My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่ 889 ตัดใจไม่ลง



ตอนที่ 889 ตัดใจไม่ลง

เวทสมาปรากฏตัวอย่างฉับพลันต่อหน้าปาณี แววตานิ่งเรียบอิ่ม ครีมชวนอึดอัดกำลังเพ่งมองมาที่เธอ ปาณีนิ่งเงียบไม่พูดจา แต่แล้วเมื่อหวนนึกไปถึงความห่วงใยที่เขาเคยมีให้เธอ ปาณี ยังคงเลือกที่จะเงียบนิ่งทำเป็นไม่สนใจเขา

ทีแรกเวทัสคิดว่าเมื่อปาณีได้เห็นเขาคงรู้สึกประหลาดใจหรือ ละอายใจ อะไรทํานองนั้น ทว่าปาณีกลับทำเป็นเฉยเมย ใส่เขา นั่นทำให้เวทสโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงขั้นเดินย่างสามขุมก้าวไป หาเธอ เขายืนจ้องหน้าเธอด้วยสายตาอันเกรี้ยวกราดและน่ากลัว

กว่าปา จะหาโอกาสออกมาอาบแดดรับลมอย่างสบายใจ แบบนี้ได้ ก็ต้องอาศัยจังหวะที่คุณอาไปจัดการงานที่บริษัทนี้ แหละ ดังนั้นต่อให้มีคนมายืนทำท่าโมโหโทโสจองเธอ เธอก็หา ได้สนใจไม่

แต่เมื่อฉุกคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขา ปาณีจึง ค่อยๆเงยหน้าขึ้นทักทายเวทัส ที่กำลังดูเหมือนโกรธเธออย่าง เอาเป็นเอาตาย ” เวทัส นายยืนจ้องอะไรของนายอ่ะ ? ”

เมื่อถูกตะคอกถามแบบนั้น เวทัสถึงกับซะงักด้วยความ ประหลาดใจไปชั่วครู่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เห็นปาณีกำลังจะเดินอ้อม ตัวเองเพื่อกลับเข้าไปในบ้าน

แล้วทันใดนั้น เวทัสรีบยื่นมือออกไปคว้าแขนปาณีที่พยายาม จะเดินหนีเอาไว้ได้ ชายหนุ่มสูดหายใจลึกก่อนจะพูดด้วยเสียงอันหยาบกระด้าง ” ปาณี เธอจะไม่พูดอะไรกับฉันสักหน่อยเห รอ ? ”

พูดเหรอ ? พูดอะไรอ่ะ ? ” ปาณีไม่เข้าใจกับคำถามของ เวทัส ” นี่เวทัส นายคิดว่าเราสองคนยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกเห รอ ? อีกอย่าง นายเห็นฉันแต่กลับไม่พูดจาทักทายฉันสักคำ ดูท่าฉันคงต้องหาโอกาสคุยกับแม่ของนายเรื่องมารยาทแย่ๆ ของนายสักหน่อยแล้ว ”

” เดี๋ยวนี้เธอถึงกับวางมาดบาตรใหญ่ใส่ฉันแล้วอย่างนั้น รี ? ” เวทัสพูดด้วยเสียงอันเยือกเย็น ราวกับความเยือกเย็นนั้น สามารถแผ่ซ่านเข้าไปถึงกระดูกของเธอเลยก็ว่าได้ ปาณีได้แต่ ยืนนิ่งอึ้งมองหน้าเวกัส เฉกเช่นคนแปลกหน้าก็ไม่ปาน

ทั้งคู่ยืนจ้องตากันอยู่นานสองนาน แต่กลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น จังหวะที่เวทัสกำลังจะพูดอะไรขึ้นมาสักอย่าง ก็พลันได้ยินเสียง ของน้ามุงที่กำลังจะเดินมาทางนี้พอดี ” คุณชายเวทัส คุณชาย เวทัสอยู่ไหนคะ ? ”

เวทัสรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรจะอยู่ตรงนี้นาน เขาหันไปมองค้อน ขวับใส่ปาณีก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไป

ปาณียืนอยู่ตรงนั้นมองดูเบื้องหลังของเวทัลที่ค่อยๆเดินลับตา

จากไป ก่อนจะบ่นพึมพำออกมาเบาๆ ” ประสาท ! ”

หลังจากพูดจบเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว และกลับไป เอนกายนอนเล่นในสวน อาบแดดอย่างสบายใจเฉิบต่อไป ระหว่างที่นอนเล่นก็ลุกขึ้นมาจิ้มผลไม้ใส่เข้าปากอย่างเพลิดเพลินอุรา !

แต่ขณะที่กำลังนอนอาบแดดอยู่ดีๆ จู่ๆเธอก็รู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้เหมือนจะอาเจียนขึ้นมา ปารีบเอามือปิดปากลุกวิ่ง เข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

คุณยาย คิดถึงจังเลยครับ ! คุณยายคิดถึงผมรึเปล่า ? ” เวทสทำท่าประจบประแจง ออดอ้อน ใส่คุณยายของเขา ด้วย ความที่แม่ของจันวิภาเป็นคนเลี้ยงดูเวทัสมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ดังนั้นความผูกพันระหว่างยายหลานยิ่งไม่ต้องพูดถึง

คุณยายลูบหัวเขาอย่างรักใคร่เอ็นดู ” แกยังจะมาพูดดีอีกนะ กลับประเทศมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่คิดจะกลับมาหายายที่บ้าน เลย ! ยายล่ะเสียใจจริงๆ …

ได้ยินดังนั้น เวทัสจึงรีบเข้าไปโอคุณยายทันที ” เปล่าสะ หน่อยครับ ! ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่กองทัพผมก็คงรีบกลับมาหา คุณยายเป็นคนแรกอยู่แล้วล่ะครับ ”

ขณะที่สองยายหลานกำลังพูดคุยกันอย่างหน้าชื่นตาบาน จู่ๆ ปาณีก็วิ่งเอามือปิดปากโผล่พรวดเข้ามาก่อนจะพุ่งตรงไปที่ ห้องน้ำ ทำเอาเวทัสถึงกับยืนงงว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานจากนั้น ก็ได้ยินเสียง ” โอ้กกกกก โอ้กกกกก ” เสียงคนอาเจียนดังลอด ออกมาจากห้องน้ำ

เมื่อเห็นท่าไม่ดี คุณแม่จึงรีบลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำทันที แล้วก็ ได้เห็นปาณีที่กำลังเกาะขอบชักโครกอ้วกแตกอ้วกแตนอยู่ ” ไอ้ หย่ะ เป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ? ทำไมถึงได้แพ้หนักขนาดนี้ล่ะลูก ? แม่จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย !!

หลังจากพูดจบ คุณแม่ก็ค่อยๆลูบหลังให้ปาณีเบาๆ เพื่อทำให้ เธอรู้สึกดีขึ้น

ปาณีอาเจียนอย่างหนักจนตาพร่าเบลอไปหมด ถึงตอนนั้นเธอ แทบจะไม่สนใจในการปลอบประโลมจากคุณแม่เลย หญิงสาว ได้แต่นั่งตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ที่พื้น โดยที่มีน้ำย่อยเปรี้ยวๆจาก กระเพาะอาหารวิ่งขึ้นมาที่ลำคออย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้เธอ แทบจะต้องตะกายลุกมาเกาะขอบชักโครกอาเจียนอยู่ตลอด เวลา

ในตอนนั้นเอง น้ำอุ่นแก้วหนึ่งถูกยื่นเข้ามาจากทางฝั่งขวามือ ของเธอ ปาณียื่นมืออันไร้เรี่ยวแรงไปรับแก้วน้ำนั้นมาจิบดื่ม และ พยายามออกแรงกดชักโครกให้ชำระล้างสิ่งที่เธอได้อาเจียน ออกมา

จากนั้นมือใหญ่ๆคู่หนึ่งได้ยื่นเข้ามาพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้น ปาณี สิ้นไร้เรี่ยวแรงฟุบตัวโยกเยกอยู่บนตัวคนๆนั้น แล้วอยู่ๆเธอก็ พลันได้กลิ่นที่ไม่คุ้นเคย ทันทีที่ปาณีลืมตาขึ้นมองก็ต้อง ประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็น เพราะคนที่กำลังพยุงตัวเองอยู่นั้น กลับกลายเป็นเวทีสไปเสียได้ ปาณีอยากจะผลักเขาออกไปให้ พ้นๆแต่ด้วยความที่ตัวเองนั้นไม่มีเรี่ยวแรง จึงไม่สามารถจะผลัก เขาออกไปได้

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเวทสกลับเปลี่ยนเป็น มึนตึง ในทันที ชายหนุ่มมองจ้องหน้าเธอด้วยความเซ็ง แต่ถึงกระนั้นเขายังกรานที่พยุง

คุณแม่ตามพวกเขามาที่โซฟา หลังจากที่เห็นร่างกายอัน อ่อนเปลี้ยของก่อนเดี๋ยวกับน้ามุงจะไปซาพุทราจีนร้อนๆให้

” แม่คะ ไม่หรอกหนูคงเข้าไปไม่ไหวจริง11 ปาณีพยายามจะปฏิเสธ แต่คุณแม่กลับเดินเข้าครัวเสีย แล้ว

ในเพียงสองคนเท่านั้น เมื่อได้เห็นหญิงสาวหน้าซีดเผือกนั่งหงอย อยู่ข้างเวทัสก็อดไม่ได้คอยชำเลืองมองเธออยู่บ่อยๆ

และวินาทีนั้นดวงทั้งสองบังเอิญหันมาสบตาดิบพอดี วดคิ้วมองเขาอย่างเงียบๆ

” เอ่อ

เธอ

สองพร้อมใจกันปริปากพูด แต่เมื่อได้ยินเสียงซึ่งกันและกัน ทั้งคู่กลับหยุดพูดอย่างทันควัน

จนแล้วจน

ก่อน……

แต่ปาณีกลับทำหน้างง สายยิกๆๆ ” พูดก่อนดีกว่า
แล้วทั้งคู่ก็กลับมาเจอทางตันอีกจนได้ จนผ่านไปครู่หนึ่ง เวทีส จึงพูดขึ้นมาก่อน ” ตอนที่อยู่บ้านนภันต์ อาการแพ้ท้องของเธอ มันดีขึ้นเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ ? ทำไมตอนนี้ถึงได้อาเจียนหนัก ขนาดนี้ล่ะ ? ”

ปาณีเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ” ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกก็ คิดว่าจะหายแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงอยากแต่จะอาเจียน ออกมา .……..

เมื่อพูดจบเธอก็ก้มหัวลงไปมองที่ท้องน้อยๆ ที่ยังคงเรียบแบน ของเธอ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ” เค้าคงจะทนดูแม่ ของเค้าอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้นะ สงสัยฉันคงต้องกลับไปใช้ ชีวิตอย่างยากลำบากซะมั้ง! ต้องเผชิญกับความลำบากก่อน ถึงจะสบายในภายหลัง ยังไงล่ะ ! ลูกคงอยากให้ฉันพาเค้าไป ตกระก๋านําบากสินะ ? ”

เมื่อได้ยินที่ปาณีตัดพ้อ เวทัสจึงหวนนึกไปถึงตอนที่พวกเขาใช้ เวลาอยู่ด้วยกันที่อพาร์ทเมนท์เล็กๆของนภันต์ ชีวิตตอนนั้นมัน ช่างแสนปวดหัววุ่นวาย อีกทั้งเขายังถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่เขา ไม่เคยทํามาก่อนตั้งมากมายหลายอย่าง

ตัวอย่างเช่น ไปจ่ายตลาด ซื้อกับข้าว, หุงข้าว, รวมถึงทะเลาะ กับเธอด้วย …..

แต่พอนึกไปถึงตอนที่เขากับเธอเปิดศึกแย่งลูกชิ้นเนื้อกัน อย่างเอาเป็นเอาตาย รอยยิ้มก็พลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เวทัสโดยที่เขาไม่รู้เนื้อรู้ตัว ” ตอนนั้นถึงจะยากลำบาก แต่ก็สนุก

“นายว่าอะไรนะ ? ” ปาณีพยายามยันตัวลุกขึ้นยืน เธอได้ยิน ว่าเขาพูดอะไรสักอย่าง แต่ได้ยินไม่ถนัด ” นายว่าอะไรสนุก นะ ? ”

เวทสเห็นท่าทางที่ดูเชื่องช้าของปาณี อีกทั้งสมองของเธอตอน นี้ยังดูมึนๆเบลอๆ เขาเลยพูดกับเธออย่างไม่สบอารมณ์นัก ” เธอ จะเดินไปเดินมาทำไมกันเนี่ย ? ไม่ได้ยินที่คุณยายบอกไงว่าให้ เธอนั่งพักนะ ? ฉันดูแล้วนะ ที่เธอมีอาการหนักแบบนี้ คงมี สาเหตุมาจากการที่เธอวิ่งเล่นอยู่ไม่สุขอย่างนี้แน่ๆ ! ”

พูดยังไม่ทันขาดคำ เวทัสก็ดึงแขนเสื้อเธอให้กลับลงมานั่งที่ โซฟาตามเดิม

ปาณีถูกลากกลับลงไปนั่งอีกครั้ง เธอหันไปตะโกนใส่เวทีสอ ย่างไม่พอใจ ” นายดึงฉันทำไมเนี่ย ? ฉันต้องใช้พลังลมปราณ แค่ไหนรู้มั้ยกว่าจะยืนขึ้นมาได้ ! นายกลับมาถึงฉันกลับลงไป อีก ……. โธ่เอ๊ย ไม่ช่วยยังไม่พอ แถมกลับมาทำให้มันแย่ลงไป อีก !

ปากพูดพลางออกแรงบันกายให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

วทันใดนั้น เสียงของเวทัสก็กระซิบดังขึ้นข้างหูเธอ” ใน สายตาของเธอ ฉันมันทำให้เธอแย่มากเลยเหรอ ? แต่กับน้า ชายฉัน ถึงจะเรียกว่าเป็นคนที่ช่วยเธอได้มากที่สุดใช่มั้ย เธอก็ เลยรักเขา แล้วยังมีลูกให้เขาด้วย ขนาดว่าหย่ากันแล้วก็ไม่ เป็นไรอย่างนั้นเหรอ ? เธอยอมยกโทษให้เขาง่ายๆอย่างนั้น? ”

ปาณีมองดูสีหน้าท่าทางที่ดูจริงจังของเวทัส ก่อนจะพูดเสียง อ่อย ” เวทีส คือฉัน …”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ