My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่ 865 ผลรายงานผิดพลาด



ตอนที่ 865 ผลรายงานผิดพลาด

พูดจบ ฐิติพรก็หยิบรูปภาพสวยงามขึ้นมา ทั้งหมดล้วนเป็นข้าว ของเครื่องใช้สําหรับทารก “ปาณี รีบมาดูเร็ว บนนี้มีของที่ชอบ ไหม!พวกเราซื้อมาให้หมด! แบบนี้ถึงจะได้เตรียมตัวให้พร้อม สําหรับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะมา….

จู่ๆปาณีก็รู้สึกว่าหน้าผากของตนดำมืดขึ้นมา เธอเงยหน้ามา ขอความช่วยเหลือจากคุณอาอย่างเสียไม่ได้

แต่ยังไม่ทันที่ธามนิธิจะได้เอ่ยปากกลับถูกฐิติพรห้ามไว้เสีย ก่อน “พวกผู้ชายอย่างลูก ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ อย่ามาเกะกะ วุ่นวายแถวนี้ ไป แม่จะคุยกับปาณี”

เจอเข้าแบบนี้ เขาจึงทำได้แค่สงสายตาให้กำลังใจไปยังปาณี ก่อนจะหมุนตัวและเดินเข้าห้องนอนไป

ปาณีได้แต่บ่นเขาในใจ “คุณอา ทำไมเลือดเย็นแบบนี้ ปล่อย ให้ฉันอยู่คนเดียว?”

ฐิติพรเอ่ยเรียกเธออยู่หลายครั้ง “ปาณี ชุดนี้เป็นยังไง? พวกนี้ เป็นร้านที่มุงซื้อ ให้หลานของเธอ ของพวกนี้รับประกัน คุณภาพ …..หรือว่า พวกเราจะลองดูร้า ด้วยดี ในเมื่อเป็นรุ่น สามของตระกูลเรา จะใช้ของไม่ดีไม่ได้!

มองดูแม่ที่พูดเองตอบเอง ปาณีเอ่ยขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “แม่คะ ตอนนี้พูดถึงเรื่องพวกนี้จะไม่เร็วไปหน่อยหรือคะ? พูดไปแล้ว ตอนนี้เรื่องที่หนูท้องยังไม่ได้ยืนยันแน่ชัด พวกเรารอจนผล ทดสอบออกมาแล้วค่อยมาคุยกันก็ยังไม่สายนะคะ?”

ฐิติพรกลับตบที่หน้าอกตัวเองและเอ่ยอย่างมั่นใจ “ไม่ผิด พรากแน่ ประจําเดือนเดือนที่แล้วของหนูยังไม่มา ฉันเดาว่าต้อง แน่นอนแล้วแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่!”

จากนั้นจึงดึงมือของปาณีเอาไว้และเอ่ยอย่างตื้นตัน “หนูรู้ไหม ว่าแม่ไม่ได้อุ้มเด็กเล็กๆมานานแค่ไหนแล้ว? เกือบยี่สิบปีก่อน ตอนที่ธามนิธิยังเด็ก ตอนนี้มานั่งคิด ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว แม่ คิดถึงตอนที่พวกเขาพี่น้องยังเล็กๆอยู่จริงๆ ”

ปาณีเงยหน้าขึ้น และมองดูฐิติพรที่ดวงตาฉาบไปด้วยน้ำ ใสๆ ทันใดนั้นเธอจึงเอ่ยเสียงเบา “แม่….

ฐิติพรหัวเราะและปาดน้ำตา ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “จริงๆเลยน้า

พอคิดถึงเด็กเล็กๆนุ่มนิ่มขึ้นมาก….ปาณี หนูอย่าหัวเราะเยาะแม่

นะ..”

ปาณีหัวเราะและเอ่ย “จะเป็นไปได้ยังไงคะ? ที่แม่เป็นแบบนี้ก็ เพราะชอบเด็กๆ! พูดไปแล้ว หนูชอบคนที่มีความรู้สึกแบบแม่ มากจริงๆนะคะ”

ฐิติพรหัวเราะเสียงชอบใจก่อนจะดึงมือเธอเข้ามาและจับไว้ไม่ ปล่อย “ปาณี แม่ชอบหนูมากจริงๆ รักหนูเหมือนลูกคนหนึ่ง ตอนนี้สิ่งที่แม่หวังไว้มากที่สุด ก็คือการที่ได้อุ้มลูกของหนูกับธา มนิธิ แค่นี้แม่ก็รู้สึกไม่เสียดายอะไรแล้ว!”

ปาณีรีบเอ่ย “แม่ อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ หนูกับธามนิธิตัดสินใจแล้วว่าจะมีลูก เพราะฉะนั้นแม่ต้องดูแลตัวเองดีๆ ลูกของเรา กำลังรอให้คุณย่ามาป้อนขนมอยู่นะคะ”

คำพูดนี้ทำให้ฐิติพรที่ยังคงมีความเศร้าใจอยู่บ้างกลับมา อารมณ์ดีได้สำเร็จ “แน่นอน แน่นอน ฆ่าคนนี้จะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับ หลานของย่าแน่นอน…

รอจนกระทั่งปาณีขึ้นไปชั่นบนก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว มองดูคุณอาที่เปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วเรียบร้อยกำลังนอนเล่นไอ แพดอยู่บนเตียง เธอเอ่ยอย่างอารมณ์เสียและคาดโทษเขา “คุณ อา คุณมันคนไร้น้ำใจ ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียว รู้ไว้ด้วยว่าหลานที่ แม่อยากอุ้ม ฉันใช่ว่าจะทำออกมาได้คนเดียวสักหน่อย!

ธามนิธิกวาดตามองเธอและไม่ได้ส่งเสียงแย้ง

ปาณีจึงบ่นต่อไป บ่นจบก็เข้าไปอาบน้ำ จากนั้นจึงเดินไปยัง เตียงพร้อมๆกับเช็ดผมที่ยังไม่แห้งบนศรีษะไปด้วย

ในขณะนั้นเอง พอเห็นปาณีขึ้นมาบนเตียง ธามนิธิกวาง คอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะมุดเข้าไปในเตียงด้วยเช่นกัน จากนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องของปาณีดังขึ้น “คุณอา ทำอะไรคะเนี่ย? มือ มือ….

“คุณอา เท้ากำลังทำอะไรหน่ะ?”

“คุณอา จักจี้….จักจี้จริงๆนะคะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

พอเถอะค่ะ?
สุดท้าย ปาณีถูกจบพลิกตัวไปมาจนจวนจะรุ่งสาง เธอที่หมด เกี๊ยวหมดแรง จําแทบไม่ว่าตนเองคุยอะไรกับคุณอาไปก่อนที่จะ หลับ

“คุณอา ทำไมอยู่ดีๆถึงได้กระตือรือร้นขึ้นมาขนาดนี้คะ?”ปาณี กลั้นลมหายใจไว้ และเอ่ยถามเสียงเบาหวิว

ธามนิธิค่อยๆลูบผมที่ยังชื้นของเธอและเอ่ยเสียงทุ้ม “ฉัน พยายามทําตามความปรารถนาของแม่เป็นจริง ปาณี เรามามีลูก กันเถอะ!!

หลังจากนั้นปาณีก็จำได้ไม่แน่ชัดว่าตนตอบรับไปหรือไม่ และ ถูกเขาโอบอุ้มเข้าสู่คลื่นแห่งความรักอีกรอบ อย่างไม่สามารถ หลุดพ้นออกไปได้

ดังนั้น ในเช้าวันถัดมา บ้านวิสิทธิ์เวชจึงเห็นภาพปาณีกำลังวิ่ง ออกจากบ้านไปอย่างรีบร้อนเพราะใกล้จะสายแล้ววนมาอีกครั้ง

ครั้งนี้ ปาณีรู้สึกได้ว่าอาจารยฝ้ายนั้นมีความผิดปกติออกไป จากเดิม หากเป็นเมื่อก่อนเวลาเธอมาเรียนสาย เธอมักจะต้องถูก เขาสั่งสอนอย่างโหดร้ายอยู่สักรอบ

แต่วันนี้เธอมาเข้าห้องเรียนพร้อมๆกับเสียงระฆังที่ดังขึ้น แต่ อาจารยฝ้ายกลับทําเพียงแค่เหลือบมองเธอก่อนจะเอ่ยกับเธอ อย่างยิ้มๆ “ปาณี มาแล้วหรือ? รีบเข้ามามัวแต่ยืนตะลึงทำไม?”

ฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปหาหลินเหว่ยผู้ฟังอย่างถี่ถ้วนแล้วถาม ว่า “คุณหลินมีอะไรผิดปกติในวันนี้ฉันจะคิดว่าเธอมองมาที่ฉัน แปลก ๆ ได้อย่างไร?
หลังจากนั้นเธอจึงเดินไปหาโมรีที่กำลังโบกมือให้อยู่อย่าง มึนงงและนั่งลงไป อาจารยฝ้ายยังหันมามองเธออย่างเป็นพิเศษ อีกรอบหนึ่ง มองเห็นว่าเธอพร้อมแล้วจึงเอ่ย “นักเรียน วันนี้ หัวข้อที่เราจะเรียนคือ…….

ปาณีฟังไปสักพัก ก่อนจะไปด้านข้างและหันไปถามโมรีที่กำลัง นั่งฟังอย่างจริงจัง “วันนี้อาจารย์อาจารยฝ้ายเป็นอะไร? ทำไมฉัน ถึงรู้สึกว่าเธอมองฉันอย่างแปลกๆ

โมรีแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาและเอ่ยถามเสียงเบา “นี่เธอ ไม่รู้หรอกหรือ ว่าเธอดังทั่วมหาลัยอีกแล้ว!”

พูดจบก็เปิดมือถือและเปิดหน้าเพจให้ปาณีดู “เธอดูเอาเอง! ยินดีด้วย เพื่อนปาณี เธอกลายเป็นดาวเด่นของมหาลัยชยุตไป แล้ว!”

ปาณีรับมือถือมาด้วยความสงสัยและพูดพึมพำ “เรื่องมันใหญ่ โตขนาดนั้นเลยหรือ? ก็แค่คุณอากับแม่มาที่มหาลัยก็เท่านั้น? ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นสักหน่อย

แต่พอเปิดดูหัวข้อข่าว ปาณีก็อยู่ไม่สุขอีกต่อไป “อะไร “แม่ สามีโกรธแทนเธอ! สามีประธานบริษัท คอยไปรับไปส่ง! ทำเอา พวกเราได้แต่คิด! ว่าที่แท้ฉันทำอะไรลงไป พวกเขาถึงได้ใจร้าย ต่อฉันนัก”

ยิ่งดูก็ยิ่งโมโห โมรีที่นั่งอยู่ด้านข้างมองเธออย่างเห็นอก เห็นใจ “ปาณี เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

จู่ๆปาณีก็เอ่ยขึ้นมาเสียงดัง “จะไม่เป็นไรได้ยังไง? พวกเขาใจร้ายไปแล้ว ที่ผ่านมาฉันไม่เคยแม้แต่จะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม สักกะตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกระเป๋าแพงๆเลยด้วยซ้ำ!

ทันใดนั้น ห้องเรียนทั้งชั้นรวมถึงอาจารยฝ้าย ก็หันมามองดู เธอเป็นสายตาเดียวกัน

โมรีรีบดึงเธอเอาไว้ และเอ่ยเตือนเสียงเบา “ปาณี ตอนนี้ยัง อยู่ในห้องเรียนนะ!”

ปาณีหัวเราะอย่างเก้อเขิน และนั่งลงมาอย่างซื่อสัตย์ แม้ว่า เธอจะไม่พอใจที่เธอขัดจังหวะการเรียน แต่เธอก็พูดว่า “โอเคมา เรียนต่อ…

ปาณีระงับความรู้สึกลงและนั่งคิดไปถึงข่าวที่ไม่เป็นความจริง เหล่านั้น ในใจรู้สึกร้อนรนดั่งไฟลุก โดยเฉพาะหัวข้อข่าวที่เขียน ราวกับเธอเป็นพวกผู้หญิงบูชาเงิน ทำให้เธอรู้สึกเสียใจอย่าง มาก

ทุกอย่างที่เธอมีล้วนเป็นสิ่งที่เธอหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของ ตัวเอง ยอกจากชุดราตรีที่คุณอามอบให้เธอ เธอไม่เคยขอร้อง ของแบรนด์เนมอย่างอื่นจากคุณอาเลยสักชุด

แต่ในรายงานข่าว กลับใส่ตัวแบรนด์เนมตัวPลงบนเสื้อของ เธอ รวมถึงกระเป๋าที่เธอใช้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นกระเป๋าตัวที่ราคา เป็นหมื่นเป็นแสนเข้ามาแทน แถมยังบอกอีกว่าทุกสิ่งที่เธอได้มา ล้วนเป็นเพราะบ้านวิสิทธิ์เวช!

โมรีมองดูปาณีอย่างเห็นใจ นึกถึงตนเองที่ครอบครัวของชย รพก็ไม่ยอมรับเช่นกันแล้วรู้สึกเข้าอกเข้าใจความรู้สึกเสียใจของปาณี

เธอยื่นมือออกไปและกุมมือของปาณไว้อย่างให้กำลังใจ ปาณีนิ่งไป ก่อนจะพยายามหัวเราะออกมาและเอ่ยเสียงเบา “ฉันไม่เป็นไร”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ