอย่าได้คิดเพ้อฝันไปหน่อยเลย แกตอนนี้ ” ไม่นับว่าเป็นคนของคุกใต้ดินแล้ว หลังจากนี้ไปถึงจะมี แข่งขันประลอง ฉันก็ไม่มีทางได้คู่กับแก ฉันแนะนำให้ แกจงผ่อนปรนเว้นทางรอดให้คนอื่น อย่าได้คิดเล็กคิด น้อยจนเกินไป” หมาบ้าใบหน้าไม่สงบพูดออกมา

รพีพงษ์เบ้ปาก ปกติแล้ว ที่จริงเขาเป็นคนที่ไม่ชอบ คนที่คิดเล็กคิดน้อย แต่คำพูดนี้หมาบ้าไม่มีสิทธิ์มาพูด กับเขา

ชนายุสเดินมาถึงด้านข้างของรพีพงษ์ หยิบกุญแจ ของห้องหมายเลข 12 ออกมา

หมาบ้าเห็นฉากนี้ ตกใจจนตาแทบจะทะลุออกมา รีบตะโกน “แก…แกทําอะไร หรือแกจะปล่อยให้มันเข้า มาหรือไง? นี่มันผิดข้อกําหนดนะ! ”

ชนายุสไม่ได้สนใจหมาบ้าเลยสักนิด ไม่ว่าอย่างไร ตำแหน่งสถานะของรพีพงษ์ในตอนนี้ล้วนสูงกว่าหมาบ้า ทั้งสิ้น แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ได้ลงมือกับเตชัส แต่เตชัส ยอมแพ้ออกมาโดยตรง ก็ชี้เป็นนัยว่าหลังจากนี้ลำดับ ของรพีพงษ์ในอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามจะไปแทนที่ เตชัส และเตชัสจะถูกเลื่อนไปเป็นลำดับที่สิบสี่

ชนายุสถึงแม้จะเป็นผู้ดูแลของคุกใต้ดิน เป็นเบื้อง บนครึ่งหนึ่งของเทือกเขากิสนา แต่เขายังคงไม่ยินยอม ที่จะไปยั่วแหย่ยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม นําดับที่สิบสามคนหนึ่ง

เทียบกับรพีพงษ์แล้ว หมาบ้าก็เป็นเพียงแค่คนที่จะ มีหรือไม่มีก็ได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่เอาคำพูดของ หมาบ้ามาใส่ใจ

หลังจากเปิดประตูห้องหมายเลข 12 แล้ว ชนายุส ยืนอยู่ที่เดิม รอให้รพีพงษ์เข้าไปจัดการบุญคุณความ แค้นของตน

รพีพงษ์เดินเข้าไปในห้องหมายเลข 12 คนในห้อง หมายเลข 12 ทุกคนต่างตกใจจนเบียดแทรกไปยังมุม ด้านในทันที เหลือแต่เพียงหมาบ้าคนเดียวที่ยืนอยู่ที่ เดิม เวลาเช่นนี้ ไม่มีใครอยากจะเป็นโล่บังธนูให้กับ หมาบ้า

หมาบ้ามองรพีพงษ์เดินเข้ามาทีละก้าว ตกใจจน สองขาอ่อนแรง ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คู่ ต่อสู้ของเตชัส แต่ว่ากําลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่า ตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเขาจะลงมือกับตน งั้นตนก็ ไม่มีแผนที่จะเอาชนะได้เลย ในที่สุด หมาบ้าไม่อาจต้านทานแรงกดดันมหาศาล ภายในใจได้ คุกเข่าลงมาต่อหน้ารพีพงษ์ตรงๆ “พี่ชาย…ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรยั่วยุนายขนาด นั้น ฉันมันไอ้คนโง่ ยกโทษให้ฉันเถอะ ต่อไปนี้ฉันจะ

เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ที่สุดของนาย นายจะให้ฉันเลีย

รองเท้าฉันก็ไม่มีความเห็นอะไรทั้งสิ้น” หมาบ้าพูดด้วย

เสียงอันสั่นเทา

รพีพงษ์หยุดลงที่ด้านหน้าของหมาบ้า ก้มลงไปมอง หมาบ้าที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าตนเอง จากนั้นมือข้างหนึ่ง บีบเข้าที่คอของหมาบ้า ยกเขาขึ้นมาจากพื้น

แกเลียรองเท้าให้ฉัน ฉันยังรังเกียจที่สกปรก”

รพีพงษ์พูดเสียงเย็นเยียบ จากนั้นมือข้างที่บีบคอ ของหมาบ้าก็เริ่มออกแรง

ใบหน้าของหมาบ้าอึดอัดจนเป็นสีแดงเถือกในชั่ว พริบตา ร่างกายเริ่มดิ้นรนไม่หยุด แต่ภายใต้การ ควบคุมของรพีพงษ์ เรี่ยวแรงน้อยนิดของหมาบ้ายังไม่ เพียงพอที่จะหลุดพ้นได้

ทุกคนในห้องหมายเลข 12 ก็เบิกตาโพลงจ้องมอง หมาบ้าต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในมือของรพีพงษ์ทั้งอย่างนั้น

ตามเวลาที่ผ่านไปทีละนิด ร่างของหมาบ้าก็ค่อยๆ อ่อนลง ในเวลาไม่นานก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดอีก

จัดการหมาบ้าเสร็จ รพีพงษ์หันหน้ากลับมองไป ทางห้องหมายเลข 12 ทุกคน พูดขึ้นเสียงเยียบเย็น : “ยังมีใครไม่พอใจอีกไหม? ” คนของห้องหมายเลข 12 รีบส่ายหัว ต่อหน้าเทพ สังหารผู้นี้ ใครยังจะกล้ามีความคิดที่ไม่พอใจ

เห็นว่าไม่มีใครลุกขึ้นมาอีก รพีพงษ์จึงโยนร่างไร้ ชีวิตของหมาบ้าลงไปที่พื้น เดินออกไปทางด้านนอก

อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

ชนายุสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แจ้งกับคนไม่กี่คน ให้ พวกเขามาจัดการกับร่างไร้ชีวิตของหมาบ้า ราวกับว่า

ให้คนมาเก็บกวาดขยะ

นี่ก็คือกฎของเทือกเขากิสนา อยู่ที่นี่ มีเพียงผู้ แข็งแกร่งข่มผู้อ่อนแอเท่านั้น กำลังความสามารถไม่พอ ยังชอบที่จะไปยั่วยุผู้อื่น ถูกกำจัดจนตาย ก็ทำได้แค่สม นําหน้าตัวเองเท่านั้น

รพีพงษ์กลับมาถึงในห้องหมายเลข 13 จงจินตน์ และคนอื่นๆ ต่างมีความตื่นเต้นเต็มหน้า ถึงแม้ว่ารพีพงษ์ กับเตชัสจะไม่ได้ลงมือกัน เขานั้นก็นับว่าผ่านการทํา ประลองสนามนี้ ต่อไปนี้เขาก็สามารถได้รับอิสระใน เทือกเขากิสนาแล้ว

และรพีพงษ์นั้นออกไปจากห้องหมายเลข 13 คน ของห้องหมายเลข 13 ทุกคนต่างได้ประโยชน์เล็กน้อย จากชื่อเสียงของรพีพงษ์ ในเวลาหนึ่งปีนับตั้งแต่วันนี้ พวกเขาสามารถไม่ต้องขึ้นสนามประลอง และอาหาร จะได้รับการรักษาไว้ในระดับสูงสุด

สิ่งนี้สำหรับทุกวันที่วิตกกังวลอยู่ในคุกใต้ดิน ไม่รู้ ว่าวันไหนเป็นเพราะการจัดการแข่งขันของเบื้องบน ของเทือกเขากิสนาจะเอาชีวิตน้อยๆ ของพวกเขา นี่ก็ เป็นความปราณีอย่างมากแล้ว

ลูกพี่ นายร้ายกาจเกินไปแล้ว นั่นน่ะคือยมราช ” เตชัสเชียวนะ! เขาถึงกับยอมแพ้ตรงๆ ต่อหน้านายเลย นายทำได้ยังไงกันแน่! ” จงจินตน์จ้องมองรพีพงษ์ด้วย ใบหน้าเลื่อมใส

ทุกคนรอบด้านต่างก็มีสีหน้าเลื่อมใสมองไปที่รพี พงษ์ เห็นได้ชัดว่าอยากรู้ว่าทำไมเตชัสถึงได้ยอมแพ้ต่อ รพีพงษ์โดยตรง

รพีพงษ์หัวเราะแล้วมองพวกเขา พูดขึ้นว่า : “ถ้าฉัน บอกว่าก่อนหน้านี้เขาคือลูกน้องฉัน พวกนายเชื่อไหม?

ทุกคนต่างชะงัก เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะ ให้คำตอบเช่นนี้กับพวกเขา ยมราชเตชัสอันดับเทพเจ้า แห่งสงครามลำดับที่สิบสาม ถึงกับเป็นลูกน้องของรพี พงษ์? ข้อมูลนี้ถ้าเกิดเป็นความจริง เกรงว่าทั้งเทือกเขา กิสนาล้วนต้องตกตะลึง

เห็นปฏิกิริยาของทุกคน รพีพงษ์เพียงแค่หัวเราะ ทำเหมือนว่าเล่าเรื่องตลก หลังจากนั้นก็จัดการเรื่องราว หลังจากที่ตนเองออกจากคุกใต้ดินสักเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าการมีอยู่ของรพีพงษ์ทำให้ห้องหมายเลข 13 กลายเป็นที่ขวางหูขวางตาของผู้อื่น หลังรพีพงษ์ จากไป คนของห้องอื่นๆ ต่างต้องหาหนทางจัดการกับ คนของห้องหมายเลข 13 อย่างแน่นอน

ดีที่คนของห้องหมายเลข 13 มีเวลาหนึ่งปีไม่ต้อง ขึ้นสนามประลอง รพีพงษ์จัดทำแผนการฝึกซ้อมอย่าง ละเอียดให้พวกเขา ให้พวกเขาปฏิบัติตามรายการด้าน บนอย่างเคร่งครัด หนึ่งปีหลังจากนั้น รับรองว่าพวกเขา ทุกคนล้วนจะเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่

รพีพงษ์จัดทำแผนการฝึกซ้อมอย่างละเอียดให้ พวกเขา ให้พวกเขาปฏิบัติตามรายการด้านบนอย่าง เคร่งครัด หนึ่งปีหลังจากนั้น รับรองว่าพวกเขาทุกคน ล้วนจะเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่

สำหรับเรื่องหลังจากนั้น รพีพงษ์ก็ไม่ใส่ใจแล้ว คน พวกนี้ก็เพียงแค่พบกันโดยบังเอิญก็เท่านั้นเอง ตนเอง ทำเรื่องพวกนี้ ก็นับว่าเป็นการมอบของขวัญให้พวกเขา แล้ว

ในอนาคตพวกเขาจะมีผลลัพธ์อย่างไร ก็ต้องดูตัว ของพวกเขาเองแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ