My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่ 878 หัวขโมย



ตอนที่ 878 หัวขโมย

ในขณะที่เวทัสกำลังลังเลอยู่นั่นเอง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดัง ขึ้น เขากดรับสายและได้ยินเสียงของชยรพลอยออกมาอย่าง ร้อนลน “เวทัส นี่นายไม่ได้โดนคุณลุงธามนิธิจับได้ใช่ไหม? ฉัน สรรหาวิธีมาตั้งมากมายถึงได้ไล่เขากลับไปได้! จริงๆเลย! ฉัน เหนื่อยจะแย่แล้ว! ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วจริงๆว่าคำว่าพอพูดโกหก ครั้งหนึ่งคือตลอดไปมันเป็นยังไง!

“ขอบใจนายมาก ชยรพ!”เวทัสไม่ได้เอ่ยคำอื่นใดออกมา นอกจากค่านี้

ส่วนทางด้านซยรพนั้นกลับชะงักไป ก่อนจะเอ่ยหัวเราะ

“ขอบใจอะไรกัน? พวกเราเป็นพี่เป็นน้องกันนะ! แม้ไม่ใช่สาย

เลือดก็เหมือนสายเลือดเดียวกัน!”

เวทัส ”

ชยรพรออยู่สักครู่ ก่อนจะเอ่ยถามเขาอย่างลังเล “เวทัส นี่นาย ยังไม่ลืมปาณีใช่ไหม?”

ครั้งนี้ เวทัสใช่เวลาตอบกลับเขาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น “ใช่! ฉันไม่เคยลืมเธอได้เลย!

ครั้งนี้กลับเป็นตาของชยรพที่ตาค้างไป ”

ไม่ทันรอให้ชยรพได้ตอบกลับ สายก็ถูกตัดลงไป
ชยรพยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างมีอารมณ์ “ความรักช่างบาดลึกทำร้ายผู้คนจริงๆ! เวทสเป็นแบบนี้ ฉันเป็น แบบนี้! ก็เพราะไม่มีใครที่มีความรักที่สมบูรณ์แบบได้!”

ส่วนเวทัสที่ยังคงยืนอยู่ชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์ก็ยังคงละล้า ละลังว่าตนสมควรที่จะขึ้นไปดีหรือไม่ เขากำลังกลัว กลัวว่าจะ เห็นสายตาอันเกลียดชังจากปาณี ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงต้องเจ็บ ลึกเข้าไปถึงกระดูกแน่

แบบนั้น เขาจึงเอาแต่ยืนอยู่ข้างล่าง และอยู่ตรงนั้นเป็นเวลา นานเกือบชั่วคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ส่องแสง วันนี้นภันต์จะต้องเข้าร่วม การแข่งขัน ดังนั้นจึงต้องตื่นแต่เช้าตรู่ เขามองดูพี่สาวที่ยังคง กอดชักโครกเอาไว้ เขาเป็นกังวลอย่างยิ่ง “หรือผมจะอยู่ที่นี่ดีวัน นี้ เห็นพี่อาเจียนแบบนี้ ผมอดเป็นห่วงไม่ได้?

ปาณีที่ลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก ส่ายหน้าปฏิเสธและ เอ่ยอย่างหนักแน่น “ไม่! วันนี้เป็นวันแรกที่นายลงแข่งอย่างมือ อาชีพ ถ้าหากนายไม่ไป ความพยายามที่ผ่านมาทั้งหมดของนาย ไม่ใช่ว่าสูญเปล่าหรือหรือ? ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ แค่คลื่นไส้นิด หน่อยเท่านั้น! นภันต์ นายไปเถอะ ถ้าไปสายจะไม่ดี!”

“แต่ พี่ พี่…” นภันต์ยังคงเป็นห่วง

สุดท้าย เขาก็ถูกพี่สาวผลักออกมา “ถ้าวันนี้นายไม่กลับมา พร้อมกับชัยชนะ! ฉันจะไม่นับถือว่านายเป็นน้องชายของฉัน!”

เขาส่ายหัวอย่างอ่อนใจ ก่อนจะตะโกนย้ำเตือนปาณี “ถ้างั้นผมไปก่อนนะพี่! พี่อยู่บ้านคนเดียวระมัดระวังด้วย ถ้ามีอะไรฝ โทรหาผม เข้าใจไหม?”

ด้านในประตูมีเสียงดังออกมา “รู้แล้ว! สายแล้วนะ รีบไป!”

ไม่นานนัก ดันหลังประตูก็ไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ ปาณีพิง ผนังประตูเอาไว้ ก่อนจะรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา เธอรีบเอามือปิดปาก และรีบเดินไปยังห้องน้ำ “แหวะ…” และอาเจียนออกมาอีกครั้ง ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำความสะอาดตัวเอง ก็รีบลุกขึ้นมาและวิ่ง ไปยังห้องครัว

เธอเทน้ำให้กับตัวเองแก้วหนึ่งและบังคับให้ตัวเองดื่มลงไป ค วาทรู้สึกคลื่นไส้เหล่านั้นคล้ายว่าจะจางหายไปเล็กน้อย เธอยิ้ม อย่างขมขื่นและลุบลงไปยังหน้าท้องที่เรียบแบนของตัวเอง “เจ้า เด็กน้อย รู้ไหมว่าทําแบบนี้แม่ลำบากนะ? อ้วกจนฉันกินอะไรไม่ ได้แล้ว ตอนนี้อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ ไปดูในตู้เย็นดีกว่า?”

ดังนั้นเธอจึงค่อยๆลุกยืนขึ้นก่อนจะเดินไปยังตู้เย็นในห้องครัว

“ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ตัวฉัน แต่จะต้องคิดถึงสุขภาพของเด็กในท้อง ด้วย! ฉันไปร้านค้าซื้อผักผลไม้มาสักหน่อยดีกว่า!”

ปาณีเดินไปด้านนอกประตู พอออกไปหน้าประตู ก็รู้สึกได้ถึง สายลมเย็นที่ปะทะเข้ามา ทำให้เธออดที่จะจามขึ้นมาเสียไม่ได้ กุญแจห้องในมือของเธอตกลงไปที่พื้น เธอจึงพยายามใช้แรง หยิบมันขึ้นมา แต่ไม่รู้ว่าทำไม ลมกลับพัดกุญแจปลิวออกไปอีก ด้านหนึ่ง ทำให้เธอต้องเดินตามไปอย่างช้าๆและก้มตัวจะเก็บมัน อีกครั้ง
ทันใดนั้น รองเท้าผ้าใบคู่หนึ่งก็ปรากฏในสายตาของเธอและ ช่วยเธอเก็บกุญแจขึ้นมา ปาณีเอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา มอง “ขอบคุณค่ะ!”

แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนๆนั้น จู่ๆเธอก็หยุดลงและ ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่งม

เวทสไม่คิดว่าพวกเขาจะได้เจอกันอีกครั้งในสภาพแบบนี้ เขา มองดู ใบหน้าของปาณี ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปด้านล่างและ หยุดลงบนหน้าท้องที่ยังเรียบแบนของเธออยู่เนิ่นนาน

ปฏิกิริยาแรกของเธอที่เอามือขึ้นมาปกป้องหน้าท้องอย่าง ทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น เวทัส! นายกลับมาได้ยังไง? คุณน้า ของนายรู้หรือเปล่า?”

เวทสกลับไม่เอ่ยอะไรและเอาแต่จ้องดูเธอ

อาจเป็นเพราะสายตาที่ร้อนแรงของเขา หรือเหตุผลอะไรสัก อย่าง จู่ๆปาณีก็รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “ฉันมีธุระ ไปก่อนนะ!”

พูดจบ แขนของเธอก็ถูกเขายึดเอาไว้จนเธอร้องเสียงหลงขึ้น มาและเงยหน้ามองเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเวทัสเข้าให้ “เธอม ชีวิตแบบนี้หรือไง? เธอเลือกคุณน้า แต่ตอนนี้เขากลับไม่ต้องการ เธอแล้ว นี่คือสิ่งที่เธอต้องการหรือไง?”

ปาณีสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนจะสบัดเขาออกอย่างแรง และเอ่ย ด้วยใบหน้าเย็นชา “เป็นเรื่องของฉัน!
พูดจบ ก็เดินไปทางประตูเล็ก แต่เวกัสกลับยังไม่ยอมปล่อย เธอไป และดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ไม่ว่าปาณีจะดิ้นรนมาก แค่ไหนก็ไม่ปล่อยไป และใช้กำลังกอดเธอเอาไว้ เขาเอ่ยเสียง “ปาณี ฉันรักเธอ! ฉันยังรักเธออยู่! เธออย่าเป็นแบบนี้เลยนะ ในเมื่อเธอหย่ากับคุณอาแล้ว พวกเราก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ อย่าเปิดเผย! ฉันจะดูแลเธออย่างดี! ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอีก!”

ปาณีดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเขาและเวกัสยังคงไม่ยอม ปล่อยเธอไป

ทั้งคู่กอดกันแน่น ในสายตาของคนนอกแล้วออกจะดูแปลก ประหลาดเล็กน้อย

ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงสังเกตว่าปาณีไม่ดิ้นรนอีกต่อไป เวทัส

ยิ้มและเอ่ยกระซิบเสียงเบาข้างหูเธอ “เธอออกมาข้างนอกจะไป

ไหน? ฉันไปกับเธอ?”

ปาณีเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ไปร้านค้า ตอนนี้นายปล่อย ฉันได้แล้วยัง!? ถึงแม้จะไม่อยาก แต่เวกัสก็ค่อยๆปล่อยตัวเธอ ออก ชั่วขณะที่ปาณีออกไปจากอ้อมแขนของเขา ทันใดนั้นเขาก็ รู้สึกว่างเปล่าขึ้นมาในหัวใจ

เขาเอ่ยคำราม “เธอมันยัยหัวขโมย!

คำพูดที่จู่ๆก็เอ่ยขึ้นมา ทำให้ปากงุนงงอย่างยิ่ง เธอหันมา

ถามเขา “อะไรนะ?”

เวทีสมองดูท่าทีซื่อบื้อของเธอแล้วหัวเราะ ก่อนจะเอ่ย “ฉัน บอกว่าเธอคือหัวขโมย นั่นเพราะเธอขโมยหัวใจของฉันไปอย่างไม่รู้ตัว…..”

คําพูดนี้ออกมา ทําให้เขาเห็นเธอหน้าแดงขึ้นมาทั้งหน้าได้ อย่างสำเร็จ ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างพอใจ “ปาณี! ฉันรัก เธอ!”

ปาณีที่ถูกทำให้ตกใจ ปฏิกิริยาแรกคือหันซ้ายหันขวา เนื่องจากกลัวว่าจะมีใครมาเห็น พอเห็นว่าไม่มีใคร เธอจึงเอ่ย เขาเบาๆ “นายหุบปากเดี๋ยวนี้!”

หลังจากนั้นก็หันหลังและเดินออกจากประตูเล็กไป

เวทัสนิ่งไป หลังจากนั้นก็วิ่งตามเธอไป “เธอจะไปซื้อของ ที่ไหน? เธอผอมเกินไปแล้ว กอดแล้วไม่เต็มที่เลยสักนิด!”

ปาณี “…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ