My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่ 872 ไร้ข่าวสาร



ตอนที่ 872 ไร้ข่าวสาร

วันนี้ธามนิธิยกเลิกงานทั้งหมด และไม่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านของ ปาณีและเขา แต่กลับเลือกไปเมืองเมฆาโยใช้ข้ออ้างว่าไป ทํางานนอกสถานที่เพราะมีเรื่องด่วนจ้องจัดการ แต่ในใจของเขา นั้นรู้ดียิ่งกว่าใคร เขากลัวที่จะต้องเจอหน้าปาณี

ไม่ผิด คนที่ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดินอย่างธามนิธิ กลับถอยหลัง เสียแล้ว เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเธอ เผชิญหน้ากับความโกรธข องเธอ ความสงสัย และที่ยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับ นํ้าตาของเธอ

แถมเขา เขาไม่รู้ว่าที่แท้แล้วตนเองกลัวไปทำไม อาจเป็น เพราะปาณีคือผู้หญิงเพียงคนเดียว คนเดียวในชีวิตของเขาที่ ผ่านมา

ในสนามรบ ยามต้องเผชิญหน้ากับศัตรู เขาไม่เคยอ่อนข้อ ไม่ เคยหวาดกลัว แต่ในวันนี้ แม้กระทั่งผู้หญิงอันแสนบอบบางคน หนึ่งเขายังไม่กล้าเผชิญหน้า

ธามนิธิยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว เขามองดูตัวเองกระจกแล้ว พูด “ธามนิธิ! นายก็แค่นั้นแหละ! นายไม่ใช่คนที่ไม่เคยเกรงกลัว ต่ออะไรหรอกหรือไง? ตอนนี้นายกำลังยอมรับกับตัวเองแล้ว ว่า แค่คำอธิบายจากปาณีนายยังไม่กล้าฟัง? นายมันก็แค่คน พลาด!”

ไม่เพียงแต่ปาณีเท่านั้น เขากลัวที่จะเห็นความสงสัยของไวยาตย์ เสียงโวยวายและการตั้งคำถามจากแม่และพี่สาวของเขา ด้วยเช่นกัน

นึกถึงเมื่อวานที่ราวกับฝันร้าย ธามนิธิก็อดหวังให้เขาจะยังคง นั่งอยู่บนรถเข็นต่อไปขึ้นมา เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเห็นฉากที่ ทําให้หัวใจแตกสลายและไม่ทำให้เขารู้สึกทรมารอย่างเช่นตอน

แม้ว่าเขาและปาณีจะตกลงแต่งงานกันเพราะข้อตกลง แต่หลัง จากแต่งงานเขาก็ค่อย ๆถูกเธอดึงดูด รอยยิ้มและความโกรธข องเธอกลายเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ของเขา

และเมื่อเขาเห็นด้วยตาของเขาเองว่าเธออยู่ในอ้อมแขนของ ชายอื่น เขารู้สึกว่าเขาแพ้แล้ว! แพ้ให้แก่คนที่ชื่อ ชรัส

แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน แต่เขาก็ต้องบอกว่า จำรัสเข้ากันได้กับเธอมากกว่าตัวเขา และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเขาถึงมอบหมายให้ไวยาตย์เป็นตัวแทนในการจัดการกับ การหย่าร้าง นั่นเพราะเขากลัวที่จะเห็นท่าที่กระตือรือร้นที่จะจาก ไปของปาณีต่อหน้าเขา

หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาดูที่หมายเลขแล้วกด รับ “สวัสดี พี่!”

ที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์ เสียงของจันวิภาส่งมาตามสาย อย่างรวดเร็ว “ธามนิธิ นายหายไปไหนมทราบ? ไวยาตย์บอก ว่าคุนายต้องการหย่าร้างกับปาณี นาย นาย นาย… ธามนิธิพูดอย่างใจเย็น “ใช่ ผมต้องการหย่ากกับเธอ!”
จันวิภาตกตะลึงไปทั้งตัว จากนั้นก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “ธามนิธิ นายจะไม่ได้พิจารณาต่ออีกหน่อยหรือ?” ในเมื่อ นายกับปาณี รักกันมาตั้งนาน ทำไมจู่ๆถึงท่าแบบนี้ นอกจากนี้ ระหว่างสามี และภรรยาไม่มีใครไม่ทะเลาะกันหรอกนะ! นายควรคิดให้ดีๆอีก ครั้ง ท้ายที่สุดผู้หญิงอย่างปาณีนั้นก็ดีมาก นายหาแบบนี้ไม่ได้ อีกแล้วนะ!”

จันวิภายังคงเกลี้ยกล่อมเขา แต่ ธามนิธิเอาแต่เงียบ เธอพูด จนปากแห้งและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ธามนิธิ นายต้องการทำมัน จริงๆเหรอ?” ตัดสินใจแล้วเหรอ? ”

ธามนิธิเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มพูด “ใช่”

จนวิภาถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ธามนิธิ ตั้งแต่เด็ก นายก็มีความคิดค่อนข้างรอบคอบ เอาเถอะ สิ่งที่ฉันควรพูดก็พูด ไปแล้ว ถ้านายยืนยันว่าจะหย่าปาณี นายก็ทำตามที่นายต้องการ เถอะ!”

พูดจบ ก็วางสายไป

ธามนิธิจ้องไปที่โทรศัพท์มือถือส่งเสียงบีบ หัวใจของเขารู้สึก เจ็บปวด เขาพึมพำเบา ๆ ” พี่ ที่จริงแล้วฉันไม่ต้องการ แต่เพื่อที่ จะให้ความสุขเธอต้องการ ฉันทำได้แค่ต้องปล่อยเธอไปได้ เท่านั้น”

ในขณะที่เขากำลังเหม่อลอย เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีก ครั้ง เขาดูเบอร์ของนภันต์และลังเลสักครู่ก่อนจะตอบว่า “นภันต์ มีอะไร?”
นภันต์ฟังเสียงทีมที่อของพี่เขยก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเสียงเบา “พี่เขย พี่สาวอยู่กับคุณไหม? ผมไม่สามารถติดต่อกับเธอได้ โทรศัพท์มือถือของเธอเอามาให้ผมซ่อม ผมซ่อมเสร็จแล้ว แต่ เธอไม่ได้มาเอา พี่บอกให้เธอมาหาผมที่นี้หน่อย

ธามนิธิตกตะลึงแล้วถามด้วยเสียงต่ำว่า “มือถือของเธอพัง?”

“ใช่ เธอมาหาผ เมื่อสองวันก่อนบอกว่าทำมือถือฟัง เธอไม่ กล้าบอก ดังนั้นจึงขอให้ผมช่วยซ่อมให้เธอหน่อย แต่พอซ่อม เสร็จพี่สาวก็ไม่มาเอาไปสักที? ผมหาเธอไม่เจอ ก็เลยเป็นเหตุผล ที่ผมโทรหาพี่เขย พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพี่สาวใช่ไหม?” นภัณ ตลังเลสกครู่แล้วเอ่ยปากถาม

ธามนิธิรู้สึกหายใจไม่ออก ก่อนจะรู้สึกกังวลอย่างยิ่ง “นาย หมายถึงนายไม่ได้เห็นเธอมาแล้วสองวัน ที่มหาลัยก็ไม่เจอ? งั้น เธอไปไหน?”

นภันต์ส่ายหน้า “ผมไม่รู้! พี่เขย พี่กับพี่สาวไม่ได้มีเรื่องอะไร ใช่ไหม?”

แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับเป็นเสียงตุ๊ดๆตามสายเข้ามา ธา มนิธิวางสายของไปแล้ว

ธามนิธิรีบออกจากโรงแรมทันทีและระหว่างทางไปสนามบินก็ โทรหาไวยาตย์ “ไวยาตย์ ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน? ไม่ว่านายจะยุ่ง กับอะไรก็ตาม ให้หยุดลงก่อน ไปที่สวนจตุจักร และดูหน่อยว่า

ปาณีอยู่ที่นั่นหรือเปล่า? ถ้าไม่รีบติดต่อฉันทันที! ” หลังจากนั้น โดยไม่รอปฏิกิริยาของไวยาตย์เขาก็รีบวางหูโทรศัพท์ ก่อนจะขึ้นไปบนรถและเหยียบคันเร่งเร่งความเร็ว

ระหว่างทาง เขาจับพวงมาลัยแน่นด้วยความกังวล หัวใจ คล้ายกำลังถูกใครสักคนควักมันออกมา “ปาณี อย่าเกิดอะไรขึ้น กับเธอนะ! ที่ฉันยอมปล่อยมือก็เพื่อให้เธอมีความสุขมากขึ้น เธอ…”

มาถึงสนามบิน เที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายเพิ่งจะบินออกไป ธามนิธิ ปฏิเสธที่จะนั่งรออยู่ที่นั่น ผ่านไปครู่ใหญ่จึงค่อยคิดขึ้นมาได้ จึง รีบหยิบโทรศัพท์และต่อสายออกไป

ไม่นานนัก เฮลิคอปเตอร์ก็ปรากฏตัวที่สนามบิน

ชายคนหนึ่งสวมแว่นออกลงจากเครื่องบินมา และเดินไปธา มนิธิก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม “คุณคือคุณธามนิธิใช่ไหมครับ? ผม ถูกส่งให้มารับคุณ…”

ยังไม่ทันเขาจะแนะนำตัวเองเสร็จ ธามนิธิรีบเดินไปยัง เฮลิคอปเตอร์และบอกเขาว่า “นายรีบหน่อยได้ไหม? ฉันต้องรีบ กลับไปเมืองชยุต!”

บนเฮลิคอปเตอร์เขาเอาแต่จับจ้องที่โทรศัพท์มือถืออย่างไม่ คลาดสายตา เฮลิคอปเตอร์บินเร็วมาก เดิมต้องใช้เวลาเดินทาง ถึงสองชั่วโมง แต่ภายใต้การเร่งอย่างต่อเนื่องของธามนิธิ มัน กลับสั้นลงเป็นชั่วโมง ในทันใด

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่เมืองชยุต โทรศัพท์มือถือของธา มนิธิก็ดังขึ้น เขาดูที่สายของไวยาตย์จึงกดรับและถามอย่าง รวดเร็วว่า “เป็นอย่างไรบ้าง เธออยู่บ้านรึเปล่า?”
ไวยาตย์ส่ายหัว “ท่านประธาน ไม่มีใครอยู่ในวิลล่าที่ สวนจตุจักรเลย และตอนนี้นายท่าผู้หญิงก็รู้เรื่องของคุณแล้วและ สั่งให้คุณรีบกลับไปเดี๋ยวนี้

ธามนิธินิ่งงันอยู่ที่นั่น ก่อนจะเดินลงจากเครื่องบินไปและรีบ ออกจากสนามบินไปท่ามกลางสายตาที่ยังคงสงสัยของคนที่ถูก เมธชนันจัดหามาให้

ผมเผ้าของเขากระจัดกระจายไปทั่วศีรษะพร้อมทั้งหนวดเครา ที่ไม่เป็นระเบียบ ไม่หลงเหลือภาพลักษณ์เลยสักนิด

ในขณะนี้ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยเรื่องของปาณี “เธอไปอยู่ ที่ไหนบนโลกนี้? ฉันแค่ช่วยเธอเติมเต็มความปรารถนาของเธอ ทำไมเธอถึงต้องออกจากบ้านไปด้วย?”

“ใช่! บ้าน! ฉันลืมครอบครัวของเธอไปได้ยังไง! นภันต์ไม่รู้ แต่พ่อแม่ของเธอควรรู้! ธามนิธิตบตัวเองอย่างแรงแล้วรีบโทร หาฝนสิริแม่ของปาณี”แม่ครับ นี่ผมเองธามินิ ปาณี กลับไปแล้ว หรือยังครับ? ยังหรือครับ? รู้แล้วครับ!”

วางสายเสร็จ เขาก็ยืนคอตกอยู่ท่ามกลางสนามบินอันว่าง เปล่า อยู่ๆก็คล้ายรู้สึกราวกับว่าอยากร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตา ไหลออกมาขึ้นมา ตอนที่ไวยาตย์มาถึงก็มองเห็นเขามีท่าที ราวกับเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้ง และกำลังยืนเคว้งคว้างอยู่เพียง ลำพังอย่างกระสับกระส่าย

ไวยาตย์เดินเข้าไปและเอ่ยเรียกเสียงเบา “ท่านประธาน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ