My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่819



ตอนที่819

คืนนั้นเมื่อปาณีกลับมาถึงบ้านก็ได้เห็นว่าไวยาตย์กับธามนิธิ กลับมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว

ปาณีรีบวิ่งถลาเข้าไปสวมกอดเขาอ้อมกอดนั้นช่างแสนอบอุ่น

ธามนิธิก้มหน้าลงมามองที่หัวเธอก่อนจะพูดพลางหัวเราะ เบาๆ “อะไรกันล่ะเนี่ย? สาวน้อยปาณีของพวกเราเป็นอะไรไป ฮี? ‘

ปาณีเงยหน้าขึ้นมองคางเรียวคมชัดของเขาพลางยิ้มไปส่าย หัวไป: “ไม่ได้เป็นอะไรค่ะก็แค่คิดถึงคุณอาเฉยๆ

ธามนิธิมองดูเธออย่างอารมณ์ดีพร้อมทั้งกอดเธอเอาไว้แน่น

เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “วันนี้เจ้าแมวน้อยจอมตะกละ

อยากกินอะไรล่ะ? เดี๋ยวคุณอาจะพาไปกิน! ”

ในทันใดนั้นจากที่กำลังซึมเศร้าเหงาหงอยปาณีก็กลับมามี ท่าทีสดใสขึ้นอีกครั้งก่อนจะกะกะพูดกับเขา ดีใจจังเลย ฉันเป็นคนไม่เลือกกินกินอะไรก็ได้ทั้งนั้นค่ะขอแค่อร่อยก็พอแล้ วอิอิ! ”

ธามนิธิเอามือมาจิ้มๆที่ปลายจมูกของเธอเบาๆด้วยความ เอ็นดู “ใช่น่ะสิก็เพราะว่าเธอไม่เลือกกินนี่แหละกระเป๋าสตางค์ ของสามีก็เลยค่อยๆแฟบลงๆไปทุกวันนี้ไง! ”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองด้วยความข้องใจก่อนจะจ้องไปที่เขา: “คุณอาทำไมคุณอาพูดอย่างงั้นอ่า? นี่ฉันกินเก่งขนาดนั้น เลยเหรอคะ? ”

ธามนิธิหันไปมองหน้าเธอก่อนจะยิ้มออกมาจากนั้นจึงเดินขึ้น ไปข้างบนบ้าน

ปาณีที่เพิ่งจะถูกกล่าวหาไปเมื่อเริ่มเบนสายตาไปทางไวยา ตย์ที่ยืนไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆก่อนจะอดรนทนไม่ไหวเอ่ยปากถาม เขา: “ไวยาตย์นี้ฉันกินเก่งขนาดนั้นเลยจริงๆเหรอ?

ไวยาตย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ใช่เลยครับถึงขนาดที่ว่ากิน จนตัวเองเข้าโรงพยาบาลได้ นอกจากคุณแล้วผมก็ยังไม่เคยเจอ ใครเป็นแบบนี้นะครับ!

พอนึกไปถึงครั้งก่อนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลปาณีก็รู้สึกอับอาย จนหน้าแดงขึ้นมาทันทีเธอรู้สึกโกรธจึงรีบหันหลังขวับไม่ยอมให้ ไวยาตย์ได้เห็นหน้าที่กำลังแดงระเรื่อของเธอ

เมื่อนึกถึงเรื่องอับอายขายหน้าประชาชนี้ขึ้นมาทำเอาปา อยากจะเอาหน้ามุดแทรกแผ่นดินหนีเสียให้ได้!

ขณะที่ปาณีกำลังรู้สึกแค้นใจในความผิดพลาดของตนเองอยู่ นั้นธามนิธิก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วและเดินออกมา

ทันทีที่ปาณีหันไปมองชายหนุ่มเธอก็ลืมเรื่องที่โดนเขาแขวะไป เมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิงกลายเป็นรอยยิ้มที่ผลิบานอยู่เต็มใบหน้า สวยๆของเธอ : “ที่รักคุณหล่อจังเลย!

หน้าของธามนิธิดูเงื่อนๆไปนิดหน่อยเพราะหางตาของเขาพลันได้เห็นใบหน้าที่แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหวของไวยาตย์ที่ ยืนอยู่ข้างๆเธอ

หลังจากนั้นเขาจึงเบนสายตาไปหาเจ้าตัวร้ายที่เป็นต้นตอของ เรื่องนี้เมื่อได้เห็นแววตาบ้องแบ๊วเป็นประกายของปาณีกำลังมอง มาที่ตัวเองหัวใจของธามนิธิก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีแต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังกระแอมเสียงออกไปว่า “ปาณีสำรวมหน่อยดีมั้ย! ”

ปาณีพยักหน้าหงิกๆเป็นการตอบเขาจากนั้นเธอจึงโอบเอว เขาไว้แล้วเดินไปกับเขาประหนึ่งเหมือนหมีโคอาล่าไม่มีผิด

เป็นภาพที่ไวยาตย์เองก็เห็นจนชินแล้วเขาจึงเดินไปรอพวก เขาอยู่บนรถเงียบๆ จากนั้นต่อมาธามนิธิก็ได้พาเธอไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่

เพิ่งจะเปิดเมื่อไม่นานมานี้เอง

เมื่อได้เห็นตรงประตูทางเข้ามีรถจอดเต็มไปหมดปาณีถึงกับ ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าจากนั้นจึงหันไปถามกับธามนิธิที่ อยู่ข้างๆ “คุณอาคะที่นี่มันใช่ร้านอาหารแน่เหรอคะ? ทำไมฉัน ถึงได้รู้สึกว่ามันคือโชว์รูมรถนำเข้าชัดๆ? ดูมีแต่รถหรูๆเต็มไป หมดเลย! เงินทั้งนั้นเลยนะเนี่ย! 11

ธามนิธิมองดูสายตาอาฆาตมาดร้ายของปาณีด้วยความเอ็นดู ถึงแม้สายตานั้นจะถูกจดจ้องไปที่เหล่าบรรดาหรูที่จอดเรียงรา ยอยู่แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะตัดพ้อออกมา: “รถที่พวกเรานั่งกันอยู่ ตอนนี้ก็เรียกว่ารถหรูนะดูอาการเธอทำอย่างกับว่ารถของฉันไม่ หรูเท่ารถพวกนั้นอย่างนั้นแหละ
ปาณีหันกลับไปมองที่โลโก้รถยนต์ที่สะท้อนแสงระยิบระยับ ต้องตาเธอจากนั้นเธอจึงพยักหน้าเบาๆเป็นการยอมรับไปโดย ปริยาย : “คุณอาพวกเรารีบเข้าไปกันเถอะค่ะฉันหิวแล้ว!

อย่างน้อยๆก็ไม่มีใครหน้าไหนที่จะมาได้ยินปาณีบนหิวก็แล้ว กันคิดมาถึงตรงนี้เขาจึงลืมอาการน้อยใจเมื่อสักครู่ไปจนหมดสิ้น และรีบพาเธอเข้าไปด้านใน

ทันทีที่เข้าไปด้านในด้วยการตกแต่งที่ดูหรูหราฟู่ทำให้ปาณี ถึงกับอุทานออกมาอย่างกับเด็กบ้านนอกเข้ากรุงยังไงยัง งั้น “ว้าวววววแม่เจ้าโว้ยนี่ทำมาจากคริสตัลทั้งนั้นเลยเหรอ เนี่ย? สวยสุดๆไปเลย! ”

แน่นอนอยู่แล้วว่าปาณีต้องร้องอุทานออกมาเบาๆเพราะตอน นี้เธอมากับธามนิธิซึ่งเธอก็ควรจะให้เกียรติเขาด้วย

ธามนิธิจูงเธอไปหัวเราะเบาๆไปพวกเขาพากันเดินไปที่ห้อง อาหารซึ่งไวยาตย์ได้จองไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว

จังหวะที่พวกเขาเดินผ่านห้องอาหารห้องหนึ่งจู่ๆก็มีคนโผล่ ออกมาชนเข้ากับปาณีที่เดิมตามมาทางด้านหลังเข้าอย่างเต็ม แรง

“โอ๊ย! “ปาณีถูกชนเข้าอย่างจังจนเซถลาไปด้านข้างอย่าง ไม่ทันตั้งตัวโชคดีที่คุณอามือไวคว้าเธอเอาไว้ได้ทันไม่อย่างนั้น หัวเธอคงได้โหม่งกำแพงแน่ๆ

จนเมื่อเธอเริ่มตั้งหลักยืนนิ่งๆได้ปาณีก็อยากจะโพล่งปากวีนอ อกไปสักตั้งแต่สุดท้ายเมื่อได้เห็นคนที่วิ่งตามออกมากลายเป็นชยรพก็ทําเอาเธอตะลึงจนถึงกับร้องอุทานออกมา: “ชยรพเธอ มาอยู่นี่ได้ยังไงเนี่ย? ”

ชยรพไม่ตอบเธอแต่กลับมองไปที่เงาร่างที่เพิ่งชนปาณี กระเด็นไปเมื่อสักครู่ซึ่งกำลังยืนพิงประตูอยู่ตรงนั้นจากนั้นเสียง ทุ่มจึงพูดขึ้นมาว่า “โมรีเธออย่าถือสาเลยนะฉันฉัน……

ปาณีเพิ่งได้เห็นว่าคนในชุดสีขาวที่เพิ่งชนเธอไปเมื่อสักครู่นี้ก็ คือโมรีนั่นเอง!

โมรียืนยืดหลังตรงนิ่งเธอไม่แม้แต่จะหันกลับมาเพียงแต่พูด ด้วยเสียงนุ่มลึกเท่านั้น” “ปาณีขอโทษนะ หลังจากนั้นเธอก็รีบวิ่งออกไป 11

ชยรพกำลังจะรีบสาวเท้าตามเธอไปแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาก็ มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องอาหารนั้นและ ตะโกนเสียงดังใส่เขา: “ชยรพกลับมาเดี๋ยวนี้นะ! ”

ชยรพจําใจต้องหันกลับมาเขามองมาที่ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะ พูดโพล่งออกมาอย่างหมดสิ้นหนทาง : “แม่….”

ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสุขุม : “ชยรพเดี๋ยวนี้แกไม่ เชื่อฟังฉันแล้วใช่มั้ยแม่บอกให้แกกลับมานี่แกไม่ได้ที่แม่พูดเห รอ? ”

ชยรพยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงประตู

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นอย่างนั้นเธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ต่ออีกว่า : “ชยรพแกพาผู้หญิงแบบนั้นมาเจอพวกฉันต่อให้แกไม่รู้สึกละอายแก่ใจแต่พวกฉันล่ะอายแทนแกจริงๆ! ดูแกลด้วย หน้าตาฐานะแถมยังเป็นถึงนักเรียนเกียรตินิยมของมหาวิทยาลัย ชยุตทำไมแกถึงไปคบกับผู้หญิงแบบนั้นได้…….

สีหน้าของชยรพดูแย่ลงอย่างเห็นได้ชัดเขาเหลือบไปมองที่ ปาณีที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นก่อนจะพูดเสียงต่ำขึ้นมาว่า : “แม่พอ ได้แล้วครับ!

แต่ทว่าผู้หญิงคนนั้นกลับท่าเป็นเอาหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยิน ที่เขาพูดมิหนำซ้ำยังพูดต่อไปอีก “แกกลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยอย่า ให้ฉันต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง

ปาณีซึ่งได้เห็นสภาพเหตุการณ์แบบนั้นมีหรือที่เธอจะไม่เข้าใจ เธอไม่รีรอที่จะพุ่งไปแทรกในเหตุการณ์นั้นทันที “คุณน้าคะผู้ หญิงที่คุณน้าเพิ่งจะพูดถึงเมื่อสักครู่นี้เป็นเพื่อนของหนูเองค่ะและ เธอก็เป็นนักเรียนเกียรตินิยมของมหาวิทยาลัยชยุตเหมือนกันค่ะ เธอเหมาะสมกับลูกชายของคุณน้ามากเลยค่ะหนูไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคุณน้าถึงรู้สึกอายที่พวกเขาคบกัน!

ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่ค่อยพอใจและถามเธอ ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ: “เธอเป็นใคร? ”

ปาณีตอบอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย : “หนูก็คือรูม เมทของผู้หญิงแบบนั้นที่คุณน้าว่าและเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย ค่ะหนูชอปาณี! ”

หญิงวัยกลางคนกวาดสายตามองปาณีตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ได้ เห็นหญิงสาวที่แต่งตัวธรรมดาๆทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีแบรนด์เนมเลยสักชิ้นมองปาณีด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามก่อนจะหัวเราะ ด้วยเสียงเย้ยหยันออกมา เธอเลยปกป้องเรียกร้อง ความเป็นธรรมให้รูมเมทของอย่างนั้น? รู้จักตั้งใจเล่าเรียนคิดแต่จะผู้ชายที่เป็นเศรษฐีอย่าง ลูกชายของฉันไม่ใครสั่งใครสอนยังไง!

ปาณีรับไม่ได้ท่านนั้นเสียได้แต่ยังไม่ได้ขยับตัวถูกธามดึงตัว กลับมาซะก่อน

ธามนิธิไม่ได้สนใจความโกรธอันหญิงวัยกลางคนสวัสดีครับป๋ามิน

หญิงวัยกลางคนกำลังอยู่ท่าทางไม่พอใจหันขวับกลับมา จึงเห็นธามนิธิที่เพิ่งจะเดินผ่านห้องอาหารนั้นไปเธอนิ่งอึ้ง ไปครู่หนึ่งจากนั้นท่าทางเปลี่ยนอ่อนโยนมาทันทีเธอ ส่งเขาพร้อมกับโพล่งออกมา อ้าวธามเธอมาอยู่ ได้ยังไงเนี่ย? มาทานข้าวเหมือนกัน?

เมื่อเห็นผู้หญิงตรงหน้าดูเหมือนเปลี่ยนทำให้ปาณีรู้สึกโกรธมากอีกเธอพยายามดิ้นรนให้หลุด จากมือคุณดึงเธอเอาไว้

แต่ในธามนิธิยังดึงรั้งเอาไว้ยอมปล่อย

ปาณีค่อยๆออกแรงขยับมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงนั้นก็อดได้ที่จะสังเกตเห็นท่าทางที่สนิทชิดเชื้อของทั้งสองคนก็เลยถาม ออกมาอย่างไม่ลังเล “เธอคนนี้คือ….……

ธามนิธิจูงปาณีมาอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนนั้นพร้อมทั้งพูดพลาง ยิ้มๆ ให้เธอ : “เธอชื่อปาณีครับเป็นว่าที่ภรรยาของผมเอง…ปาณี ท่านนี้คือป้ามินคุณแม่ของชยรพ 11

ในวินาทีนั้นสีหน้าของป้ามันก็ดูเงื่อนๆไปเล็กน้อยแต่ก็ยัง เปรยยิ้มพร้อมกับยื่นมือออกมาหาปาณีและพูดกับเธอว่า “ต้อง อโทษด้วยจริงๆที่เมื่อสักครู่ฉันเข้าใจผิดไปหน่อยปาณีใช่มั้ย? ขอ หนูคงไม่ถือโทษโกรธฉันหรอกใช่ไหม? ฉันกับแม่ของธามนิธินะ เราสนิทกันมากเลย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ