บทที่ 333 ผมเป็นเจ้าของที่นี่จริงๆ
ศศินัดดาได้ยินว่ารพีพงษ์จะเก็บชนิสราเอาไว้ จึงรีบ พูดขึ้นว่า “รพีพงษ์ แกบ้าไปแล้วเหรอ พวกเราไม่อยู่ที่นี่ แล้ว จะเก็บชนิสราไว้ทำไม แกมีเงินเหลือเยอะขนาดนั้น เลยเหรอ”
“นี่ไม่เกี่ยวกับเงิน พี่สาทำอาหารถูกปากผมมาก อีกทั้ง ต่อจากนี้ผมอาจจะไม่มีเวลาทำงานบ้าน เพราะฉะนั้นจึง ต้องให้พี่สาเป็นคนทำ” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ชนิสราหันไปหารพีพงษ์แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกรพี พงษ์ พวกคุณไม่อยู่ที่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งานฉันอีก ฉันไป หางานอื่นก็ได้”
อารียาเดินเข้าไปจับแขนของชนิสราแล้วพูดว่า “พี่สา อย่าไปเลย ที่ผ่านมาพี่เข้ากันได้ดีกับพวกเราถ้าพี่ไปฉันก็ ไม่ได้ทานหวานเย็นเม็ดบัวฝีมือพี่น่ะสิ”
“นี่ลูกโง่หรือเปล่า มันเป็นแค่คนนอกเท่านั้น ลูกอยาก กินแม่ทำให้ก็ได้” ศศินัดดาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
อารียาเหลือบมองศศินัดดาแล้วพูดว่า “แม่ไม่ทำ อาหารมานานขนาดไหนแล้ว ถึงพวกเราจะย้ายที่อยู่ แม่ ทำความสะอาดเป็นเหรอ สองสามปีมานี่รพีพงษ์เป็นคนทำ ตลอด หนูกลัวว่าแม้จะทำไม่เป็นแม้แต่กวาดขยะ ถ้าไม่ให้ พี่สาอยู่ แม่จะทำงานบ้านไหม เพราะหนูกับรพีพงษ์ก็ยุ่งทั้ง คู่ ไม่มีเวลาทำงานบ้านหรอก ถ้าแม่ยอมทำ หนูจะให้รพี พงษ์ช่วยหางานใหม่ให้พี่สา” เมื่อศศินัดดาได้ยินที่อารียาพูด เธอก็เงียบทันที สอง
สามปีมานี้เธอกลายเป็นคนขี้เกียจ ไม่ทำอาหารไม่ทำงาน บ้านมานานแล้ว ถ้าต่อจากนี้เธอต้องทำงานบ้าน เธอก็ไม่ อยากทำเหมือนกัน “เหอะ ยังไงพวกแกก็เป็นคนจ่ายเงินให้มัน ฉันไม่สน
หรอก แต่ถ้าแกจะให้มันอยู่ต่อ แกต้องหาบ้านที่ใหญ่พอ สำหรับจำนวนคนด้วย ถ้าให้ฉันขลุกอยู่กับมัน ฉันก็ไม่ เต็มใจอยู่เหมือนกัน” ศศินัดดาบ่นพึมพำ
“วางใจเถอะ ผมไม่ทำให้คุณลำบากใจหรอก” รพีพงษ์ เอ่ยขึ้น
ชนิสราเห็นรพีพงษ์กับอารียาเกลี้ยกล่อมเธอ เธอรู้สึก ซาบซึ้งมาก ถึงแม้ว่าทั้งสองคนพูดว่าจะให้เธอทำงานบ้าน ทำอาหาร จึงอยากให้เธออยู่ต่อ แต่ในใจของเธอรู้ดีว่า พวกเขาพูดให้เธอสบายใจเท่านั้น
อีกอย่างแค่การหาคนทำงานบ้าน จากเงินเดินที่รพี พงษ์จ่ายให้ สามารถหาคนที่ทำงานหนักและเชื่อฟังได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้เธออยู่ต่อ ยิ่งไปกว่าสามารถหาได้ใน
ตอนที่กำลังหาบ้านใหม่ก็ได้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ไม่ปฏิเสธแล้ว รพีพงษ์ อารี บุญ คุณของพวกคุณฉันจะไม่ลืมตลอดชีวิต ฉันจะดูแลงานใน บ้านให้ดี” ชนิสราพูดน้ำตาคลอ
รพีพงษ์กับอารียาสบตากันแล้วหัวเราะออกมา
“งั้นเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ วันนี้เราพักที่โรงแรม ก่อน อีกสักพักค่อยไปทานข้าวกันข้างนอก แล้วค่อย ปรึกษากันว่าจะไปอยู่ที่ไหน” รฟีพงษ์เอ่ยขึ้น
เขาเดินไปหาศักดาและรับกล่องมาจากมือของศักดา จากนั้นพาทุกคนเดินออกไปข้างนอก
“ถ้าเงินในกล่องหายไปแม้แต่บาทเดียว แกต้องจ่ายให้ ฉันสองเท่า” ศศินัดดาไม่เชื่อใจรพีพงษ์โดยลืมไปว่าเงิน สามล้านนั่นเป็นเงินที่รพีพงษ์ให้เธอ
รพีพงษ์พาทุกคนมาถึงหน้าโรงแรมบลูสกายอินเต
อร์เนชั่นเนล
อารียารู้แล้วว่ารพีพงษ์เป็นเจ้านายของบริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ป เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ได้ตกใจที่รพีพงษ์พา มาที่โรงแรมนี้
ก่อนหน้านี้เธอกังวลว่ารพีพงษ์จะใช้เงินทั้งหมดในการ ซื้อสร้อยหัวใจวีตัส ซื้อคฤหาสน์ ซื้อรถ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า เงินพวกนั้นสำหรับรพีพงษ์มันก็แค่เศษเงินเท่านั้น
อีกอย่างถ้ารพีพงษ์เอาตระกูลลัดดาวัลย์กลับมาได้ สำเร็จ จะทำให้เขามีอำนาจและเงินที่ทำให้คนต้องตกใจ
บวกกับตอนนี้บริษัทตระกูลฉัตรมงคลกำลังรุ่งเรือง อีก ไม่นานคงจะได้เป็นธุรกิจอันดับต้นๆ ของเมืองริเวอร์ โลก ทัศน์ของอารียากว้างไกลมากขึ้น ดังนั้นการที่มาอยู่โรง แรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลไม่ใช่เรื่องหรูหราอะไร
“รพีพงษ์ แกแน่ใจเหรอว่าจะให้พวกเราอยู่โรงแรมหรู อย่างนี้ ฉันได้ยินมาว่าที่นี่แพงที่สุดในเมืองริเวอร์เลยนะ พวกเราหาคนอย่างน้อยก็ต้องสามห้อง คืนนี้ต้องใช้เงิน เท่าไร” ศศินัดดามองความหรูหราในโรงแรมบลูสกายอิน เตอร์เนชั่นเนล เธอแอบหวั่นใจ เพราะกลัวว่ารฟีพงษ์จะ ไม่มีเงินจ่าย แล้วจะให้เธอใช้เงินสดของตัวเองจ่าย
“ใช่รพีพงษ์ นายอยู่ในเมืองริเวอร์ไม่ได้รวยเหมือน พวกท่านยุดที่อำเภอหยกหรอกนะ การที่เขาจัดโรงแรมหรู แบบนี้ให้นายได้ ไม่ได้หมายความว่านายจะทำเหมือนเขา ได้นะ ถึงเราจะมีเงินอยู่ในมือ แต่ถ้านายใช้เงินนั่นมาอยู่ โรงแรมหรูแบบนี้ ศศินัดดาไม่ยอมหรอก” ศักดาพูดเสริม
รพีพงษ์ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ต้องจ่าย เงิน แถมผมยังให้พวกเขาจัดห้องที่ดีที่สุดให้พวกเรา”
ศศินัดดามองรพีพงษ์อย่างดูถูกแล้วพูดว่า “แกหลอก ใครอยู่ พูดเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่ต้องจ่ายเงิน แกนี่พูดโกหกหน้าไม่อายจริงๆ”
“จริงๆ ผมเป็นเจ้าของที่นี่” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ตอนนี้วีธราได้ตายไปแล้ว คนที่คอยกดขี่เขาได้ตาย ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีก ให้ ศศินัดดาได้รู้ถึงความเก่งของเขาเสียหน่อย จะได้ไม่ต้อง มาดูถูกเขา
ศักดากับศศินัดดาเบิกตาโต แววตาของพว เชื่อกับสิ่งที่รพีพงษ์พูด งพวกเขาดูไม่
“รพีพงษ์แกเก่งเรื่องต่อสู้ มันทำให้ฉันตกใจจริงๆ แต่ ว่าแกอย่าคิดว่าแค่เก่งเรื่องนี้ แล้วจะไปรวมกับเรื่องอื่น โรง แรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดใน เมืองริเวอร์ แกดูขนาดของที่นี่ ดูการตกแต่งของที่นี่สิ อยากเปิดโรงแรมแบบนี้ ถ้าไม่มีเงินสิบล้านก็ทำไม่ได้ หรอก นายเอาเงินไปซื้อคฤหาสน์แล้ว คงจะเหลือเงินไม่ มากแล้ว จะมาเปิดโรงแรมแบบนี้ได้ยังไง” ศศินัดดาพูด ยืนยันว่ารฟีพงษ์ไม่มีทางเปิดโรงแรมขนาดนี้ได้
แต่ทว่าช่วงนี้สิ่งที่รพีพงษ์ทำให้เห็น ทำให้ศศินัดดารู้ ว่ารพีพงษ์ไม่ใช้คนที่ชอบพูดโอ้อวด
อีกทั้งรพีพงษ์ยังกล้าฆ่านายใหญ่ของตระกูลลัดดา วัลย์ นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะกล้าทำ
รพีพงษ์ไม่เถียงศศินัดดา เขาเดินเข้าไปในโรงแรม พนักงานรีบเข้ามาต้อนรับและทำความเคารพเขา “คุณ ผู้ชาย ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการอะไรคะ”
รพีพงษ์หยิบแบล็กการ์ดออกมาส่งให้พนักงาน แล้ว พูดว่า “เอาบัตรนี้ไปให้ผู้จัดการ เดี๋ยวผู้จัดการเห็นบัตรนี้ เขาคงจะรีบออกมาหาผม”
พนักงานคนนั้นมองแบล็กการ์ดแวบหนึ่ง เธอรู้สึกว่า บัตรนี้มันไม่เหมือนของคนอื่น จึงไม่ชักช้ารีบเอาบัตรวิ่ง เข้าไปข้างใน
ศักดากับศศินัดดามองรพีพงษ์อย่างสงสัย ศศินัดดา พูดพึมพำออกมาว่า “ทำเป็นอวด ไม่ว่ายังไงแกก็ไม่ใช่ เจ้าของที่นี่หรอก อย่าโกหกเลย”
ชนิสรามองไปรอบๆ อย่างประหลาดใจ เธอเพิ่งเคยมา ที่หรูๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
ที่รพีพงษ์พูดเมื่อกี้ ชนิสราก็เชื่ออยู่เล็กน้อย เพราะเธอ รู้ว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนที่ชอบพูดโอ้อวด แต่ทว่าโรงแรมนี่มัน ทำให้เธอตกตะลึงเป็นอย่างมาก ถ้ารพีพงษ์เป็นเจ้าของที่ นี่จริงๆ ก็เจ๋งสุดๆ ไปเลย
ผ่านไปไม่นาน พนักงานกับผู้จัดการรีบวิ่งออกมา โดย ผู้จัดการมีสีหน้าลุกลี้ลุกลน ตอนที่เขาเห็นแบล็กการ์ด เขา ก็รู้ทันทีว่าใครมาที่นี่
“คุณผู้ชาย นี่ผู้จัดการของเราค่ะ” พนักงานคนนั้นยื่น แบล็กการ์ดคืนให้รพีพงษ์ด้วยความนอบน้อมและเดินออก ไปอย่างรู้งาน
ผู้จัดการมองรพีพงษ์แล้วยิ้มอย่างนอบน้อม จากนั้นจึง เอ่ยทักทาย “คุณรพีพงษ์ คุณจะมาที่นี่ไม่แจ้งผมก่อน ผม จะได้เตรียมต้อนรับคุณ”
รพีพงษ์ยิ้มให้ผู้จัดการ ก่อนหน้านี้เขามาที่นี่กับเธียร วิชญ์และได้เจอกับผู้จัดการคนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ เกรงใจอะไร
“ช่วยจัดการห้องให้ผมสักสองสามห้อง พวกเราอาจจะ อยู่ที่นี่สองสามวัน”
ผู้จัดการรีบพยักหน้า “ห้อง Presidential Suite ยังว่าง อยู่ เดี๋ยวผมพาพวกคุณไปครับ”
รพีพงษ์ตอบรับแล้วหันไปมองอารียาและคนอื่น “เรา ไปกันเถอะ”
ศศินัดดากับคนอื่นๆ ถึงกับอึ้งกับท่าทีที่ผู้จัดการปฏิบัติ ต่อรพีพงษ์ ไม่คิดว่าผู้จัดการของที่นี่จะนอบน้อมกับรพี พงษ์ขนาดนี้
ศศินัดดายังคงไม่เชื่อ เธอรีบเดินเข้าไปหาผู้จัดการ แล้วถามว่า “ไอ้หมอนี่มันบอกว่าเป็นเจ้าของที่นี่ จริงหรือ เปล่า”
ผู้จัดการได้ยินคำถามของศศินัดดา ก็อึ้งไป ก่อนหน้า นี้รฟีพงษ์ห้ามไม่ให้พวกเขาพูดเรื่องนี้ แต่เมื่อศศินัดดา ถามเช่นนี้ เขาจึงหันไปมองรพีพงษ์เหมือนสอบถาม
รพีพงษ์พยักหน้าให้เขาเป็นสัญญาณให้เขาพูดได้ ผู้ จัดการจึงยิ้มแล้วพูดกับศศินัดดาว่า “จริงครับ คุณรพีพงษ์ เป็นเจ้าของที่นี่”
คำตอบของผู้จัดการ ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก โรงแรมนี้มีมาตั้งแต่สองสามปีก่อน ถ้ารพีพงษ์เป็นเจ้าของ ที่นี่ งั้นก็แสดงว่ารพีพงษ์เป็นคนรวย แต่เพราะเขาไม่พูด เธอจึงคิดว่าเขาเป็นคนไม่เอาไหน
“เขาไม่ปิดบังไม่พูดออกมาเอง การที่ฉันทำไม่ดีกับเขา จะว่าฉันไม่ได้นะ” ศศินัดดาพูดพึมพำ
“เรารีบขึ้นไปเถอะครับ เอาของไปเก็บแล้วไปทานข้าว
กันก่อน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ศศินัดดากับศักดามองรพีพงษ์ด้วยสายตาแปลกๆ แล้วเดินไปกับเขา
“รพีพงษ์ นายเป็นเจ้าของที่นี่ แสดงว่านายมีเงินเยอะ น่ะสิ” ศศินัดดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมาก
“ก็พอมีนะครับ ผมเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับว่า ผมจะทำให้พวกคุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปตลอดชีวิต” รพีพงษ์พูดแล้วยิ้มออกมา ให้ศศินัดดากับศักดารู้ว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ก็ เพียงพอแล้ว ถ้าให้พวกเขารู้ว่าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปก็ เป็นของเขาด้วย ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีท่าทีอย่างไร
ศศินัดดาเข้าใจในทันทีว่าทำไมรฟีพงษ์ถึงซื้อ คฤหาสน์ได้ แถมยังเอาเงินสดมาให้เธอมากขนาดนี้อีก
เธอจ้องรพีพงษ์กับอารียาแล้วกลอกตาเหมือนใช้ความ คิด ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ
รพีพงษ์รวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะยอมมาลำบากใน ครอบครัวของเธอ ดูเหมือนเขาจะยอมทำทุกอย่างเพราะ อารียาจริงๆ
ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ควรจะหาประโยชน์จากเศรษฐี คนนี้น่ะสิ
รพีพงษ์ฆ่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ถ้าฝั่งนั้นรู้ ต้องไม่ปล่อยเขาไว้แน่นอน ก่อนที่รพีพงษ์จะโดนคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์จับไป เธอต้องเอาเงินจากเขามาให้มาก ที่สุด
หรือว่าจะให้เขายกโรงแรมนี้ให้เป็นชื่อของอารียาดี
ล่ะ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ