ตอนที่ 591

เมื่อได้ฟังที่เวทัสพูด ยามนิธิก็ไม่ได้ขัดจังหวะเขา

การที่เขาอยากให้หลานชายไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนหนึ่งก็เป็น เพราะความรู้สึกส่วนตัวของเขาเอง หรือบางทีอาจจะไม่ใช่

แต่ความเป็นจริงก็คือ เขาอยากให้เวทีสได้มีโอกาสได้จัดการ กับความรู้สึกของตัวเอง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวเขาทั้งนั้น

หลังจากที่ปาณีได้ฟัง เธอก็พยักหน้าพลางพูดกับเขาว่า ” เป็น เรื่องที่ดีนะคะ ถ้าหากฉันมีโอกาสฉันก็อยากไปต่างประเทศ เหมือนกัน จะได้ไปเรียนรู้อะไรต่างๆมากมาย

แต่มันคงเป็นไปไม่ได้สําหรับตอนนี้ เธอมีอะไรอีกหลายสิ่งที่ ต้องทํา และดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่อยากจะแยกจากธามนิธิด้วย

เวทสเห็นท่าทีของเธอ ที่ไม่เพียงแต่เฉยเมย ใส่เขาเท่านั้น เธอ กลับเห็นดีเห็นงามไปกับพวกเขาด้วย ” เธอคงจะลืมไปแล้วล่ะสิ ว่าเมื่อก่อนเราสองคนเคยตกลงอะไรกันไว้ ? เพราะว่าต่าง ชอบพอซึ่งกันและกัน พวกเราก็เลยจะสมัครเรียน โรงเรียน เดียวกัน แต่ตอนนี้เหมือนเธอจะไม่สนใจเลยสักนิด ”

ปาณีนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เธอรับรู้ได้ถึงความโกรธแค้นในตัวเขา เหมือนดั่งว่าเขากำลังโดนโลกใบนี้ทำร้ายเขายังไงยังงั้น

จากมุมมองของเวทัส การที่ผู้หญิงที่เขาชอบไม่ชื่นชอบในตัว เขา อีกทั้งยังเย็นชาเฉยเมย ใส่เขา แล้วยิ่งมีน้าชายของเขามาราดน้ำมันลงบนกองไฟอีก ไหนจะพ่อแม่ของเขา ที่ตอนนี้ก็ยืนอยู่ ข้างเดียวกับน้าชายของเขาด้วย ยิ่งทำให้เวกัสรู้สึกว่าตัวเองน่า เวทนายิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม ปาณีได้เห็นที่เขาเป็นแบบนี้กลับรู้สึกว่าเขาน่า ขบขัน ” น้าคุณอยากให้คุณไปอยู่เมืองนอก ก็เพราะหวังดีกับคุณ อย่าบอกนะว่าแค่นี้คุณก็ดูไม่ออกนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็ คงจะรู้สึกว่าคุณกำลังทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวคุณ ”

“แล้วคุณมั่นใจเหรอว่า ที่เขาทำน่ะเพราะหวังดีกับผม จริงๆ ? “

” แล้วทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ? ” ไหนๆเขาก็มาถึงที่นี่เพื่อจะให้เธอ พูดกับเขา ถ้าอย่างนั้นปาณีก็จะไม่เกรงใจละเหมือนกัน ” ถ้าน้า ของคุณ ไม่เป็นห่วงเป็นใยคุณ แล้วเมื่อคืนหลังจากที่คุณกลับ ไป น้าของคุณยังไม่ลืมที่จะโทรไปเช็คว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง ถึง บ้านแล้วหรือยัง ถ้าเกิดเป็นคนอื่น ต่อให้คุณตายไปก็คงไม่เกี่ยว อะไรกับพวกเขา คงไม่มีใครมาสนใจคุณหรอก แล้วยิ่งถ้าเป็นฉัน ต้องมาเห็นคุณทำตัวแบบนี้ ไม่รู้จักยอมรับในสิ่งที่คนอื่นหวังดี หยิบยื่นให้ ฉันคงอยากจะตีคุณให้ตาย ”

ขณะที่ธามนิธิกำลังฟังที่ปาณีพูดอยู่นั้น เขามองดูเธอด้วย สายตาที่อ่อนโยน คิดไม่ถึงเลยว่าภรรยาผู้น่ารักของเขาจะเข้าใจ เขาได้ขนาดนี้ …

แต่ ณ จุดนี้ เมื่อมองดูที่เวทัส ซึ่งโดนตามใจจนเสียนิสัยมา โดยตลอด ก็เห็นว่าเขากำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
และก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในมุมมองของเวสเขามองว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่จากคำพูดของปาณี เหมือนเธอกลับมอง ราวกับว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้มีบรรยากาศน่าเศร้า สลดเลยสักนิต

ธามนิยมองดูภรรยาด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาในทันที เวทัสที่ตั้งใจจะแสดงฉากดราม่า คงคิดว่าตัวเองเป็นพระเอก นักรักสินะ

เมื่อได้ยินปา พูดออกมาขนาดนี้ ความรู้สึกในใจก็เลยโพล่ง ออกมา “คุณไม่เคยชอผมเลยสักนิดใช่มั้ย ? ”

ปาณีมองดูเขาก่อนจะตอบไปว่า “ขอโทษนะ ยิ่งฉันเห็นคุณ เป็นแบบนี้ ฉันทำใจให้ชอบคุณไม่ลงหรอกค่ะ

ดื้อรั้น อ่อนโลก ไม่รู้จัก โต ปาณีเกลียดผู้ชายแบบนี้เป็นที่สุด แม้กระทั่งให้เป็นแม่ของผู้ชายแบบนี้ เธอยังไม่คิดอยากจะเป็น เลย

“นี่คุณ ……” คำพูดของปาณี ทำให้เวทสรู้สึกเสียหน้าจน หน้าเพื่อน คิดว่าตัวเองคงบ้าไปแล้วถ้าชอบผู้หญิงคนนี้

ยังไม่ทันที่เวทัสจะโมโหเดือดดาล ธามนิธิก็เอ่ยปากขึ้นมา ขัดจังหวะเอาไว้ซะก่อน : ” ถ้าพูดจบแล้ว นายก็กลับออกไปได้ แล้ว ”

เขาเชื่อมั่นในความคิดของปาณี เขาพอจะดูออกอยู่เหมือนกัน เวทสหันหลังเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปด้วยอารมณ์ที่กำลังเริ่มโมโห ปาณีมองดูเขาเดินคล้อยหลังจากไป ก่อนจะนั่งลงบน โซฟาตามเดิม แล้วทําท่ายักไหล่เบาๆ

เธอเองก็ยังรู้สึกแปลกๆ เวทัลไปเอานิสัยบ้าๆ โรคจิตนี้มาจาก ไหนกัน เห็นชัดๆว่าเขาก็ไม่ได้ชอบเธอมากมาย แต่ก็ยังไม่วาย คอยมาทําให้เธอรำคาญใจอย่างไม่หยุดหย่อน

หญิงสาวทำกระพุ้งแก้มป่องๆ เธออดไม่ได้ที่จะพูดแขวะเรื่อง เวทีส “ผู้ชายอะไร โคตรน่าเบื่อเลย ”

” ก็ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะหย่ากับผม ” จู่ๆธามนิธิก็พูดขึ้นมา

: ” พวกเราจะกลับมาแต่งงานกันอีกครั้งเมื่อไหร่ดี ?

ปาณีไม่เคยรู้เลยว่า ตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าเขาหย่ากับเธอ แล้ว

เขาอยากจะลองดูว่า เมื่อไหร่ที่ปาณีจะเต็มใจกลับมาอยู่เคียง

ข้างเขาอีกครั้ง