บทที่ 282 ยื่นถึงปาก
หลังจากที่รพีพงษ์และรฤตญาณมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ ตระกูลธนาพัชร์กุล เรียกได้ว่าพวกเขาได้รับการต้อนรับ อย่างอบอุ่น นฤพลจัดห้องของรพีพงษ์เอาไว้ข้างห้องของ รวินท์ ไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือไม่
รพีพงษ์กับธฤตญาณไปคุยแผนล้างแค้นกับนฤพลอยู่ครู่ หนึ่ง ก่อนมาที่นี่ ธฤตญาณไม่รู้เรื่องของไอศูรย์ เพราะ ฉะนั้นก่อนที่จะไปล้างแค้นที่ตระกูลรัตนชัยนันท์ เขา จำเป็นต้องสะสางเรื่องของไอศูรย์เสียก่อน
และวันมะรืนเป็นวันเกิดของนายหญิงฝนทิพย์ ดังนั้นเขา มีเวลาพรุ่งนี้เพียงแค่วันเดียวในการสะสางกับไอศูรย์
นฤพลคิดว่าตระกูลวรโชติธีรธรรมไม่ได้เก่งอะไร เขาจึง สนับสนุนเต็มที่ ขอแค่รพีพงษ์ช่วยให้เขาชนะการแข่งโกะ เรื่องอื่นเขาก็สามารถพูดกันได้
หลังจากที่ปรึกษาแผนการกันเสร็จ ธฤตญาณกับรพีพงษ์ ก็แยกกันกลับไปที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
รพีพงษ์เพิ่งเอนตัวลงนอนได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมา เคาะประตู
เขาลุกไปเปิดประตู พบว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือรวินท์ ที่สวมชุดกี่เพ้า ดูออกว่าเธอแต่งหน้ามา ชุดกี่เพ้าบวกกับ บุคลิกของเธอ ทำให้เธอดูโดดเด่นขึ้น
หลายปีมานี้รพีพงษ์เห็นแต่เด็กสาวแต่งตัวตามแฟชั่น บางคนอาจเรียกได้ว่าล้ำหน้าไปแล้ว เด็กสาวที่ชอบสวมกี่ เพ้าแบบวินท์ เห็นได้น้อยมาก ดังนั้นเมื่อได้เห็นรวินท์ เขา จึงรู้สึกอัศจรรย์ใจเล็กน้อย
รวินท์สังเกตเห็นสายตาของรพีพงษ์ การที่ใช้เวลานาน ในการแต่งหน้าก็เพื่อจะทำให้รพีพงษ์อัศจรรย์ใจ
“มีอะไรเหรอ” รพีพงษ์อัศจรรย์ใจ เพราะว่าเด็กสาวน้อย คนที่จะสวมชุดกี่เพ้า เขาไม่ได้รู้สึกการที่รวินท์สวมชุดกี่ เพ้าจะดึงดูดความสนใจของตัวเสียเท่าไร
“นี่คือใบชาที่ฉันคั่วเอง เพิ่งชงเสร็จเลยอยากให้คุณชิม ดู” รวินท์เอ่ยขึ้น
“ดึกขนาดนี้ดื่มชาคงไม่ดี อาจจะทำให้น้อยไม่หลับได้ เธอค่อยเอามาพรุ่งนี้แล้วกัน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้นแล้วจะเดิน กลับเข้าไปในห้อง
รวินท์เห็นเช่นนั้นจึงเบิกตาโต เธอคิดในใจว่าการที่เธอ สวมกี่เพ้าเวลาดึกขนาดนี้ แถมยังแต่งหน้าซะสวย เธอน่า จะสื่อชัดเจนแล้วนะ การที่เอาน้ำชามาให้ก็แค่ข้ออ้าง เท่านั้น นี่รพีพงษ์ดูไม่ออกเหรอ
อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนี่เป็นผู้ชายชื่อ
“แค่ก แค่ก เอ่อ ตอนนี้ยังห่างจากเวลานอนอีกเยอะ ถึง คุณจะไม่ดื่มชาก็ให้ฉันเข้าไปนั่งสักพักน่าจะไม่มีปัญหา อะไรนะ ฉันอยากให้คุณสอนเรื่องเกี่ยวกับการเล่นโกะน่ะ” รวินท์รีบหาเหตุผลมาพูด
เธอไม่รู้ว่ารพีพงษ์แต่งงานแล้ว จึงคิดจะรู้จักเขา การที่ เธอมาก็เพราะอยากให้รพีพงษ์สอนเรื่องเกี่ยวกับการเล่น โกะส่วนการที่แต่งหน้าสวยก็เพราะอยากให้รพีพงษ์ประทับ ใจเท่านั้น
แน่นอนว่าการที่รพีพงษ์เล่นโกะเก่งขนาดนี้ วินท์จึงมี ความเลื่อมใสไม่น้อย แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าในใจของเธอมี ความคิดอื่นอยู่ด้วย
รพีพงษ์ได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า “งั้นคุณเข้ามาสิ”
รวินท์ยกชาเข้ามาในห้องของรพีพงษ์ เธอนั่งลงตรงเก้าอี้ ที่อยู่ข้างโต๊ะด้วยท่าทางงดงาม
รพีพงษ์กลับรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงเอนลงบนเตียง
“มีเรื่องอะไรก็รีบถามมาเลย ผมเหนื่อยนิดหน่อย พรุ่งนี้มี เรื่องต้องตื่นเช้าอีก” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
รวินท์เห็นรพีพงษ์ไม่สนใจเธอ เธอจึงหงุดหงิดอยู่ในใจ สิ่งที่ผู้หญิงไม่พอใจที่สุดคือการที่คนอื่นทำเป็นไม่เห็นสิ่งที่ ตัวเองตั้งใจทำ นี่ทำให้วินท์คิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ไม่พอ
ยิ่งเป็นเช่นนี้เธอยิ่งอยากพิสูจน์ตัวเอง เธอต้องทำให้รพี พงษ์รู้ว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ รพีพงษ์ที่เป็นผู้ชายจะ ไม่สนใจเธอได้อย่างไร
คนที่เย็นชามาแต่ไหนแต่ไรอย่างรวินท์ เมื่อได้มาพบกับ ผู้ชายซื่ออย่างรพีพงษ์ ดังนั้นถึงจะรู้ว่ารพีพงษ์แต่งงานแล้ว เธอก็อยากจะพิสูจน์ว่าตัวเองสามารถดึงดูดคนอื่นได้
เธอลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “วันนี้คุณเหนื่อยมากเหรอ ที่จริง แล้วฉันเคยเรียนนวดมานิดหน่อย ถ้าคุณไม่ถือสา ฉันนวด ให้คุณได้นะ”
พูดพลางเธอกเดินไปที่ข้างเตียงแล้วยืนมือออกไปนวด ให้รพีพงษ์
รพีพงษ์มองคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลธนาพัชร์กุลด้วย ท่าทางลำบากใจ เขาคิดในใจว่าตอนเจอกันครั้งแรกเธอ เย็นชามากไม่ใช่หรือไง
ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ไปได้
“ถ้าคุณไม่อยากถามเรื่องการเล่นโกะ ก็รีบกลับไปนอน
เถอะ คุณแต่งตัวสวยขนาดนี้ แต่ว่าผมมีภรรยาแล้ว เพราะ
ฉะนั้นผมจึงไม่สนใจอะไรคุณ คุณอย่าเหนื่อยเปล่าเลย” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น วินท์โดนรพีพงษ์จับได้ จู่ๆ เธอก็อายจนจะแทรกแผ่นดิน
หนี แต่การที่รพีพงษ์พูดเช่นนี้ ถึงแม้เธอจะถวายตัวให้เขา เขาก็คงจะรังเกียจ นี่มันทำให้ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจของเธอ เธอไม่
เคยขายหน้าต่อหน้าผู้ชาย “คะ ใคร บอกว่าฉันแต่งหน้าเพื่อคุณ ทำไมคุณถึงหลงตัว เองแบบนี้ เหอะ งั้นตอนนี้คุณลองลิ้มรสการนวดของฉันสัก
หน่อยแล้วกัน!”
พูดพลางรวินท์ก็บีบลงไปบนขาของรพีพงษ์
รพีพงษ์รีบลุกขึ้นนั่งแล้วเอามือกุมขาตัวเอง เขานวดขา
ตัวเอง “ให้ตายเถอะ คุณนี่มือหนักจริงๆ ผมไม่เคยทำให้คุณ แค้นเคืองอะไรนะ คุณมาบีบผมแรงขนาดนี้ทำไม” รพีพงษ์ เอ่ยขึ้น
รวินท์เชิดหน้าขึ้นอย่างได้ใจ แล้วพูดว่า “ฝีมือการนวด ของฉันน่ะสุดยอดเลยนะ รักษาโรคผู้ชายชื่อบื้อได้โดย เฉพาะเลยล่ะ” รพิพงษ์ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ เขาลงมาจากเตียง
แล้วไปนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างโต๊ะ “คุณอยากถามอะไร พูดมา
เถอะ”
รวินท์ได้ยินดังนั้นจึงยิ้มแล้วนั่งลงอีกด้าน แล้วถามเกี่ยว กับเรื่องการเล่นโกะอย่างมากมาย
รพีพงษ์พูดเรื่องโกะให้เธอฟังเยอะแยะ รวินท์ชะงักไป เหมือนกับเธอได้ความรู้ใหม่มากมาย ราวกับเปิดโลกใหม่ อย่างไรอย่างนั้น รพีพงษ์พูดไม่เท่าไรก็ทำให้เธอรู้เรื่อง ใหม่ๆ เกี่ยวกับโกะ
เธอโดนคำพูดของรพีพงษ์ดึงดูดเอาไว้เสียแล้ว แววตาที่ รวินท์มองรพีพงษ์เต็มไปด้วยความหลงใหล
เธอเอามือเท้าคาง แววตาเป็นประกายแวววาวปะปนไป
ด้วยดอกท้อ หลังจากที่รพีพงษ์พูดจบ รวินท์ยังไม่หลุดออกจากภวังค์ ดวงตาของเธอจ้องไปที่รพีพงษ์ เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มี เสน่ห์จริงๆ
ในเวลานี้เอง มีเสียงหัวเราะดังมาจากข้างนอก จากนั้นก็มี เสียงพูดเหน็บแนมของพัน “พี่ ดึกขนาดนี้มาใส่ชุดเซ็กซี่ อะไรอยู่ในห้องรพีพงษ์ แถมยังมองเขาด้วยแววตาหยาด เยิ้มด้วย พี่คงจะไม่ได้ถวายตัวให้เขาหรอกใช่ไหม”
รวินท์หลุดออกจากภวังค์ เธอหันไปทางประตูแล้วเห็นว่า พันยืนจ้องเธออยู่ที่หน้าประตู เธอลืมปิดประตูตอนที่เข้ามา
“พัน พูดอะไรไร้สาระ ฉันมาฟังรพีพงษ์เล่าเรื่องโกะ ถวายตงถวายตัวอะไร”
รวินท์สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเขินอายขึ้นมาทันที
“เหอ เหอ ฟังรพีพงษ์เล่าเรื่องโกะจริงเหรอ แต่ก่อนไม่ เคยเห็นพี่ใส่ชุดกี่เพ้าเซ็กซี่ขนาดนี้เลยนะ อีกทั้งสายตาที่พี่ มองรพีพงษ์ เหมือนน้ำลายจะไหลออกมาด้วยเลย ยังมาบ อกว่าไม่คิดจะถวายตัว” พันยิ้มอย่างร้ายกาจ
รวินท์ลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่ประตูทันที เธอมองพัน เหมือนจะกินเข้าไปทั้งตัว
พันรีบวิ่งออกไปแล้วพูดว่า “ผู้หญิงบ้านอื่นโดนมัดมือชก
แต่ผู้หญิงบ้านเราถวายตัวให้เขาซะงั้น” “พัน ไอ้เด็กเปรต วันนี้ถ้าแกไม่โดนฉันจัดการ แกก็จะ ไม่รู้ฤทธิ์ของฉันสินะ!”
รพีพงษ์เห็นรวินท์วิ่งตามกระพันออกไป จึงยิ้มอย่าง หน่ายใจออกมา คิดในใจว่าพี่น้องคู่นี้ดูสนุกดี โตขนาดนี้ แล้วยังทะเลาะกันเป็นเด็กๆ
เขาเดินไปปิดประตูแล้วกลับมานอนลงบนเตียง วันที่สอง ณ สำนักบูโดตระกูลวรโชติธีรธรรม
เพราะว่ามีคนของสำนักบูโดวงแสงมาให้คำแนะนำ ตัวแทนแต่ละสำนักในเมืองกรีนโคลจึงมาที่ สำนักบูโดตระ กูลวรโชติธีรธรรมตั้งแต่เช้า เพราะกลัวว่าจะพลาดการ แนะนำครั้งสำคัญ
ชีวนาถกับไอศูรย์ตื่นมาต้อนรับคนที่มาร่วมงานตั้งแต่เช้า
ตรู่
“ไอศูรย์ ได้ยินว่าพรุ่งนี้ตระกูลรัตนชัยนันท์จะประกาศ เรื่องแต่งงานของนายกับบุญสิตา บุญสิตาเป็นสาวงามใน เมืองกรีนโคลเชียวนะ เหมาะกับนายมาก ไอ้ธฤตญาณน่ะ เทียบนายไม่ติดเลย”
“ใช่ ไม่ว่ายังไงไอ้ธฤตญาณมันก็แค่ลูกคนขายเครป เทียบกับตระกูลวรโชติธีรธรรมไม่ได้เลยแม้แต่น้อย”
ไอศูรย์ยิ้มให้คนพวกนั้นแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้วฉันเมื่อปี นั้นฉันเป็นเพื่อนกับธฤตญาณ ก็เพราะว่าบุญสิตา ใครจะ ไปรู้ว่าพวกเขาสองคนจะจดทะเบียนสมรสกัน ฉันไม่ สามารถบังคับให้พวกเขาหย่ากัน หลังจากนั้นตระกูลวร โชติธีรธรรมจัดการกับธฤตญาณ ฉันก็แอบช่วยอย่างลับๆ ตอนนี้ธฤตญาณหายตัวไปหลายปี ฉันก็ได้บุญสิตามา แล้ว”
“เรื่องดีก็มาช้าแบบนี้แหละ หลังจากที่นายแต่งกับบุญสิต อำนาจที่เมืองริเวอร์ก็จะเป็นของนาย นายนี่โชคดีจริงๆ ตระกูลวรโชติธีรธรรมร่วมมือกับตระกูลรัตนชัยนันท์บวก กับอิทธิพลที่ธฤตญานสร้างไว้ ถึงแม้จะเป็นตระกูลอันดับ หนึ่งก็ยังต้องกลัวพวกนาย” มีคนพูดเยินยอขึ้นมา
ไอศูรย์หัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “ถึงที่พูดมาจะเป็นเรื่อง จริง ถือว่าฉันชุบมือเปิบละกัน”
ขณะนั้นวีรนาถเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ลูกชายฉันจะชุบ มือเปิบได้ยังไง อิทธิพลที่ธฤตญาณสร้างไว้ในปีนั้น ลูกชายฉันช่วยเขาไว้เยอะ อิทธิพลเหล่านั้นครึ่งหนึ่งก็เป็น น้ำพักน้ำแรงของลูกชายฉัน”
“ตอนนี้ไม่ต้องพูดว่าธฤตญาณยังมีชีวิตอยู่ ถึงมันจะตาย ไปแล้วก็ต้องยกผู้หญิงของมันให้ลูกชายฉัน คนที่ใช้แต่ กำลังอย่างมันจะเทียบกับคนของตระกูลเราได้ยังไง”
วีรนาถพูดจบ ประตูสำนักบูโดก็ถูกคนถีบจนเปิดออก เงา ของคนสองคนเดินเข้ามาในสำนัก
“เหอะ เหอะ ดูเหมือนว่าปีนั้นฉันจะดูคนผิดไป ถึงได้เป็น เพื่อนกับคนอย่างแก แล้วก็ตระกูลหมาๆ อย่างตระกูลตระ กูลวรโชติธีรธรรม คำพูดที่พวกแกพูดเมื่อกี้ แกคู่ควรกับคำ ว่าตระกูลใหญ่อย่างนั้นเหรอ ฉันว่าพวกแกมันก็แค่พวก โหดเหี้ยมและโลกมากเท่านั้นแหละ” ธฤตญาณกัดฟัน
กรอดแล้วพูดออกมา
เมื่อทุกคนเห็นลักษณะของคนทั้งคู่อย่างชัดเจนก็พากัน ตกตะลึง
“ธฤตญาณ! เป็นมันได้ยังไง มันตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
ไอศูรย์ก็มองธฤตญาณด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมแกถึงยังมีชีวิตอยู่ ตระกูลรัตนชัยนันท์บอกว่าแก ตายแล้ว”
ธฤตญาณส่งเสียงหีในลำคอแล้วพูดว่า “ถ้าฉันตาย ฉัน จะมาเอาชีวิตแกได้ยังไง! ไอศูรย์ สิ่งแรกที่ฉันอยากทำ เมื่อ กลับมาเมืองกรีนโคลคือการฆ่าแก!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ