ตอนที่888กลัดกลุ้ม
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ? ทำไมแกทำท่าอย่างนั้น ? ” คุณแม่พูด เสียงเข้ม
ธามนิธิค่อยๆเรียกสติตัวเองกลับมา จากนั้นจึงละล่ำละลักพูด กับคุณแม่ ” ปาณีอาเจียนอีกแล้วครับ อาเจียนไม่หยุดมาพัก ใหญ่แล้วครับ ผมกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรก็เลยอยากให้แม่ไปดู เธอหน่อย อย่างน้อยแม่ก็มีประสบการณ์ !”
คุณแม่มองดูลูกชายอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพูดเชิงตำหนิเขาไปว่า “เจ้าทีมเอ๊ย ! นั่นมันอาการแพ้ท้อง จะไปห้ามไม่ให้แพ้ท้องนะ มันไม่ได้หรอก ! ดูแกส ความสุขุมหนักแน่นสักนิดยังไม่มี เลย ! ”
ถึงแม้ปากจะพูดไปแบบนั้น แต่คุณแม่ก็ยังขึ้นไปดูปาณีข้างบน อยู่ดี
ปาณียังคงเกาะขอบซักโครก ทำเสียงโอ้กอ้ากอย่างไม่หยุด หย่อน ขนาดคุณแม่เดินเข้ามาเธอก็ยังไม่สังเกตเลย ได้แต่ทำท่า พะอืดพะอมนั่งคอพับคออ่อนร้องโอ้กอ้ากอยู่ตรงนั้น
” ปาณี ! รู้สึกแย่มากเลยใช่มั้ยลูก ? นี่แหละคือสิ่งที่ลูกผู้ หญิงอย่างเราต้องทนทุกข์ทรมาน ! ไอ้อาการแพ้ท้องเนี่ย ไม่มี ยาวิเศษที่ไหนจะมารักษาให้หายได้หรอกนะ เราก็ต้องพึ่งตัวเอง คอยประคับประคองดูแลตัวเองดีๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ ท้องให้ดีขึ้นได้ ! ” คุณแม่พูดพลางลูบหัวปาณีด้วยความเอ็น 11ดูและห่วงใย
ธามนิธิที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ่งแสดงสีหน้ากังวลใจอย่างเห็นได้ชัด ” แม่ครับ ไม่มีวิธีไหนที่จะจัดการได้เลยเหรอครับ ? ”
ธามนิธิพูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายหาหมอ ชลิต แต่ปลายทางดูเหมือนจะกำลังยุ่งเลยไม่ได้รับสาย ธามนิธิ โยนมือถือลงไปบนที่นอนอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ” ชลิตไม่ รับสายโทรศัพท์ ! ปัดโธ่เอ๊ย ! ”
อาการร้อนรนของธามนิธิทำให้คุณแม่รู้สึกชื่นใจและโล่งใจ เป็นที่สุด เธอหันไปหาปาณีก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนนุ่ม ” ปาณี ดูสิว่าธามนิธิเค้าร้อนใจแค่ไหน ! เขาเป็นห่วงเธอมากจริงๆ นะ ! ”
ปาณีอยากจะยิ้มให้คุณแม่ ทว่าอาการคลื่นไส้มันมาอีกแล้ว หญิงสาวรีบคว้าขอบชักโครกแล้วก็ ” โอ๊กกก ! อ้วกกก ” สุดท้ายก็อาเจียนออกมาอีก
ปาณีอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง ซึ่งดูๆแล้วเหมือนจะ มีแต่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทั้งนั้นที่เธออ้วกออกมา ! ปาณี หมดเรี่ยวหมดแรงจนลุกแทบไม่ไหว
ธามนิธิยืนกังวลใจเงียบๆอยู่ข้างๆเธอ ได้เห็นปาณีเป็นหนัก ขนาดนี้ ยิ่งทำให้ธามนิธิรู้สึกละอายแก่ใจยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เพราะในช่วงเวลาที่เธอแย่เขากลับทอดทิ้งเธอ ไม่ยอมอยู่ดูแล เอาใจใส่เธอ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อย่าง น้อยๆเขาก็ควรอยู่เคียงข้างคอยเป็นกำลังใจ และร่วมฟันฝ่าช่วงเวลาด้วย
จนในที่สุด ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของแม่ ปาณีจึงยอมให้ ธามนิธิอุ้มกลับไปนอนพักเตียง น้าล่ากุลีกุจอ เธอถ้วยหนึ่ง แม้ว่าไม่อยากสักเท่าไหร่ เพื่อในท้องเลยจ่าฝืนกิน
แต่กินกินมา สุดท้ายกินเกลี้ยงจนเห็นถ้วยเลยทีเดียว
ธามมองปาณีด้วยความดีใจ แม่ แสดงอาการแพ้ท้องของเธอ หายแล้วใช่มั้ย ครับ ?
หลังจากพูดจบ ธามหันไปคว้าของปามากุมไว้สงสัยจริงถ้าเธอยังอ้วกแบบอยู่ล่ะก็ ฉันจะต้องอ้วก ตามเธอแน่เลย ! เลยว่าคนท้องต้องทุกข์ทรมาน………ปาณี ลำบากเธอแย่
ปาณีรู้สึกซึ้งตื้นตันเมื่อได้ยินที่เขาพูดแบบนั้น เพียง ผู้ชายส่วนน้อยเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงแบบขนาดผู้ชาย ธรรมดาทั่วไปยังได้ยาก แล้วนับพร้อมอย่างอา ที่มัวมาเสียเวลาใส่ใจกับเรื่องหยุมหยิม ของผู้หญิงแบบนี้
ผู้ชายมักจะกันผู้หญิงเกิดเพื่อตั้งท้องให้กำเนิดลูก ผู้หญิงคนอื่นเขาก็อ้วกกันทั้งนั้น แล้วเธอวิเศษวิโสมาจากไหน ถึงต้องให้มานั่งประคบประหงมเหมือนหิน ?
แต่ความรู้สึกของผู้หญิงนั้นแสนละเอียดอ่อน โดยเฉพาะช่วง เวลาที่พิเศษแบบนี้ด้วยแล้ว สิ่งที่พวกเธอคาดหวัง คงหนีไม่พ้น ความห่วงใยและการเอาใจใส่ดูแลจากสามีผู้เป็นที่รัก ที่คอยอยู่ เคียงข้างเพื่อให้กำลังใจพวกเธอ !
คุณอานี่แหละที่เป็นผู้ชายประเภทนั้น เมื่ออยู่ข้างนอก เขาก็คือ ประธานกรรมการผู้เพียบพร้อม อีกทั้งยังเคยเป็นนายทหารระดับ หัวกะทิของกองทัพ! และยังเป็นทายาทของตระกูลนายทหาร ระดับสูงอีกด้วย !
แต่ท่ามกลางชีวิตดีๆที่เพอร์เฟกต์เช่นนั้น กลับไม่ได้ทำให้คุณ อากลายเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว แต่ในทางกลับกัน เขากลับคอย เทคแคร์เอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี จนปาณีต้องบ่นให้เขาว่าชักจะ ตามใจเธอมากเกินไป จนเธอเริ่มเสียนิสัยแล้ว !
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ปาณียังคงมีอาการแพ้ท้องอย่างไม่ หยุดหย่อน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่เท่าช่วงก่อนๆ เพราะว่าตอนนี้มีคุณ อาคอยอยู่เคียงข้างเธอ เรียกได้ว่าคอยดูแลเธอตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพักเลยก็ว่าได้ !
แต่จะมีที่โอเวอร์มากๆอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นปาณีอาเจียนหนัก เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ธามนิธิจึงขอให้คุณแม่ของเขา มาช่วยดูแลปาณีให้อยู่พักใหญ่ ส่วนตัวเขาเองกลับวิ่งรถไปหา ชลิตถึงโรงพยาบาล แล้วลากตัวหมอชลิตที่กำลังตรวจคนไข้อยู่ ให้มาที่บ้านวิสิทธิ์เวช !
แต่ท้ายที่สุด หลังจากที่ชลิตวินิจฉัยอาการดูแล้ว ก็ถึงกับหมดคำพูดเลยทีเดียว ” คุณชายธามนิธิครับ ! มันก็แค่อาการแพ้ ท้องธรรมดาๆก็เท่านั้นเอง คุณจะวิตกกังวลอะไรขนาดนั้น ? แล้ วสุขภาพของปาณีที่สมบูรณ์แข็งแรงดี ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น ! นี่คุณลากผมมาเพราะอาการแพ้ท้องธรรมดา ธรรมดา แบบนี้น่ะเหรอ ? ”
หลังจากที่ได้ยินจากปากหมอว่าปาณีไม่เป็นอะไร ธามนิธิก็เริ่ม บ่นพึมพำ ” ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของ นาย มันได้มายังไงกันแน่ ! ปาณีอาเจียนออกจะหนักขนาดนั้น นายเป็นหมอแต่กลับจัดการอะไรไม่ได้เลย หมอเถื่อนชัดๆ ! ”
ขณะที่ชลิตกำลังถูกถามนิธิเย้ยหยันจนเขาเริ่มจะมีน้ำโห ใน ที่สุดก็ได้คุณแม่ของธามนิธิขี่ม้าขาวมาช่วยเขาไว้ โดยร้องเรียก ให้ชลิตออกไปหา
ขณะที่ใครบางคนยังคงตามติด คอยดูแลปาณีจนไม่ได้พักได้
ผ่อน !
เช้าวันนั้น ปาณีกินข้าวต้มมื้อเช้าเข้าไปนิดหน่อยและก็ไม่ อาเจียนออกมาอีก ซึ่งนั่นทำให้ใบหน้าของธามนิธิดูจะลดความ ตึงเครียดลงไปได้บ้างแล้ว ปาณีจึงพยายามพูดโน้มน้าวให้เขา กลับไปทำงานที่บริษัท
” คุณอา ไม่เข้าไปดูบริษัทหน่อยเหรอคะ หลายวันมานี้ไม่ได้ เข้าไปที่บริษัทถ้าหากมีเรื่องที่ต้องให้คุณอาออกหน้า จะทำยังไง คะ ? ไวยาตย์โทรหาฉันตั้งหลายครั้งแล้ว ถือว่าช่วยฉันหน่อย ได้ไหมคะ อย่าให้ไวยาตย์ตามมารังควาญฉันได้ไหมคะคุณอา ? ” ปาณีพยายามโน้มน้าวหลอกให้เขาไปที่บริษัท
จนท้ายที่สุด ปาณีก็ต้องงัดไม้ตายออกมาขู่ธามนิธิ ” ถ้าหาก คุณยังไม่ไปล่ะก็ เดี๋ยวฉันจะหนีออกจากบ้าน
ได้ยินคำขู่ที่ร้ายแรงเช่นนี้ ธามนิธิถึงจะยอมกลับเข้าไปที่ บริษัท ถึงแม้จะไม่เต็มใจนักก็ตาม
หลายวันมานี้ ปาณีถูกคุมเข้มจนแทบจะเหมือนนักโทษไม่มีผิด ทันทีที่เห็นเขาเดินออกไปจากห้องนอน เธอก็ส่งเสียงไชโยโห่ร้อง ด้วยความดีใจ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะใครบางคนๆนั้น เป็นกังวล จนถึงขั้นวิตกจริตสุดๆเลยก็ว่าได้ ! และเพราะเหตุนี้เอง ที่ทำให้ ตลอดหลายวันมานี้เธอต้องนอนหง่าวอยู่แต่ในห้องนอน จะพูด ให้โอเว่อร์ นอีกหน่อยก็คือ ไม่แม้แต่จะได้ลุกจากเตียง!
เมื่อนึกอยากจะลุกจากเตียง ก็ต้องโดนคุณอาปฏิเสธเสียงเข้ม ปาณีเลยจนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยดื้อดึง กับเขา แต่คุณอาเขามีอาวุธลับ ซึ่งก็คือคุณแม่ของเขานั่นเอง
เพราะเมื่อใดก็ตามที่เธอรู้สึกหงุดหงิดใส่คุณอาแล้วก็เริ่มแผ ลงฤทธิ์ใส่เขา คุณอาถึงกับยอมบากหน้าเดินลงไปชั้นล่าง เพื่อไป ขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ของเขา และเชิญท่านให้ขึ้นไปข้าง บน !
ดังนั้นเพื่อที่จะไม่ทำให้คุณแม่ต้องกังวล ปาณีเลยจำต้องนอน หง่าวอยู่แต่บนเตียง เป็นเวลาห้าวันเต็มๆ !
แม้แต่ตอนเธอจะเข้าห้องน้ำ ก็ยังต้องถูกคนๆนั้นประคองพา เธอไปตลอดทุกครั้ง !
เพราะฉะนั้น หลังจากที่ไวยาตย์โทรศัพท์เข้ามาหาธามนิธิ ปาณีจึงเล่นละครตบตาโกหกให้คุณอาเข้าไปที่บริษัท
คุณแม่เองก็รู้สึกว่าลูกชายออกจะวิตกกังวลมากเกินไปหน่อย แต่มันก็ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อคนครั้ง แรก ที่จะต้องมีความกังวลใจอยู่บ้าง
แต่เมื่อปาณีได้รับอนุญาตจากคุณแม่ ให้ออกไปนั่งเล่น อาบแดดที่สนามหญ้าในบ้านได้ เธอก็รู้สึกว่ารูขุมขนทั่วทั้ง ร่างกายของเธอมันได้เปิดกว้างออก และทุกๆตารางนิ้วของ ผิวหนังต่างพากันแย่งอากาศบริสุทธิ์กันอย่างหิวกระหาย !
ปาณีนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้ อาบไล้แสงแดดอย่างสบายอก สบายใจ จากนั้นจึงหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน
เมื่อเวกัสกลับเข้ามาที่บ้านวิสิทธิ์เวชก็ได้เห็นฉากนี้เข้าพอดี
มันช่างเป็นภาพที่ทิ่มแทงใจเขาเสียเหลือเกิน !
แต่การที่ไม่เห็นเงาของธามนิธิทำให้เวทัสรู้สึกแปลกใจเล็ก น้อย จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปที่ลานสนามหญ้า
ปาณีกำลังอาบแดดอย่างเพลิดเพลินบันเทิงใจ แต่จู่ๆก็เหมือน มีอะไรบางอย่างมาบดบังแสงแดดอันอบอุ่นของเธอ หญิงสาว เงยหน้าขึ้นอย่างหงุดหงิด ก็ได้เห็นเวทัสที่ยืนตระหง่านอยู่ตรง หน้า เธอจึงรีบลุกขึ้นอย่างรีบร้อนจนเกือบพลัดตกเก้าอี้
แต่เวกัสก็มือไวคว้าเธอเอาไว้ได้ทัน ” ดูท่าทางเธอสุขสบายดี นะ! ”
ได้เห็นปาหน้าบานขึ้นเป็นเท่าตัวจนเห็นได้ชัด ทำให้เวทส แอบนึกโมโหอยู่ในใจ และการที่เขาแอบหนีกลับมาโดยพลการ ทำให้พ่อเขาโกรธมาก เลยถูกนพรุจซ้อมจนเจ็บตัว หน้าของเขา ก็เพิ่งจะหายดี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ